หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิวร้าน JinSeng สุขุมวิท 15 บุฟเฟ่ต์หมูย่างเกาหลีน้ำจิ้มสูตรเด็ดทานได้ไม่อั้นเริ่มต้นคนละ 359 บาท!
กระทู้รีวิว
อาหารคาว
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารเกาหลี
อาหาร
อาหารปิ้งย่าง
เมื่อวันก่อนเรามีโอกาสเข้ามารีวิวที่โรงแรม Dream ในซอยสุขุมวิท 15 แล้วเดินผ่านร้านนึงอยู่ในโรงแรมแมนฮัตตั้นที่อยู่เยื้องๆกันชื่อว่า JinSeng เป็นร้านอาหารเกาหลีที่ดูเก่าแก่เมื่อดูจากป้ายที่หน้าร้านแปลว่ารสชาติน่าจะไม่ธรรมดา(มีลางสังหรณ์ว่าร้านนี้น่าจะอร่อย)แต่ตั้งใจเอาไว้มาชิมในโอกาสหน้า จนวันนึงพี่ที่รู้จักมาทานร้านนี้บ่อยมาก อาทิตย์นึงมา 3 วันได้ มาลุยแต่บุฟเฟ่ต์หมูย่างเกาหลีของที่นี่ราคาก็ถือว่าสูงกว่าร้านอื่นแถมมีอาหารให้เลือกแค่ไม่กี่อย่างเอง แต่ทำไมมันอร่อยขนาดนั้นจนคิดติดตลกในใจว่า"สงสัยที่ร้านนี้หมูหมักกัญชาแน่เลย" ก็ต้องดิ่งตรงมาลองชิมให้หายสงสัย วิธีการเดินทางมาก็ง่ายๆถ้ามาด้วย BTS ให้ลงสถานีนานาแล้วต่อ Taxi เข้ามาตรงกลางซอย แต่ถ้ามาด้วยรถส่วนตัวก็สามารถจอดภายในโรงแรมแมนฮัตตั้นได้ทันที วิธีการเข้าไปที่ร้านต้องเดินเข้าผ่านทางล๊อบบี้ของโรงแรมจะมีทางเชื่อมตรงเข้าสู่หน้าร้าน โดยเมนูที่เราตั้งใจมาทานในวันนี้ก็คือบุฟเฟ่ต์หมูย่างเกาหลีที่มีหมูให้เลือกถึง 7 อย่างทั้งแบบปกติและไม่หมักราคาคนละ 359 บาท นั่งทานได้ 1.30 ชม. ถ้าอยากได้ซุปเกาหลี 1 ถ้วยเลือกได้ 1 จาก 3 เมนูราคาคนละ 399 บาท(ไม่สามารถเติมซุปเพิ่มได้)นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารทานเล่นราคาพิเศษราคา 30-290 บาท (แต่เราตั้งใจมาทานบุฟเฟ่ต์อยู่แล้วเมนูพวกนี้คงไม่แตะต้อง) ราคานี้ไม่รวมเครื่องดื่มแต่ยังดีที่มีชาเขียวรีฟีลอีก 60 บาท บุฟเฟ่ต์ที่นี่ต้องมาทานอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบทานฟรี ถ้าเกิน 5 ขวบแล้วแต่ส่วนสูงไม่ถึง 120 ซม. คิดครึ่งราคา แต่ถ้าสูงกว่า 120 ซม. ขึ้นไปคิดเต็มราคานะครับ อีกอย่างที่นี่ปรับโหดมากถ้าย่างหมูแล้วทานไม่หมดเขาปรับ 300 บาท ถือว่ามีอาหารให้เลือกน้อยและราคาสูงกว่าร้านอื่นแต่เขามีจุดเด่นอะไรที่ทำให้คนที่ผมรู้จักมาทานได้บ่อยๆทั้งที่ดูแล้วก็ไม่มีจุดเด่นอะไรเลย เดี๋ยวเราเข้าไปในร้านเพื่อค้นหาคำตอบนั้นกันครับ
