ห่างหายจากการเดินป่ามาหลายเดือน ถึงเวลามาเยือนภูเขาอีกครา..
.

เวลาแห่งการเดินป่าหน้าฝน ได้เข้ามาอีกแล้วครับ
ทริปนี้เราเลือกไปที่หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านทุ่งเพล เส้นทางเดินป่า "ผาหินกูบ"
.
เราใช้เวลาในการจองล่วงหน้าประมาณ 2 สัปดาห์
จัดเตรียมของส่วนกลาง ของส่วนตัว และจัดการเรื่องรถตู้ที่จะใช้ในการเดินทาง
.
เมื่อถึงวันนัดแนะ เราก็มาพร้อมกันที่จุดนัดพบย่านบางเขน เวลาตี 2 (02.00 น.)
ออกเดินทางโดยรถตู้เหมา ออกตี 2 ถึง จันทบุรีประมาณ 6 โมงเช้าพอดี
ทริปนี้เราไปกัน 11 คน ซุกซนอลม่านพอสมควร
.
.
เวลาตี 2 เราจัดของขึ้นรถตู้ แล้วมุ่งหน้าสู่หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านทุ่งเพล อ.มะขาม จ.จันทบุรี
ขึ้นรถแล้วหลับเอาแรงกันก่อนนะ z Z
.
.
6 โมงเช้าโดยประมาณ เราถึงจันทบุรี ก็แวะหาตลาดเช้าในตัวอำเภอ วนๆรถหาไป
เพราะต้องซื้อของสด หมู เห็ด เป็ด ไก่ไปทำกับข้าว
และภาพตลาดเช้าที่เราเจอก็จะเป็นเช่นนี้

.
"สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น"
นี่หรอตลาดเช้า คุณพระคุณเจ้า มันช่างโล่งอะไรเยี่ยงนี้???
.
เดินๆวนไป ก็พอจะมีอะไรให้ซื้อบ้าง เราเดินเลือกผัก เลือกไก่ไว้ไปทำอาหารกินในป่า

.

.
และเลือกมื้อเที่ยง เป็นข้าวเหนียวหมูปิ้ง เน้นพกพาสะดวก กินกลางป่ากลางดง

.
ซื้อของครบ ก็รีบไปที่หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านทุ่งเพล เพราะนัด จนท.ไว้ 8 โมงเช้า
.
มาถึงก็จะเจอบรรยากาศแบบนี้ มีบ้านพักรับรอง สำหรับคนที่มาถึงก่อน เปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ หรือจะนอน ก็เอาที่สบายใจเลยครับ

.
เก็บของเข้าที่ จัดแจงของลงกระเป๋า ขึ้นเป้ แล้วเตรียมเดิน
.
.

.
และนี่คือโฉมหน้าของผู้ผ่านเข้ารอบ ได้เดิน final walk
Walk สู่ยอดผาหินกูบ!!!
.
ถึงเวลาเริ่มเดิน เดินวนไปจ่ะ

.

.
ไม่ไป ไม่รู้ ไม่ดู ไม่เห็น
ฮึฮึ ไปสิ เดี่ยวรู้เลย!!

.
พอเริ่มเดิน มันก็จะทึบๆประมาณนี้

.
แต่มีสละให้กินตลอดทาง
สัตว์กินได้ คนก็กินได้ เออเอา!!

