.
เริ่มก้าวเข้าสู่หน้าฝน หลายคนคงคิดอยากแบกเป้ออกไปเที่ยวแนวธรรมชาติ
ออกไปเดินป่า สูดอากาศให้เต็มปอด
.
วันนี้เราจะพาไปซึมซับความชื้น กับฝืนป่าที่อุดมสมบูรณ์
"ดอยหลวงตาก"
.
ผลงานเก่าๆ ที่เขียนไว้
https://pantip.com/topic/36551863
ผาหินกูบ กับรูปแห่งความทรงจำ" เดินป่า 2 วัน หารกันแค่ 1140 บาท #เอาเรื่องเอาราว
....
https://pantip.com/topic/35964513
ดอยหนอก ดอยหลวงพะเยา ลงขันไปกับเราแค่คนละ 2150 บาท
...
https://pantip.com/topic/35604732
เดินป่า 2 วัน เขาหลวงประจวบคีรีขันธ์ กับราคา หารกันแค่คนละ 990 บาท
...
https://pantip.com/topic/35394197
ทริป 13 วัน ชีวิตฉันในพม่า กับราคาแค่ 16000 บาท รวมทุกอย่าง ตั๋วเครื่องบิน กิน นอน เที่ยว
...
https://pantip.com/topic/36874248
เขาเล่ สัมผัสทะเลหมอกสะเดา จ.สงขลา
...
https://pantip.com/topic/36763021
ออกเดินป่า ตามหา น้ำตกสายรุ้งละอองดาว
..
https://pantip.com/topic/37195108
ดอยมณฑา รีวิวเดินป่าแม่สอด
.
.
เอาละครับ ทริปนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเราห่างหายจากการเดินป่าไปกว่า 6 เดือน
ครั้งนี้ เลยรู้สึกอยากลุยเป็นพิเศษ
อยากออกไปกอดผืนป่าให้หายคิดถึง จึงนัดรวมตัวกับก๊วนเพื่อน
.
แล้วมุ่งหน้าสู่ ดอยหลวงตาก
.
.
เรากับเพื่อน นัดกัน เวลา 4 ทุ่มครึ่งที่ย่านบางเขน พร้อมจัดของขึ้นรถตู้
แล้วมุ่งหน้าสู่ ต.ทุ่งกระเซาะ อ.บ้านตาก จ.ตาก
ทริปนี้เราติอต่อเจ้าหน้าที่ และนัดเวลากันไว้ที่เทศบาลตำบลทุ่งกระเซาะ ในเช้าวันเสาร์
.
.
4 ทุ่มครึ่งของวันศุกร์ เราออกเดินทางโดยรถตู้จาก กทม. ถึงทุ่งกระเซาะช่วงประมาณตี 5 พอดี
เพื่อให้ทันตลาดเช้าเล็กๆในอ.บ้านตาก เรากับเพื่อนแวะซื้อของสด หมู ไก่ ผัก เตรียมไว้ทำอาหาร
.