เดินเข้ามาภายในร้านบรรยากาศที่รับรู้ได้ก่อนเลยคือ ร้านนี้ไม่เหมือนกับทุกร้านอาหารเกาหลีที่เราเคยได้ทานมาก่อนหน้านี้ เพราะทุกที่นั่งมันคือโต๊ะขนาดใหญ่แล้วกั้นฉากเป็นห้องส่วนตัวทั้งหมด โดยแต่ละห้องนั้นสามารถนั่งทานได้ทั้งหมด 6 คน และเขาเหมือนรู้ว่าแอร์ของโรงแรมไม่เย็นฉ่ำเท่าไหร่นัก ทุกห้องก็เลยมีพัดลมตั้งพื้นเอาไว้ให้ห้องละ 1 ตัว ใครที่มากับเพื่อนเยอะๆหรือต้องการห้องปิดสนิทที่มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นเขาก็มีห้องพิเศษให้บริการอยู่หลายห้องเลยครับ (สามารถแจ้งกับทางร้านเพื่อขอเข้าใช้บริการได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) ทุกๆโต๊ะภายในร้านถึงแม้ว่าจะมีกำแพงกั้นแต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเรียกพนักงานยาก เพราะเขามีปุ่มเรียกพนักงานทุกโต๊ะกดกริ่งปุ๊บมาทันที และอย่างที่บอกว่าร้านนี้เขาเปิดมานานแล้วก็มีรูปถ่ายทั้งดาราชาวไทยและเกาหลีแปะอยู่เต็มร้าน บางรูปมีลายเซ็นต์มายาวนานกว่า 10 ปีแล้วแปลว่าร้านนี้ได้รับความนิยมไม่ใช่น้อยเลย ตอนนี้เรานั่งที่โต๊ะแล้วเริ่มสั่งอาหารกันเลยครับ
สั่งอาหารยังไม่ทันเสร็จดีเครื่องเคียงต่างๆทั้ง เส้นแก้วสาหร่ายเส้นใหญ่คลุกกับมายองเนสรสหวานมันเส้นแก้วเคี้ยวกรุบกรอบ/ยำปูอัดผสมแตงกวาญี่ปุ่นรสหวานอ่อนๆหอมกลิ่นน้ำมันงาและปูอัด/กิมจิหัวไชเท้ารสเปรี้ยว-เค็มสัมผัสเวลาเคี้ยวกรุบกรอบอร่อยดีครับ/สาหร่ายแห้งอบงาขาวรสหวานหอมกลิ่นงาและสาหร่าย/ผัดเต้าหู้ปลาแบบลูกเต๋าหั่นซีกกับหัวหอมใหญ่และแครอทรสหวานเค็มเหมาะทานคู่กับข้าวสวยสุดๆ สุดท้ายคือกิมจิผักกาดขาวกรอบฉ่ำรสเปรี้ยว-เค็มมีความเผ็ดลงตัวมากๆ(คิดถึงข้าวหมูสามชั้นผัดกิมจิขึ้นมาเลย ถ้าได้กิมจิดีๆแบบนี้ต้องอร่อยแน่ๆ) ชอบถึงขนาดซื้อกลับไปบ้านด้วยเขาขายกิมจิราคากิโลละ 300 บาท ส่วนผักสดที่นี่มีให้ทานแค่ผักกาด/พริกหยวก/กระเทียมฝาน(น่าเสียดายที่ไม่มีใบงาให้ทานไม่งั้นจะถึงอารมณ์เกาหลีสุดๆ) น้ำจิ้มมีให้ทาน 3 สูตรคือน้ำจิ้มสูตรโคชูจังรสชาติเหมือนกับน้ำยำรสเปรี้ยวหวานหอมกลิ่นน้ำมันงาและให้ความเผ็ดอ่อนๆด้วยโคชูจังอันนี้ถือว่าเด็ดจริง น้ำจิ้มสูตรชัมจังรสชาติเค็มอมหวานนิดๆหอมกลิ่นเต้าเจี้ยวเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานรสหวาน และสุดท้ายก็คือน้ำจิ้มสูตรน้ำมันงาผสมเกลือ-พริกไทยอันนี้เค็มสุดในบรรดาทั้ง 3 สูตร ส่วนตัวชอบน้ำจิ้มโคชูจังของที่ร้านนี้เป็นอันดับ 1 เป็นรสชาติที่ไม่เคยทานที่ร้านอาหารเกาหลีร้านไหนมาก่อน ส่วนเครื่องดื่มเราเลือกเป็นชาเขียวเย็นรีฟีลราคาคนละ 60 บาท ยกมาให้เป็นเหยือกใช้ผงชาเขียวมัทฉะผสมน้ำมาแบบเข้มข้นต้องคนก่อนดื่มไม่งั้นตกตะกอนจนขมเลยครับ
เราสั่งเป็นบุฟเฟ่ต์ราคาคนละ 399 บาทเลยได้เลือกซุปคนละ 1 ถ้วย ผมเลือกเป็นซุปกิมจิที่เบสเป็นซุปกระดูกหมูรสกลมกล่อมใส่กิมจิชั้นดีของที่ร้านให้รสเปรี้ยวผักกาดขาวกรุบกรอบทานคู่กับเต้าหู้ขาวเนื้อนุ่มนิ่มเอาไว้ซดคู่กันแก้เลี่ยนได้เป็นอย่างดีเลยครับ อีกชามเป็นซุปเต้าหู้อ่อนเบสเป็นซุปกระดูกวัวรสเผ็ดใส่เนื้อสับ/ต้นหอมญี่ปุ่น/พริกหยวกและเต้าหู้ถั่วเหลืองแบบสับเป็นชิ้นๆ ได้ความหอมของเนื้อวัวและรสหวานจากผักที่ใส่ลงไปพร้อมกับเต้าหู้และเนื้อสับเคี้ยวละมุนซดได้เพลินๆ แต่ส่วนตัวแล้วชอบซุปกิมจิเต้าหู้ที่นี่มากกว่าเพราะมีความเปรี้ยวนิดๆสดชื่นมากกว่า
