เราจะกล่าวอย่างนี้
เพราะว่าสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี
หากท่านยังมีอวิชชา ท่านย่อมมีสังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปทาน ภพ ชาติ ชรามรณะ
จะกล่าวว่าตัวตนไม่มี จิตไม่มี ชาติหน้าไม่มี ผลกรรมไม่มี นรก สวรรค์ ไม่มี ไม่ได้ เป็นอุจเฉทไป
หากท่านดับแล้วซึ่งอวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปทาน ภพ ชาติ ชรามรณะ ก็ย่อมดับไปด้วย
จะกล่าวว่าตัวตนมีอยู่ จิตมี ชาติหน้ามี ผลกรรมมี นรก สวรรค์ มี ก็ย่อมไม่ถูก เป็นสัสสต
ผู้ดับอวิชชาได้แล้วย่อมไม่มีผู้ดับ ย่อมไม่มีธรรมะที่จะใช้ดับ
เป็นที่ถกเถียงกันมากเกี่ยวกับอุจเฉท และสัสสต
เพราะว่าสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี
หากท่านยังมีอวิชชา ท่านย่อมมีสังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปทาน ภพ ชาติ ชรามรณะ
จะกล่าวว่าตัวตนไม่มี จิตไม่มี ชาติหน้าไม่มี ผลกรรมไม่มี นรก สวรรค์ ไม่มี ไม่ได้ เป็นอุจเฉทไป
หากท่านดับแล้วซึ่งอวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปทาน ภพ ชาติ ชรามรณะ ก็ย่อมดับไปด้วย
จะกล่าวว่าตัวตนมีอยู่ จิตมี ชาติหน้ามี ผลกรรมมี นรก สวรรค์ มี ก็ย่อมไม่ถูก เป็นสัสสต
ผู้ดับอวิชชาได้แล้วย่อมไม่มีผู้ดับ ย่อมไม่มีธรรมะที่จะใช้ดับ