สวัสดีครับ วันนี้เสือตะหลิวไม่ได้มาทำอาหาร แต่จะมาชิมอาหารแบบจัดเต็มกับร้านข้าวแกงแบรนด์ไทยชื่อดังที่กำลังเป็นกระแสอยู่ ณ ตอนนี้ ร้านนั้นไม่ใช่ร้านไหนแต่เป็นร้านของเนตไอดอลพุงกางชื่อดังอย่าง คุณเสก สหัสวรรษ หรือที่ชาวเนตสายตระเวนชิมรู้จักกันดีในชื่อ "หม่อมถนัดแดรก" กับข้าวแกงแบรนด์ดังในชื่อเดียวกันคือ "ร้านข้างแกงถนัดแดรก" ภายใต้สโลแกนติดหูที่ว่า "ยองพุงแตกดีกว่า แดรกไม่เป็น"
ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่า ตัวของเสือตะหลิวเองก็เป็นหนึ่งในผู้ subcribe ช่อง youtube ของคุณเสก ติดตามคลิปต่างๆมานานนับปี พอได้รู้ข่าวว่า ร้านข้าวแกงของคุณเสกจะมาเปิดทำการที่ปั๊ม ESSO สาขาวังมะนาว ซึ่งอยู่ห่างไม่ไกลนักจากแหล่งกบดานของเสือตะหลิว(55555) จึงถือโอกาสมาลองชิมสักหน่อย ถึงจะบอกว่าแค่ชิม แต่รับรองว่าชิมนี่ที่นี้คือ "การแดรกแบบจัดเต็มแน่นอน" เสือตะหลิวจะลองดี งัดเอาลิ้นกับฟันของเสือตะหลิวมากระแทกกับเมนูตัว top ของร้านแบบจัดเต็มไปเลย เอาล่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลย
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เสือตะหลิวเดินทางมาถึงร้านข้าวแกงถนัดแดรก สาขาวังมะนาว ตอนประมาณ 10.30 คนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ที่จอดรถเหลือเฟือมากๆ ร้านยังดูโล่งๆเดินคล่องๆ สภาพร้านโดยรวมจากด้านนอก ร้านยังดูใหม่อยู่เพราะเพิ่งเปิดให้บริการมาแค่ไม่กี่อาทิตย์ ตกแต่งสวยมีสไตล์มีเอกลักษณ์ ประตูหน้าร้านไม่ใช่ประตูอัตโนมัติแบบ 711 เสือตะหลิวสะเหร่อยืนนิ่งอยู่เกือบนาที อ้าว!!!!!ที่แท้ต้องกดปุ่มให้เปิดนี่หว่า 55555
คุณเสกยืนทักทายอยู่หน้าร้าน ถึงจะไม่เจอตัวจริงแบบเป็นๆ แต่ก็เจอตัวจริงแบบปลอมๆ แต่ไหงตัวปลอมถึงดูหล่อกว่าตัวจริงเยอะ (แซวเล่นนะครับ 55555) เลยทักทายสักหน่อยก่อนเข้าร้าน ที่ชี้นี่ไม่ได้หาเรื่องนะครับ มือหนึ่งถือมือถืออยู่ เลยใช้อีกมือหนึ่งชื้เอา 55555
พอเข้าไปถึงในร้าน ตัวร้านดูโปร่งๆโล่งๆแต่ก็ไม่ได้ใหญ่อย่างที่คิด มี line สั่งอาหาร line เดียว มีพนักงานตักอาหาร 2 คน พนักงานคิดเงิน 1 คน ซึ่งถือว่าทำงานแบบเรื่อยๆ แต่จะมีปัญหาตอนคนเข้าร้านแบบแน่นๆติดๆกันๆ ตอนกำลังยืนมองเมนูอยู่กะว่าจะถ่ายรูป แต่พอเห็นคิวคนเริ่มมาต่อหลังเลยรู้สึกกดดันอยู่ลึกๆ เลยรีบๆสั่งรีบๆจ่ายเงินดีกว่า เพราะคิวต่อหลังเริ่มจะยาวแล้ว เลยถ่ายรูป line อาหารจากมุมโต๊ะที่นั่งกินอาหารแทน