ต่อกันด้วยเนื้อหมูทั้ง 7 เมนูที่ทางร้านรวมมาเป็น 4 จานได้แก่ หมูส่วนสันคอและหมูส่วนสามชั้นแบบไม่หมักมีชั้นไขมันแทรกสวยงาม หมูหมักซอสเกาหลีและสามชั้นหมักซอสเกาหลีที่นี่หมักมารสชาติหวานกลอมกล่อม ไม่หวานจนเหมือนหมูปิ้งนมสดไทยแบบบางร้าน เนื้อหมูมีความนุ่มแต่ไม่เละเหมือนหลายๆร้านยิ่งส่วนสามชั้นติดมันยิ่งอร่อย หมูสันคอหมักโคชูจังและหมูสามชั้นหมักโคชูจัง จานนี้รสชาติไม่ต่างจากจานที่แล้วมากนักแต่มีกลิ่นของพริกป่นและโคชูจังรสเผ็ดอ่อนๆช่วยทำให้ทานได้เยอะยิ่งขึ้น จานสุดท้ายก็คือหมูสามชั้นสไลด์พันกับเห็ดเข็มทอง โดยรวมทุกจานเขาใช้เนื้อหมูที่มีคุณภาพดีมีไขมันแทรกเนื้อสวยไม่มีกลิ่นเหม็นสาบ ส่วนจานที่หมักมาก็รสชาติไม่เข้มข้นเกินไปเพื่อให้ทานเปล่าๆได้อร่อย(ไม่เค็มหรือหวานจัดเกินไป)หรือห่อกับผักกาดสดแล้วราดทานกับน้ำจิ้มสูตรของที่ร้านได้รสชาติที่ลงตัวมากขึ้น ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าร้านนี้เขาคิดมาดีทานได้หลายแบบแถมรสชาติถูกปากคนไทยถึงอยู่ได้นานขนาดนี้
ข้อดีอีกอย่างของที่ร้านนี้คือเราไม่ต้องย่างเองจ้า(มีหน้าที่แค่นั่งทานอย่างเดียว) เพราะพนักงานที่ร้านเขาจะคอยดูแลเราอย่างราชาตลอดเวลา ตั้งแต่นำเครื่องเคียง-เครื่องดื่มมาเสิร์ฟ/รับออเดอร์/นำหมูย่างลงเตาให้/เมื่อสุกแล้วก็ตัดใส่จานแยกไว้ให้ คอยเติมน้ำดื่ม/เครื่องเคียง/น้ำจิ้ม/ผักสด/สอบถามว่าเราจะเอาหมูจานไหนเพิ่มมั้ยและเปลี่ยนเตาเพิ่มถ่านให้เราตลอดเวลา ไม่ได้ดูแลเราแค่โต๊ะเดียวแต่เดินสลับไปมาระหว่างโต๊ะอื่นๆไปเรื่อยๆไม่มีหน้าหงิกงอใส่จุดนี้เป็นอีก 1 บริการที่ประทับใจมากๆ บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างเกาหลีที่ร้านอื่นไม่มีทางทำให้เรามากขนาดนี้อย่างแน่นอนครับ
พนักงานที่ร้านเตรียมทุกอย่างให้เราแล้ว(เหลือแค่ห่อผักแล้วป้อนใส่ปากให้เราเท่านั้นเอง) แต่เขาไม่ทำให้เราเลยต้องห่อเองจัดการวางหมูย่างสุกเกรียมลงบนใบผักกาดสด เพิ่มกิมจิหรือเครื่องเคียงต่างๆลงไปแล้วราดด้วยน้ำจิ้มที่เราชอบจากนั้นก็ห่อเข้าปากได้ทันที แต่ถ้าขี้เกียจห่อผักแบบผมก็นำตะเกียบคีบกิมจิวางบนช้อนแล้วตามด้วยเนื้อหมูย่างจนสุกจิ้มกับน้ำจิ้มสูตรที่ชอบวางลงบนกิมจิแล้วเอาเข้าปากทันทีก็อร่อยเด็ดและง่ายสุดๆ อย่างที่บอกไปแล้วว่ากิมจิและน้ำจิ้มที่นี่เด็ดสุดๆแถมมีพนักงานคอยย่างให้ทานเรื่อยๆแบบนี้ให้เวลาทาน 1.30 ชม. ก็ถือว่าเหลือๆเลยครับ เมื่ออิ่มแล้วถึงแม้ว่าในเมนูจะไม่มีของหวานแต่เขาก็มีแตงโมหั่นชิ้นแช่เย็นทานแล้วชื่นใจ พร้อมกับกระปุกใส่ไม้จิ้มฟันให้เคลียร์ช่องปากตัวเองก่อนออกจากร้าน ถือว่าเป็นบริการเพิ่มเติมเล็กน้อยที่ทำให้ผมรู้สึกอยากมาทานที่นี่อีกครับ
