หญิงหน่อย ควง ส.ส.อีสาน แจกถุงยังชีพชาวโคราช จี้รัฐเยียวยาเกษตรกรแบบไร้ข้อแม้
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4142165
หญิงหน่อย ควง สส.อีสาน แจกถุงยังชีพชาวโคราช จี้รัฐเยียวยาเกษตรกรแบบไร้ข้อแม้ จ่อแก้ กม.ประกันสังคมใช้เงินออมได้ก่อนเกษียณ
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.
สรัสนันท์ อรรณนพพร นาย
จตุพร เจริญเชื้อ ส.ส.ขอนแก่น นาย
โกศล ปัทมะ ส.ส.นครราชสีมา นาย
สุปชัย อินทรักษา นาย
รชตะ ด่านกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส. นครราชสีมา และนาย
พรชัย ศรีสุริยันโยธิน อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ ร่วมแจกถุงยังชีพ อาหาร และสิ่งของจำเป็น พร้อมทั้งให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงเปิดจุดบริการอาหารให้กับประชาชน พร้อมทั้งสอบถามถึงความทุกข์ยากและความเดือดร้อน
ซึ่งประชาชนกังวลว่าอาจเกิดปัญหาการเยียวยาเกษตรกรไม่ครบถ้วนทั่วถึง โดยเฉพาะเกษตรกรซึ่งไม่มีที่ไร่ ที่นาเป็นของตนเอง ส่วนใหญ่เช่าจากเจ้าของที่หรือนายทุน ซึ่งไม่ได้ทำเอกสารการเช่าตามเงื่อนไขที่รัฐกำหนด รวมถึงการสร้างเงื่อนไขที่บังคับให้พี่น้องเกษตรกรต้องลงทะเบียนเกษตรกรใหม่เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูล ถือเป็นการเพิ่มภาระและสร้างความยากลำบากให้กับประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนในเวลานี้
คุณหญิง
สุดารัตน์ กล่าวว่า การเยียวยาต้องทั่วถึงและครอบคลุมเกษตรกรทุกครัวเรือน ไม่ควรมีข้อแม้ โดยเฉพาะในกลุ่มซึ่งไม่มีที่นา ต้องเช่าเพื่อทำการเกษตร ที่สำคัญคือวิธีการยุ่งยาก ล่าช้าทั้งที่ภาครัฐมีทะเบียนคนจน คนตกงาน และทะเบียนเกษตรกรแล้ว แต่กลับให้ประชาชนต้องไปขึ้นทะเบียนใหม่ด้วยความลำบาก ทั้งที่เขาได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการของรัฐ
นอกจากนั้นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ซึ่งเป็นเงินออมของเขาเองก็จ่ายล่าช้า ซึ่งหลังเปิดประชุมสภาฯ พรรค พท.จะเสนอแก้ไขกฎหมาย เปิดทางให้ผู้ประกันตนสามารถรับเงินบำเหน็จบำนาญได้ หรือเงินออมได้ก่อนถึงเวลาเกษียณ และจะร่วมกันทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณจากเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาทด้วย
ด้านน.ส.
