"ผอ.กอล์ฟ พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่าดีจริงกับเลวจริง มารวมอยู่ในตัวคนๆเดียวได้สบายๆ" มันน่ากลัวมากเลยใช่มั๊ยคะ

อีกหลายๆคนในสังคมเรา 
คนที่เดินผ่านเราไปมา
คนที่ยิ้มให้เรา
คนที่เรารู้จัก
คนที่เราเชื่อว่าเขาเป็นคนดี
พอถึงจุดๆหนึ่งที่ความกดดันมันทะลุปรอท

ภูมิคุ้มใจบกพร่อง

เขาก็ทำความเลวอย่างชนิดที่ให้อภัยไม่ได้เลย
มันเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือจะคาดเดาได้ใช่มั๊ยล่ะคะ
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

"สิ่งที่ถือเป็นตัวตนของคนคนหนึ่ง
คือสิ่งที่เขาทำเป็นประจำเสมอต้นเสมอปลาย
เป็นนิสัยติดตัวจริงๆ
ซึ่งในทางธรรมเรียกว่าเป็น ‘อาจิณณกรรม’
คือ ตั้งใจและเต็มใจทำจริงๆ
ไม่ได้แกล้งสร้างภาพชั่วคราว
หรือตัดสินใจทำด้วยอารมณ์ชั่วแล่น

อาจิณณกรรมของ ผอ.กอล์ฟ
คือ การเป็นครูสอนเด็ก 
ซึ่งทุกคนที่อยู่ใกล้ตัวเขา ต่างพูดตรงกันว่า
เป็นคนที่มีเมตตาต่อเด็กมานาน
(หลายคนยังไม่ทราบว่า
วิถีกระสุนกระดอนขึ้นไปโดนเด็กตาย
ไม่ใช่เขาตั้งใจยิงเด็กให้ตาย)

ในสายตาคนทั่วไปที่เพิ่งรู้จัก ผอ.กอล์ฟ จากข่าว
บาปหนักในการจงใจฆ่าคนขายทอง
ตลอดจนคนขวางการรวยทางลัดของเขา
ลบล้างคุณงามความดีที่สั่งสมมาทั้งหมด

แต่ในสายตาของธรรมชาติกรรมและวิบาก
สิ่งที่เป็นสมบัติติดตัวของเขายังไม่ได้หายไปไหน
ภพแห่งความเป็นครูที่สร้างสมมานาน
ยังคงใหญ่กว่าภพแห่งความเป็นโจรที่เพิ่งริทำครั้งแรก

(สันนิษฐานว่าน่าจะทำครั้งแรก
เพราะก่อนก่อเหตุไม่กี่วัน
เขายังพยายามขายนกราคาแพงให้เพื่อนบ้าน 
ซึ่งเป็นวิถีสุจริตชน แต่ไม่สำเร็จ จึงค่อยตัดสินใจลงมือ)

ที่น่าสนใจตั้งโจทย์ 
ตั้งคำถามส่องเป็นบทเรียนสังคม
คือ นอกจากการเป็นครูและหัวหน้าครูแล้ว
เขายังเต็มใจทำอะไร
ในแบบที่เป็นตัวตนจริงๆของเขาอีก?
ด้านดีที่คนใกล้ตัวรู้ 
ได้แก่ ความกตัญญู
ซึ่งทางพุทธถือว่า
เป็นเครื่องหมายของคนดี
มีจิตสำนึกชั้นสูง
ผอ.กอล์ฟดูแลญาติผู้ใหญ่ที่ป่วยติดเตียงตลอด
อ่อนน้อมเคารพต่อผู้อาวุโส ไปลามาไหว้
แม่ยายรับประกันว่าดีจนนาทีสุดท้าย
ค่ำคืนก่อนวันถูกจับยังแกะปูให้ตนกินอยู่เลย

ด้านร้ายที่ออกสื่อชัด 
ได้แก่ การโป้ปดมดเท็จ
โกหกทั้งรู้ โกหกหน้าตาย 
โกหกได้เก่งกาจคล่องแคล่ว
ซึ่งทางพุทธถือว่า
เป็นเหตุให้ความละอายต่อบาปหายไป
จิตด้านชาต่อความชั่ว
จนทำความชั่วใดๆอีกก็ได้ทุกชนิด
หลักฐานการโกหกเก่งก็เช่น
เปิดฉากมาตอนโดนจับได้
ผอ.กอล์ฟ โกหกว่าทิ้งทองที่ปล้นมาลงน้ำไปแล้ว
ทั้งที่ซ่อนอยู่ใต้หลังคาโรงรถ