แต่ถ้าใครรู้สึกว่าของหวานที่ร้านยังไม่สะใจเขาก็มีไอศครีมเป็นถ้วยยี่ห้อ ETE ราคาถ้วยละ 60-70 บาท ไว้ให้เลือกทานอีกหลายรสชาติ แต่น่าเสียดายที่ร้านนี้ขายอาหารเกาหลีน่าจะมีเป็นไอศครีมเกาหลีให้เลือกทานหลายแบบจะรู้สึกตื่นเต้นกว่านี้เยอะเลยครับ มื้อนี้เราลุยกันเป็นบุฟเฟ่ต์หมูย่างเกาหลีเสิร์ฟพร้อมกับซุปร้อนๆอีกคนละ 1 ถ้วยราคาคนละ 399 บาทและค่าน้ำรีฟีลอีก 60 บาทรวมเป็นคนละ 459 บาท ไม่มี Vat. หรือ Service Charge มากวนใจเพิ่มเติม ถึงแม้ว่าราคารวมแล้วจะทานบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างญี่ปุ่นได้ทานเมนูที่หลากหลายกว่า แต่ด้วยบริการที่เหนือกว่าร้านอื่นๆและรสชาติก็ไม่เหมือนกับร้านอาหารเกาหลีร้านไหนๆที่เคยทานมาก่อนทำให้น่าเข้ามาใช้บริการมากกว่า รับคะแนนความอร่อย/ความคุ้มค่าและความประทับใจไป 5 ดาวเต็มแบบไม่ต้องสงสัยเลยครับ 🌟🌟🌟🌟🌟
****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ ******
ชื่อสินค้า:
JinSeng สุขุมวิท 15
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
🎃🌿 เมนูประหยัด "ผัดฟักทองหมูหมักใส่ใบโหระพา" เหนียวหนึบหนับ หวานมัน อร่อยมากก😋✨
สวัสดีค่ะ วันนี้เอารูปบรรยากาศสวยๆ จากแก่นมะกรูด จ.อุทัยธานี มาฝากค่ะ ช่วงนี้ดอกไม้กำลังสวย บรรยากาศดี อากาศก็ดีมาก น่าเดินเที่ยวค่ะ แต่ที่นี่ นอกจากวิวสวยแล้ว ที่ประทับใจสุดๆ คือตลาด
เที่ยวสบายสบาย
BufFeast Review :"71หมูกะทะ" หมูทะแนวใหม่กับน้ำจิ้มBBQสุดเด็ดดวง @มีตอัพ แจ้งวัฒนะ
ในช่วงสองสามปีหลังมานี้ ร้านหมูกะทะซึ่งเป็นบุฟเฟ่ต์ที่อยู่คู่คนไทยมานานก็เริ่มปรับตัว โยกย้ายเข้าห้างหรือเน้นกินในร่มมีห้องแอร์กันมากขึ้น ก็ต้องขอบคุณระบบดูดควันที่ทำออกมาได้ดีตามยุคสมัย ซึ่งร้านที่ผ
TheHeatBufFeast
มั่วเลย ผัดผักบล็อคโคลี่ ชายโสด
แฟนไม่อยู่ ยึดครัวเป็นของเราแล้วครับ ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตได้ผักมา ผัดอร่อย ๆ ครับ บล็อคโคลี่ เอามาผัด กับกระเทียมครับ เอาผักไปลวกไว้ก่อน แล้วหมักเนื้อกับสับปะรดชิ้นนึง ใส่ซอสบาร์บีคิว เกลือ พริกไ
สมาชิกหมายเลข 4755513
มาอวด “อาหารไม่ปรุง” ค่ะ
เนื่องจาก จขกท มีแผลติดเชื้อขนาดค่อนข้างใหญ่ บวกกับเป็นเบาหวาน คุณหมอเลยจ่ายยาฆ่าเชื้อ พร้อมกับกำชับให้กินแต่อาหารไม่ปรุง จนกว่าแผลจะหาย ก็เลยเป็นที่มาของอาหารเหล่านี้ ซึ่งแรกๆ ก็สนุกกับการทำอยู่นะ หล
