ความตึงเครียดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดูเหมือนจะคลี่คลายไปได้อย่างมากแล้ว หลังจากที่คณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เป็นประธาน ได้สรุปผลการประชุมแก้ไขปัญหาออกมาได้ว่า การส่งมอบพื้นที่ก่อสร้าง สามารถดำเนินการได้แล้ว โดยแบ่งการส่งมอบออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1. สถานีพญาไท-สถานีสุวรรณภูมิ ระยะทาง 28 กิโลเมตร (ส่วนของโครงการแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์) พร้อมส่งมอบพื้นที่ได้ทันที 100%
2. สถานีสุวรรณภูมิ-สถานีอู่ตะเภา ระยะทาง 170 กิโลเมตร จะส่งมอบได้ทั้งหมดใน 1 ปี 3 เดือน (สถานีพญาไท-สถานีอู่ตะเภา เปิดให้บริการได้ในปี 2566-2567)
3. สถานีพญาไท-ดอนเมือง ระยะทาง 22 กิโลเมตร เป็นส่วนที่ดำเนินการได้ยากที่สุด เพราะมีต้องมีการเคลื่อนย้ายระบบสาธารณูปโภค เกี่ยวข้องกับ 3 กระทรวง 8 หน่วยงาน จะส่งมอบได้ใน 2 ปี 3 เดือน (คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2567-2568)
โดยคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ ได้ทำหนังสือส่งไปยังกลุ่มซีพีเอช เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อให้เข้ามาเซ็นสัญญาในวันที่ 25 ต.ค. นี้ ซึ่งจากการประสานงานกัน กลุ่มซีพีเอชยืนยันอย่างไม่เป็นทางการว่า พร้อมที่เซ็นสัญญาตามกำหนดเวลา
https://www.khaosod.co.th/economics/news_2962778
เมื่อปมปัญหาคลี่คลายได้แล้ว ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็จะเดินหน้าโครงการได้ กลไกขับเคลื่อนการลงทุน และเศรษฐกิจของประเทศ ก็จะสามารถไปต่อได้เช่นกัน
การทำงานทุกที่ ทุกระดับชั้น มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ไข ร่วมมือกันทำ เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าอุปสรรคปัญหาจะใหญ่แค่ไหน ก็ย่อมผ่านไปได้
วันนี้ขอเอาใจช่วยทั้งฝ่ายรัฐและเอกชนที่ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา สมกับฐานะผู้ร่วมลงทุน PPP Public Private Partnership
ยาดีพร้อมส่งมอบ 3 จังหวะ หยุดโรคชักกระตุก ไฮสปีดเชื่อมสนามบิน พร้อมแล่นฉิว
1. สถานีพญาไท-สถานีสุวรรณภูมิ ระยะทาง 28 กิโลเมตร (ส่วนของโครงการแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์) พร้อมส่งมอบพื้นที่ได้ทันที 100%
2. สถานีสุวรรณภูมิ-สถานีอู่ตะเภา ระยะทาง 170 กิโลเมตร จะส่งมอบได้ทั้งหมดใน 1 ปี 3 เดือน (สถานีพญาไท-สถานีอู่ตะเภา เปิดให้บริการได้ในปี 2566-2567)
3. สถานีพญาไท-ดอนเมือง ระยะทาง 22 กิโลเมตร เป็นส่วนที่ดำเนินการได้ยากที่สุด เพราะมีต้องมีการเคลื่อนย้ายระบบสาธารณูปโภค เกี่ยวข้องกับ 3 กระทรวง 8 หน่วยงาน จะส่งมอบได้ใน 2 ปี 3 เดือน (คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2567-2568)
โดยคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ ได้ทำหนังสือส่งไปยังกลุ่มซีพีเอช เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อให้เข้ามาเซ็นสัญญาในวันที่ 25 ต.ค. นี้ ซึ่งจากการประสานงานกัน กลุ่มซีพีเอชยืนยันอย่างไม่เป็นทางการว่า พร้อมที่เซ็นสัญญาตามกำหนดเวลา
https://www.khaosod.co.th/economics/news_2962778
เมื่อปมปัญหาคลี่คลายได้แล้ว ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็จะเดินหน้าโครงการได้ กลไกขับเคลื่อนการลงทุน และเศรษฐกิจของประเทศ ก็จะสามารถไปต่อได้เช่นกัน
การทำงานทุกที่ ทุกระดับชั้น มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ไข ร่วมมือกันทำ เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าอุปสรรคปัญหาจะใหญ่แค่ไหน ก็ย่อมผ่านไปได้
วันนี้ขอเอาใจช่วยทั้งฝ่ายรัฐและเอกชนที่ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา สมกับฐานะผู้ร่วมลงทุน PPP Public Private Partnership