อาหารโดยรวมมีให้เลือกพอประมาณ ไม่ได้เยอะอะไรอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ได้น้อยจนน่าเกลียด มีตั้งแต่อาหารระดับพื้นๆราคาไม่แรง อย่างพวกข้าวแกงธรรมดาๆ อย่างแกงไทยต่างๆหรือของผัดแบบไทยง่ายๆ ไปจนถึงของทะเลราคาหลักร้อย และของพรีเมี่ยมราคาระดับหลายร้อย
คิวยาวเฟื่อยยยยยยยย ออกไปยันประตูหน้าร้าน ส่วนเรื่องการเก็บกวาดทำความสะอาดโดยรวมภายในร้านถือว่าสะอาดได้มาตรฐาน เป็นร้านระบบแบบดูแลตัวเอง เดินไปต่อคิวสั่งอาหารเอง ให้พนักงานตักอาหารให้ ยกถาดไปที่ cashier คิดเงิน จากนั้นเดินหาที่นั่งเอง กินหมดแล้ว ก็ต้องเอาของไปทิ้งที่ถังขยะเอง ข้างๆถังขยะจะมีโต๊ะวางเครื่องปรุงอย่างพวกพริกน้ำปลา และซอสอื่นๆอีกเล็กๆน้อยๆพร้อมถ้วยและกระดาษทิชซู่ไว้ให้บริการตัวเอง
ทีนี้เรามาดูที่อาหารกันเลย เสือตะหลิวบอกแล้วว่าวันนี้จัดเต็ม พุงแตกแหกกระเป๋า รับรองว่าเน้นจัดมาแต่เมนูระดับท๊อปๆแน่นอน
ก่อนอื่นดูที่ข้าวกันก่อนเลย ไหนๆจะมาแล้วต้องไม่ธรรมดา เปิดตัวกับจานแรกที่ ข้าวราดมันกุ้ง ราคาจานละ 90 บาท
ข้าวธรรมดาราดมันกุ้งจนมิด เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ด และของตกแต่งเล็กน้อย
ขอบอกตามตรงว่าคุณเสก น่าจะพิจารณาเรื่องภาชนะใส่อาหารสักหน่อย ไม่ต้องจานชามหรูหราก็ได้แต่แค่ใส่จานชามอาหารธรรมดามาให้เป็นกิจลักษณะสักหน่อย อาหารจะดูดีกว่านี้ขึ้นมาก
มาดูที่รสชาติกันต่อ ข้าวสวยหุงมากำลังดีแล้ว ส่วนเรื่องตัวมันกุ้งของบอกเลยว่า ถ้าไม่มีน้ำจิ้มซีฟู๊ดนี่คือจบเลย เพราะถ้ากินมันกุ้งกับข้าวเปล่าๆมันจะเลี่ยนมากๆ ซอสมันกุ้งที่ราดข้าว รสชาติมันๆเค็มๆมีความขมของมันกุ้งแฝงอยู่เล็กๆ พอกินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ดสูตรของทางร้านถือว่าช่วยปรับรสชาติให้อาหารจานนี้รสชาติดีขึ้นมาก สำหรับจานนี้เสือตะหลิวขอให้ 3/5
ดูที่จานต่อมากันเลย ตัวนี้ล่ะทีเด็ด เห็นโฆษณานักโฆษณาหนา กับเมนู จ๊อโคตรปู ลูกใหญ่สมคำร่ำลือ ลูกหนึ่งวางบนอุ้งมือเสือตะหลิวได้เกือบเต็มมือ มีผักกินแก้เลี่ยนใส่ให้มานิดหน่อย เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยหวาน ราคาก็ถือว่าแรงพอตัว สั่งไป 2 ลูก สนนราคาอยู่ที่ 165 บาท สั่งแล้วต้องรอประมาณ 5 นาที เพราะเค้าจะทอดให้ใหม่ๆ ใครซื้อกลับบ้านเค้าก็มีแบบแช่แข็งขายเป็นแถวๆให้ ส่วนคนที่สั่งกินที่ร้าน เสือตะหลิวคิดว่าเค้าก็คงเอาจากตู้แช่แข็งออกมาทอดให้กินอีกที
ส่วนเรื่องรสชาติ บอกตามตรงว่าสมคำร่ำลือ ปูเนื้อๆเน้นๆแน่นๆ ผ่าครึ่งออกมาปูทะลักออกมาล้นๆ รสชาติกินแล้วไม่เลี่ยนอย่างที่คิด ไส้ปูปรุงรสมากำลังดี เข้ากันดีมากๆกับน้ำจิ้มบ๊วยหวานๆ เสียดายที่ผิวจ๊อมันไม่ค่อยกรอบ เหมือนจะเน้นจุดขายอยู่ที่ขนาดและความแน่นของไส้ปูมากกว่า ส่วนเรื่องราคาก็แล้วแต่วิจารณญานส่วนบุคคล จานนี้เสือตะหลิวให้ 4/5
