สวัสดีค่ะ ทุกคนที่ทำการค้าขาย
ณ ตอนนี้ เจ้าของกระทู้เชื่อว่า ทุกคนคงกำลังเผชิญปัญหาเดียวกันจากสถานการณ์ COVID ที่ทุกร้านจะต้อง “ ปิดหน้าร้าน ” เพื่อให้ความร่วมมือกับรัฐบาล และเหล่าคุณหมอผู้กล้าหาญ เพื่อเยียวยาสถานการณ์ COVID-19 ของประเทศไทยให้ดีขึ้นในครั้งนี้ เจ้าของกระทู้ก็เป็นผู้ทำการค้าคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการปิดหน้าร้านชั่วคราวครั้งนี้ค่ะ วันนี้จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ในการรับมือต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จนสามารถทำรายได้ 6 หลัก ภายในหนึ่งเดือน และอยากมาแบ่งปัน 4 สิ่งที่ได้เรียนรู้ เพื่อที่ทุกคนจะสามารถเอาไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้ ไม่มากก็น้อยค่ะ
ปัญหา “หน้าร้านปิด ทำอย่างไรดี พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส? ”
คำตอบ : -ณ เวลานี้ เป็นเวลาที่ ธุรกิจควรทำแบบ ONLINE ให้มากที่สุดค่ะ-
สิ่งที่ได้เรียนรู้ ข้อที่ 1
1. “คนอยู่ที่ไหน เงินอยู่ที่นั่น”
ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนใช้เวลาอยู่บ้านมากที่สุด ถูกไหมคะ พออยู่บ้าน เราก็เบื่อ พอเราเบื่อ เราก็เล่นมือถือกันมากขึ้น
เห็น-โอกาส-ในประโยคนี้ไหมคะ? แปลได้อีกอย่างว่า จากการเดินห้างของผู้คน ทุกคนก็เปลี่ยนมาเดินเล่นโดยใช้นิ้วบนโทรศัพท์ที่มากขึ้นมาก และอย่างที่กล่าวไปว่า “ที่ใดมีคน ที่นั่นคือแหล่งทำเงิน” หากหน้าร้านถูกปิด ขอให้ย้ายหน้าร้านของทุกคนมาในมือถือค่ะ ในมือถือ ก็มีรูปแบบ หน้าร้านให้เลือกมากมาย ตามความถนัดของทุกคนเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
IG, FACEBOOK, LAZADA, SHOPEE
ซึ่งรายได้ 6 หลัก ภายใน 1 เดือนที่เจ้าของกระทู้ใช้คือ อินสตราแกรม( INSTAGRAM) ค่ะ
สิ่งที่ควรรู้เล็กน้อยคือ หากต้องการขายสินค้าใน IG จำเป็นต้องสร้างเพจ FACEBOOK ควบคู่กันไปค่ะ ตามกฎการขาย และเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจ นอกจากนั้น ข้อดีของการมีทั้ง FACEBOOK และ IG ยังเชื่อมโยงกับข้อคิดข้องที่สองค่ะ ไปต่อกันเลย
2. “สินค้าจะขายดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่ว่าจะโฆษณาได้ถูกจุดหรือไม่” และ หัวใจของการทำธุรกิจที่ดี
ข้อดีของการผูก IG กับ FACEBOOK เข้าด้วยกัน นอกจากเพิ่มความน่าเชื่อถือแล้ว ยังมีอีกข้อดีที่อยากแนะนำคือ หากเรามีร้านในไอจี เราสามารถทำการ “โฆษณา” ให้สินค้าของเราไป “เตะตา” กับผู้คนที่กำลังมองหาสินค้าของเราได้อย่างถูกจุด ข้อคิดข้อที่ 2 ที่อยากฝากไว้ คือ ‘จับกลุ่มเป้าหมายให้ถูก’ เพราะเมื่อมีคนซื้อ คนขายย่อมได้ไปต่อ และจะทำการโฆษณาได้ ร้านของทุกคนต้องมีเพจ FACEBOOK ค่ะ
