"การใช้ชีวิตในแต่ละวัน เราว่าแผนสองและการมีสติ สำคัญนะ
เพราะชีวิตคนเราไม่แน่ไม่นอน มันพลิกผลันไปได้ตลอดเวลา
การเดินทางของเราก็เช่นกัน หนึ่งไม่ได้ก็ลองสอง หรือถ้ายังไม่เวิร์ค ลองสามดูบ้าง"

วันเดินทาง 29-30.06.62
ทริปนี้เรารวบรวมพี่ๆน้องๆ10 คน จุดหมายปลายทางของเราคือ เลอกวาเดาะ จ.ตาก แต่เราต้องเปลี่ยนแผนกระทันหันในสายๆวันศุกร์
เพราะรถกะบะที่นัดไว้บอกว่ามารับพวกเราไม่ได้ เพราะฝนตกทางแย่ โอเคเปลี่ยนแผนก็ได้
แต่แอบเคืองเพราะเรามารู้ทีหลังว่ามี 2 กลุ่มขึ้นได้ แต่ทำไมพี่ไม่มารับหนู แต่ก็ยิ้มมุมปาก
เพราะที่หมายใหม่ของพวกเราสวยสุดในระแวกนั้นใน weekนั้น

เอาจริงๆเราก็ช็อคนะในฐานะคนนำทริป คือจะเดินทางคืนนี้อ่ะ แต่ต้องยกเลิก เปลี่ยนแผนตอนสายๆ
น้องๆบอกไปไหนก็ได้ อยากเดิน โอเค ทุกคนน่ารักมาก พร้อมบวกกันจริงจัง
ถ้าให้มานั่งนึก ว่าเขาในไทยมีที่ไหนบ้าง ที่เปิดช่วงนี้ ยากนะในเวลาที่จำกัด
แต่เราก็ค้นหาจนได้ หาดูได้แต่รูป แต่ไม่มีข้อมูลติดต่อสถานที่ โอ้ยยยย ชีวิต!!!!!!
ก่อนเดินทางมารู้จักกันมากขึ้น ฝากติดตามการเดินทางของแจ๊คได้ที่เพจค่ะ เพจเราชื่อ นักเดินทางตัวน้อย
https://www.facebook.com/journeymemories
ฝากกดไลค์ให้กำลังใจด้วยนะคะ
ขายของเสร็จแล้ว เดินทางต่อได้ เฮะ!!!!

เอาล่ะ เกริ่นนำซะยาว มาเข้าเรื่องเลย
ทริปนี้เราจะพาเพื่อนๆไปดอยใหม่ ออกจะลับๆ แต่ไม่ลับมาก เพราะมีคนเคยไปแล้ว แต่ยังไม่เป็นที่รู้จัก
กล้อบ่อโจ ขาไปไม่รู้จัก ขากลับก็ยังเรียกชื่อผิดๆถูกๆ เราก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อ ไม่มีข้อมูลอะไรในหัวเลย
รู้แต่เห็นภาพแล้ว ชอบ อยากไป
แต่เราก็สืบหาจนได้ ต้องขอบพระคุณ คุณโค้ช แห่งเพจลูกหาบที่ให้ข้อมูลติดต่อเรามา ขอบคุณมากๆเลยค่ะ น่าร๊ากกก
กล้อบ่อโจ อยู่ในต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เราเดินทางโดยเหมารถตู้ ไปที่ ท่าสองยาง
ก่อนเดินทาง ถ่ายภาพเป็นที่ระทึกกันสักหน่อย พวกเรานัดขึ้นรถกันที่บิ้กซีสะพานควาย
DAY 1
ประมาณ 7 โมงเช้า เราเดินทางไปถึงจุดนัดพบอยู่ริมถนน ประมาณกม.106 ก่อนถึงทางเข้าอช.แม่เมย
ถึงจุดนัดพบก็จัดแจงสัมภาระ เพื่อขึ้นรถกะบะเข้าไปในหมู่บ้าน ทางเป็นคอนกรีต และมีทางดินบ้าง

ถนนจะเล็กๆ แต่รถกะบะทั่วไปสามารถไปได้ค่ะ รถตู้ รถเก๋ง ไม่แนะนำค่ะ
วันนี้มีกลุ่มเรากลุ่มเดียวบนดอยนี้ โคตรดี ก่อนเดินทาง ครูภาณุ ผู้ที่เราติดต่อไป บอกว่าช่วงนี้ฝนตกนะแต่ก็ตกไม่มาก
โถ่ววว กลัวที่ไหนล่ะ ทีมนี้พร้อมบวกค่ะ ของมันต้องไป ถามถึงระยะทาง ก็ 6-7 กิโลเมตร
ทางราบช่วงแรกๆ จะไปโหดช่วง 2 โลสุดท้ายทางจะชันๆ
ปกติ ถ้าถนนแห้งจะมีบริการมอไซค์ด้วยนะ ไปส่งตรง 2 กิโลสุดท้าย แต่ระดับพวกเราไปแบบฝนๆ เดินสิ่คะเดิน มอไซค์ไม่วิ่งจ้า
ดอยกล้อบ่อโจ การเดินทางในครั้งนี้ ด้วยความตั้งใจที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่พวกเรากลับได้ค้นพบ.....
6-7 กิโลเมตร หรือกิโลแม๊ว ทางราบกับทางชันต่างกันแค่ไหน บันเทิงหรือบรรลัย เดี๋ยวมาดูกัน
ทางเดินช่วงแรก

ทางราบ???? พี่ลูกหาบคะ พี่กล้าสาบานมั้ยว่านี่คือทางราบ คือเดินขึ้นยาวๆเลยจ้า
แถมพี่ลูกหาบบอกว่า เดิน 8 กิโล เอาแล้ว เพิ่มมาจากไหน 1 กิโล ไหนครูบอก 7 กิโล

ระหว่างทาง ในวันที่ฝนตก ได้เห็นวิวแค่นี้ ก็ดีใจมากแล้วค่ะ

สดชื่นมากๆ

ตั้งหน้าตั้งตาเดินกันต่อไป

สภาพเหมือนเดินมาทั้งชีวิต 55555 ขอบคุณภาพจากปาล์มค่ะ

มีจุดพัก พวกเรากินข้าวกลางวันกันตรงนี้ แล้วฝนก็ลงมาอีก
ขอบคุณภาพจากปาล์มค่ะ

ออกจากจุดนี้ไปเราก็เดินทางกันต่อ ลัดเลาะตามแนวไหล่เขาที่มีการทำทางเดินไว้ ระหว่างทางพวกเราก็คุยกันว่า
ทางราบยังชันขนาดนี้อยากเห็นจังเลย ว่าทางที่พี่ลูกหาบเรียกว่าทางชันนั้น มันจะชันแค่ไหน
มาถึงจุดนี้วิวที่พวกเราเห็นอยู่ตรงหน้ามันทำให้พวกเรากระดี๊กระด๊ากันสุดๆเพราะมันเป็นวิวที่ดีที่สุดตั้งแต่เราเดินมา
เห็นทะเลหมอกและเห็นภูเขา ในใจก็ได้แต่ภาวนากันว่า ทริปนี้ขอให้ฟ้าเปิด ขอให้ฟ้าเปิด

วิวแบบนี้สดชื่น มากๆ

ถึงกับต้องควักกล้องออกมาถ่าย ทุกช็อตทุกเฟรมมีค่ามากสำหรับทริปนี้ ต้องรีบเก็บ เพราะเราอาจจะไม่ได้เห็นมันอีกก็ได้
หลังจากเดินกันมาร่วม 7 กิโล เราก็มาถึงจุดที่เป็นจุดสุดท้ายของทางราบ เพราะ ต่อจากนี้ไปจะเป็นทางชัน
ตรงนี้สามารถเดินลงไปตักน้ำที่ตาน้ำได้แต่ไกลมาก เราส่งตัวแทนลงไป
นี่ค่ะ ตาน้ำ ขอบคุณภาพนี้จากปาล์มค่ะ
ตอนแรกลูกหาบจะให้เราลงไปตั้งแคมป์ข้างล่างเพราะใกล้แหล่งน้ำ แต่เราไม่ยอม
เพราะ ถ้าเราตั้งแคมป์ข้างล่าง มันจะเดินไปชมวิวไกลมากและจากการประเมินสถานการณ์
ท้องฟ้าแบบนี้เราต้องนั่งเฝ้าเพื่อให้ได้ภาพ เพราะฟ้าจะปิดและเปิด เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น
ถ้าเราตั้งแคมป์ข้างล่างแล้วเดินไปชมวิวเราอาจจะไม่ได้อะไรเลยก็เป็นได้
คุยกันอยู่ตั้งนานกว่าจะคุยกับลูกหาบเข้าใจ เอาจริงๆลูกหาบเมา โอ้ยยย เพลีย
ขอบคุณภาพนี้จากพี่เอกค่ะ
รออยู่พักใหญ่ สมาชิกที่ลงไปตักน้ำก็กลับมา และบอกว่าทางไกลและรกมากไม่เห็นจะมีที่ตั้งแคมป์ อ้าวยังไงล่ะพี่ลูกหาบ
ดีนะที่พวกเราไม่เชื่อ สมาชิกกลับมาครบ ก็ถึงเวลาตั้งหน้าตั้งตาเดินกันต่อไป มาดูหนทางข้างหน้ากัน