โกหกออกสื่อว่าอยากโดนวิสามัญ
ทั้งที่เตรียมแผนหลบหนีไว้อย่างดี

แถมตอนข่าวปล้นฆ่าออกทีวี
ก็ยังนั่งสาปแช่งคนร้ายให้แม่ยายได้ยิน

เมื่อแม่ยายแกล้งแซวว่าเขาเป็นคนร้ายหรือเปล่า
เดินขากะเผลกเหมือนคนร้ายเลย
ก็ยังมีหน้าตอบเป็นปกติด้วยว่า
“ใครจะเอาอนาคตไปแลกล่ะแม่”

นอกจากนั้น ยังใช้สื่อโซเชียลแสดงชีวิตเป็นปกติสุข
ร่วมงานกีฬาโรงเรียนด้วยความสนุกสนาน
คุมวิถีชีวิตให้ดูไม่มีพิรุธ ยังดูบริสุทธิ์เต็มร้อย
แต่พอถูกจับกลับบอกว่า กำลังจะมอบตัวอยู่พอดี
ทั้งที่ไม่มีอาการมือสั่นสำนึกผิดแต่อย่างใด

เมื่อเส้นทางกรรมที่เดินอยู่จริง
มีทั้งความกตัญญู 
และทั้งการโป้ปดหลอกลวง 
ก็แปลว่า จะให้ดีแค่ไหนก็ได้ 
แล้วก็อาจเลวแค่ไหนไม่จำกัดด้วย

ซึ่ง ผอ.กอล์ฟ พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่า
ดีจริงกับเลวจริง
มารวมอยู่ในตัวคนคนเดียวได้สบายๆ

ไม่ใช่เรื่องเหลือเชื่อหรือเป็นไปไม่ได้แต่อย่างใด

เราเห็นอยู่แล้วว่าคนระดับปกครอง
หลายรายที่ชีวิตปกติมีจิตใจดี
รักเด็ก กตัญญูรู้คุณผู้หลักผู้ใหญ่
แต่ก็สามารถสวมหัวโขน
สวมบทโจรเจ้าเล่ห์
หลอกลวงชาวบ้านร้านถิ่นได้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
สั่งฆ่าคนขวางทางได้ไม่เลือกด้วย

ชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง
ถ้าเลือกทำเรื่องร้ายยามเข้าตาจน
จนเป็นเหตุให้ชีวิตดีๆพินาศอับปางนั้น
ก็มักจะเป็นเพราะเกิดโมหะหนาแน่นครอบงำจิต
ราวกับมีปีศาจบงการ
กระซิบสั่งซ้ำๆให้ทำเถอะ ทำเถอะ

อย่างกรณี ผอ.กอล์ฟ
ใช้ชีวิตเกินตัว จมไม่ลง
รายได้ไม่มาก แต่ต้องรักษาไลฟ์สไตล์ให้ดูดีมีระดับ
กระทั่งพอกพูนโมหะที่น่ากลัวหนาแน่นขึ้น
ถึงจุดที่หลงเชื่อเสียงกระซิบของปีศาจในตนได้

สำรวจดูเราๆท่านๆเถอะ
ถ้าใครเข้าข่ายมีทั้งความกตัญญูรู้คุณ 
แล้วก็มีทั้งความชอบโกหก
ให้เร่งรู้ตัวไว้เลยว่า
มีสิทธิ์เป็นแบบ ผอ.กอล์ฟ
คือ จะดีที่สุดก็ได้ จะเลวที่สุดก็ไหว

ต่อเมื่อมีสติสำรวจข้อดีข้อเสียของตัวเองอยู่
ไม่ปล่อยให้ความเลวกำเริบ
ไม่ปล่อยให้ความดีโรยรา
ความวิบัติจึงค่อยไม่ได้ช่องลง

สุดท้ายนี้ ผมขอชื่นชมการทำงานของตำรวจไทย
เพราะถ้ามีกรณีเช่นนี้แล้วจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
ก็จะเกิดกรณีเช่นเดียวกันอีก ด้วยความย่ามใจไม่จำกัด

คนที่สังคมเห็นว่าดีแสนดีนั้น
เมื่อตัดสินใจทำเรื่องเลวๆแล้ว
เขาไม่รู้ตัวหรอกว่าเป็นเยี่ยงอย่างบันดาลใจ
ให้คนจำนวนเท่าไรคิดเอาตาม!"

ที่มา
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2803766949680445&id=169990773058089
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่