ว่ากันว่า...บางทีนะ การที่คนสองคนจะมารักกันมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การรักษาความรักไว้ให้ยั่งยืนต่อเนื่องต่างหาก เป็นเรื่องลำบากยากกว่า...ใครบางคนเคยกล่าวไว้เช่นนั้น ส่วนใครบางคนที่ว่า จะเป็นใครก็ช่าง ไม่สำคัญ
ผมเองฟังแล้วก็อยากจะเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง เพราะเคยเห็นบางคู่ใช้เวลารักกันรวดเร็วยิ่งกว่ากามนิตหนุ่มร้อยเท่า และก็เลิกร้างกันด้วยความรวดเร็วยิ่งกว่าการกะพริบตา หรือความเร็วแสง
แต่เรื่องพวกนั้น เข้ากันไม่ได้เลย กับความรักของผม และมัลลิกา แฟนสาวผู้งดงามแสนดี ความรักที่เจริญงอกงามก่อร่างสร้างสมขึ้นมา จากความเข้าใจและเหตุผล ใช้เวลาเพาะบ่มจนได้เวลาเหมาะสม กับการถักทอสายใยกลายเป็นตาข่ายรัก ครอบคลุมประสานหัวใจสองเราเข้าด้วยกัน
แน่นอนว่าพวกเราไม่เคยทะเลาะกัน เหมือนคู่รักดาษดื่น คำว่าลิ้นกับฟันย่อมกระทบกันได้ กลายเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับเรา รักกันทำไมต้องหาเรื่องทะเลาะกัน เป็นอะไรที่ไม่เข้าใจเอาเสียเลย สามปีหลังการแต่งงานมีแต่ความหวานชื่นรื่นรมย์สมใจ
ฟังดูดีใช่ไหม แต่แล้วหายนะก็มาเยือน เมื่อถึงเวลาและโอกาสเหมาะสมของมัน
ผมรับรู้เรื่องเลวร้ายที่โต๊ะอาหารเช้า พวกเรายังไม่ได้แตะต้องอาหาร มัลลิกามีสีหน้ากังวลเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด ทำให้รู้สึกใจหายอย่างประหลาด
“ฉันเป็นเนื้องอกในสมอง” เธอบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ตามด้วยน้ำตาร่วงพรู โลกของผมสะท้านสะเทือนในทันใด เพราะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน "แต่หมอบอกว่า การผ่าตัดจะช่วยได้ค่ะ”
ฟังดูยังพอจัดได้ว่าเป็นข่าวดีบ้าง อย่างน้อยก็มีโอกาสรักษาหาย แต่อะไรล่ะ...ที่ทำให้เธอวิตกโศกเศร้าขนาดนั้น ผมกลั้นลมหายใจ ฟังคำพูดของเธอต่อไป
“คุณจะคิดยังไงคะ ถ้าเราต้องจากกันตลอดไป”
คำถามของเธอทำเอาผมสะดุ้ง จ้องมองเธออย่างไม่เข้าใจ มีอะไรซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังอาการเจ็บป่วยของเธอกันแน่ เป็นไปได้ไหมว่า เธอกำลังคิดจะผละออกไปจากผม ไปหาชายอื่นที่ดีกว่า ไม่.. เธอไม่ใช่คนแบบนั้น!
“ที่รัก คุณพยายามจะบอกอะไรกันแน่” ผมอดรนทนไม่ได้ จนต้องถามออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน แววตาของมัลลิกาเปลี่ยนเป็นความวุ่นวายสับสนจนดูน่าตกใจ แต่คำพูดของเธอ ชวนให้ตกใจมากกว่า
“ถ้าคุณยังอยู่ ฉันจะตาย ที่รัก ถ้าเป็นคุณ จะตัดสินใจยังไงคะ”
ถ้าคุณยังอยู่ ฉันจะตาย
ถ้าคุณยังอยู่ ฉันจะตาย
ถ้าคุณยังอยู่ ฉันจะตาย
.....
