เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 ตค 62 เวลาประมาณ 17.30 น. ผมและครอบครัว ผู้ใหญ่ 4 คน เด็ก 4 คน ได้ไปทานข้าวที่ฟูจิ สาขาบลูพอร์ท หัวหิน สั่งอาหารไปหลายอย่างตามรายละเอียดในรูปบิล พบสิ่งแปลกปลอมปนเปื้อนอยู่ในอาหารที่หลานสาวอายุ 7 ขวบกำลังตักเข้าปาก ถึง 2 ครั้ง ดังนี้
ครั้งแรก เจอเส้นผมในไข่หวานญี่ปุ่น (ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะคิดว่าไม่ได้หนักหนาอะไร แค่เศษเส้นผม) แจ้งพนักงานไป พนักงานก็แค่รับทราบ และไม่ได้รับการแจ้งกลับว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากนั้นหลานสาวคนเดิม กำลังทาน Salmon Tartar Sauce Fry Set หรือ ชุดปลาแซลมอนสอดไส้ซอสมายองเนสชุบเกล็ดขนมปังทอด ระหว่างที่กำลังทานหลานสาวได้บอกว่าเจอเศษอะไรไม่รู้อยู่ในอาหาร เมื่อหยิบดูปรากฏว่าเป็นเศษพลาสติกแข็งๆ ตามรูป จึงแจ้งพนักงานให้ทราบ พนักงานก็นำเศษพลาสติกไป แล้วก็เหมือนเดิมไม่ได้รับการแจ้งกลับว่าจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อย่างไร
จนกระทั่งเราเรียกเช็กบิล พนักงานก็นำบิลมาให้ เราจึงเรียกถามไปว่า สองเคสที่เกิดขึ้นนี้ทางร้านไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรอ ถึงจะได้รับคำตอบว่า เศษพลาสติกที่หลานสาวกำลังจะกลืนลงคอไปนั้น ทางร้านตรวจสอบแล้วว่าไม่ใช่ส่วนประกอบของอาหารเมนูนั้น
ทางเราจึงถามกลับไปว่า แล้วคิดว่าลูกค้าซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 7 ขวบ จะมาโกหกคุณเพื่ออะไร? แล้วถ้าเด็กกลืนเศษพลาสติกนี้ลงคอไปจะเกิดอะไรขึ้น
พนักงานซึ่งเป็นผู้หญิงผมสั้นใส่สูทสีเทา ที่เป็นคนปฏิเสธความรับผิดชอบนั้น ทำให้เรารู้สึกเหมือนโดนดูถูกมาก อยู่ดีดีจะไปสร้างเรื่องขึ้นมาทำไม
สุดท้ายพนักงานอีกคนในชุดสูทสีเทาเช่นกัน มาเสนอลดค่า service charge ให้ 10% แต่เราไม่ขอรับ เพราะคุณดูถูกลูกค้าของคุณเกินไป
ต่อไปนี้จะตักอะไรเข้าปากต้องระมัดระวังกันให้ดี เพราะอาจจะโดนร้านอาหารบางร้านเช่นร้านนี้ดูถูกได้นะครับ
แค่การรับมือกับ crisis ที่แย่มากๆ ของสาขานี้สาขาเดียว ทำให้ร้านอาหารแบรนด์นี้ ถูกแบนจากทุกคนในครอบครัวตลอดไป
อุทาหรณ์ กินอาหารนอกบ้านต้องระวัง ร้านดูถูกลูกค้า แถมปฏิเสธความรับผิดชอบ!
ครั้งแรก เจอเส้นผมในไข่หวานญี่ปุ่น (ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะคิดว่าไม่ได้หนักหนาอะไร แค่เศษเส้นผม) แจ้งพนักงานไป พนักงานก็แค่รับทราบ และไม่ได้รับการแจ้งกลับว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากนั้นหลานสาวคนเดิม กำลังทาน Salmon Tartar Sauce Fry Set หรือ ชุดปลาแซลมอนสอดไส้ซอสมายองเนสชุบเกล็ดขนมปังทอด ระหว่างที่กำลังทานหลานสาวได้บอกว่าเจอเศษอะไรไม่รู้อยู่ในอาหาร เมื่อหยิบดูปรากฏว่าเป็นเศษพลาสติกแข็งๆ ตามรูป จึงแจ้งพนักงานให้ทราบ พนักงานก็นำเศษพลาสติกไป แล้วก็เหมือนเดิมไม่ได้รับการแจ้งกลับว่าจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อย่างไร
จนกระทั่งเราเรียกเช็กบิล พนักงานก็นำบิลมาให้ เราจึงเรียกถามไปว่า สองเคสที่เกิดขึ้นนี้ทางร้านไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรอ ถึงจะได้รับคำตอบว่า เศษพลาสติกที่หลานสาวกำลังจะกลืนลงคอไปนั้น ทางร้านตรวจสอบแล้วว่าไม่ใช่ส่วนประกอบของอาหารเมนูนั้น
ทางเราจึงถามกลับไปว่า แล้วคิดว่าลูกค้าซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 7 ขวบ จะมาโกหกคุณเพื่ออะไร? แล้วถ้าเด็กกลืนเศษพลาสติกนี้ลงคอไปจะเกิดอะไรขึ้น
พนักงานซึ่งเป็นผู้หญิงผมสั้นใส่สูทสีเทา ที่เป็นคนปฏิเสธความรับผิดชอบนั้น ทำให้เรารู้สึกเหมือนโดนดูถูกมาก อยู่ดีดีจะไปสร้างเรื่องขึ้นมาทำไม
สุดท้ายพนักงานอีกคนในชุดสูทสีเทาเช่นกัน มาเสนอลดค่า service charge ให้ 10% แต่เราไม่ขอรับ เพราะคุณดูถูกลูกค้าของคุณเกินไป
ต่อไปนี้จะตักอะไรเข้าปากต้องระมัดระวังกันให้ดี เพราะอาจจะโดนร้านอาหารบางร้านเช่นร้านนี้ดูถูกได้นะครับ
แค่การรับมือกับ crisis ที่แย่มากๆ ของสาขานี้สาขาเดียว ทำให้ร้านอาหารแบรนด์นี้ ถูกแบนจากทุกคนในครอบครัวตลอดไป