สรัสนันท์ กล่าวว่า นอกจากการเยียวยาที่อาจไม่ทั่วถึง เกษตรกรกำลังเผชิญปัญหาขาดเงินทุนสำหรับการเตรียมเพาะปลูกในฤดูการผลิตที่กำลังจะมาถึง เพราะก่อนหน้าได้รับผลกระทบจากปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ขาดรายได้ เกิดปัญหาหนี้สินทั้งในและนอกระบบตามมา พี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน จึงต้องการให้รัฐบาลดูแลเรื่องภาระหนี้สิน ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ควรมีมาตรการพักชำระที่ชัดเจน ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้รัฐบาลเตรียมแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เพราะหากเริ่มต้นการหว่านไถ แต่ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ก็อาจสร้างความเสียหายให้กับพืชผลที่ปลูกได้
ขณะที่นาย
โกศล กล่าวว่า ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จริง ส่วนหนึ่งมาจากการเข้าไม่ถึงเทคโนโลยีเช่น การลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟนถือเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงสิทธิ เช่นเดียวกับเกษตรกรที่ต้องเช่าไร่เช่านาโดยไม่มีเอกสารการเช่าจากนายทุนหรือเจ้าของที่ดิน คุณสมบัติจึงไม่ตรงตามที่รัฐกำหนดทำให้ขาดโอกาสการเข้าถึงสิทธิการเยียวยา การแก้ปัญหาสามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น ให้ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือกำนันผู้ใหญ่บ้านยืนยันว่าบุคคลใดที่เป็นเกษตรกรและได้รับความเดือดร้อนแท้จริง
'ฝ่ายค้าน'โวยวิปรบ. เคาะ3วันผ่านพ.ร.ก.กู้เงิน1.9 ล้านล้าน
https://www.dailynews.co.th/politics/774845
“ฝ่ายค้าน”แนะวิปรัฐบาลเปิดใจกว้างให้โอกาสฝ่ายค้านทำหน้าที่ โวยเคาะ 3 วัน ผ่านพ.ร.ก.กู้เงิน 1.9 ล้านล้าน ยัน รวมพ.ร.บ.โอนงบปี 63 ต้อง 10 วัน
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นาย
อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการประสานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล ) กล่าวถึงการกำหนดการประชุมเพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาทว่า ได้มีการหารือเบื้องต้นแล้ว จะมีการนัดประชุมเพื่อพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับ จำนวน 3 วัน ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ค.นี้ ซึ่งจากการประเมินคิดว่า จะมีผู้อภิปรายเป็นจำนวนมาก จึงจะมีการนำพ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับมารวมอภิปรายไปพร้อมกันในคราวเดียว เพื่อความรวดเร็วและกระชับ เพราะถือว่า เป็นเรื่องเดียวกัน สำหรับแนวทางการประชุมตลอดทั้ง3 วันนั้น เบื้องต้นคาดว่า จะมีการเริ่มประชุมตั้งแต่เช้าทุกวัน ขณะที่เรื่องการแบ่งเวลาการอภิปรายนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะต้องนำเข้าหารือในที่ประชุมวิปรัฐบาลในวันที่ 25 พ.ค. นี้ เพื่อนำข้อสรุปทั้งหมดของวิปรัฐบาลนำเสนอนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมวิปสภาผู้แทนราษฎร ที่มีตัวแทนของวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน หาข้อสรุปอีกครั้งหนึ่ง
นาย