หลังจากที่พวกเราได้เห็นทางที่ลูกหาบเรียกว่าทางชัน OK เข้าใจละทำไมถึงเรียกทางที่เดินผ่านมาว่าทางราบ
ทางหลังจากนี้ไปต้องบอกเลยว่าโคตรชัน ในรูปอาจดูไม่ชันมาก แต่จริงๆชันระดับ 70 80 องศาได้เลย


เดินๆไปก็ได้เจอวิวอีกครั้ง

ตรงนี้ก็ต้องควักกล้องออกมาเก็บภาพเช่นกัน


เก็บภาพจนหนำใจเล้ว เราเดินกันต่อค่ะ
ขอบคุณภาพนี้จากปาล์มค่ะ
ระหว่างทาง พบวัวภูเขาเป็นจำนวนมาก คือหญ้าข้างล่างมันไม่อร่อยเหรอลูก

เนินนี้เลยได้รับการตั้งชื่อจากพวกเราว่า เนินวัว

ดูความชันค่ะ เราว่าคล้ายๆช่วงชันๆด้านบนของทูเล ช่วงก่อนถึงจุดตั้งแค้มป์
บ่ายสามกว่าๆพวกเราเดินมาถึงจุดชมวิวอีกจุด ซึ่งใกล้ถึงยอดแล้วล่ะ
วิวตอนนี้ ฟ้าเปิดๆปิดๆ อกจะปิดมากกว่า แต่มีแดด ให้พวกเราได้คลายหนาว จากการเดินตากฝน

แต่ไม่นาน ฝนก็ลงมาอีกรอบ รีบคว้าเป้แล้วเดินต่อค่ะ
สี่โมงนิดๆเราถึงยอดดอย จับระยะทางจากนาฬิกา ได้ระยะทาง 9 กิโลค่ะ

แต่ยังทำอะไรไม่ได้ ฝนตกยาวๆ จะกางฟรายชีทก็ไม่ได้ ของอยู่ที่ลูกหาบ พี่เขายังไม่ขึ้นมา รอนานมาก
ด้านบนมีเจดีย์ และใกล้ๆมีคล้ายๆโรงเก็บฟืน หรือมันคืออะไรก็ไม่รู้ มีเสื่ออยู่ด้วย พวกเราเลยได้ที่เก็บกระเป๋า ส่วนตัวคนก็ตากฝนตากลมกันไป
สักพักลูกหาบมา เราก็ชวยกันตั้งแค้มป์ กางเต็นท์ เปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะเปียกทั้งตัว
วิวที่เราได้ในเย็นนี้ค่ะ
ป่าหน้าฝนจะเป็นแบบนี้ล่ะคะ ภาพจะดูเขียวๆเปียกๆ


เทือกเขาที่นี่สวยมากๆ ขนาดฟ้าไม่เคลียร์ ยังสวยเลยค่ะ

แต้มบุญยังพอมี อิอิ

ทำกับข้าวไป สังเกตุการณ์ไปด้วย ถ้าฟ้าเปิดเราก็จะเรียกทุกคนออกมาถ่ายรูป แว๊ปแเดียวฟ้าปิด กลับเข้าแค้มป์กลางต่อ555
สำหรับวันนี้ ฝนตกๆหยุดๆ เบาๆ หนักๆ วนไป หลังจากทานมื้อเย็น พวกเรากินยาแก้แพ้แก้หวัดแก้ปวดหัว แยกย้ายกันเข้านอน
อย่าถามถึงดาว ไม่มีแน่นอน 5555