.
ทางเดินค่อนข้างชัด แต่ป่าก็ทึบพอสมควร
(และไม่ควรเดินเองเพียงลำพังนะจ่ะ ควรอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่)

.
เดินเรียงแถวกันไป คุยกันไป ไม่เหนื่อยเล้ยยยยย จริงจรี๊งงงๆๆๆ
.
ทางเดินจะมีลำธาร และมีน้ำให้กรอกเป็นช่วงๆ ขวดน้ำเตรียมไปคนละ 2 ขวด น่าจะเพียงพอ

.
น้ำใสเชียวแหละ

.
ใครใคร่เล่น ก็เล่นได้นะ

.
นั่งพักหายเหนื่อย ก็เดินต่อไป อย่าได้แคร์

.
เห็ดที่เจอระหว่างทาง "เห็ดระโงกสีแดง"
.
.
เดินไปสักระยะ ก็จะถึงจุดพักกินข้าว
เหนื่อยเต็มกำลัง ต้องการหมูปิ้งที่ซื้อจากตลาดเช้า เอาเข้ากระเพาะอาหาร เดี่ยวนี้!!

.
หิวมาก กินกันจนไม่สนสรรพสิ่งใดๆ

.
จุดนี้ ที่เราพักกินข้าว

.
มีน้ำให้กรอก สดชื่น เย็นแบบได้สัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง

.
อิ่มแล้ว ก็ลองสำรวจตัวเอง เขาเล่าว่า "ที่ นี่ ทาก ดุ" !!

.
แล้วเราก็พบกับความจริงอันประเสริฐ

.
ทากได้ดื่มด่ำเลือดสีแดงของเราไปแล้ว

.
จับตัวการได้ซะที ถ่ายรูปขึ้นบัญชีไว้
.
.
หลังจากกินข้าวเต็มพลังเสร็จ ต่อจากนี้ จะมีแต่......"ความชัน" !!!
ชันอย่างต่อเนื่อง ภาพบางส่วนอาจไม่ได้เผยแพร่
เพราะหมดแรงถ่ายละจ่ะ
อยากเห็นว่าชันแค่ไหน ไปเดินเอาเองนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ

.

.

.

.

.
ครึ้มๆฝน แต่โชคดีที่ตอนเดินชึ้น ฝนไม่ตก อิอิ

.
ถ้าเดินเจอทางเข้าถ้ำ แปลว่าใกล้ถึงจุดกางเต้นท์แล้ว

.
แวะถ่ายรูปกันสักหน่อย

.

.
เดินลอดถ้ำไปนิดนึง ก็จะชันอีกนิดหน่อย

.
.
ผ่านจุดนี้ไป ก็ใกล้ถึงที่กางเต้นท์ของเราแล้ว
ผาหินกูบ มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด
ที่นอนของเรา จะใช้ฟายชีสและกราวชีสกางไว้ แล้วนอนปลาทูกัน
.
เราเดินถึงจุดกางเต้นท์ เวลาประมาณบ่ายโมงครึ่ง (13.30)

.

.
เอาถุงเท้า เสื้อผ้า มาตากให้หายเหม็นเหงื่อกันเถอะ

.
จัดแจงที่นอนกันเสร็จ แขกไม่ได้รับเชิญของเรา ก็มาอีกครั้ง..

.
ดูดเลือดจนอิ่มกันเลยนะ
.
หลังจากเอาทากออกไปจากชีวิต แล้วเราก็เดินชมวิวซึบซับพลังงานธรรมชาติ

.

.
วิวยามบ่ายก็จะประมาณนี้

.
ประมาณนี้

.
ประมาณนี้

.
แล้วโพสท่าแบบนี้

.
แบบนี้

.
แบบนี้
.

.

.
เดินถัดขึ้นไปอีกหน่อย จะมีจุดชมวิวอีกจุด
มีเชือกให้ไต่ขึ้นไป ครบทุกรส

.

.

.
และก็มีต้นไม้ให้ปีน

.
ถึงจุดนี้ มีอีกหลายมุมให้เลือกถ่าย

.

.
จัดมุม จัดท่า จัดองค์ประกอบ

.
"ขวดทรายแห่งการเดินทาง" เอาไปทุกทริปจ้า

.

.
อีกมุมที่ไม่ควรพลาด

.
มันก็จะผจญภัยหน่อยๆ

.