อัครเดช กล่าวถึงข้อเรียกร้องให้มีการยกเลิกพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินว่า แม้ตนจะยังเห็นด้วยกับการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไว้เพื่อควบคุมสถานการณ์ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่อยากให้มีการพิจารณายกเลิกเคอร์ฟิวหรือคำสั่งห้ามออกนอกเคหะสถาน แม้วันนี้จะลดเวลาลงไป 1 ชั่วโมง เป็นจากเวลา 23.00-04.00 น. แล้วแต่เราจำเป็นต้องรีสตาร์ทการกอบกู้เศรษฐกิจ สร้างบรรยากาศการใช้ชีวิตของประชาชนให้กับมาเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง เพราะบางธุรกิจจำเป็นต้องทำงานกลางคืนแต่ผลจากมาตรการล็อกดาวน์ได้ทำให้ตอนนี้เกิดเป็นปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนถือเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมาก ซึ่งขณะนี้เราสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ของไวรัสโควิด-19 ได้ดีพอสมควรแล้ว การยังคงเคอร์ฟิวไว้ทำให้ไม่สามารถการขับเคลื่อนฟื้นฟูทางเศรษฐกิจทำได้เต็มที่ จึงคิดว่า วันนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะมีการพิจารณายกเลิก เพราะถ้าหากช้ากว่านี้อาจส่งผลกระทบกับประชาชนมากขึ้นไปอีก สถานการณ์จากนี้คงไว้เพียงแต่พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับการควบคุมก็น่าจะเพียงพอแล้ว
ด้าน นาย
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ตนคิดว่า ระยะเวลา 3 วันที่ต้องพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ รวมไปถึง พ.ร.ก.ว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ อีก 1 ฉบับด้วยนั้น คงไม่เพียงพอ และที่สำคัญการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับ จำเป็นต้องแยกพิจารณารายฉบับ เพราะเนื้อหาแต่ละฉบับมีความเป็นเอกเทศ และมีความสำคัญในตัวเอง จะตีขลุมรวมเป็นก้อนเดียวเพื่อพิจารณาไม่ได้ ที่สำคัญที่สุดวงเงินกู้คราวนี้สูงถึง 1.9 ล้านล้านบาท ถือว่า เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ จึงอยากให้รัฐบาลเปิดใจกว้างเพราะเมื่อการพิจารณาพ.ร.ก.ไม่สามารถตั้งกมธ.ขึ้นมาพิจารณาได้ ก็ให้ควรโอกาสฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะถือเงินจำนวนมากประชาชนต้องการเห็นรายละเอียดว่า รัฐบาลจะเอาเงินไปใช้จ่ายทำอะไรบ้าง ซึ่งตนมองว่ากฏหมายที่เกี่ยวกับการแก้ไขโควิด-19 ที่กำลังจะเข้าสภานั้น ทั้งพ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับรวมไปถึงร่างพ.ร.บ.โอนเงินประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 นั้น ต้องให้เวลาสภาฯพิจารณารวมกัน 10 วัน แม้จะบอกว่า พ.ร.ก.มีผลบังคับใช้ไปแล้ว สภาฯมีหน้าที่อนุมติเท่านั้น แต่ตนเห็นว่า ยิ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วก็ควรให้เวลากับสภาฯให้มาก และหากมีการใช้โอกาสนี้เสนอให้พิจารณาร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณฯ แบบ 3 วาระรวดในวันเดียวจริง ฝ่ายค้านก็จำเป็นต้องคัดค้าน .
JJNY : 4in1 หญิงหน่อยจี้เยียวยาเกษตรกรไร้ข้อแม้/โวยเคาะ3วันผ่านพ.ร.ก.กู้เงิน/ซินแสเปิดชะตาป้อมดวงแรง/การเมืองหลังโควิด
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4142165
หญิงหน่อย ควง สส.อีสาน แจกถุงยังชีพชาวโคราช จี้รัฐเยียวยาเกษตรกรแบบไร้ข้อแม้ จ่อแก้ กม.ประกันสังคมใช้เงินออมได้ก่อนเกษียณ
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร นายจตุพร เจริญเชื้อ ส.ส.ขอนแก่น นายโกศล ปัทมะ ส.ส.นครราชสีมา นายสุปชัย อินทรักษา นายรชตะ ด่านกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส. นครราชสีมา และนายพรชัย ศรีสุริยันโยธิน อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ ร่วมแจกถุงยังชีพ อาหาร และสิ่งของจำเป็น พร้อมทั้งให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงเปิดจุดบริการอาหารให้กับประชาชน พร้อมทั้งสอบถามถึงความทุกข์ยากและความเดือดร้อน