เดี๋ยวจะคอแห้ง หาอะไรน้ำมาซดให้คล่องคอสักหน่อย กับเมนู แกงจืดลูกเงาะ ชามละ 70 บาท ใส่ลูกเงาะมา 3 ลูกถ้วนๆ (ลูกเงาะก็คือหมูสับปรุงรสที่เอาปั้นเป็นก้อนๆหรือยัดไส้อาหาร) ใส่ผักมาให้ประปราย น้ำซุปสีใสๆ แต่ลูกเงาะลูกใหญ่พอสมควร คนปากใหญ่ถือว่ากินได้พอดีคำมากๆ
ลองชิมดูแล้วถือว่ารสชาติรสชาติอร่อยอย่างน่าประหลาด แกงจืดน้ำใสๆแต่รสเข้มข้นกว่าที่คิดมากๆ ลูกเงาะลูกใหญ่ๆแต่เนื้อเด้งๆปรุงรสออกมาดีเกินคาด วุ้นเส้นที่อยู่ในลูกเงาะดูดซับรสชาติของน้ำแกง ส่วนน้ำแกงก็ได้รสชาติส่วนหนึ่งจากลูกเงาะ เป็นการผสานที่ลงตัว กินแล้วซดชื่นคล่องคอ ถือว่าช่วยดับเลี่ยนได้ดีในระดับหนึ่ง เสียดายถ้าชามนี้ได้กินตอนร้อนๆจะทำให้อรอ่ยกว่านี้มาก จานนี้ให้ 4.5/5
จานต่อมาเลย จานนี้ก็โปรโมทกันนักหนา กับเมนูหมึกพุงแตก สั่งมาชามหนึ่ง ได้หมึกยัดไส้มา 3 ตัวใหญ่ๆ ราคา 130 บาท ดูแล้วก็เข้าใจเลยว่า มันคือหมึกยัดไส้ผัดกระเทียมพริกไทย หมึกตัวใหญ่ๆยัดไส้แน่นๆ
ลองชิมดูแล้วรสชาติถือว่าผ่าน น้ำผัดกระเทียมรสนัวๆเข้ากันดี ไม่มีเค็มหรือหวานโดดออกมา ได้รสและกลิ่นพริกไทยเต็มๆแต่ไม่ค่อยเผ็ดร้อน เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี ตัวหมึกถึงแม้จะใหญ่ แต่เนื้อยังเด้งๆสดๆอยู่ ไม่เหนียวแต่เคี้ยวง่าย ส่วนไส้ของหมึกกินแล้วรู้สึกได้เลยว่า เป็นลูกเงาะที่กินก่อนหน้านี้เอามายัดไส้ โดยรวมถือว่าอรอ่ยมาก โอเคมาก เสียดายถ้ากินตอนร้อนๆน่าจะเวิร์คกว่านี้ จานเอาไปเลย 4.5/5
จานต่อมาเลย ดูธรรมดาแต่เหมือนไม่ธรรมดากับเมนู ผัดกะเพราโบราณ ราคาชามละ 70 บาท หน้าตาธรรมดาๆ เหมือนไม่มีอะไรพิเศษ แต่ดูไปลึกๆแล้วจะเห็นเครื่องเทศสมุนไพรแอบแฝงอยู่ มันจะต้องมีอะไรไม่ธรรมดาแน่ๆ เดี๋ยวลองชิมดูก่อน
นี่แหละ สามารถบอกว่าอรอ่ยได้เต็มปาก เป็นผัดกะเพราที่อร่อยมาก รสจัดจ้านกำลังดี ไม่มีรสเค็มหรือหวานโดด ทุกอย่างนัวกำลังดี ที่สำคัญเวลาเคี้ยวจะสัมผัสได้ถึงเครื่องสมุนไพรที่แฝงอยู่อย่างพวกข่า เป็นความรู้สึกในการกินผัดกะเพราที่ดีมากๆ แต่ขอติอย่างเดียวกับเมนูอื่นๆเลยว่า มันเย็นชืดไปหน่อย ถ้าร้อนๆนี่คงให้เต็มไปแล้ว เอาไปเลย 4.5/5
มาดูที่เมนูต่อมากันเลยกับเมนู พุงปลาช่อนทอด ขายแบบชั่งกิโล จานนี้น้ำหนัก 180 กรัม ทางร้านคิด 185 บาท เป็นพุงปลาช่อนชุบแป้งทอด ตอนแรกยังไม่ได้สับ ทางร้านจะวางเรียงไว้เป็นแพยาวๆ พอใครสั่งก็จะชั่งกิโลก่อนแล้วค่อยสับเป็นชิ้นๆ กินคู่กับซอสน้ำปลาและน้ำจิ้มซีฟู๊ด