.
วิวขนาดนี้ ถ้าไม่เดินเท้าขึ้นมา ไม่มีทางได้เห็น
คุ้มค่ากับการเดินมาจริงๆ

.
แต่ละคนจะเลือกมุมของตัวเอง

.

.

.

.
หลังจากได้รูปที่พอใจ ถึงเวลาของมื้อเย็นแล้ว
เดินกลับเต้นท์ไปทำอาหาร โชว์ฝีมือเชฟกลางป่ากันเถอะเรา

.
บ้างก็ทำอาหาร บ้างก็แอบหลับ เพราะเหนื่อยมาก ฮ่าๆ

.
ถึงเวลามื้อเย็น
สิ่งแรกที่ต้องทำ คือหาฟืนมาก่อไฟ

.
และนี่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ นี่คือเพื่อนในทริปเรา
.
ก่อไฟเสร็จ ก็จัดการเตรียมอาหาร ทำให้นึกถึงตอนเข้าค่ายลูกเสือกันเลยทีเดียวเชียว

.

.
สวมวิญญาณเชฟภัตตาคารระดับ 5 ดาว

.

.
รสดี ครัวครบรส
.

.

.

.
และนี่คืออาหารที่พร้อมเสริฟ
รสชาติต้องอร่อยถูกใจ เพราะใส่ผงชูรสไปครึ่งซอง ฮ่าๆ
.
หลังจากนั้นทุกคนก็มาพร้อมกันล้อมวง กินข้าว
มันอาจไม่ใช่อาหารที่รสชาติดีที่สุด แต่มันเป็นอาหารที่ทุกคนร่วมใจกันทำมากที่สุด แหม่ะ เอาเรื่องเอาราว!!
.
.
.
อิ่มหนำจากอาหาร เราก็ Welcome Drink ล้อมวงกันสนุกสนาน
.
พอกินหอมปากหอมคอ ก็ขอตัวหลับก่อนละกัน
รุ่งเช้าจะตื่นมาสูดอากาศให้เต็มปอด พร้อมกับกอดทะเลหมอกให้หายคิดถึง
"
v
v
v
v
(อ่านต่อด้านล่างเน้อ)
[CR] "ผาหินกูบ กับรูปแห่งความทรงจำ" เดินป่า 2 วัน หารกันแค่ 1140 บาท #เอาเรื่องเอาราว
.
เวลาแห่งการเดินป่าหน้าฝน ได้เข้ามาอีกแล้วครับ
ทริปนี้เราเลือกไปที่หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านทุ่งเพล เส้นทางเดินป่า "ผาหินกูบ"
.
เราใช้เวลาในการจองล่วงหน้าประมาณ 2 สัปดาห์
จัดเตรียมของส่วนกลาง ของส่วนตัว และจัดการเรื่องรถตู้ที่จะใช้ในการเดินทาง
.
เมื่อถึงวันนัดแนะ เราก็มาพร้อมกันที่จุดนัดพบย่านบางเขน เวลาตี 2 (02.00 น.)
ออกเดินทางโดยรถตู้เหมา ออกตี 2 ถึง จันทบุรีประมาณ 6 โมงเช้าพอดี
ทริปนี้เราไปกัน 11 คน ซุกซนอลม่านพอสมควร
.
.
เวลาตี 2 เราจัดของขึ้นรถตู้ แล้วมุ่งหน้าสู่หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านทุ่งเพล อ.มะขาม จ.จันทบุรี
ขึ้นรถแล้วหลับเอาแรงกันก่อนนะ z Z
.
.
6 โมงเช้าโดยประมาณ เราถึงจันทบุรี ก็แวะหาตลาดเช้าในตัวอำเภอ วนๆรถหาไป
เพราะต้องซื้อของสด หมู เห็ด เป็ด ไก่ไปทำกับข้าว
และภาพตลาดเช้าที่เราเจอก็จะเป็นเช่นนี้
"สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น"
นี่หรอตลาดเช้า คุณพระคุณเจ้า มันช่างโล่งอะไรเยี่ยงนี้???
.
เดินๆวนไป ก็พอจะมีอะไรให้ซื้อบ้าง เราเดินเลือกผัก เลือกไก่ไว้ไปทำอาหารกินในป่า
และเลือกมื้อเที่ยง เป็นข้าวเหนียวหมูปิ้ง เน้นพกพาสะดวก กินกลางป่ากลางดง
ซื้อของครบ ก็รีบไปที่หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านทุ่งเพล เพราะนัด จนท.ไว้ 8 โมงเช้า
.
มาถึงก็จะเจอบรรยากาศแบบนี้ มีบ้านพักรับรอง สำหรับคนที่มาถึงก่อน เปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ หรือจะนอน ก็เอาที่สบายใจเลยครับ
เก็บของเข้าที่ จัดแจงของลงกระเป๋า ขึ้นเป้ แล้วเตรียมเดิน
.
.
และนี่คือโฉมหน้าของผู้ผ่านเข้ารอบ ได้เดิน final walk
Walk สู่ยอดผาหินกูบ!!!
.
ถึงเวลาเริ่มเดิน เดินวนไปจ่ะ
ไม่ไป ไม่รู้ ไม่ดู ไม่เห็น
ฮึฮึ ไปสิ เดี่ยวรู้เลย!!
พอเริ่มเดิน มันก็จะทึบๆประมาณนี้
แต่มีสละให้กินตลอดทาง
สัตว์กินได้ คนก็กินได้ เออเอา!!
ทางเดินค่อนข้างชัด แต่ป่าก็ทึบพอสมควร
(และไม่ควรเดินเองเพียงลำพังนะจ่ะ ควรอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่)
เดินเรียงแถวกันไป คุยกันไป ไม่เหนื่อยเล้ยยยยย จริงจรี๊งงงๆๆๆ
.
ทางเดินจะมีลำธาร และมีน้ำให้กรอกเป็นช่วงๆ ขวดน้ำเตรียมไปคนละ 2 ขวด น่าจะเพียงพอ
น้ำใสเชียวแหละ
ใครใคร่เล่น ก็เล่นได้นะ
นั่งพักหายเหนื่อย ก็เดินต่อไป อย่าได้แคร์
เห็ดที่เจอระหว่างทาง "เห็ดระโงกสีแดง"
.
.
เดินไปสักระยะ ก็จะถึงจุดพักกินข้าว
เหนื่อยเต็มกำลัง ต้องการหมูปิ้งที่ซื้อจากตลาดเช้า เอาเข้ากระเพาะอาหาร เดี่ยวนี้!!
หิวมาก กินกันจนไม่สนสรรพสิ่งใดๆ
จุดนี้ ที่เราพักกินข้าว
มีน้ำให้กรอก สดชื่น เย็นแบบได้สัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง
อิ่มแล้ว ก็ลองสำรวจตัวเอง เขาเล่าว่า "ที่ นี่ ทาก ดุ" !!
แล้วเราก็พบกับความจริงอันประเสริฐ
ทากได้ดื่มด่ำเลือดสีแดงของเราไปแล้ว
จับตัวการได้ซะที ถ่ายรูปขึ้นบัญชีไว้
.
.
หลังจากกินข้าวเต็มพลังเสร็จ ต่อจากนี้ จะมีแต่......"ความชัน" !!!
ชันอย่างต่อเนื่อง ภาพบางส่วนอาจไม่ได้เผยแพร่
เพราะหมดแรงถ่ายละจ่ะ
อยากเห็นว่าชันแค่ไหน ไปเดินเอาเองนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