ซึ่งประชาชนกังวลว่าอาจเกิดปัญหาการเยียวยาเกษตรกรไม่ครบถ้วนทั่วถึง โดยเฉพาะเกษตรกรซึ่งไม่มีที่ไร่ ที่นาเป็นของตนเอง ส่วนใหญ่เช่าจากเจ้าของที่หรือนายทุน ซึ่งไม่ได้ทำเอกสารการเช่าตามเงื่อนไขที่รัฐกำหนด รวมถึงการสร้างเงื่อนไขที่บังคับให้พี่น้องเกษตรกรต้องลงทะเบียนเกษตรกรใหม่เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูล ถือเป็นการเพิ่มภาระและสร้างความยากลำบากให้กับประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนในเวลานี้
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การเยียวยาต้องทั่วถึงและครอบคลุมเกษตรกรทุกครัวเรือน ไม่ควรมีข้อแม้ โดยเฉพาะในกลุ่มซึ่งไม่มีที่นา ต้องเช่าเพื่อทำการเกษตร ที่สำคัญคือวิธีการยุ่งยาก ล่าช้าทั้งที่ภาครัฐมีทะเบียนคนจน คนตกงาน และทะเบียนเกษตรกรแล้ว แต่กลับให้ประชาชนต้องไปขึ้นทะเบียนใหม่ด้วยความลำบาก ทั้งที่เขาได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการของรัฐ
นอกจากนั้นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ซึ่งเป็นเงินออมของเขาเองก็จ่ายล่าช้า ซึ่งหลังเปิดประชุมสภาฯ พรรค พท.จะเสนอแก้ไขกฎหมาย เปิดทางให้ผู้ประกันตนสามารถรับเงินบำเหน็จบำนาญได้ หรือเงินออมได้ก่อนถึงเวลาเกษียณ และจะร่วมกันทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณจากเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาทด้วย
ด้านน.ส.สรัสนันท์ กล่าวว่า นอกจากการเยียวยาที่อาจไม่ทั่วถึง เกษตรกรกำลังเผชิญปัญหาขาดเงินทุนสำหรับการเตรียมเพาะปลูกในฤดูการผลิตที่กำลังจะมาถึง เพราะก่อนหน้าได้รับผลกระทบจากปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ขาดรายได้ เกิดปัญหาหนี้สินทั้งในและนอกระบบตามมา พี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน จึงต้องการให้รัฐบาลดูแลเรื่องภาระหนี้สิน ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ควรมีมาตรการพักชำระที่ชัดเจน ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้รัฐบาลเตรียมแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เพราะหากเริ่มต้นการหว่านไถ แต่ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ก็อาจสร้างความเสียหายให้กับพืชผลที่ปลูกได้
ขณะที่นายโกศล กล่าวว่า ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จริง ส่วนหนึ่งมาจากการเข้าไม่ถึงเทคโนโลยีเช่น การลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟนถือเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงสิทธิ เช่นเดียวกับเกษตรกรที่ต้องเช่าไร่เช่านาโดยไม่มีเอกสารการเช่าจากนายทุนหรือเจ้าของที่ดิน คุณสมบัติจึงไม่ตรงตามที่รัฐกำหนดทำให้ขาดโอกาสการเข้าถึงสิทธิการเยียวยา การแก้ปัญหาสามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น ให้ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือกำนันผู้ใหญ่บ้านยืนยันว่าบุคคลใดที่เป็นเกษตรกรและได้รับความเดือดร้อนแท้จริง
'ฝ่ายค้าน'โวยวิปรบ. เคาะ3วันผ่านพ.ร.ก.กู้เงิน1.9 ล้านล้าน
https://www.dailynews.co.th/politics/774845
“ฝ่ายค้าน”แนะวิปรัฐบาลเปิดใจกว้างให้โอกาสฝ่ายค้านทำหน้าที่ โวยเคาะ 3 วัน ผ่านพ.ร.ก.กู้เงิน 1.9 ล้านล้าน ยัน รวมพ.ร.บ.โอนงบปี 63 ต้อง 10 วัน
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการประสานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล ) กล่าวถึงการกำหนดการประชุมเพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาทว่า ได้มีการหารือเบื้องต้นแล้ว จะมีการนัดประชุมเพื่อพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับ จำนวน 3 วัน ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ค.