อันนี้พอชิมแล้ว ด้านรสชาติถือว่าโอเค ปลาช่อนไม่เหม็นคาว แต่นั่นก็อาจจะเป็นข้อดีเพียงอย่างเดียวของอาหารจานนี้ เพราะว่าพุงปลาช่อนถูกทอดทิ้งไว้ ผิวเลยไม่มีความกรอบ เนื้อในเริ่มจะแห้งด้าน เวลากินก็ต้องระวังเพราะเนื่องจากเป็นส่วนพุง กางบริเวณท้องปลายังคงสัมผัสและทิ่มแทงเหงือกของเสือตะหลิวอย่างสนุกสนาน จำเป็นต้องเคี้ยวให้ละเอียดมากๆ เนื้อในก็ออกจะด้านๆจึงทำให้การเคี้ยวอาหารจานนี้ไม่มีความบันเทิงแต่อย่างใด แต่ซอสน้ำปลากับน้ำจิ้มซีฟู๊ดอร่อยได้มาตรฐาน จึงขอให้คะแนนอาหารจานนี้ไปอย่างน่าผิดหวังที่ 1/5
ถ้าคุณเสกได้เห็นข้อความนี้ก็ขอชี้แจงว่าเป็นการติเพื่อก่อนะครับ อะไรที่ปรับปรุงและแก้ไขได้ก็ขอบอกกันตรงๆ
อาหารจานสุดท้ายกันสักที แต่รับรองว่าไม่ใช่แค่อาหารล้างปากแน่นอน เพราะมันคืออาหารจานที่ไฮโซที่สุดในร้าน เป็นอาหารจานที่ทุกคนไม่คิดว่าจะหากินได้ตามร้านข้าวแกงทั่วๆไปได้อย่างแน่นอน จานนั้นก็คือ มัสมั่นขาแกะ สุดอลังการจานละ 475 บาท มาแบบเต็มๆทั้งขา ราดน้ำมัสมั่นมาชุ่มๆ โอเคในเมื่อท้องกับฟันยังมีแรงเหลือเรามาทุ่มสุดตัวกันไปเลย
หลังจากชิมแล้ว ต้องนับถือในความเปื่อยนุ่มของขาแกะที่เคี่ยวนานหลายชั่วโมง ไม่ใช่ราคาคุยจริงๆ เปื่อยนุ่มระดับคนแก่ที่ฟันฟางไม่แข็งแรงก็สามารถกินเมนูนี้ได้ เครื่องแกงมัสมั่นแทบจะซึมซับเข้าถึงแกนกลางของกระดูก แต่ข้อเสียของอาหารจานนี้และก็นับเป็นข้อเสียเดียวด้วย ก็คือระดับความมันของน้ำแกง น้ำแกงมัสมั่นถือว่าปรุงรสมาได้โอเคมากๆ ไม่เค็มหรือหวานโดด แต่ความสุดยอดของน้ำแกงกลับถูกบดบังโดยน้ำมันแกงที่ลอยหน้าอยู่เต็มๆชาม กินไปแล้วก็รู้สึกเลี่ยนไป ทั้งๆที่กินกับข้าวสวยเป็นจานๆ แต่ก็ยังร้สึกเลี่ยนมากๆ ความเปื่อยสุดยอด รสชาติสุดยอด แต่ระดับความมันก็สุดยอดด้วยเช่นกัน น้ำมันแกงเคลือบลิ้นจนชุ่มจนแทบจะรับรสอะไรไม่ออก ต้องดื่มน้ำล้างลิ้นตามมากๆ สรุปจานนี้เอาไปประมาณ 4/5
ไหนจะจากกันแล้ว ขอแถมของหวานทานง่ายกันอีกสักอย่าง น้ำส้มผสมเกล็ดส้มยี่ห้อ ข้าวแกงถนัดแดรก ขวดละ 80 บาท ขวดใหญ่กว่าขวดน้ำขนาดธรรมดาประมาณหนึ่ง ดื่มแล้วหวานเปรี้ยวกำลังเย็นชื่นใจ ความจริงเค้าไม่ได้ใส่เกล็ดส้ม แต่ใส่เนื้อส้มมาเต็มๆ ซดไปทีไม่ระวังเนื้อส้มไหลเข้าคอเป็นลูก 55555 ถือว่าเป็นของหวานปิดท้ายได้ดี เอาไปเลย 4.5/5
สรุปการรีวิวครั้งนี้ ร้านข้าวแกงถนัดแดรก เป็นร้านข้าวแกงแบรนด์ไทย ราคาข้าวแกงอาจจะดูสูงกว่าร้านข้าวแกงทั่วๆไปสักนิด แต่ก็ไม่ได้สูงเกินจะไขว้ขว้า บางเมนูราคาระดับครึ่งร้อย บางเมนูราคาระดับเกือบร้อย บางเมนูราคาระดับเกินร้อย และบางเมนูก็ราคาระดับหลายร้อย แต่เมนูราคาสูงๆก็ต้องว่ากันตามคุณภาพและต้มทุนของตัววัตถุดิบ ส่วนเมนูราคาถูกแต่อร่อยมียังมีไว้ให้บริการ โปรดใช้วิจารณญานตามทุนทรัพย์ที่มีอยู่ในกระเป๋า