ยิ่งไปกว่านั้น การขายของให้ได้ดีคือ การมีความรู้ในสินค้าของตัวเอง ซึ่งคือการมีความเข้าใจว่า สินค้าของเรามีคุณสมบัติอะไร แตกต่างจากของผู้ขายอื่นๆที่ขายสินค้าเดียวกันอย่างไร การบริการของเราดีกว่าอย่างไร ตอบโจทย์ผู้ซื้อได้อย่างไรหรือการตอบคำถามที่ว่า
“ทำไมผู้คนถึงต้องซื้อสินค้าของเราเท่านั้น ไมใช่คนอื่น”
การเข้าใจสินค้าของตัวเองและรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร คือหัวใจในการทำธุรกิจที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการขายของออนไลน์ คือ “ความน่าเชื่อถือค่ะ” ว่า สินค้าจะต้องดีงาม เหมือนดั่งรูปที่ใช้โฆษณา คุณภาพดี ผู้ขายมีความจริงใจ โปร่งใส และที่สำคัญ ผู้ซื้อได้รับสินค้าถึงมืออย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่มีความเสียหาย
อ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนอาจเริ่มสงสัยว่า เจ้าของกระทู้ขายอะไรใน IG
เจ้าของกระทู้ทำ ตู้รองเท้าอลูมิเนียม กันน้ำ กันปลวก 100% ค่ะ หากอยากเข้าไปชมหน้าร้านของเรา สามารถติดตามได้ที่ IG : Shoecabinet.thailand เลยค่ะ (: พึ่งเปิดช่วง COVID ระบาดพอดี จึงยังไม่ค่อยดังมากแต่จะพยายามทำให้ดีที่สุดเลย)

กลับไปเรื่อง หัวใจของการทำธุรกิจ หรือ “ทำไมผู้คนถึงต้องซื้อสินค้าของเราเท่านั้น ไม่ใช่คนอื่น”
อย่างคำตอบของเจ้าของกระทู้ ก็เป็นเพราะว่า ตู้รองเท้าของเจ้าของกระทู้ ทำมากจากอลูมิเนียมแท้คุณภาพดี ที่ทำให้ตู้รองเท้ามีคุณสมบัติ แข็งแรง ทนทาน กันน้ำ กันปลวกได้ 100% (เพราะเราเข้าใจปัญหาของคุณลูกค้าที่ซื้อตู้รองเท้าไปแล้ว โดนปลวกกิน หรือโดนน้ำจากการทำความสะอาดตู้รองเท้าก็ขึ้นสนิม ไม่น่ามอง ทำให้บ้านไม่สวย) ทั้งๆที่แท้จริงแล้ว ตู้รองเท้าคือ เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถยกระดับการจัดบ้านได้เป็นอย่างดี ตู้รองเท้าของเราจึงมาใน CONCEPT “ SHOECABINET.THAILAND –NEW STANDARD OF SHOECABINET"- หรือแปลว่า “มาตรฐานใหม่ของตู้รองเท้าในประเทศไทย”
สิ่งที่สำคัญในตัวอย่างนี้คือ การรู้จักคุณสมบัติของสินค้าที่ขายเป็นอย่างดี เข้าใจว่าทำไมสินค้าของเราถึงเป็นที่ต้องการของตลาด รวมถึงเข้าใจ Pain point หรือความเจ็บปวดของผู้บริโภคที่เราอยากเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาคืออะไร
3. ข้อคิด ข้อที่3 ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคือ ธุรกิจที่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค-