น้าเปิ้ลของป่านกะปอ
มากินของแซ่บแบบไม่ใส่พริก
ลาบหมู ส้มตำไทย ตำข้าวโพด และ หมูย่างจิ้มแจ่ว สั่งมาอย่างละจาน ไม่ใส่พริก แบบนี้ก็อร่อยนะ แซ่บได้โดยไม่ใส่พริก มีหมูย่างจิ้มแจ่วที่ใส่พริกป่นมาหน่อย ก็ไม่จิ้มละกัน รสชาติดี พี่คนตำส้มยำยังแซว
deauny
"สุกี้ตี๋น้อย": คุ้มจนต้องรอคิว! บุฟเฟ่ต์ 2xx บาท เปิดถึงเช้า สายกินดึกห้ามพลาด!!
ราคาและความคุ้มค่า ราคาบุฟเฟ่ต์: ราคาเดียว 219 บาทต่อคน (ยังไม่รวมเครื่องดื่มรีฟิล 39 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) ราคาสุทธิจะอยู่ที่ประมาณ 276 บาท ระยะเวลา: ให้เวลาทาน 2 ชั่วโมง 15 นาที (บางแหล่งข้อมูล
สมาชิกหมายเลข 9201123
เล่าเรื่องอาหาร ลาบเหนือกับผักกวางตุ้งสดกรอบ
ย้อนกลับไปในช่วงฤดูหนาว สมัยเรียนมหาวิทยาลัย พวกเราเดินทางขึ้นดอยไปเที่ยวบ้านเพื่อนคนหนึ่งที่จังหวัดทางภาคเหนือ บรรยากาศยามเช้าที่บ้านไม้กึ่งปูนหลังนั้นเย็นสบาย สายหมอกลอยเอื่อย แม่ของเพื่อนตื่นแต่เช้
สมาชิกหมายเลข 7918220
หนาวนี้ ทำอะไร(กิน)ดี (ต่อ)
เมื่อได้ไอเดียจากเพื่อนๆพี่ บวกกับเมนูที่อยากทำ เราก็เริ่มวางแผนสำหรับวันหยุดของเราทันที แต่เราเป็นคนทำกับข้าวไม่เป็น อาศัยเปิดหาสูตรในอินเตอร์เน็ทเอา ได้กินบ้าง ทิ้งบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา มาดูกันดีกว่
ฟุ่มเฟือย farmers
ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ้ว
ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ้ว วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2568 ที่บ้านเราเป็นวันหยุดอีกแล้ว รายการอาหารวันหยุด ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ้ว มีต้นกำเนิดจากอาหารจีนกวางตุ้งที่ดัดแปลงเข้ากับวัตถุดิบของไทยจนกลายเป็นเมนูประจ
สมาชิกหมายเลข 2148931
🎀 ใจสั่งมา ขาพาไป 🥓 "เดอะแคมป์หมูกะทะ" 🫕 หมูกะทะสไตล์แคมป์ปิ้ง ❄️ หนาวแบบนี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่าหมูกะทะอีกแล้ว 🧡💋⭐👍
🎀 ไม่ต้องรอถึงวันเสาร์ 🎊 จะให้เราทนเหงาต่อไปได้ยังไง 🍃 ในเมื่อมีร้านหมูกะทะสไตล์แคมป์ปิ้งอยู่ตรงหน้าแล้ว 🏕️ ฟีลแฟน ฟีลเพื่อน ฟีลครอบครัว ก็ฟินได้หมดกับร้าน "เดอะแคมป์หมูกะทะ ไมอามี่บางปู"
บันทึกรักฟลามิงโก้
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารคาว
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารเกาหลี
อาหาร
อาหารปิ้งย่าง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 13
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิวร้าน JinSeng สุขุมวิท 15 บุฟเฟ่ต์หมูย่างเกาหลีน้ำจิ้มสูตรเด็ดทานได้ไม่อั้นเริ่มต้นคนละ 359 บาท!
