อานาปานสติ กรรมฐาน เจริญสติ แตกต่างกันอย่างไร

ตามความเข้าใจแบบชาวบ้านๆ นะครับ  ไม่ได้รู้บาลีอะไรมากนัก

1. กรรมฐาน  อธิบายแบบภาษาชาวบ้านได้หลายอย่าง  แต่เรียกง่ายๆ
ว่า การฝึกจิตใจ  นั่นแหละครับ  

กรรมฐาน ถ้าจะแปลตรงตัว มันก็หมายถึง  กรรม คือ การกระทำ  ฐาน คือ ที่ตั้ง
แปลแบบนี้ บางคนก็ยังคงสงสัย    มันก็คือ การฝึกจิตใจให้มาตั้งไว้ที่ฐานอะไรสักอย่าง
(ซึ่งมีระบุไว้ว่า มีฐานอะไรให้เลือกได้บ้าง
ไม่ใช่อยากจะเอาใจไปตั้งไว้ที่ไหน ก็ได้ทำตามใจได้เสมอ เช่น
เอาใจไปตั้งไว้กับการดูทีวี แบบนี้ ไม่ได้ครับ 55)

จะแนะนำให้เอาใจไปตั้งไว้ที่อารมณ์เป็นกลางๆ  เช่น ลมหายใจ  การเคลื่อนไหวของกาย ฯลฯ

เป็นการฝึกจิตใจ โดยให้ใจไประลึกรู้ หรือตั้งไว้กับฐานครับ
ผมขอแบบสั้นๆ แค่นี้นะครับ  เดี๋ยวจะยิ่ง งง เข้าไปอีก

2. กรรมฐาน หรือ การฝึกจิตใจในทางพุทธ  มีเทคนิควิธีหลายอย่างครับ
ถ้าเอา "ลมหายใจ" เป็น "ฐานที่ตั้ง"  ก็เรียกว่า อานาปานสติ
หรือจะเอาฐานอื่นๆ ตามที่ตำราระบุไว้ก็มีครับ  เช่น "กายคตาสติ" การเคลื่อนไหวร่างกาย อย่างการเดินจงกรม
การสร้างจังหวะแบบหลวงพ่อเทียน ฯลฯ  

3.  การฝึกจิตใจทางพุทธเนี่ย มีหลายรูปแบบ หลายเทคนิค เรียกกันได้หลายอย่าง
มีเป้าหมายทั้งการดับทุกข์ชั่วคราว และดับทุกข์ถาวร

แนวทางที่เป็นเส้นทางหลัก ทางเอก ไปสู่การพ้นทุกข์ถาวร
คือ การฝึกตามหลักสติปัฏฐาน  หรือจะกล่าวให้ยาวกว่านั้น
ก็คือ เป็นการฝึกวิปัสสนาภาวนาตามหลักสติปัฏฐาน

ซึ่งเรียกแบบภาษาชาวบ้าน เรียกแบบสั้นๆ  ก็คือ "การเจริญสติ" นั่นเอง

4. อานาปานสติ  ก็เป็นกรรมฐานแบบหนึ่งครับ  ก็เป็นการเจริญสติแบบนึง
การเดินจงกรม การเคลื่อนไหวร่างกาย  ก็เป็นการกรรมฐานแบบนึง
หรือจะเรียกว่า ก็เป็นการเจริญสติแบบนึงครับ

เอาสั้นๆ คร่าวๆ เท่านี้ละกันครับ

5.  ใครสนใจเริ่มต้นฝึกกรรมฐานหรือเจริญสติ  โดยใช้ อานาปานสติ  ก็ได้
หรือจะเป็นกรรมฐานอื่นๆ ก็ได้ เช่น กายคตาสติ  การใช้ร่างกายเป็นฐาน
หรืออื่นๆ   หรือจะใช้หลายเทคนิคผสมกัน  หรืออื่นๆ  มันประยุกต์ได้พอสมควรครับ

อันนี้ ก็ต้องไปศึกษาเพิ่มเอาครับ ถ้าเยอะกว่านี้จะยิ่งสับสน
แต่ถ้าลองได้ค่อยๆ ฝึกไป  มันจะเข้าใจง่ายขึ้นกว่าการรู้ข้อมูลอย่างเดียว
ต้องลงมือฝึกดูครับ  ลองหาดูในยูทูปก็ได้ครับ มีแนวทางการสอนเจริญสติง่ายๆ อยู่ไม่น้อยครับ