เรื่องจิตเป็นขันธ์ 5 กับจิตไม่ใช่ขันธ์ 5 นี่แยกสติปัญญาสัตว์จริงๆ เถียงกันไม่มีทางจบ เพราะอวิชชามันบังไว้หมดแล้ว ถ้ายังปฏิบัติไม่ถึง ไม่มีทางรู้เรื่องจิตได้เลย จะอ่านตำราอย่างไรก็หลง เชื่อแบบผิดๆ สุดท้ายเป็นอุจเฉททิฏฐิ ลัทธิจิตสูญ “ความเห็นว่า ตายแล้วสูญ” หรือ “จิตวิญญาณดับสูญสิ้น
พระพุทธเจ้าทรงแยกมิจฉาทิฏฐิ เป็น 2 จำพวก
1. สัสสตทิฏฐิ เห็นว่า ขันธ์ 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเที่ยงแท้ไม่ดับสูญ
2. อุจเฉททิฏฐิ เห็นว่า จิตวิญญาณดับสูญสิ้นไม่มีอะไรเหลือ
ที่ถูกต้อง คือ มัชฌิมาปฏิปทา (ปฏิจจสมุปบาท) เมื่อสิ้นเหตุ คือ อวิชชา ตัณหา กรรม ก็ดับสนิท
เมื่อเหตุเหล่านี้ดับ ในพระอรหันต์ จิตไม่สูญ แต่ “พ้นจากการเกิดดับ” นั่นคือ อมตธาตุหรือนิพพานธาตุ
อุจเฉททิฏฐิ ลัทธิจิตสูญ
พระพุทธเจ้าทรงแยกมิจฉาทิฏฐิ เป็น 2 จำพวก
1. สัสสตทิฏฐิ เห็นว่า ขันธ์ 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเที่ยงแท้ไม่ดับสูญ
2. อุจเฉททิฏฐิ เห็นว่า จิตวิญญาณดับสูญสิ้นไม่มีอะไรเหลือ
ที่ถูกต้อง คือ มัชฌิมาปฏิปทา (ปฏิจจสมุปบาท) เมื่อสิ้นเหตุ คือ อวิชชา ตัณหา กรรม ก็ดับสนิท
เมื่อเหตุเหล่านี้ดับ ในพระอรหันต์ จิตไม่สูญ แต่ “พ้นจากการเกิดดับ” นั่นคือ อมตธาตุหรือนิพพานธาตุ