:-ไม่ได้เป็นสมณะ.
ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์พวกใด ไม่รู้จักชรา มรณะ, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งชรา มรณะ, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งชรา มรณะ, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งชรา มรณะ ;
ไม่รู้จักชาติ, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งชาติ, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งชาติ, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งชาติ ;
(เกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นธรรมดานั้นละ เอง! ) 👻
.
ไม่รู้จักภพ, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งภพ, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งภพ, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งภพ ;
ไม่รู้จักอุปาทาน, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งอุปาทาน, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งอุปาทาน, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งอุปาทาน ;
ไม่รู้จักตัณหา, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งตัณหา, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งตัณหา, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งตัณหา ;
ไม่รู้จักเวทนา, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งเวทนา, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งเวทนา, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งเวทนา ;
ไม่รู้จักผัสสะ, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งผัสสะ, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งผัสสะ, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งผัสสะ ;
ไม่รู้จักอายตนะหก, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งอายตนะหก, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งอายตนะหก, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งอายตนะหก ;
ไม่รู้จักนามรูป, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งนามรูป, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งนามรูป, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งนามรูป ;
ไม่รู้จักวิญญาณ, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งวิญญาณ, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งวิญญาณ, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งวิญญาณ ;
ไม่รู้จักสังขาร, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งสังขาร, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งสังขาร, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งสังขาร ;
ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์พวกนั้น ทั้งที่ถูกสมมติว่าเป็นสมณะในบรรดาสมณะทั้งหลายก็ตาม,
ทั้งที่ถูกสมมติว่าเป็นพราหมณ์ในบรรดาพราหมณ์ทั้งหลายก็ตาม, ก็หาเป็นสมณะหรือพราหมณ์ไปได้ไม่,
หาได้ทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์แห่งความเป็นสมณะ หรือประโยชน์แห่งความเป็นพราหมณ์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง. ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่ไม่
(เช่น ประโยคเดียวว่า “สังขารเกิดมาจากตัณหา
อันเกิดขึ้นแก่บุคคนผู้ถูกต้องด้วยเวทนาอันเกิดจากอวิชชาสัมผัส” แล. เป็นต้น)
๑. บาลี พระพุทธภาษิต. มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๕๗/๘๔๘,
.
เหมือนดังว่า “ก.ู เป็นแกะ !” ๆ 🐏
แพะที่เดินตามฝูงแกะไปข้างหลัง ๆ แม้จะร้องอยู่ว่า “กู ก็เป็นแกะ, กู ก็เป็นแกะ” 🐐 ดังนี้ก็ตามที,
แต่ขนของมันก็หาเป็นเกะไปได้ไม่, เคราของมันก็
หาเป็นแกะไปได้ไม่, เขาของมันก็หาเป็นแกะไปได้ไม่,
มัน.ก็ได้แต่เดินตามฝูงแกะไปข้างหลัง ๆ ร้องเอาเองว่า “ กู ก็เป็นแกะ, กู ก็เป็นแกะ” ดังนี้ เท่านั้น. ข้อนี้ฉันใด ; 👨🦲👳🏻♂️
.
[ ผู้แสวงหาเราไม่ . יהוה } หาความสงบไม่มี.
.
คนเราจิตยุ่งเพราะไม่รู้ปฏิจจสมุปบาท
คืออริยญายธรรมนั้นแล. ย่อมไม่ล่วงพันซึ่งสังสาระ ที่เป็นอบาย ทุคติ วินิบาต นรกฯ ไปได้.]
.
i sad.! เอยฯ
......🧵......
✂️.
ว่าด้วย ไม่รู้ปฏิจจสมุปบาท: יהוה
ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์พวกใด ไม่รู้จักชรา มรณะ, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งชรา มรณะ, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งชรา มรณะ, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งชรา มรณะ ;
ไม่รู้จักชาติ, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งชาติ, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งชาติ, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งชาติ ;
(เกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นธรรมดานั้นละ เอง! ) 👻
.
ไม่รู้จักภพ, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งภพ, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งภพ, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งภพ ;
ไม่รู้จักอุปาทาน, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งอุปาทาน, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งอุปาทาน, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งอุปาทาน ;
ไม่รู้จักตัณหา, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งตัณหา, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งตัณหา, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งตัณหา ;
ไม่รู้จักเวทนา, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งเวทนา, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งเวทนา, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งเวทนา ;
ไม่รู้จักผัสสะ, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งผัสสะ, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งผัสสะ, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งผัสสะ ;
ไม่รู้จักอายตนะหก, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งอายตนะหก, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งอายตนะหก, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งอายตนะหก ;
ไม่รู้จักนามรูป, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งนามรูป, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งนามรูป, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งนามรูป ;
ไม่รู้จักวิญญาณ, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งวิญญาณ, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งวิญญาณ, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งวิญญาณ ;
ไม่รู้จักสังขาร, ไม่รู้จักเหตุเกิดขึ้นแห่งสังขาร, ไม่รู้จักความดับสนิทแห่งสังขาร, ไม่รู้จักข้อปฏิบัติเครื่องให้ถึงความดับสนิทแห่งสังขาร ;
ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์พวกนั้น ทั้งที่ถูกสมมติว่าเป็นสมณะในบรรดาสมณะทั้งหลายก็ตาม,
ทั้งที่ถูกสมมติว่าเป็นพราหมณ์ในบรรดาพราหมณ์ทั้งหลายก็ตาม, ก็หาเป็นสมณะหรือพราหมณ์ไปได้ไม่,
หาได้ทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์แห่งความเป็นสมณะ หรือประโยชน์แห่งความเป็นพราหมณ์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง. ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่ไม่
(เช่น ประโยคเดียวว่า “สังขารเกิดมาจากตัณหา
อันเกิดขึ้นแก่บุคคนผู้ถูกต้องด้วยเวทนาอันเกิดจากอวิชชาสัมผัส” แล. เป็นต้น)
๑. บาลี พระพุทธภาษิต. มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๕๗/๘๔๘,
.
เหมือนดังว่า “ก.ู เป็นแกะ !” ๆ 🐏
แพะที่เดินตามฝูงแกะไปข้างหลัง ๆ แม้จะร้องอยู่ว่า “กู ก็เป็นแกะ, กู ก็เป็นแกะ” 🐐 ดังนี้ก็ตามที,
แต่ขนของมันก็หาเป็นเกะไปได้ไม่, เคราของมันก็
หาเป็นแกะไปได้ไม่, เขาของมันก็หาเป็นแกะไปได้ไม่,
มัน.ก็ได้แต่เดินตามฝูงแกะไปข้างหลัง ๆ ร้องเอาเองว่า “ กู ก็เป็นแกะ, กู ก็เป็นแกะ” ดังนี้ เท่านั้น. ข้อนี้ฉันใด ; 👨🦲👳🏻♂️
.
[ ผู้แสวงหาเราไม่ . יהוה } หาความสงบไม่มี.
.
คนเราจิตยุ่งเพราะไม่รู้ปฏิจจสมุปบาท
คืออริยญายธรรมนั้นแล. ย่อมไม่ล่วงพันซึ่งสังสาระ ที่เป็นอบาย ทุคติ วินิบาต นรกฯ ไปได้.]
.
i sad.! เอยฯ
......🧵......
✂️.