ติดตาม DAY 2 ได้ใน comment นะคะ
[CR] ดอยกล้อบ่อโจ จ.ตาก ความตั้งใจที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่เรากลับได้ค้นพบ
เพราะชีวิตคนเราไม่แน่ไม่นอน มันพลิกผลันไปได้ตลอดเวลา
การเดินทางของเราก็เช่นกัน หนึ่งไม่ได้ก็ลองสอง หรือถ้ายังไม่เวิร์ค ลองสามดูบ้าง"
วันเดินทาง 29-30.06.62
ทริปนี้เรารวบรวมพี่ๆน้องๆ10 คน จุดหมายปลายทางของเราคือ เลอกวาเดาะ จ.ตาก แต่เราต้องเปลี่ยนแผนกระทันหันในสายๆวันศุกร์
เพราะรถกะบะที่นัดไว้บอกว่ามารับพวกเราไม่ได้ เพราะฝนตกทางแย่ โอเคเปลี่ยนแผนก็ได้
แต่แอบเคืองเพราะเรามารู้ทีหลังว่ามี 2 กลุ่มขึ้นได้ แต่ทำไมพี่ไม่มารับหนู แต่ก็ยิ้มมุมปาก
เพราะที่หมายใหม่ของพวกเราสวยสุดในระแวกนั้นใน weekนั้น
เอาจริงๆเราก็ช็อคนะในฐานะคนนำทริป คือจะเดินทางคืนนี้อ่ะ แต่ต้องยกเลิก เปลี่ยนแผนตอนสายๆ
น้องๆบอกไปไหนก็ได้ อยากเดิน โอเค ทุกคนน่ารักมาก พร้อมบวกกันจริงจัง
ถ้าให้มานั่งนึก ว่าเขาในไทยมีที่ไหนบ้าง ที่เปิดช่วงนี้ ยากนะในเวลาที่จำกัด
แต่เราก็ค้นหาจนได้ หาดูได้แต่รูป แต่ไม่มีข้อมูลติดต่อสถานที่ โอ้ยยยย ชีวิต!!!!!!
ก่อนเดินทางมารู้จักกันมากขึ้น ฝากติดตามการเดินทางของแจ๊คได้ที่เพจค่ะ เพจเราชื่อ นักเดินทางตัวน้อย
https://www.facebook.com/journeymemories
ฝากกดไลค์ให้กำลังใจด้วยนะคะ
ขายของเสร็จแล้ว เดินทางต่อได้ เฮะ!!!!
ทริปนี้เราจะพาเพื่อนๆไปดอยใหม่ ออกจะลับๆ แต่ไม่ลับมาก เพราะมีคนเคยไปแล้ว แต่ยังไม่เป็นที่รู้จัก
กล้อบ่อโจ ขาไปไม่รู้จัก ขากลับก็ยังเรียกชื่อผิดๆถูกๆ เราก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อ ไม่มีข้อมูลอะไรในหัวเลย
รู้แต่เห็นภาพแล้ว ชอบ อยากไป
แต่เราก็สืบหาจนได้ ต้องขอบพระคุณ คุณโค้ช แห่งเพจลูกหาบที่ให้ข้อมูลติดต่อเรามา ขอบคุณมากๆเลยค่ะ น่าร๊ากกก
กล้อบ่อโจ อยู่ในต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เราเดินทางโดยเหมารถตู้ ไปที่ ท่าสองยาง
DAY 1
ประมาณ 7 โมงเช้า เราเดินทางไปถึงจุดนัดพบอยู่ริมถนน ประมาณกม.106 ก่อนถึงทางเข้าอช.แม่เมย
ถึงจุดนัดพบก็จัดแจงสัมภาระ เพื่อขึ้นรถกะบะเข้าไปในหมู่บ้าน ทางเป็นคอนกรีต และมีทางดินบ้าง
วันนี้มีกลุ่มเรากลุ่มเดียวบนดอยนี้ โคตรดี ก่อนเดินทาง ครูภาณุ ผู้ที่เราติดต่อไป บอกว่าช่วงนี้ฝนตกนะแต่ก็ตกไม่มาก
โถ่ววว กลัวที่ไหนล่ะ ทีมนี้พร้อมบวกค่ะ ของมันต้องไป ถามถึงระยะทาง ก็ 6-7 กิโลเมตร
ทางราบช่วงแรกๆ จะไปโหดช่วง 2 โลสุดท้ายทางจะชันๆ
ปกติ ถ้าถนนแห้งจะมีบริการมอไซค์ด้วยนะ ไปส่งตรง 2 กิโลสุดท้าย แต่ระดับพวกเราไปแบบฝนๆ เดินสิ่คะเดิน มอไซค์ไม่วิ่งจ้า
ดอยกล้อบ่อโจ การเดินทางในครั้งนี้ ด้วยความตั้งใจที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่พวกเรากลับได้ค้นพบ.....