ครึ้มๆฝน แต่โชคดีที่ตอนเดินชึ้น ฝนไม่ตก อิอิ
ถ้าเดินเจอทางเข้าถ้ำ แปลว่าใกล้ถึงจุดกางเต้นท์แล้ว
แวะถ่ายรูปกันสักหน่อย
เดินลอดถ้ำไปนิดนึง ก็จะชันอีกนิดหน่อย
.
ผ่านจุดนี้ไป ก็ใกล้ถึงที่กางเต้นท์ของเราแล้ว
ผาหินกูบ มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด
ที่นอนของเรา จะใช้ฟายชีสและกราวชีสกางไว้ แล้วนอนปลาทูกัน
.
เราเดินถึงจุดกางเต้นท์ เวลาประมาณบ่ายโมงครึ่ง (13.30)
เอาถุงเท้า เสื้อผ้า มาตากให้หายเหม็นเหงื่อกันเถอะ
จัดแจงที่นอนกันเสร็จ แขกไม่ได้รับเชิญของเรา ก็มาอีกครั้ง..
ดูดเลือดจนอิ่มกันเลยนะ
.
หลังจากเอาทากออกไปจากชีวิต แล้วเราก็เดินชมวิวซึบซับพลังงานธรรมชาติ
วิวยามบ่ายก็จะประมาณนี้
ประมาณนี้
ประมาณนี้
แล้วโพสท่าแบบนี้
แบบนี้
แบบนี้
.
เดินถัดขึ้นไปอีกหน่อย จะมีจุดชมวิวอีกจุด
มีเชือกให้ไต่ขึ้นไป ครบทุกรส
และก็มีต้นไม้ให้ปีน
ถึงจุดนี้ มีอีกหลายมุมให้เลือกถ่าย
จัดมุม จัดท่า จัดองค์ประกอบ
"ขวดทรายแห่งการเดินทาง" เอาไปทุกทริปจ้า
อีกมุมที่ไม่ควรพลาด
มันก็จะผจญภัยหน่อยๆ
วิวขนาดนี้ ถ้าไม่เดินเท้าขึ้นมา ไม่มีทางได้เห็น
คุ้มค่ากับการเดินมาจริงๆ
แต่ละคนจะเลือกมุมของตัวเอง
หลังจากได้รูปที่พอใจ ถึงเวลาของมื้อเย็นแล้ว
เดินกลับเต้นท์ไปทำอาหาร โชว์ฝีมือเชฟกลางป่ากันเถอะเรา
บ้างก็ทำอาหาร บ้างก็แอบหลับ เพราะเหนื่อยมาก ฮ่าๆ
ถึงเวลามื้อเย็น
สิ่งแรกที่ต้องทำ คือหาฟืนมาก่อไฟ
และนี่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ นี่คือเพื่อนในทริปเรา
.
ก่อไฟเสร็จ ก็จัดการเตรียมอาหาร ทำให้นึกถึงตอนเข้าค่ายลูกเสือกันเลยทีเดียวเชียว
สวมวิญญาณเชฟภัตตาคารระดับ 5 ดาว
รสดี ครัวครบรส
.
และนี่คืออาหารที่พร้อมเสริฟ
รสชาติต้องอร่อยถูกใจ เพราะใส่ผงชูรสไปครึ่งซอง ฮ่าๆ
.
หลังจากนั้นทุกคนก็มาพร้อมกันล้อมวง กินข้าว
มันอาจไม่ใช่อาหารที่รสชาติดีที่สุด แต่มันเป็นอาหารที่ทุกคนร่วมใจกันทำมากที่สุด แหม่ะ เอาเรื่องเอาราว!!
.
.
.
อิ่มหนำจากอาหาร เราก็ Welcome Drink ล้อมวงกันสนุกสนาน
.
พอกินหอมปากหอมคอ ก็ขอตัวหลับก่อนละกัน
รุ่งเช้าจะตื่นมาสูดอากาศให้เต็มปอด พร้อมกับกอดทะเลหมอกให้หายคิดถึง
"
v
v
v
v
(อ่านต่อด้านล่างเน้อ)