เดินเข้ามาภายในร้านบรรยากาศที่รับรู้ได้ก่อนเลยคือ ร้านนี้ไม่เหมือนกับทุกร้านอาหารเกาหลีที่เราเคยได้ทานมาก่อนหน้านี้ เพราะทุกที่นั่งมันคือโต๊ะขนาดใหญ่แล้วกั้นฉากเป็นห้องส่วนตัวทั้งหมด โดยแต่ละห้องนั้นสามารถนั่งทานได้ทั้งหมด 6 คน และเขาเหมือนรู้ว่าแอร์ของโรงแรมไม่เย็นฉ่ำเท่าไหร่นัก ทุกห้องก็เลยมีพัดลมตั้งพื้นเอาไว้ให้ห้องละ 1 ตัว ใครที่มากับเพื่อนเยอะๆหรือต้องการห้องปิดสนิทที่มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นเขาก็มีห้องพิเศษให้บริการอยู่หลายห้องเลยครับ (สามารถแจ้งกับทางร้านเพื่อขอเข้าใช้บริการได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) ทุกๆโต๊ะภายในร้านถึงแม้ว่าจะมีกำแพงกั้นแต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเรียกพนักงานยาก เพราะเขามีปุ่มเรียกพนักงานทุกโต๊ะกดกริ่งปุ๊บมาทันที และอย่างที่บอกว่าร้านนี้เขาเปิดมานานแล้วก็มีรูปถ่ายทั้งดาราชาวไทยและเกาหลีแปะอยู่เต็มร้าน บางรูปมีลายเซ็นต์มายาวนานกว่า 10 ปีแล้วแปลว่าร้านนี้ได้รับความนิยมไม่ใช่น้อยเลย ตอนนี้เรานั่งที่โต๊ะแล้วเริ่มสั่งอาหารกันเลยครับ
สั่งอาหารยังไม่ทันเสร็จดีเครื่องเคียงต่างๆทั้ง เส้นแก้วสาหร่ายเส้นใหญ่คลุกกับมายองเนสรสหวานมันเส้นแก้วเคี้ยวกรุบกรอบ/ยำปูอัดผสมแตงกวาญี่ปุ่นรสหวานอ่อนๆหอมกลิ่นน้ำมันงาและปูอัด/กิมจิหัวไชเท้ารสเปรี้ยว-เค็มสัมผัสเวลาเคี้ยวกรุบกรอบอร่อยดีครับ/สาหร่ายแห้งอบงาขาวรสหวานหอมกลิ่นงาและสาหร่าย/ผัดเต้าหู้ปลาแบบลูกเต๋าหั่นซีกกับหัวหอมใหญ่และแครอทรสหวานเค็มเหมาะทานคู่กับข้าวสวยสุดๆ สุดท้ายคือกิมจิผักกาดขาวกรอบฉ่ำรสเปรี้ยว-เค็มมีความเผ็ดลงตัวมากๆ(คิดถึงข้าวหมูสามชั้นผัดกิมจิขึ้นมาเลย ถ้าได้กิมจิดีๆแบบนี้ต้องอร่อยแน่ๆ) ชอบถึงขนาดซื้อกลับไปบ้านด้วยเขาขายกิมจิราคากิโลละ 300 บาท ส่วนผักสดที่นี่มีให้ทานแค่ผักกาด/พริกหยวก/กระเทียมฝาน(น่าเสียดายที่ไม่มีใบงาให้ทานไม่งั้นจะถึงอารมณ์เกาหลีสุดๆ) น้ำจิ้มมีให้ทาน 3 สูตรคือน้ำจิ้มสูตรโคชูจังรสชาติเหมือนกับน้ำยำรสเปรี้ยวหวานหอมกลิ่นน้ำมันงาและให้ความเผ็ดอ่อนๆด้วยโคชูจังอันนี้ถือว่าเด็ดจริง น้ำจิ้มสูตรชัมจังรสชาติเค็มอมหวานนิดๆหอมกลิ่นเต้าเจี้ยวเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานรสหวาน และสุดท้ายก็คือน้ำจิ้มสูตรน้ำมันงาผสมเกลือ-พริกไทยอันนี้เค็มสุดในบรรดาทั้ง 3 สูตร ส่วนตัวชอบน้ำจิ้มโคชูจังของที่ร้านนี้เป็นอันดับ 1 เป็นรสชาติที่ไม่เคยทานที่ร้านอาหารเกาหลีร้านไหนมาก่อน ส่วนเครื่องดื่มเราเลือกเป็นชาเขียวเย็นรีฟีลราคาคนละ 60 บาท ยกมาให้เป็นเหยือกใช้ผงชาเขียวมัทฉะผสมน้ำมาแบบเข้มข้นต้องคนก่อนดื่มไม่งั้นตกตะกอนจนขมเลยครับ
เราสั่งเป็นบุฟเฟ่ต์ราคาคนละ 399 บาทเลยได้เลือกซุปคนละ 1 ถ้วย ผมเลือกเป็นซุปกิมจิที่เบสเป็นซุปกระดูกหมูรสกลมกล่อมใส่กิมจิชั้นดีของที่ร้านให้รสเปรี้ยวผักกาดขาวกรุบกรอบทานคู่กับเต้าหู้ขาวเนื้อนุ่มนิ่มเอาไว้ซดคู่กันแก้เลี่ยนได้เป็นอย่างดีเลยครับ อีกชามเป็นซุปเต้าหู้อ่อนเบสเป็นซุปกระดูกวัวรสเผ็ดใส่เนื้อสับ/ต้นหอมญี่ปุ่น/พริกหยวกและเต้าหู้ถั่วเหลืองแบบสับเป็นชิ้นๆ ได้ความหอมของเนื้อวัวและรสหวานจากผักที่ใส่ลงไปพร้อมกับเต้าหู้และเนื้อสับเคี้ยวละมุนซดได้เพลินๆ แต่ส่วนตัวแล้วชอบซุปกิมจิเต้าหู้ที่นี่มากกว่าเพราะมีความเปรี้ยวนิดๆสดชื่นมากกว่า
ต่อกันด้วยเนื้อหมูทั้ง 7 เมนูที่ทางร้านรวมมาเป็น 4 จานได้แก่ หมูส่วนสันคอและหมูส่วนสามชั้นแบบไม่หมักมีชั้นไขมันแทรกสวยงาม หมูหมักซอสเกาหลีและสามชั้นหมักซอสเกาหลีที่นี่หมักมารสชาติหวานกลอมกล่อม ไม่หวานจนเหมือนหมูปิ้งนมสดไทยแบบบางร้าน เนื้อหมูมีความนุ่มแต่ไม่เละเหมือนหลายๆร้านยิ่งส่วนสามชั้นติดมันยิ่งอร่อย หมูสันคอหมักโคชูจังและหมูสามชั้นหมักโคชูจัง จานนี้รสชาติไม่ต่างจากจานที่แล้วมากนักแต่มีกลิ่นของพริกป่นและโคชูจังรสเผ็ดอ่อนๆช่วยทำให้ทานได้เยอะยิ่งขึ้น จานสุดท้ายก็คือหมูสามชั้นสไลด์พันกับเห็ดเข็มทอง โดยรวมทุกจานเขาใช้เนื้อหมูที่มีคุณภาพดีมีไขมันแทรกเนื้อสวยไม่มีกลิ่นเหม็นสาบ ส่วนจานที่หมักมาก็รสชาติไม่เข้มข้นเกินไปเพื่อให้ทานเปล่าๆได้อร่อย(ไม่เค็มหรือหวานจัดเกินไป)หรือห่อกับผักกาดสดแล้วราดทานกับน้ำจิ้มสูตรของที่ร้านได้รสชาติที่ลงตัวมากขึ้น ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าร้านนี้เขาคิดมาดีทานได้หลายแบบแถมรสชาติถูกปากคนไทยถึงอยู่ได้นานขนาดนี้