.
บรรยากาศของตลาดเช้า ก็จะประมาณนี้ พอจะมีของให้เลือกซื้อหลายหลาก และราคาถูกมากกกกก
.
หลังจากซื้อของเสร็จสรรพ เราก็ไปที่จุดนัดพบที่เทศบาล เพื่อแบ่งสัมภาระ นัดแนะ จนท.และลูกหาบ
จัดแจงของส่วนกลาง และขึ้นรถกระบะต่อไปยังจุดเริ่มเดินเท้า
.
.
ฝนตกต้อนรับเราตั้งแต่เช้า เสื้อกันฝนหลากสีที่เตรียมมา ก็ถูกควักออกมาใส่กัน
.
.
รถกระบะมาส่งเราถึงจุดเริ่มเดิน เส้นนี้มีระยะทางโดยรวมทั้งหมด 11 กิโลเมตร (ไปกลับ 22 กิโลเมตร)
แต่พี่ จนท.บอกเราว่า ถ้าเดินถึงจุดกางเต้นท์ แค่ 8 กิโลเมตร ส่วนที่เหลืออีก 3 กิโลเมตรคือเดินไปชมวิว
.
หลังจากรู้ระยะทางเดินโดยรวมแบบคร่าวๆ ก็เริ่มบิ้วฝีเท้าของเราได้แล้ว
มาดูกันว่าทริปนี้จะโหด จะเหนื่อย จะอึดสักแค่ไหนกัน
.
.
ทางเดินช่วงแรกๆก็จะประมาณนี้ ยังเป็นทางราบ เดินชิลๆขำๆกันได้อยู่
.
.
.
ระหว่างทาง จะเจอฝูงวัวของชาวบ้านที่เลี้ยงไว้
.
สนใจก็แวะถ่ายรูปกับพวกเขาได้
.
เดินไป ถ่ายรูปไป อัพ facebook ไป
จะบอกว่ามีสัญญาญ AIS บางช่วง ไม่ต้องห่วงเรื่องการติดต่อกับโลก Social
.
.
ระหว่างทางเดินขึ้น ก็จะเจอพืชสัตว์น้อยใหญ่ ออกมาต้อนรับทักทายเรา
.
รูปที่พอจะแอบๆถ่ายมาได้ในช่วงที่ฝนตกๆหยุดๆ ก็จะประมาณนี้
.





.
ต้นไม้ใหญ่มาก
ถ้าเทียบกับขนาดตัวของเราแล้ว ต้องอุทานเลยว่า "โอ้โห หูว ว๊าวว"
.
น่าจะอุทานแบบนั้น
.
เดินไปเรื่อยๆ จะยิ่งเจอทางชัน
ชัน แล้วก็ชัน
ชัน ชัน ชัน ฉันไม่มีภาพแบบชันๆ เพราะถ่ายไม่ทัน มันมัวแต่ชัน
.
.
ทางเดินขึ้นเขาเส้นนี้ ส่วนมากจะเป็นทางขึ้นอย่างเดียว ชันลูกเดียว
ขาขึ้นจึงใช้เวลานานพอสมควร แต่ในทางกลับกัน ขาลงใช้เวลาแค่แปปเดียว
.
เดินมาถึงจุดที่อยู่เกือบๆจะยอดเขา เราจะเริ่มเห็นวิวทิวทัศน์ของผืนป่าชัดเจนขึ้น
.

.
เลยแวะถ่ายรูปกันสักหน่อย
.
มาถึงจุดนี้ก็ไม่ไกลแล้ว
เดินขึ้นเขาอีกนิด จะเจอกับป่าสน
.
ใช่สิ ใครไม่สน ป่าสน แถ่น แถ๊น!!

.
ถัดจากป่าสนไปจะเจอจุดชมวิวจุดแรก
ลมแรงมาก มากชนิดที่ว่า ขนตาปลอมของคุณผู้หญิงอาจปลิวได้!!
.
แต่ภาพที่จุดชมวิว จะสวยประมาณนี้

.
.
.
.
เบิกบาน ประมาณนี้
.
และนี่ก็เหงาไปอี๊กกกกกกก
.
วิวแถวนี้ในวันที่ฟ้าปิด ก็จะเห็นแวบๆ แบบนี้
.
ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอ ก็เดินต่อไปอีกหน่อย จะถึงจุดกางเต้นท์แล้ว
แนะนำให้เลือกทำเลดีๆ เพราะลมแรงมาก
แรงจนแคมป์กลางของเราโดนลมพัดถล่ม
เลือกดีๆ
.

.
เต้นท์ของพวกเรา จะทุลักทุเลแบบนี้
.
หลังจากกางเต้นท์เรียบร้อย ฝนก็ตกปรอยๆไม่หยุด
เลยต้องรีบเปิดครัวทำกับข้าวกันก่อน
เพราะไม่รู้ว่าฝนจะตกแรงขึ้นอีกมั้ย
และไม่รู้ว่าฝนจะหยุดเมื่อไร
เลยต้องหาอะไรทำเพลินๆ
.
เชฟในทริปเรา สร้างสรรค์อาหารรสชาติดีๆแบบนี้
รับรองว่าอร่อยจนต้องเลียช้อน
.