เธอเข้ารับการรักษาตัว
ผมนั่งรอฟังข่าวของเธออย่างเงียบงันหน้าห้องผ่าตัด ที่จริงจะเข้าไปดูอาการของเธอก็ได้ แต่ผมเลือกอยู่กับตัวเองมากกว่า มองพวกหมอ พยาบาล ผู้คนผ่านไปมาราวภาพฝัน อะไรกันทำให้พวกเขามีชีวิตอย่างที่เห็น ทุกข์สุขของแต่ละคนใครเป็นคนกำหนด อะไรคือความจริง อะไรคือความฝัน ผมสร้างบาปกรรมอะไรเอาไว้เมื่อไรจึงมารับสภาพเช่นนี้
ผมเลือกที่จะเป็นฝ่ายไป เพื่อให้เธออยู่รอด จะมีประโยชน์อะไรกัน ถ้าฝืนอยู่ด้วยกันต่อไปแล้วเธอจะตาย ความรักไม่ใช่การเสียสละ แต่เป็นการเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ให้กับคนรักต่างหาก
อยู่ต่อไปนะที่รัก ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างผู้หญิงทั่วไป มีความสุขอย่างผู้หญิงทั่วไปควรจะเป็น เวลาจะทำให้คุณลืมความรักของสองเราไปได้ เวลาอาจไม่ใช่ยารักษาใจที่วิเศษสุด แต่มันจะช่วยผ่อนปรนบรรเทาความรวดร้าวให้เบาบางลงไป ในวันข้างหน้า
ในที่สุด ผมก็เริ่มเข้าใจชีวิต ความจริงหรือความลวง ก็ไม่ต่างกัน ไม่จำเป็นต้องไปยึดติดมากมาย เรื่องราวของผมไม่เคยเป็นจริง แม้ว่ามันจะดูจริงเพียงใดก็ตาม ผมบอกลาเธอ ในขณะมองดูร่างกายของตัวเอง กำลังเลือนหายไปทีละน้อย พร้อมกับความรู้สึกและความทรงจำในท้ายที่สุด
การผ่าตัดสิ้นสุดลง
ฉันหายเป็นปกติ
การผ่าตัดเป็นไปด้วยดี อาการของภาพหลอนจากผลของสมองได้รับการกระทบกระเทือนหายไป ฉันจำได้เพียงราง ๆ เกี่ยวกับผู้ชายที่แสนดีคนหนึ่ง แต่เขาไม่ได้มีตัวตน เขาเป็นเพียงอาการข้างเคียงจากการเจ็บป่วยเท่านั้น ฉันจำอะไรไม่ค่อยได้ การที่จำไม่ค่อยได้ หมายถึงไม่สำคัญ ฉันไม่ได้มีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก เพราะวันหยุดนี้ ฉันกำลังจะออกจากบ้าน ไปทานข้าวกับหนุ่มรูปหล่อและร่ำรวยคนหนึ่ง ฉันคิดว่าพวกเรากำลังไปกันด้วยดีเชียวละ
โอกาสดีงาม จะทิ้งไปง่ายดาย ก็เกินไปละ นั่นไง.. เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาโทรมาตามแล้ว
รถคันหรูคงมาจอดรอหน้าบ้าน ฉันยิ้มขณะส่องดูหน้าตัวเองในกระจก แต่งหน้าตาเพิ่มเล็กน้อยให้เข้าที่เข้าทาง สร้างเสริมความงดงามดูดี ก่อนฉวยกระเป๋าถือ ออกจากบ้านไปด้วยความเบิกบานสำราญใจ
The End.
โรครัก โรคร้าย โรคลวง
ว่ากันว่า...บางทีนะ การที่คนสองคนจะมารักกันมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การรักษาความรักไว้ให้ยั่งยืนต่อเนื่องต่างหาก เป็นเรื่องลำบากยากกว่า...ใครบางคนเคยกล่าวไว้เช่นนั้น ส่วนใครบางคนที่ว่า จะเป็นใครก็ช่าง ไม่สำคัญ
ผมเองฟังแล้วก็อยากจะเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง เพราะเคยเห็นบางคู่ใช้เวลารักกันรวดเร็วยิ่งกว่ากามนิตหนุ่มร้อยเท่า และก็เลิกร้างกันด้วยความรวดเร็วยิ่งกว่าการกะพริบตา หรือความเร็วแสง
แต่เรื่องพวกนั้น เข้ากันไม่ได้เลย กับความรักของผม และมัลลิกา แฟนสาวผู้งดงามแสนดี ความรักที่เจริญงอกงามก่อร่างสร้างสมขึ้นมา จากความเข้าใจและเหตุผล ใช้เวลาเพาะบ่มจนได้เวลาเหมาะสม กับการถักทอสายใยกลายเป็นตาข่ายรัก ครอบคลุมประสานหัวใจสองเราเข้าด้วยกัน
แน่นอนว่าพวกเราไม่เคยทะเลาะกัน เหมือนคู่รักดาษดื่น คำว่าลิ้นกับฟันย่อมกระทบกันได้ กลายเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับเรา รักกันทำไมต้องหาเรื่องทะเลาะกัน เป็นอะไรที่ไม่เข้าใจเอาเสียเลย สามปีหลังการแต่งงานมีแต่ความหวานชื่นรื่นรมย์สมใจ
ฟังดูดีใช่ไหม แต่แล้วหายนะก็มาเยือน เมื่อถึงเวลาและโอกาสเหมาะสมของมัน
ผมรับรู้เรื่องเลวร้ายที่โต๊ะอาหารเช้า พวกเรายังไม่ได้แตะต้องอาหาร มัลลิกามีสีหน้ากังวลเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด ทำให้รู้สึกใจหายอย่างประหลาด
“ฉันเป็นเนื้องอกในสมอง” เธอบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ตามด้วยน้ำตาร่วงพรู โลกของผมสะท้านสะเทือนในทันใด เพราะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน "แต่หมอบอกว่า การผ่าตัดจะช่วยได้ค่ะ”
ฟังดูยังพอจัดได้ว่าเป็นข่าวดีบ้าง อย่างน้อยก็มีโอกาสรักษาหาย แต่อะไรล่ะ...ที่ทำให้เธอวิตกโศกเศร้าขนาดนั้น ผมกลั้นลมหายใจ ฟังคำพูดของเธอต่อไป
“คุณจะคิดยังไงคะ ถ้าเราต้องจากกันตลอดไป”
คำถามของเธอทำเอาผมสะดุ้ง จ้องมองเธออย่างไม่เข้าใจ มีอะไรซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังอาการเจ็บป่วยของเธอกันแน่ เป็นไปได้ไหมว่า เธอกำลังคิดจะผละออกไปจากผม ไปหาชายอื่นที่ดีกว่า ไม่.. เธอไม่ใช่คนแบบนั้น!