รีวิวยาวมากๆ พิมพ์ตัวอักษรไม่พอ เดี๋ยวจะไปขอต่อที่ คห 1 นะครับ 55555
[CR] รีวิวจัดเต็ม พุงแตกแหกกระเป๋าตังค์ กับ "ข้าวแกงถนัดแดรก สาขาวังมะนาว"
ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่า ตัวของเสือตะหลิวเองก็เป็นหนึ่งในผู้ subcribe ช่อง youtube ของคุณเสก ติดตามคลิปต่างๆมานานนับปี พอได้รู้ข่าวว่า ร้านข้าวแกงของคุณเสกจะมาเปิดทำการที่ปั๊ม ESSO สาขาวังมะนาว ซึ่งอยู่ห่างไม่ไกลนักจากแหล่งกบดานของเสือตะหลิว(55555) จึงถือโอกาสมาลองชิมสักหน่อย ถึงจะบอกว่าแค่ชิม แต่รับรองว่าชิมนี่ที่นี้คือ "การแดรกแบบจัดเต็มแน่นอน" เสือตะหลิวจะลองดี งัดเอาลิ้นกับฟันของเสือตะหลิวมากระแทกกับเมนูตัว top ของร้านแบบจัดเต็มไปเลย เอาล่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลย
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เสือตะหลิวเดินทางมาถึงร้านข้าวแกงถนัดแดรก สาขาวังมะนาว ตอนประมาณ 10.30 คนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ที่จอดรถเหลือเฟือมากๆ ร้านยังดูโล่งๆเดินคล่องๆ สภาพร้านโดยรวมจากด้านนอก ร้านยังดูใหม่อยู่เพราะเพิ่งเปิดให้บริการมาแค่ไม่กี่อาทิตย์ ตกแต่งสวยมีสไตล์มีเอกลักษณ์ ประตูหน้าร้านไม่ใช่ประตูอัตโนมัติแบบ 711 เสือตะหลิวสะเหร่อยืนนิ่งอยู่เกือบนาที อ้าว!!!!!ที่แท้ต้องกดปุ่มให้เปิดนี่หว่า 55555
คุณเสกยืนทักทายอยู่หน้าร้าน ถึงจะไม่เจอตัวจริงแบบเป็นๆ แต่ก็เจอตัวจริงแบบปลอมๆ แต่ไหงตัวปลอมถึงดูหล่อกว่าตัวจริงเยอะ (แซวเล่นนะครับ 55555) เลยทักทายสักหน่อยก่อนเข้าร้าน ที่ชี้นี่ไม่ได้หาเรื่องนะครับ มือหนึ่งถือมือถืออยู่ เลยใช้อีกมือหนึ่งชื้เอา 55555
พอเข้าไปถึงในร้าน ตัวร้านดูโปร่งๆโล่งๆแต่ก็ไม่ได้ใหญ่อย่างที่คิด มี line สั่งอาหาร line เดียว มีพนักงานตักอาหาร 2 คน พนักงานคิดเงิน 1 คน ซึ่งถือว่าทำงานแบบเรื่อยๆ แต่จะมีปัญหาตอนคนเข้าร้านแบบแน่นๆติดๆกันๆ ตอนกำลังยืนมองเมนูอยู่กะว่าจะถ่ายรูป แต่พอเห็นคิวคนเริ่มมาต่อหลังเลยรู้สึกกดดันอยู่ลึกๆ เลยรีบๆสั่งรีบๆจ่ายเงินดีกว่า เพราะคิวต่อหลังเริ่มจะยาวแล้ว เลยถ่ายรูป line อาหารจากมุมโต๊ะที่นั่งกินอาหารแทน
อาหารโดยรวมมีให้เลือกพอประมาณ ไม่ได้เยอะอะไรอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ได้น้อยจนน่าเกลียด มีตั้งแต่อาหารระดับพื้นๆราคาไม่แรง อย่างพวกข้าวแกงธรรมดาๆ อย่างแกงไทยต่างๆหรือของผัดแบบไทยง่ายๆ ไปจนถึงของทะเลราคาหลักร้อย และของพรีเมี่ยมราคาระดับหลายร้อย
