เป็นคนที่เซนซีทีฟกับ กลิ่น มากๆ (แยกกลิ่น) อยากรู้ว่ามันมากเกินไปจนผิดปกติหรือเปล่า มีใครเป็นบ้างไหมครับ

ก่อนอื่นเลย นี่ไม่ใช่การอวดหรือข่มใดๆนะครับ แต่มันคือเรื่องจริงของผมเอง จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามแต่ครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสามารถตัวเองที่แยกกลิ่นและรสได้เก่งกว่าใครๆ แม้ว่าทุกวันนี้ ผมจะสนุกไปกับการรีวิวของกินแบบละเอียดมากๆ แต่ ผมเองก็กังวลอยู่ไม่น้อยเลยครับว่าความสามารถของผมมันมากเกินไปจนอาจจะเป็นอันตรายหรือความผิดปกติอะไรหรือเปล่า

เป็นเรื่องหนึ่งที่สงสัยในตัวเองมานานแล้วครับ
ไปหาดูกระทู้เนื้อหาคล้ายๆกัน เจอพอสมควร แต่ที่เจอก็คือคนเซนซีทีฟประเภทที่ว่า เจอกลิ่นแล้วมึนหัว กลิ่นจากที่ไกลๆก็คลื่นไส้
แต่ของผมไม่ใช่แบบนั้นครับ ผมเจอกลิ่นแบบต่างๆได้มากมาย จะมึนหัวก็ระดับกลิ่นทุเรียน ปลาร้า เลย
แต่ที่ผมบอกว่าตัวเองเซนซีทีฟ คือ ผมแยกกลิ่นต่างๆได้เก่งมากครับ

เมื่อก่อนก็สับสนตัวเองว่าผมเก่งอะไรกันแน่ แยกกลิ่น หรือ แยกรส 
เพราะจากประสบการณ์วัยเด็กผมมีเรื่องราวกับรสชาติที่มากกว่า อาจจะเพราะมันเป็นสิ่งที่จับต้องได้มากกว่า
ก็มีหลากหลายเลย แต่ที่ผมจำได้ติดตาที่สุดก็เรื่อง น้ำเปล่า
สำหรับผมแล้ว น้ำเปล่ามีรสชาติ ครับ และ แต่ละยี่ห้อก็รสชาติไม่เหมือนกันเลย 
ผมเคยทะเลาะกับที่บ้านเรื่องนี้ด้วย เค้าว่าผมบ้า น้ำเปล่าจะมีรสชาติได้ไง แต่มันมีจริงๆอะ มีกลิ่น มีเนื้อสัมผัส
หรืออย่างรสชาติของซอสมะเขือเทศแต่ละยี่ห้อ มันก็ไม่เหมือนกันเลยสำหรับผม

ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจว่าตัวเองเก่งเรื่องรสชาติ เพราะผมจับเนื้อสัมผัสที่ต่างกันของอะไรที่คล้ายกันมากๆได้ เคยคุยเรื่องเปรียบเทียบอาหารกับเพื่อน หลายคู่ เช่น ปอปคอร์น เมเจอร์กับเอสเอฟ / น้ำแดง แฟนด้ากับมิรินด้า เพื่อนบอกกันว่ามันเหมือนกัน หรือบางคนบอกว่าคล้ายกันแล้วก็เถียงกันว่า เออละมันไม่เหมือนยังไง แต่ผมว่ามันต่างกันแบบชัดเจนมาก เพียงแต่มันเป็นในเชิงเนื้อสัมผัสและความรู้สึกที่อธิบายได้ยาก อย่างขนมปัง เบเกอรี่ ผมลองกินแล้วก็บอกได้ว่าใช้เนยหรือมาการีน แต่พูดยากมากว่ารู้จากไหน

จุดเปลี่ยนเกิดขึ้น
ครั้งหนึ่งผมได้มีโอกาสดื่มน้ำแจกฟรีจากการเติมน้ำมันครั้งแรก ปกติก่อนหน้าเวลาได้น้ำฟรีจากปั๊มมาจะเอาไปใช้กับรถยนต์ครับ ไม่ดื่ม เพราะที่บ้านผมชินกับการเตรียมน้ำจากบ้านขึ้นรถ หรือ ซื้อตามร้านสะดวกดื่ม ก็ชินอะครับ จนวันหนึ่งตอนนั้นหิวน้ำมาก แล้วมีแต่น้ำแถมจากปั๊ม ผมเปิดฝา ยังไม่ทันดื่ม หยุดทันทีเลยครับ ที่บ้านถามเป็นไร ผมบอกว่ามันมีกลิ่นแปลกๆ เป็นกลิ่นคล้ายเวลาเราปล่อยลมจากห่วงยางเข้าปาก เป็นกลิ่นใกล้เคียงกันแบบอ่อนมาก (น้ำเปล่าที่ทิ้งในรถก็เป็นนะครับ) หลังจากนั้นผมลองดมน้ำที่ได้ฟรีจากปั๊มน้ำมัน ทุกขวดมีกลิ่นแบบนี้ทั้งนั้นเลยครับ

ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ครับว่า ตัวเองเก่งเรื่องกลิ่นมากกว่า จนครั้งหนึ่งไปเดินสวนสาธารณะกับครอบครัว มันเป็นสวนสำหรับออกกำลังกายอะครับ อยู่ๆผมได้กลิ่นควันบุหรี่ ก็ถามคนอื่น ไม่มีใครได้กลิ่นเลยซักคน สุดท้ายคือมีคนสูบบุหรี่ในศาลาที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร ทำให้ผมเริ่มสงสัยตัวเอง และ จากเหตุการณ์มากมายหลังจากนั้นก็ทำให้ผมมั่นใจว่าตัวเองแยกกลิ่นเก่งกว่า

และผมก็เรียนรู้จดจำกลิ่นต่างๆเต็มเลยหลังจากนั้น โดยเฉพาะวัตถุดิบอาหารซึ่งเป็นสิ่งที่ชอบ
หลังจากนั้นก็ชอบเล่นทายอาหาร อย่างเวลาที่บ้านทำกับข้าวเก็บไว้ในฝาชี ผมชอบทายครับว่าวันนี้เค้าทำอะไรกินบ้าง จากกลิ่นวัตถุดิบที่ลอดออกมา

อีกอย่างนึงที่ผมเก่งก็คือ การดูคู่วัตถุดิบ ว่าอะไรเข้ากันไม่เข้ากัน เช่น หัวหอม มันไปกันได้ดีกับ หมูชิ้น แต่พอเอามาผัดกับ หมูสับ มันไม่เข้ากันครับ ทั้งที่มันก็คือ หมู แต่มันมีเนื้อสัมผัสต่างกันอะ
ผักตกแต่งจานก็เช่นกัน บางร้านอาหารใช้ผักรูปแบบเดียวกันกับทุกเมนู
ผมว่าบางเมนูผักที่ให้มามันกินคู่แล้วอร่อย แต่บางเมนู อย่าง กะเพราหมึก เจอ มะเขือเทศแตงกวา มันทำลายกันแบบพังพินาศเลยครับ

มีครั้งหนึ่งครับ พี่สาวผม (ลูกพี่ลูกน้องอยู่บ้านเดียวกัน นับเป็นพี่สาวไปง่ายดี) ซื้ออาหารกล่องมากิน ผมไม่เห็นว่ามันคืออะไร แต่ได้กลิ่น ถามพี่พี่ตอบแค่ว่า "มักกะโรนี"
แล้วผมก็ถามไปว่า ผัดกะเพราใส่ผักแบบผัดขี้เมา หรอ ตอนนั้นกลายเป็นจังหวะที่เงียบไปเลยครับ พี่ตกใจว่าผมรู้ได้ยังไง ผมตอบไปว่า "กลิ่น มันมีกลิ่นข้าวโพดอ่อนแรงมากๆด้วย"
ในกลิ่นอันซับซ้อนที่ลอยมาเตะจมูก ผมแยกได้ว่ามันมีส่วนประกอบของ ใบกะเพรา ข้าวโพดอ่อน หัวหอม เห็ด ครับ

หรืออย่างล่าสุด ผมเดินเข้าไปในห้องครัว เห็นหม้อซุปตั้งไฟไว้ของพี่สาว มีกลิ่นแอปเปิลด้วย ก็ถามไปว่า ใส่แอปเปิลไปตอนไหน ในน้ำไม่เห็นมี ปรากฎว่าคำตอบคือ ก่อนหน้าพี่พึ่งปอกแอปเปิลไปให้แม่ ปอกบนเขียงใกล้ๆกับเตา
ถ้าจะบอกว่าผมรู้เพราะเห็นเปลือกแอปเปิลนี่ก็ไม่ใช่นะ เพราะถังขยะมีฝาปิดและอยู่ด้านตรงข้าม ผมแค่เดินไปที่หม้อแล้วก็เดินออกมาถาม

และจากประสบการณ์เหล่านี้ มันทำให้ผมเริ่มกังวลครับว่าการแยกได้ขนาดนี้มันสามารถเป็นอันตรายได้หรือเปล่า แม้ว่าทุกวันนี้ผมจะสนุกไปกับการรีวิวอาหารต่างๆ แต่ลึกๆแล้ว ผมก็คิดหนักกับมันอยู่มากเลยครับ
ตอนนี้ผมพึ่งอายุ 22 มันจะพัฒนาไปเป็นอะไรในอนาคตได้ไหมครับ
หรือแค่เป็นความสามารถพิเศษเฉยๆ แล้วถ้าเป็นแบบนี้ คิดว่าผมได้ด้านไหนมากกว่าครับ กลิ่น หรือ รส
ปล. เป็นคนที่การมองเห็นและได้ยิน แย่มากระดับหนึ่ง คิดว่ามันคงต้องแลกกัน

ตัวอย่างการรีวิวอาหารของผม


ถ้าแท็กผิดห้องก็ขออภัยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่