6-7 กิโลเมตร หรือกิโลแม๊ว ทางราบกับทางชันต่างกันแค่ไหน บันเทิงหรือบรรลัย เดี๋ยวมาดูกัน
ทางเดินช่วงแรก
แถมพี่ลูกหาบบอกว่า เดิน 8 กิโล เอาแล้ว เพิ่มมาจากไหน 1 กิโล ไหนครูบอก 7 กิโล
ขอบคุณภาพจากปาล์มค่ะ
ทางราบยังชันขนาดนี้อยากเห็นจังเลย ว่าทางที่พี่ลูกหาบเรียกว่าทางชันนั้น มันจะชันแค่ไหน
มาถึงจุดนี้วิวที่พวกเราเห็นอยู่ตรงหน้ามันทำให้พวกเรากระดี๊กระด๊ากันสุดๆเพราะมันเป็นวิวที่ดีที่สุดตั้งแต่เราเดินมา
เห็นทะเลหมอกและเห็นภูเขา ในใจก็ได้แต่ภาวนากันว่า ทริปนี้ขอให้ฟ้าเปิด ขอให้ฟ้าเปิด
หลังจากเดินกันมาร่วม 7 กิโล เราก็มาถึงจุดที่เป็นจุดสุดท้ายของทางราบ เพราะ ต่อจากนี้ไปจะเป็นทางชัน
ตรงนี้สามารถเดินลงไปตักน้ำที่ตาน้ำได้แต่ไกลมาก เราส่งตัวแทนลงไป
ตอนแรกลูกหาบจะให้เราลงไปตั้งแคมป์ข้างล่างเพราะใกล้แหล่งน้ำ แต่เราไม่ยอม
เพราะ ถ้าเราตั้งแคมป์ข้างล่าง มันจะเดินไปชมวิวไกลมากและจากการประเมินสถานการณ์
ท้องฟ้าแบบนี้เราต้องนั่งเฝ้าเพื่อให้ได้ภาพ เพราะฟ้าจะปิดและเปิด เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น
ถ้าเราตั้งแคมป์ข้างล่างแล้วเดินไปชมวิวเราอาจจะไม่ได้อะไรเลยก็เป็นได้
คุยกันอยู่ตั้งนานกว่าจะคุยกับลูกหาบเข้าใจ เอาจริงๆลูกหาบเมา โอ้ยยย เพลีย
รออยู่พักใหญ่ สมาชิกที่ลงไปตักน้ำก็กลับมา และบอกว่าทางไกลและรกมากไม่เห็นจะมีที่ตั้งแคมป์ อ้าวยังไงล่ะพี่ลูกหาบ
ดีนะที่พวกเราไม่เชื่อ สมาชิกกลับมาครบ ก็ถึงเวลาตั้งหน้าตั้งตาเดินกันต่อไป มาดูหนทางข้างหน้ากัน
ทางหลังจากนี้ไปต้องบอกเลยว่าโคตรชัน ในรูปอาจดูไม่ชันมาก แต่จริงๆชันระดับ 70 80 องศาได้เลย
ระหว่างทาง พบวัวภูเขาเป็นจำนวนมาก คือหญ้าข้างล่างมันไม่อร่อยเหรอลูก
บ่ายสามกว่าๆพวกเราเดินมาถึงจุดชมวิวอีกจุด ซึ่งใกล้ถึงยอดแล้วล่ะ
วิวตอนนี้ ฟ้าเปิดๆปิดๆ อกจะปิดมากกว่า แต่มีแดด ให้พวกเราได้คลายหนาว จากการเดินตากฝน
สี่โมงนิดๆเราถึงยอดดอย จับระยะทางจากนาฬิกา ได้ระยะทาง 9 กิโลค่ะ
ด้านบนมีเจดีย์ และใกล้ๆมีคล้ายๆโรงเก็บฟืน หรือมันคืออะไรก็ไม่รู้ มีเสื่ออยู่ด้วย พวกเราเลยได้ที่เก็บกระเป๋า ส่วนตัวคนก็ตากฝนตากลมกันไป
สักพักลูกหาบมา เราก็ชวยกันตั้งแค้มป์ กางเต็นท์ เปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะเปียกทั้งตัว
วิวที่เราได้ในเย็นนี้ค่ะ
ป่าหน้าฝนจะเป็นแบบนี้ล่ะคะ ภาพจะดูเขียวๆเปียกๆ
สำหรับวันนี้ ฝนตกๆหยุดๆ เบาๆ หนักๆ วนไป หลังจากทานมื้อเย็น พวกเรากินยาแก้แพ้แก้หวัดแก้ปวดหัว แยกย้ายกันเข้านอน
อย่าถามถึงดาว ไม่มีแน่นอน 5555
ติดตาม DAY 2 ได้ใน comment นะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้