คิวยาวเฟื่อยยยยยยยย ออกไปยันประตูหน้าร้าน ส่วนเรื่องการเก็บกวาดทำความสะอาดโดยรวมภายในร้านถือว่าสะอาดได้มาตรฐาน เป็นร้านระบบแบบดูแลตัวเอง เดินไปต่อคิวสั่งอาหารเอง ให้พนักงานตักอาหารให้ ยกถาดไปที่ cashier คิดเงิน จากนั้นเดินหาที่นั่งเอง กินหมดแล้ว ก็ต้องเอาของไปทิ้งที่ถังขยะเอง ข้างๆถังขยะจะมีโต๊ะวางเครื่องปรุงอย่างพวกพริกน้ำปลา และซอสอื่นๆอีกเล็กๆน้อยๆพร้อมถ้วยและกระดาษทิชซู่ไว้ให้บริการตัวเอง
ทีนี้เรามาดูที่อาหารกันเลย เสือตะหลิวบอกแล้วว่าวันนี้จัดเต็ม พุงแตกแหกกระเป๋า รับรองว่าเน้นจัดมาแต่เมนูระดับท๊อปๆแน่นอน
ก่อนอื่นดูที่ข้าวกันก่อนเลย ไหนๆจะมาแล้วต้องไม่ธรรมดา เปิดตัวกับจานแรกที่ ข้าวราดมันกุ้ง ราคาจานละ 90 บาท
ข้าวธรรมดาราดมันกุ้งจนมิด เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ด และของตกแต่งเล็กน้อย
ขอบอกตามตรงว่าคุณเสก น่าจะพิจารณาเรื่องภาชนะใส่อาหารสักหน่อย ไม่ต้องจานชามหรูหราก็ได้แต่แค่ใส่จานชามอาหารธรรมดามาให้เป็นกิจลักษณะสักหน่อย อาหารจะดูดีกว่านี้ขึ้นมาก
มาดูที่รสชาติกันต่อ ข้าวสวยหุงมากำลังดีแล้ว ส่วนเรื่องตัวมันกุ้งของบอกเลยว่า ถ้าไม่มีน้ำจิ้มซีฟู๊ดนี่คือจบเลย เพราะถ้ากินมันกุ้งกับข้าวเปล่าๆมันจะเลี่ยนมากๆ ซอสมันกุ้งที่ราดข้าว รสชาติมันๆเค็มๆมีความขมของมันกุ้งแฝงอยู่เล็กๆ พอกินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ดสูตรของทางร้านถือว่าช่วยปรับรสชาติให้อาหารจานนี้รสชาติดีขึ้นมาก สำหรับจานนี้เสือตะหลิวขอให้ 3/5
ดูที่จานต่อมากันเลย ตัวนี้ล่ะทีเด็ด เห็นโฆษณานักโฆษณาหนา กับเมนู จ๊อโคตรปู ลูกใหญ่สมคำร่ำลือ ลูกหนึ่งวางบนอุ้งมือเสือตะหลิวได้เกือบเต็มมือ มีผักกินแก้เลี่ยนใส่ให้มานิดหน่อย เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยหวาน ราคาก็ถือว่าแรงพอตัว สั่งไป 2 ลูก สนนราคาอยู่ที่ 165 บาท สั่งแล้วต้องรอประมาณ 5 นาที เพราะเค้าจะทอดให้ใหม่ๆ ใครซื้อกลับบ้านเค้าก็มีแบบแช่แข็งขายเป็นแถวๆให้ ส่วนคนที่สั่งกินที่ร้าน เสือตะหลิวคิดว่าเค้าก็คงเอาจากตู้แช่แข็งออกมาทอดให้กินอีกที
ส่วนเรื่องรสชาติ บอกตามตรงว่าสมคำร่ำลือ ปูเนื้อๆเน้นๆแน่นๆ ผ่าครึ่งออกมาปูทะลักออกมาล้นๆ รสชาติกินแล้วไม่เลี่ยนอย่างที่คิด ไส้ปูปรุงรสมากำลังดี เข้ากันดีมากๆกับน้ำจิ้มบ๊วยหวานๆ เสียดายที่ผิวจ๊อมันไม่ค่อยกรอบ เหมือนจะเน้นจุดขายอยู่ที่ขนาดและความแน่นของไส้ปูมากกว่า ส่วนเรื่องราคาก็แล้วแต่วิจารณญานส่วนบุคคล จานนี้เสือตะหลิวให้ 4/5
เดี๋ยวจะคอแห้ง หาอะไรน้ำมาซดให้คล่องคอสักหน่อย กับเมนู แกงจืดลูกเงาะ ชามละ 70 บาท ใส่ลูกเงาะมา 3 ลูกถ้วนๆ (ลูกเงาะก็คือหมูสับปรุงรสที่เอาปั้นเป็นก้อนๆหรือยัดไส้อาหาร) ใส่ผักมาให้ประปราย น้ำซุปสีใสๆ แต่ลูกเงาะลูกใหญ่พอสมควร คนปากใหญ่ถือว่ากินได้พอดีคำมากๆ