ข้อดีอีกอย่างของที่ร้านนี้คือเราไม่ต้องย่างเองจ้า(มีหน้าที่แค่นั่งทานอย่างเดียว) เพราะพนักงานที่ร้านเขาจะคอยดูแลเราอย่างราชาตลอดเวลา ตั้งแต่นำเครื่องเคียง-เครื่องดื่มมาเสิร์ฟ/รับออเดอร์/นำหมูย่างลงเตาให้/เมื่อสุกแล้วก็ตัดใส่จานแยกไว้ให้ คอยเติมน้ำดื่ม/เครื่องเคียง/น้ำจิ้ม/ผักสด/สอบถามว่าเราจะเอาหมูจานไหนเพิ่มมั้ยและเปลี่ยนเตาเพิ่มถ่านให้เราตลอดเวลา ไม่ได้ดูแลเราแค่โต๊ะเดียวแต่เดินสลับไปมาระหว่างโต๊ะอื่นๆไปเรื่อยๆไม่มีหน้าหงิกงอใส่จุดนี้เป็นอีก 1 บริการที่ประทับใจมากๆ บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างเกาหลีที่ร้านอื่นไม่มีทางทำให้เรามากขนาดนี้อย่างแน่นอนครับ
พนักงานที่ร้านเตรียมทุกอย่างให้เราแล้ว(เหลือแค่ห่อผักแล้วป้อนใส่ปากให้เราเท่านั้นเอง) แต่เขาไม่ทำให้เราเลยต้องห่อเองจัดการวางหมูย่างสุกเกรียมลงบนใบผักกาดสด เพิ่มกิมจิหรือเครื่องเคียงต่างๆลงไปแล้วราดด้วยน้ำจิ้มที่เราชอบจากนั้นก็ห่อเข้าปากได้ทันที แต่ถ้าขี้เกียจห่อผักแบบผมก็นำตะเกียบคีบกิมจิวางบนช้อนแล้วตามด้วยเนื้อหมูย่างจนสุกจิ้มกับน้ำจิ้มสูตรที่ชอบวางลงบนกิมจิแล้วเอาเข้าปากทันทีก็อร่อยเด็ดและง่ายสุดๆ อย่างที่บอกไปแล้วว่ากิมจิและน้ำจิ้มที่นี่เด็ดสุดๆแถมมีพนักงานคอยย่างให้ทานเรื่อยๆแบบนี้ให้เวลาทาน 1.30 ชม. ก็ถือว่าเหลือๆเลยครับ เมื่ออิ่มแล้วถึงแม้ว่าในเมนูจะไม่มีของหวานแต่เขาก็มีแตงโมหั่นชิ้นแช่เย็นทานแล้วชื่นใจ พร้อมกับกระปุกใส่ไม้จิ้มฟันให้เคลียร์ช่องปากตัวเองก่อนออกจากร้าน ถือว่าเป็นบริการเพิ่มเติมเล็กน้อยที่ทำให้ผมรู้สึกอยากมาทานที่นี่อีกครับ
แต่ถ้าใครรู้สึกว่าของหวานที่ร้านยังไม่สะใจเขาก็มีไอศครีมเป็นถ้วยยี่ห้อ ETE ราคาถ้วยละ 60-70 บาท ไว้ให้เลือกทานอีกหลายรสชาติ แต่น่าเสียดายที่ร้านนี้ขายอาหารเกาหลีน่าจะมีเป็นไอศครีมเกาหลีให้เลือกทานหลายแบบจะรู้สึกตื่นเต้นกว่านี้เยอะเลยครับ มื้อนี้เราลุยกันเป็นบุฟเฟ่ต์หมูย่างเกาหลีเสิร์ฟพร้อมกับซุปร้อนๆอีกคนละ 1 ถ้วยราคาคนละ 399 บาทและค่าน้ำรีฟีลอีก 60 บาทรวมเป็นคนละ 459 บาท ไม่มี Vat. หรือ Service Charge มากวนใจเพิ่มเติม ถึงแม้ว่าราคารวมแล้วจะทานบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างญี่ปุ่นได้ทานเมนูที่หลากหลายกว่า แต่ด้วยบริการที่เหนือกว่าร้านอื่นๆและรสชาติก็ไม่เหมือนกับร้านอาหารเกาหลีร้านไหนๆที่เคยทานมาก่อนทำให้น่าเข้ามาใช้บริการมากกว่า รับคะแนนความอร่อย/ความคุ้มค่าและความประทับใจไป 5 ดาวเต็มแบบไม่ต้องสงสัยเลยครับ 🌟🌟🌟🌟🌟
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น