ความรวดเร็ว ความน่าเชื่อถือ การบริการหลังการขาย
ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการขายของออนไลน์
การมีความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะ การที่เราได้ใส่ความตั้งใจลงไปในงานที่เราทำ ผู้คนจะสามารถรับรู้ได้ถึงความตั้งใจผ่านความสวยงามและความพิถีพิถันนั้น
3.1 เริ่มตั้งแต่การลงรูปให้สวยงาม เปรียบได้กับการจัดหน้าร้านให้สวย ทันสมัย น่าดึงดูด (ถ้าเป็นสินค้าก็ต้องน่าใช้ ถ้าเป็นอาหารก็ต้องน่ากิน)
3.2 การมีแคปชั่น หรือข้อความที่โดนใจ มีประโยชน์ เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ลง มีรายละเอียดของสินค้าบอกพร้อม
ที่สำคัญที่สุดคือ ลูกค้าออนไลน์ชอบ
3.3 “ความรวดเร็วทันใจ” เพราะฉะนั้นการมีคนดูแลลูกค้าที่สามารถตอบคำถามได้อย่างละเอียดและเข้าใจ จึงเป็นการให้บริการลูกค้าที่ดีที่สุด
นอกจากนั้น
3.4 การบริการหลังการขาย คือ เมื่อคุณปิดการขายได้แล้ว สิ่งที่ต้องให้ความใส่ใจคือ ติดตามว่า สินค้าของเราไปถึงมือผู้ซื้อ อย่างดี 100% หรือไม่
หากคำนึงถึง 4 ข้อย่อยนี้ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วค่ะ
4. ยอมรับความเปลี่ยนแปลง – ว่า โลกหมุนไปสู่ “สังคมออนไลน์”
ข้อคิดข้อที่ 4 อยากให้เปิดใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น และเริ่มเปลี่ยนแปลง เพื่อปรับธุรกิจของเราให้เข้ากับสภาพสังคมและสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน สิ่งสำคัญคือ อย่าไปคิดว่าสินค้าของเราจะขายไม่ได้ ด้วยเหตุผลต่างๆนานา เพราะหากเราคิดว่า “มันเป็นไปไม่ได้หรอก” สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราจะไม่ได้ลงมือทำ ทั้งๆที่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ หากเราคิดว่า
“มันเป็นไปได้ มันจะเป็นไปได้”
อย่างเจ้าของกระทู้ขาย ตู้รองเท้าอลูมิเนียม ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ที่เมื่อพูดถึงคนทั่วไปอาจคิดว่า “ตู้รองเท้าหรอ ฮึ สินค้าใหญ่แบบนี้ ขายไม่ได้หรอกในโลกออนไลน์ เพราะลูกค้า อยากไปเห็นกับตา อยากไปจับด้วยมือของตัวเอง” แต่ว่าข้อคิดข้อที่ 4 บอกกลับเราว่า คำพูดเหล่านั้น ไม่เป็นจริงเลย แม้แต่น้อย เพราะอะไร?
กลับไปที่ข้อ 2 หัวใจของการทำธุรกิจคือ “ความน่าเชื่อถือ” เราผู้เป็นผู้ขายต้องมีความรู้ และความเชื่อมั่นในสิ่งที่เราจะขายมากที่สุด เพราะเรารู้ว่าสินค้าที่เราขายมีคุณภาพดี เรามีความเชื่อมั่นในสินค้าของเรา ผู้ซื้อจึงมีความกล้า เชื่อใจ และเชื่อมั่นในการซื้อสินค้ากับเรา
แล้ว 4 ข้อนี้ จะใช้ได้กับ สินค้าอะไรบ้าง?