ลองชิมดูแล้วถือว่ารสชาติรสชาติอร่อยอย่างน่าประหลาด แกงจืดน้ำใสๆแต่รสเข้มข้นกว่าที่คิดมากๆ ลูกเงาะลูกใหญ่ๆแต่เนื้อเด้งๆปรุงรสออกมาดีเกินคาด วุ้นเส้นที่อยู่ในลูกเงาะดูดซับรสชาติของน้ำแกง ส่วนน้ำแกงก็ได้รสชาติส่วนหนึ่งจากลูกเงาะ เป็นการผสานที่ลงตัว กินแล้วซดชื่นคล่องคอ ถือว่าช่วยดับเลี่ยนได้ดีในระดับหนึ่ง เสียดายถ้าชามนี้ได้กินตอนร้อนๆจะทำให้อรอ่ยกว่านี้มาก จานนี้ให้ 4.5/5
จานต่อมาเลย จานนี้ก็โปรโมทกันนักหนา กับเมนูหมึกพุงแตก สั่งมาชามหนึ่ง ได้หมึกยัดไส้มา 3 ตัวใหญ่ๆ ราคา 130 บาท ดูแล้วก็เข้าใจเลยว่า มันคือหมึกยัดไส้ผัดกระเทียมพริกไทย หมึกตัวใหญ่ๆยัดไส้แน่นๆ
ลองชิมดูแล้วรสชาติถือว่าผ่าน น้ำผัดกระเทียมรสนัวๆเข้ากันดี ไม่มีเค็มหรือหวานโดดออกมา ได้รสและกลิ่นพริกไทยเต็มๆแต่ไม่ค่อยเผ็ดร้อน เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี ตัวหมึกถึงแม้จะใหญ่ แต่เนื้อยังเด้งๆสดๆอยู่ ไม่เหนียวแต่เคี้ยวง่าย ส่วนไส้ของหมึกกินแล้วรู้สึกได้เลยว่า เป็นลูกเงาะที่กินก่อนหน้านี้เอามายัดไส้ โดยรวมถือว่าอรอ่ยมาก โอเคมาก เสียดายถ้ากินตอนร้อนๆน่าจะเวิร์คกว่านี้ จานเอาไปเลย 4.5/5
จานต่อมาเลย ดูธรรมดาแต่เหมือนไม่ธรรมดากับเมนู ผัดกะเพราโบราณ ราคาชามละ 70 บาท หน้าตาธรรมดาๆ เหมือนไม่มีอะไรพิเศษ แต่ดูไปลึกๆแล้วจะเห็นเครื่องเทศสมุนไพรแอบแฝงอยู่ มันจะต้องมีอะไรไม่ธรรมดาแน่ๆ เดี๋ยวลองชิมดูก่อน
นี่แหละ สามารถบอกว่าอรอ่ยได้เต็มปาก เป็นผัดกะเพราที่อร่อยมาก รสจัดจ้านกำลังดี ไม่มีรสเค็มหรือหวานโดด ทุกอย่างนัวกำลังดี ที่สำคัญเวลาเคี้ยวจะสัมผัสได้ถึงเครื่องสมุนไพรที่แฝงอยู่อย่างพวกข่า เป็นความรู้สึกในการกินผัดกะเพราที่ดีมากๆ แต่ขอติอย่างเดียวกับเมนูอื่นๆเลยว่า มันเย็นชืดไปหน่อย ถ้าร้อนๆนี่คงให้เต็มไปแล้ว เอาไปเลย 4.5/5
มาดูที่เมนูต่อมากันเลยกับเมนู พุงปลาช่อนทอด ขายแบบชั่งกิโล จานนี้น้ำหนัก 180 กรัม ทางร้านคิด 185 บาท เป็นพุงปลาช่อนชุบแป้งทอด ตอนแรกยังไม่ได้สับ ทางร้านจะวางเรียงไว้เป็นแพยาวๆ พอใครสั่งก็จะชั่งกิโลก่อนแล้วค่อยสับเป็นชิ้นๆ กินคู่กับซอสน้ำปลาและน้ำจิ้มซีฟู๊ด
อันนี้พอชิมแล้ว ด้านรสชาติถือว่าโอเค ปลาช่อนไม่เหม็นคาว แต่นั่นก็อาจจะเป็นข้อดีเพียงอย่างเดียวของอาหารจานนี้ เพราะว่าพุงปลาช่อนถูกทอดทิ้งไว้ ผิวเลยไม่มีความกรอบ เนื้อในเริ่มจะแห้งด้าน เวลากินก็ต้องระวังเพราะเนื่องจากเป็นส่วนพุง กางบริเวณท้องปลายังคงสัมผัสและทิ่มแทงเหงือกของเสือตะหลิวอย่างสนุกสนาน จำเป็นต้องเคี้ยวให้ละเอียดมากๆ เนื้อในก็ออกจะด้านๆจึงทำให้การเคี้ยวอาหารจานนี้ไม่มีความบันเทิงแต่อย่างใด แต่ซอสน้ำปลากับน้ำจิ้มซีฟู๊ดอร่อยได้มาตรฐาน จึงขอให้คะแนนอาหารจานนี้ไปอย่างน่าผิดหวังที่ 1/5
ถ้าคุณเสกได้เห็นข้อความนี้ก็ขอชี้แจงว่าเป็นการติเพื่อก่อนะครับ อะไรที่ปรับปรุงและแก้ไขได้ก็ขอบอกกันตรงๆ
อาหารจานสุดท้ายกันสักที แต่รับรองว่าไม่ใช่แค่อาหารล้างปากแน่นอน เพราะมันคืออาหารจานที่ไฮโซที่สุดในร้าน เป็นอาหารจานที่ทุกคนไม่คิดว่าจะหากินได้ตามร้านข้าวแกงทั่วๆไปได้อย่างแน่นอน จานนั้นก็คือ มัสมั่นขาแกะ สุดอลังการจานละ 475 บาท มาแบบเต็มๆทั้งขา ราดน้ำมัสมั่นมาชุ่มๆ โอเคในเมื่อท้องกับฟันยังมีแรงเหลือเรามาทุ่มสุดตัวกันไปเลย
หลังจากชิมแล้ว ต้องนับถือในความเปื่อยนุ่มของขาแกะที่เคี่ยวนานหลายชั่วโมง ไม่ใช่ราคาคุยจริงๆ เปื่อยนุ่มระดับคนแก่ที่ฟันฟางไม่แข็งแรงก็สามารถกินเมนูนี้ได้ เครื่องแกงมัสมั่นแทบจะซึมซับเข้าถึงแกนกลางของกระดูก แต่ข้อเสียของอาหารจานนี้และก็นับเป็นข้อเสียเดียวด้วย ก็คือระดับความมันของน้ำแกง น้ำแกงมัสมั่นถือว่าปรุงรสมาได้โอเคมากๆ ไม่เค็มหรือหวานโดด แต่ความสุดยอดของน้ำแกงกลับถูกบดบังโดยน้ำมันแกงที่ลอยหน้าอยู่เต็มๆชาม กินไปแล้วก็รู้สึกเลี่ยนไป ทั้งๆที่กินกับข้าวสวยเป็นจานๆ แต่ก็ยังร้สึกเลี่ยนมากๆ ความเปื่อยสุดยอด รสชาติสุดยอด แต่ระดับความมันก็สุดยอดด้วยเช่นกัน น้ำมันแกงเคลือบลิ้นจนชุ่มจนแทบจะรับรสอะไรไม่ออก ต้องดื่มน้ำล้างลิ้นตามมากๆ สรุปจานนี้เอาไปประมาณ 4/5
ไหนจะจากกันแล้ว ขอแถมของหวานทานง่ายกันอีกสักอย่าง น้ำส้มผสมเกล็ดส้มยี่ห้อ ข้าวแกงถนัดแดรก ขวดละ 80 บาท ขวดใหญ่กว่าขวดน้ำขนาดธรรมดาประมาณหนึ่ง ดื่มแล้วหวานเปรี้ยวกำลังเย็นชื่นใจ ความจริงเค้าไม่ได้ใส่เกล็ดส้ม แต่ใส่เนื้อส้มมาเต็มๆ ซดไปทีไม่ระวังเนื้อส้มไหลเข้าคอเป็นลูก 55555 ถือว่าเป็นของหวานปิดท้ายได้ดี เอาไปเลย 4.5/5
สรุปการรีวิวครั้งนี้ ร้านข้าวแกงถนัดแดรก เป็นร้านข้าวแกงแบรนด์ไทย ราคาข้าวแกงอาจจะดูสูงกว่าร้านข้าวแกงทั่วๆไปสักนิด แต่ก็ไม่ได้สูงเกินจะไขว้ขว้า บางเมนูราคาระดับครึ่งร้อย บางเมนูราคาระดับเกือบร้อย บางเมนูราคาระดับเกินร้อย และบางเมนูก็ราคาระดับหลายร้อย แต่เมนูราคาสูงๆก็ต้องว่ากันตามคุณภาพและต้มทุนของตัววัตถุดิบ ส่วนเมนูราคาถูกแต่อร่อยมียังมีไว้ให้บริการ โปรดใช้วิจารณญานตามทุนทรัพย์ที่มีอยู่ในกระเป๋า
รีวิวยาวมากๆ พิมพ์ตัวอักษรไม่พอ เดี๋ยวจะไปขอต่อที่ คห 1 นะครับ 55555
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น