นี้ ซึ่งจากการประเมินคิดว่า จะมีผู้อภิปรายเป็นจำนวนมาก จึงจะมีการนำพ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับมารวมอภิปรายไปพร้อมกันในคราวเดียว เพื่อความรวดเร็วและกระชับ เพราะถือว่า เป็นเรื่องเดียวกัน สำหรับแนวทางการประชุมตลอดทั้ง3 วันนั้น เบื้องต้นคาดว่า จะมีการเริ่มประชุมตั้งแต่เช้าทุกวัน ขณะที่เรื่องการแบ่งเวลาการอภิปรายนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะต้องนำเข้าหารือในที่ประชุมวิปรัฐบาลในวันที่ 25 พ.ค. นี้ เพื่อนำข้อสรุปทั้งหมดของวิปรัฐบาลนำเสนอนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมวิปสภาผู้แทนราษฎร ที่มีตัวแทนของวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน หาข้อสรุปอีกครั้งหนึ่ง
นายอัครเดช กล่าวถึงข้อเรียกร้องให้มีการยกเลิกพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินว่า แม้ตนจะยังเห็นด้วยกับการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไว้เพื่อควบคุมสถานการณ์ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่อยากให้มีการพิจารณายกเลิกเคอร์ฟิวหรือคำสั่งห้ามออกนอกเคหะสถาน แม้วันนี้จะลดเวลาลงไป 1 ชั่วโมง เป็นจากเวลา 23.00-04.00 น. แล้วแต่เราจำเป็นต้องรีสตาร์ทการกอบกู้เศรษฐกิจ สร้างบรรยากาศการใช้ชีวิตของประชาชนให้กับมาเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง เพราะบางธุรกิจจำเป็นต้องทำงานกลางคืนแต่ผลจากมาตรการล็อกดาวน์ได้ทำให้ตอนนี้เกิดเป็นปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนถือเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมาก ซึ่งขณะนี้เราสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ของไวรัสโควิด-19 ได้ดีพอสมควรแล้ว การยังคงเคอร์ฟิวไว้ทำให้ไม่สามารถการขับเคลื่อนฟื้นฟูทางเศรษฐกิจทำได้เต็มที่ จึงคิดว่า วันนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะมีการพิจารณายกเลิก เพราะถ้าหากช้ากว่านี้อาจส่งผลกระทบกับประชาชนมากขึ้นไปอีก สถานการณ์จากนี้คงไว้เพียงแต่พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับการควบคุมก็น่าจะเพียงพอแล้ว
ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ตนคิดว่า ระยะเวลา 3 วันที่ต้องพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ รวมไปถึง พ.ร.ก.ว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ อีก 1 ฉบับด้วยนั้น คงไม่เพียงพอ และที่สำคัญการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับ จำเป็นต้องแยกพิจารณารายฉบับ เพราะเนื้อหาแต่ละฉบับมีความเป็นเอกเทศ และมีความสำคัญในตัวเอง จะตีขลุมรวมเป็นก้อนเดียวเพื่อพิจารณาไม่ได้ ที่สำคัญที่สุดวงเงินกู้คราวนี้สูงถึง 1.9 ล้านล้านบาท ถือว่า เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ จึงอยากให้รัฐบาลเปิดใจกว้างเพราะเมื่อการพิจารณาพ.ร.ก.ไม่สามารถตั้งกมธ.ขึ้นมาพิจารณาได้ ก็ให้ควรโอกาสฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะถือเงินจำนวนมากประชาชนต้องการเห็นรายละเอียดว่า รัฐบาลจะเอาเงินไปใช้จ่ายทำอะไรบ้าง ซึ่งตนมองว่ากฏหมายที่เกี่ยวกับการแก้ไขโควิด-19 ที่กำลังจะเข้าสภานั้น ทั้งพ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับรวมไปถึงร่างพ.ร.บ.โอนเงินประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 นั้น ต้องให้เวลาสภาฯพิจารณารวมกัน 10 วัน แม้จะบอกว่า พ.ร.ก.มีผลบังคับใช้ไปแล้ว สภาฯมีหน้าที่อนุมติเท่านั้น แต่ตนเห็นว่า ยิ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วก็ควรให้เวลากับสภาฯให้มาก และหากมีการใช้โอกาสนี้เสนอให้พิจารณาร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณฯ แบบ 3 วาระรวดในวันเดียวจริง ฝ่ายค้านก็จำเป็นต้องคัดค้าน .