.
เราทุกคนร่วมมือ ร่วมใจกันทำอาหาร
คนละไม้คนละมือ ช่วยกันปรุง
อร่อยแน่ เพราะเรามี รสดี ครัวครบรส!!
.
.
ที่จุดกางเต้นท์ ลูกหาบจะเป็นคนกรอกน้ำมาให้เราใช้ในการทำอาหาร ดื่มกิน เลยหมดห่วงเรื่องนี้ไปได้
.
.
หุงข้าวก็ต้องใส่เสื้อกันฝนนะเอออ
.
.
ต้มยำรวมมิตรร้อนๆสักหม้อมั้ยละ
.
.
กะเพราทูน่าก็พร้อมเสริฟนะ
.
.
ยำทูน่า
.
.
ต้มข่าไก่
.
.
กะหล่ำผัดน้ำปลา
.
.
ผัดผักคะน้า
.
.
แล้วก็ล้อมวงกันกินมื่อเย็น
.
อิ่มแล้วก็เก็บกวาด ล้างจาน แยกขยะให้เรียบร้อย
.
แล้วก็เช็คดีๆอีกที ว่ามีรอยที่โดนทากกัดบ้างรึเปล่า...
.
.
ผลการเช็ค พบว่า
โดนเข้าแล้วจ้ะ
.
นี่ขนาดป้องกัน ใส่ถุงเท้า ถุงกันทากแล้วนะ ยังเล็ดลอดมากัดจนได้
.
สำหรับคนที่จะมาเดิน ก็ดูดีๆเน้อออออออ ทากดุ
.
ติดพลาสเตอร์เสร็จเข้าเต้นท์ แล้วล้อมวงทำกิจกรรมสำหรับกลางคืน
.
..................................................................
..................................................................
.
เช้าวันอาทิตย์ ตื่นมาพร้อมกับความสดชื่น ชื้นเหมือนเดิม
เรารีบจัดการล้างหน้า แปรงฟัน ต้มน้ำร้อน
และยืนจิบชาแบบผู้ดี
.

.
.
ผู้ดีป่ะ
.
หลังจากจิบชากับบรรยากาศหมอกหนาๆแล้วเดินขึ้นไปอีกหน่อย เพื่อชมวิวที่ยอดดอยหลวงตาก
และจะบอกว่า ลมแรงมาก ฟ้าก็ปิด แต่ก็ฟินอยู่ดี
.
.
ขอถ่ายรูปบรรยากาศเก็บไว้หน่อยสิ
.
.
สูดอากาศดีๆให้เต็มปอด
.
.
ทิ้งตัวลงนอน ประหนึ่งว่าอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์
.
.
ดึงหน้านิดนึง อ่ะ
.
วิวโดยรวมของป่าหน้าฝนก็จะชื้นๆประมาณนี้
.
อิ่มหนำสำราญกับบรรยากาศแล้ว ก็ควรแก่เวลา
กลับไปทำมื้อเช้า เก็บของ เตรียมเดินลง
.
.
.
สักรูปก่อนเดินลง
.
สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในตอนเก็บของ คือถุงดำไว้ใส่ขยะ
เอาขึ้นมากินได้ ก็ควรเอาลงไปทิ้งได้นะจ้ะเด็กๆ อย่าให้ต้องดุ วินัยง่ายๆ
.

.
ที่บอกว่าชัน ฉันไม่ได้โกหก ชันจริงจริ๊งงง
.
.
เดินลงเรื่อยๆตามทางเดิมที่ขึ้นมา ใช้เวลาน้อยกว่าเดินขึ้น
.
.
ระหว่างเดินลง แวะถ่ายรูปอีกก็ได้ ไม่ว่า
.
ลงมาถึงข้างล่างแล้ว ก็ถ่ายรูปกับป้ายทางขึ้นสักรูปนึง
.
ถุงสีฟ้า กับถุงดำนั้นคือขยะที่พวกเราช่วยกันแบกลงมาจ้า
เที่ยวป่า ก็ต้องรักษ์ป่าด้วยนะ
เอาละ เดินถึงข้างล่างแล้วก็จบแบบห้วนๆเลยละกัน
เจอกันใหม่ทริปหน้า บาย