รมว.ซาบีดา แถลงข่าวการจัดงานประเพณีลอยกระทง พุทธศักราช ๒๕๖๘ “ลอยกระทง ไท ไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่งชุดไทยไปลอยกระทง” มุ่งเน้นแนวทางการจัดงานครอบคลุม ๔ มิติ (มิติด้านวัฒนธรรม มิติด้านสังคม มิติด้านเศรษฐกิจ และมิติด้านสิ่งแวดล้อม) รณรงค์แต่งกายชุดไทยพระราชนิยม สำหรับสตรี ๘ แบบ และบุรุษ ๓ แบบ ไปร่วมงานประเพณีลอยกระทง เพื่อเตรียมผลักดัน “ชุดไทยพระราชนิยม” และ “ลอยกระทง” สู่มรดกวัฒนธรรมของมนุษยชาติต่อไป
วันพุธที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๔.๐๐ น. นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานประเพณีลอยกระทง พุทธศักราช ๒๕๖๘ ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมีนายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม พร้อมผู้ร่วมแถลงข่าว จาก ๕ จังหวัดอัตลักษณ์ ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม วัฒนธรรมจังหวัดตากวัฒนธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด และประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และมีผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ผู้แทนหน่วยงานบูรณาการฯ ผู้แทนหน่วยงานเจ้าภาพร่วมจัดงาน เครือข่ายทางวัฒนธรรม สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงาน
นางสาวซาบีดา กล่าวว่า ประเพณีลอยกระทงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า สะท้อนภูมิปัญญาและวิถีชีวิตไทยที่ผูกพันกับสายน้ำ เป็นการแสดงความกตัญญูต่อพระแม่คงคาและเตือนใจให้ตระหนักถึงคุณค่าน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิต ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้บูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายกว่า ๓๓ หน่วยงาน ภายใต้แนวคิด “ลอยกระทง ไท ไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่งชุดไทยไปลอยกระทง” ครอบคลุม ๔ มิติ ได้แก่ มิติด้านวัฒนธรรม มิติด้านสังคม มิติด้านเศรษฐกิจ และมิติด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเน้นการสืบสานประเพณีดั้งเดิมของท้องถิ่นผสานกับแนวคิดวัฒนธรรมเพื่อความยั่งยืน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “ลอยกระทง ไท ไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่งชุดไทยไปลอยกระทง” ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “สืบสาน สร้างสรรค์ นำวัฒนธรรม สู่อนาคตอย่างยั่งยืน” และมีนโยบายเรือธงประการหนึ่งคือ “ไท ไทย” เพิ่มคุณค่าและโอกาสระดับชุมชน เพื่อเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมใหม่ ๆ ในชุมชน เฟ้นหาคุณค่าความเป็นไทย ทำให้พื้นที่ทางวัฒนธรรมทันสมัยและเข้าถึงง่าย และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย
นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ กล่าวต่อว่า ในปีนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม มีกำหนดจัดงานประเพณีลอยกระทง พ.ศ. ๒๕๖๘ ในวันอังคารที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร โดยร่วมมือกับวัดอรุณฯ กองทัพเรือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดยภายในงานจะมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การแสดงทางวัฒนธรรม การจัดแสดงนวัตกรรมใหม่ลอยกระทงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลอยกระทงด้วยระบบเทคโนโลยี Interactive การจัดแสดงองค์ความรู้คุณค่าสาระของประเพณีลอยกระทง การแสดงดนตรีลูกทุ่งจากศิลปินที่มีชื่อเสียง การสาธิตอาหารไทยและขนมไทย ๑ จังหวัด ๑ เมนูเชิดชูอาหารถิ่น อีกทั้งยังส่งเสริมการจัดงาน “ลอยกระทง ไท ไทย” ใน ๕ จังหวัดอัตลักษณ์ ๑๘ จังหวัดวิถีถิ่น และพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อเปิดพื้นที่ให้ชุมชนได้แสดงออกทางวัฒนธรรม สืบสานประเพณีลอยกระทงให้ร่วมสมัย และเตรียมจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอประเพณีลอยกระทงในประเทศไทยเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรม ที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโกต่อไป