“ที่รัก คุณพยายามจะบอกอะไรกันแน่” ผมอดรนทนไม่ได้ จนต้องถามออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน แววตาของมัลลิกาเปลี่ยนเป็นความวุ่นวายสับสนจนดูน่าตกใจ แต่คำพูดของเธอ ชวนให้ตกใจมากกว่า
“ถ้าคุณยังอยู่ ฉันจะตาย ที่รัก ถ้าเป็นคุณ จะตัดสินใจยังไงคะ”
ถ้าคุณยังอยู่ ฉันจะตาย
ถ้าคุณยังอยู่ ฉันจะตาย
ถ้าคุณยังอยู่ ฉันจะตาย
.....
เธอเข้ารับการรักษาตัว
ผมนั่งรอฟังข่าวของเธออย่างเงียบงันหน้าห้องผ่าตัด ที่จริงจะเข้าไปดูอาการของเธอก็ได้ แต่ผมเลือกอยู่กับตัวเองมากกว่า มองพวกหมอ พยาบาล ผู้คนผ่านไปมาราวภาพฝัน อะไรกันทำให้พวกเขามีชีวิตอย่างที่เห็น ทุกข์สุขของแต่ละคนใครเป็นคนกำหนด อะไรคือความจริง อะไรคือความฝัน ผมสร้างบาปกรรมอะไรเอาไว้เมื่อไรจึงมารับสภาพเช่นนี้
ผมเลือกที่จะเป็นฝ่ายไป เพื่อให้เธออยู่รอด จะมีประโยชน์อะไรกัน ถ้าฝืนอยู่ด้วยกันต่อไปแล้วเธอจะตาย ความรักไม่ใช่การเสียสละ แต่เป็นการเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ให้กับคนรักต่างหาก
อยู่ต่อไปนะที่รัก ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างผู้หญิงทั่วไป มีความสุขอย่างผู้หญิงทั่วไปควรจะเป็น เวลาจะทำให้คุณลืมความรักของสองเราไปได้ เวลาอาจไม่ใช่ยารักษาใจที่วิเศษสุด แต่มันจะช่วยผ่อนปรนบรรเทาความรวดร้าวให้เบาบางลงไป ในวันข้างหน้า
ในที่สุด ผมก็เริ่มเข้าใจชีวิต ความจริงหรือความลวง ก็ไม่ต่างกัน ไม่จำเป็นต้องไปยึดติดมากมาย เรื่องราวของผมไม่เคยเป็นจริง แม้ว่ามันจะดูจริงเพียงใดก็ตาม ผมบอกลาเธอ ในขณะมองดูร่างกายของตัวเอง กำลังเลือนหายไปทีละน้อย พร้อมกับความรู้สึกและความทรงจำในท้ายที่สุด
การผ่าตัดสิ้นสุดลง
ฉันหายเป็นปกติ
การผ่าตัดเป็นไปด้วยดี อาการของภาพหลอนจากผลของสมองได้รับการกระทบกระเทือนหายไป ฉันจำได้เพียงราง ๆ เกี่ยวกับผู้ชายที่แสนดีคนหนึ่ง แต่เขาไม่ได้มีตัวตน เขาเป็นเพียงอาการข้างเคียงจากการเจ็บป่วยเท่านั้น ฉันจำอะไรไม่ค่อยได้ การที่จำไม่ค่อยได้ หมายถึงไม่สำคัญ ฉันไม่ได้มีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก เพราะวันหยุดนี้ ฉันกำลังจะออกจากบ้าน ไปทานข้าวกับหนุ่มรูปหล่อและร่ำรวยคนหนึ่ง ฉันคิดว่าพวกเรากำลังไปกันด้วยดีเชียวละ
โอกาสดีงาม จะทิ้งไปง่ายดาย ก็เกินไปละ นั่นไง.. เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาโทรมาตามแล้ว
รถคันหรูคงมาจอดรอหน้าบ้าน ฉันยิ้มขณะส่องดูหน้าตัวเองในกระจก แต่งหน้าตาเพิ่มเล็กน้อยให้เข้าที่เข้าทาง สร้างเสริมความงดงามดูดี ก่อนฉวยกระเป๋าถือ ออกจากบ้านไปด้วยความเบิกบานสำราญใจ
The End.