ขนาดตู้รองเท้ายังขายได้ สินค้าอื่นทำไมจะขายไม่ได้ คำตอบคือ
ที่ใดมีคนที่นั่นมีเงิน ที่ใดมีคนที่นั่นมีความต้องการ
ที่ใดมีความต้องการที่นั่นมีการซื้อขาย
การซื้อขายจะเกิดขึ้นเมื่อร้านค้ามีความน่าเชื่อถือ
ความน่าเชื่อถือเกิดจากผู้ขายต้องหัวใจในการทำธุรกิจที่ดี
การทำธุรกิจที่ดีคือ การเข้าใจสินค้าของตัวเองรวมไปถึงการโฆษณาให้ถูกกลุ่มเป้าหมาย
ถ้ารู้ถึง 4 ข้อนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไร ก็สามารถขายของในโลกออนไลน์ ในช่วงวิกฤติอย่างนี้ได้แน่นอนค่ะ
เพราะ ภายใต้ความมืดมัว หม่นหมอง มักมีแสงสว่างอยู่เสมอ เพียงเรามองหา เราจึงมองเห็นค่ะ
สุดท้ายนี้ ก็ขอให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกันนะคะ หวังว่า กระทู้นี้จะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่ได้เข้ามาอ่านค่ะ (:
แบ่งปัน 4 ข้อคิดสำคัญที่ได้เรียนรู้ เพื่อหารายได้ในช่วง COVID19 ( XXX, XXX/เดือน)
ณ ตอนนี้ เจ้าของกระทู้เชื่อว่า ทุกคนคงกำลังเผชิญปัญหาเดียวกันจากสถานการณ์ COVID ที่ทุกร้านจะต้อง “ ปิดหน้าร้าน ” เพื่อให้ความร่วมมือกับรัฐบาล และเหล่าคุณหมอผู้กล้าหาญ เพื่อเยียวยาสถานการณ์ COVID-19 ของประเทศไทยให้ดีขึ้นในครั้งนี้ เจ้าของกระทู้ก็เป็นผู้ทำการค้าคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการปิดหน้าร้านชั่วคราวครั้งนี้ค่ะ วันนี้จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ในการรับมือต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จนสามารถทำรายได้ 6 หลัก ภายในหนึ่งเดือน และอยากมาแบ่งปัน 4 สิ่งที่ได้เรียนรู้ เพื่อที่ทุกคนจะสามารถเอาไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้ ไม่มากก็น้อยค่ะ
ปัญหา “หน้าร้านปิด ทำอย่างไรดี พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส? ”
คำตอบ : -ณ เวลานี้ เป็นเวลาที่ ธุรกิจควรทำแบบ ONLINE ให้มากที่สุดค่ะ-
สิ่งที่ได้เรียนรู้ ข้อที่ 1
1. “คนอยู่ที่ไหน เงินอยู่ที่นั่น”
ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนใช้เวลาอยู่บ้านมากที่สุด ถูกไหมคะ พออยู่บ้าน เราก็เบื่อ พอเราเบื่อ เราก็เล่นมือถือกันมากขึ้น
เห็น-โอกาส-ในประโยคนี้ไหมคะ? แปลได้อีกอย่างว่า จากการเดินห้างของผู้คน ทุกคนก็เปลี่ยนมาเดินเล่นโดยใช้นิ้วบนโทรศัพท์ที่มากขึ้นมาก และอย่างที่กล่าวไปว่า “ที่ใดมีคน ที่นั่นคือแหล่งทำเงิน” หากหน้าร้านถูกปิด ขอให้ย้ายหน้าร้านของทุกคนมาในมือถือค่ะ ในมือถือ ก็มีรูปแบบ หน้าร้านให้เลือกมากมาย ตามความถนัดของทุกคนเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
IG, FACEBOOK, LAZADA, SHOPEE
ซึ่งรายได้ 6 หลัก ภายใน 1 เดือนที่เจ้าของกระทู้ใช้คือ อินสตราแกรม( INSTAGRAM) ค่ะ
สิ่งที่ควรรู้เล็กน้อยคือ หากต้องการขายสินค้าใน IG จำเป็นต้องสร้างเพจ FACEBOOK ควบคู่กันไปค่ะ ตามกฎการขาย และเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจ นอกจากนั้น ข้อดีของการมีทั้ง FACEBOOK และ IG ยังเชื่อมโยงกับข้อคิดข้องที่สองค่ะ ไปต่อกันเลย
2. “สินค้าจะขายดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่ว่าจะโฆษณาได้ถูกจุดหรือไม่” และ หัวใจของการทำธุรกิจที่ดี
ข้อดีของการผูก IG กับ FACEBOOK เข้าด้วยกัน นอกจากเพิ่มความน่าเชื่อถือแล้ว ยังมีอีกข้อดีที่อยากแนะนำคือ หากเรามีร้านในไอจี เราสามารถทำการ “โฆษณา” ให้สินค้าของเราไป “เตะตา” กับผู้คนที่กำลังมองหาสินค้าของเราได้อย่างถูกจุด ข้อคิดข้อที่ 2 ที่อยากฝากไว้ คือ ‘จับกลุ่มเป้าหมายให้ถูก’ เพราะเมื่อมีคนซื้อ คนขายย่อมได้ไปต่อ และจะทำการโฆษณาได้ ร้านของทุกคนต้องมีเพจ FACEBOOK ค่ะ
ยิ่งไปกว่านั้น การขายของให้ได้ดีคือ การมีความรู้ในสินค้าของตัวเอง ซึ่งคือการมีความเข้าใจว่า สินค้าของเรามีคุณสมบัติอะไร แตกต่างจากของผู้ขายอื่นๆที่ขายสินค้าเดียวกันอย่างไร การบริการของเราดีกว่าอย่างไร ตอบโจทย์ผู้ซื้อได้อย่างไรหรือการตอบคำถามที่ว่า
“ทำไมผู้คนถึงต้องซื้อสินค้าของเราเท่านั้น ไมใช่คนอื่น”
การเข้าใจสินค้าของตัวเองและรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร คือหัวใจในการทำธุรกิจที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการขายของออนไลน์ คือ “ความน่าเชื่อถือค่ะ” ว่า สินค้าจะต้องดีงาม เหมือนดั่งรูปที่ใช้โฆษณา คุณภาพดี ผู้ขายมีความจริงใจ โปร่งใส และที่สำคัญ ผู้ซื้อได้รับสินค้าถึงมืออย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่มีความเสียหาย
อ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนอาจเริ่มสงสัยว่า เจ้าของกระทู้ขายอะไรใน IG
เจ้าของกระทู้ทำ ตู้รองเท้าอลูมิเนียม กันน้ำ กันปลวก 100% ค่ะ หากอยากเข้าไปชมหน้าร้านของเรา สามารถติดตามได้ที่ IG : Shoecabinet.thailand เลยค่ะ (: พึ่งเปิดช่วง COVID ระบาดพอดี จึงยังไม่ค่อยดังมากแต่จะพยายามทำให้ดีที่สุดเลย)
กลับไปเรื่อง หัวใจของการทำธุรกิจ หรือ “ทำไมผู้คนถึงต้องซื้อสินค้าของเราเท่านั้น ไม่ใช่คนอื่น”
อย่างคำตอบของเจ้าของกระทู้ ก็เป็นเพราะว่า ตู้รองเท้าของเจ้าของกระทู้ ทำมากจากอลูมิเนียมแท้คุณภาพดี ที่ทำให้ตู้รองเท้ามีคุณสมบัติ แข็งแรง ทนทาน กันน้ำ กันปลวกได้ 100% (เพราะเราเข้าใจปัญหาของคุณลูกค้าที่ซื้อตู้รองเท้าไปแล้ว โดนปลวกกิน หรือโดนน้ำจากการทำความสะอาดตู้รองเท้าก็ขึ้นสนิม ไม่น่ามอง ทำให้บ้านไม่สวย) ทั้งๆที่แท้จริงแล้ว ตู้รองเท้าคือ เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถยกระดับการจัดบ้านได้เป็นอย่างดี ตู้รองเท้าของเราจึงมาใน CONCEPT “ SHOECABINET.THAILAND –NEW STANDARD OF SHOECABINET"- หรือแปลว่า “มาตรฐานใหม่ของตู้รองเท้าในประเทศไทย”
สิ่งที่สำคัญในตัวอย่างนี้คือ การรู้จักคุณสมบัติของสินค้าที่ขายเป็นอย่างดี เข้าใจว่าทำไมสินค้าของเราถึงเป็นที่ต้องการของตลาด รวมถึงเข้าใจ Pain point หรือความเจ็บปวดของผู้บริโภคที่เราอยากเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาคืออะไร
3. ข้อคิด ข้อที่3 ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคือ ธุรกิจที่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค-
ความรวดเร็ว ความน่าเชื่อถือ การบริการหลังการขาย
ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการขายของออนไลน์
การมีความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะ การที่เราได้ใส่ความตั้งใจลงไปในงานที่เราทำ ผู้คนจะสามารถรับรู้ได้ถึงความตั้งใจผ่านความสวยงามและความพิถีพิถันนั้น
3.1 เริ่มตั้งแต่การลงรูปให้สวยงาม เปรียบได้กับการจัดหน้าร้านให้สวย ทันสมัย น่าดึงดูด (ถ้าเป็นสินค้าก็ต้องน่าใช้ ถ้าเป็นอาหารก็ต้องน่ากิน)
3.2 การมีแคปชั่น หรือข้อความที่โดนใจ มีประโยชน์ เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ลง มีรายละเอียดของสินค้าบอกพร้อม
ที่สำคัญที่สุดคือ ลูกค้าออนไลน์ชอบ
3.3 “ความรวดเร็วทันใจ” เพราะฉะนั้นการมีคนดูแลลูกค้าที่สามารถตอบคำถามได้อย่างละเอียดและเข้าใจ จึงเป็นการให้บริการลูกค้าที่ดีที่สุด
นอกจากนั้น
3.4 การบริการหลังการขาย คือ เมื่อคุณปิดการขายได้แล้ว สิ่งที่ต้องให้ความใส่ใจคือ ติดตามว่า สินค้าของเราไปถึงมือผู้ซื้อ อย่างดี 100% หรือไม่
หากคำนึงถึง 4 ข้อย่อยนี้ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วค่ะ
4. ยอมรับความเปลี่ยนแปลง – ว่า โลกหมุนไปสู่ “สังคมออนไลน์”
ข้อคิดข้อที่ 4 อยากให้เปิดใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น และเริ่มเปลี่ยนแปลง เพื่อปรับธุรกิจของเราให้เข้ากับสภาพสังคมและสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน สิ่งสำคัญคือ อย่าไปคิดว่าสินค้าของเราจะขายไม่ได้ ด้วยเหตุผลต่างๆนานา เพราะหากเราคิดว่า “มันเป็นไปไม่ได้หรอก” สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราจะไม่ได้ลงมือทำ ทั้งๆที่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ หากเราคิดว่า
“มันเป็นไปได้ มันจะเป็นไปได้”
อย่างเจ้าของกระทู้ขาย ตู้รองเท้าอลูมิเนียม ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ที่เมื่อพูดถึงคนทั่วไปอาจคิดว่า “ตู้รองเท้าหรอ ฮึ สินค้าใหญ่แบบนี้ ขายไม่ได้หรอกในโลกออนไลน์ เพราะลูกค้า อยากไปเห็นกับตา อยากไปจับด้วยมือของตัวเอง” แต่ว่าข้อคิดข้อที่ 4 บอกกลับเราว่า คำพูดเหล่านั้น ไม่เป็นจริงเลย แม้แต่น้อย เพราะอะไร?
กลับไปที่ข้อ 2 หัวใจของการทำธุรกิจคือ “ความน่าเชื่อถือ” เราผู้เป็นผู้ขายต้องมีความรู้ และความเชื่อมั่นในสิ่งที่เราจะขายมากที่สุด เพราะเรารู้ว่าสินค้าที่เราขายมีคุณภาพดี เรามีความเชื่อมั่นในสินค้าของเรา ผู้ซื้อจึงมีความกล้า เชื่อใจ และเชื่อมั่นในการซื้อสินค้ากับเรา
แล้ว 4 ข้อนี้ จะใช้ได้กับ สินค้าอะไรบ้าง?
ขนาดตู้รองเท้ายังขายได้ สินค้าอื่นทำไมจะขายไม่ได้ คำตอบคือ
ที่ใดมีความต้องการที่นั่นมีการซื้อขาย
การซื้อขายจะเกิดขึ้นเมื่อร้านค้ามีความน่าเชื่อถือ
ความน่าเชื่อถือเกิดจากผู้ขายต้องหัวใจในการทำธุรกิจที่ดี
การทำธุรกิจที่ดีคือ การเข้าใจสินค้าของตัวเองรวมไปถึงการโฆษณาให้ถูกกลุ่มเป้าหมาย