สุดท้ายนี้ นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ กล่าวเชิญชวนพี่น้องชาวไทยและชาวต่างชาติแต่งกายด้วยชุดไทยพระราชนิยมในการเข้าร่วมกิจกรรมประเพณีลอยกระทงในปีนี้ เพื่อร่วมกันสืบสานประเพณีอันงดงามของชาติไทยให้คงอยู่สืบไป พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน
แถลงข่าวการจัดงานประเพณีลอยกระทง พุทธศักราช ๒๕๖๘ “ลอยกระทง ไท ไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่งชุดไทยไปลอยกระทง”
วันพุธที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๔.๐๐ น. นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานประเพณีลอยกระทง พุทธศักราช ๒๕๖๘ ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมีนายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม พร้อมผู้ร่วมแถลงข่าว จาก ๕ จังหวัดอัตลักษณ์ ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม วัฒนธรรมจังหวัดตากวัฒนธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด และประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และมีผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ผู้แทนหน่วยงานบูรณาการฯ ผู้แทนหน่วยงานเจ้าภาพร่วมจัดงาน เครือข่ายทางวัฒนธรรม สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงาน
นางสาวซาบีดา กล่าวว่า ประเพณีลอยกระทงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า สะท้อนภูมิปัญญาและวิถีชีวิตไทยที่ผูกพันกับสายน้ำ เป็นการแสดงความกตัญญูต่อพระแม่คงคาและเตือนใจให้ตระหนักถึงคุณค่าน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิต ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้บูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายกว่า ๓๓ หน่วยงาน ภายใต้แนวคิด “ลอยกระทง ไท ไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่งชุดไทยไปลอยกระทง” ครอบคลุม ๔ มิติ ได้แก่ มิติด้านวัฒนธรรม มิติด้านสังคม มิติด้านเศรษฐกิจ และมิติด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเน้นการสืบสานประเพณีดั้งเดิมของท้องถิ่นผสานกับแนวคิดวัฒนธรรมเพื่อความยั่งยืน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “ลอยกระทง ไท ไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่งชุดไทยไปลอยกระทง” ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “สืบสาน สร้างสรรค์ นำวัฒนธรรม สู่อนาคตอย่างยั่งยืน” และมีนโยบายเรือธงประการหนึ่งคือ “ไท ไทย” เพิ่มคุณค่าและโอกาสระดับชุมชน เพื่อเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมใหม่ ๆ ในชุมชน เฟ้นหาคุณค่าความเป็นไทย ทำให้พื้นที่ทางวัฒนธรรมทันสมัยและเข้าถึงง่าย และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย
นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ กล่าวต่อว่า ในปีนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม มีกำหนดจัดงานประเพณีลอยกระทง พ.ศ. ๒๕๖๘ ในวันอังคารที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร โดยร่วมมือกับวัดอรุณฯ กองทัพเรือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดยภายในงานจะมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การแสดงทางวัฒนธรรม การจัดแสดงนวัตกรรมใหม่ลอยกระทงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลอยกระทงด้วยระบบเทคโนโลยี Interactive การจัดแสดงองค์ความรู้คุณค่าสาระของประเพณีลอยกระทง การแสดงดนตรีลูกทุ่งจากศิลปินที่มีชื่อเสียง การสาธิตอาหารไทยและขนมไทย ๑ จังหวัด ๑ เมนูเชิดชูอาหารถิ่น อีกทั้งยังส่งเสริมการจัดงาน “ลอยกระทง ไท ไทย” ใน ๕ จังหวัดอัตลักษณ์ ๑๘ จังหวัดวิถีถิ่น และพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อเปิดพื้นที่ให้ชุมชนได้แสดงออกทางวัฒนธรรม สืบสานประเพณีลอยกระทงให้ร่วมสมัย และเตรียมจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอประเพณีลอยกระทงในประเทศไทยเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรม ที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโกต่อไป
สุดท้ายนี้ นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ กล่าวเชิญชวนพี่น้องชาวไทยและชาวต่างชาติแต่งกายด้วยชุดไทยพระราชนิยมในการเข้าร่วมกิจกรรมประเพณีลอยกระทงในปีนี้ เพื่อร่วมกันสืบสานประเพณีอันงดงามของชาติไทยให้คงอยู่สืบไป พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน