รีวิว เดินครบ 5 ดอย !!!! ในรอบ1 ปี
1.ดอยมะม่วง สามหมื่น( ความยาก 7.5 / 10)
2.ม่อนจอง ( ความยาก 3/10 )
3.เขาเจ็ดยอดพัทลุง (ความยาก 8/10)
4.ดอยหลวง ดอยหนอกพะเยา ( ความยาก 7.5/10)
5.ภูสอยดาว (ความยาก 6.5/10)
ด้วยความหลวมตัวมาพร้อมกับความตั้งใจจริงๆตั้งแต่แรกคือ อยากให้โอกาสตัวเองเดินให้ครบ 10 เขา สักครั้งในชีวิต ทั้งไทย และ ต่างประเทศ พอมาถึงครึ่งทางแล้วก็อยากรีวิวไว้สักหน่อย เผื่อใครอยากลองเอาตัวเองไปลองทำอะไรใหม่ๆ เจอเพื่อน สังคมใหม่ๆ หรือ เจอกับบรรยากาศใหม่ๆ ลดอาการหัวร้อน และบำบัดจิตไปในตัว เพราะทุกครั้งที่มีปัญหาก็จะหนีไปซมซานกับป่าไม้ทุกครั้งให้ปวดตัว.
เริ่ม!!!!!! 🏞💚💐🌿🪵🍃🌾
1.ดอยมะม่วงสามหมื่น (จ.ตาก) ระยะทางประมาณ 9.8 กม. (ขึ้นอย่างเดียว)
ง อันนี้คือตาแตกมาก เข่าและตีนก็แตกเช่นกัน ด้วยความทริปแรกอะแกรร ก็จะมีความแบบรองเท้าสวย ซื้อด้วยความอินโนเซ้นต์ พื้นนิ่มๆ เป้เเพงๆ แบบกันน้ำ เอามาทำไมก๊อนนนน เพราะไม่ได้เดินแบก ฮ่าๆ.
และมาแบบงง ๆ เพราะ ตั้งใจมาทีลอซู และ ล่องแก่ง คือนึกว่ามาชมธรรมชาติ แล้วก็เป็นการเที่ยวป่าคนเดียวด้วยครั้งแรก และดูคนที่ร่วมทริปมาก็ดูชิวๆ ไม่ได้เตรียมอะไรมาใหญ่โต แต่จำได้ว่านั่งรถ 2 แถวจากรีสอร์ทที่นอนคืนแรกไปจุดตั้งแคมป์นานมาก - จำได้ว่าไปกางเต๊นท์นอนตรงไร่มะละกอ และเช้าปุ๊ปก็เดินปั๊บ ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 6 ชั่วโมงนิดๆ ตอนนั้นที่ว่าออกกำลังกายมานะ ยังแทบตาย คือมันเป็นทางขึ้นชันๆ และป่ารกๆ ที่มีแต่หินแข็งๆ ใหญ่เล็กสลับกัน เล่นเอาซะฟ่าเท้าระบมไปเเล้วครึ่งทาง พอจะถึงยอด ถึงยอด ก็ไม่ถึงสักที เพราะมันมีหลายเนินมาก หลอกกันแล้วหลอกกันอีก คนที่เดินสวนมาก็แบบ "สู้ๆนะคะ" - ยิ้มให้กันแห้งๆ- แต่บุญบาปเอาจริงๆ ระหว่างทางคือสวยมาก ๆ เลยนะ เป็นเนินทุ่งหญ้าเทเลทับบี้ สลับ กับต้นไม้หลอมแหลม อากาศเย็นๆ เดินสวนตัดกันกับต้นหญ้าปะเอวถึงอก.
พอขึ้นไปถึงข้างบนดอยมะม่วง 30,000 คือ กลับเฉยๆ มากกว่าเพราะ ระหว่างทางคือสวยพีคมากกว่า แต่ข้างบนจะเป็นอารมณ์แบบ ไม่มีอะไรมาก มีป้ายสุดสูงสุด แล้วก็นั่งกินข้าวชมวิวหมอกโปะยอดภูเขา กับ ดื่มด่ำความสำเร็จเล็กๆที่ขึ้นมาถึงยอด แต่ถ้าใครไปก็แนะนำ ว่า ให้พยายามขึ้นไปให้ถึงสามหมื่นนะ หลายคน กลับไปตอนถึง หมื่นห้า อยากให้ลองไปให้สุดดูแหละ มันก็ฟินมาก และขนาดเป็นทริปที่ไม่ได้แบกของเอง ก็คือลงมาแล้วเข่าพังไปเป็นอาทิตย์เพราะขาลงคือ หิน ที่ชันแบบเกือบจะ 90 องศา จะขึ้นจะลงแต่ละก้าวคือ หลับตาแล้วฮึบหลายรอบอยู่. ขากลับก็เเวะไปดูน้ำตกรูปหัวใจ แช่เท้าพักก่อน ที่จะลงต่อไปจุดตั้งแคมป์
มันเป็นดอยที่โหดติดอันดับท๊อปๆ เลย แล้วคือ ดอยแรกกูงะะ ใจก็แบบ เลิก คือ เลิกแน่ๆ ไม่เอาเเล้ว จะไม่พาตัวเองมาลำบากแบบนี้อีกแล้ว.
เอาเป็นว่าแนะนำว่าควรไปปลายๆ หน้าฝน ( ตุลา คือจะดีมากเลย ) เพราะน้ำตกจะสวย อากาศไม่ร้อนเกินไป แต่ถ้าฝนตกนี่คิดว่าน่าจะลื่นมาก เพราะมันเป็นหินทั้งนั้นเลย ก็ต้องดูรองเท้าดีๆและที่สำคัญพวกน้ำมันมวย ซื้อไว้รอนวดเลย
ดอยนี้อะ เหมาะกับสายลุยโดยเฉพาะเลย ข้อดีคือ ไม่ต้องแบกของเลยจ้า เพราะส่วนใหญ่จะตั้งแค้มป์ แล้วเดนขึ้นตอนเช้า เดินตัวเปล่าๆ กับน้ำ และ อาหาร หรือใครอยากจะเอากาแฟไปดริปข้างบนก็ชิวๆไปเลย.
💚💚💚
2. ม่อนจอง เชียงใหม่ (ระยะทาง 4 กม.)
แนะนำ เลย สำหรับคนที่อยากเริ่ม เหมาะมาก ควรจะเอาไปเดินเป็นเขาแรกๆ
พอว่าจะเลิกๆ - -' เขาก็มาเรียกตอนเหงา ม่อนจอง จ.เชียงใหม่ เป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากๆ เพราะหลังจากซมซานกับดอยมะม่วงสามหมื่นก็อยากหาอะไรสวยๆ ไม่ยากเย็นบ้าง
ซึ่ง อันนี้คือ 🚨 - ควร - ไป 🚨. ใช้เวลาเดินขึ้น 2-3 ชั่วโมงเอง ไม่รวมเวลานั่งรถไปจุดเริ่มต้น
กับผัวก็ได้ กับคนที่คุยเฉยๆ หรือคุยกับแบบ ไม่คิดอะไรกับ จะกับเพื่อน หรือคนเดียว ก็ได้เพราะมันสวยแบบสับ สวยตาแตก ทางเดินคือ ง่ายเลย ไม่อยากแบกของก็มีลูกหาบแบกให้ ระหว่างทางก็เดินเรื่อยๆ ชมต้นไม้สวยๆ ดอกไม้ดีๆ มีขรุขระให้พอเป็นพิธีว่าแบบ เอ้อออ! มาเดินป่านะ และที่สำคัญ เข่าไม่แตกจ่ะ เพราะมันมีทางราบเยอะเลย 4 โลเอง จะมีพีคๆหน่อยคือเนินหมาหอบ แต่นี่ผ่านอีมะม่วงมาละ เนินมาหอบคือแทบวิ่งขึ้นเนินไปได้เลย ซึ่งถ้าไม่อยากหอบ มันมีทางอ้อมนะ แต่ มาแล้วอะ ก็หอบหน่อยเหอะ.
พอขึ้นมาถึงข้างบนคือ มันสวยมาก มันเหมือนลานเทเลทับบี้เลย ถ่ายรูปเป็น หมื่น และ เเคปมุมไหนก็สวยไปหมด ตรงสนามกอล์ฟช้าง คือไปยืนเรียงๆถ่ายรูปกันกูนึกว่า Ad Givenchy! ต่อให้มีคนยืนออกันเต็มไปหมด ก็คือสวยมากๆอะ นี่ไปตอน ต้นเดืน ธค. ก็จะเป็นทุ่งหญ้าเขียวๆ แต่ถ้าไป มค หรือ กพ ก็จะเป็นทุ่งหญ้าสีทอง แต่ช่วง กพ เจ้าหน้าที่ก็จะให้ระวังช้างป่า ก็ต้องถามทางเจ้าหน้าที่หรือคนจัดทริปดีๆ.
นี่ตั้งใจว่าก็อยากกลับไปซ้ำทุ่งหญ้าสีทองสักหน่อย อากาศคือ หนาวมาก เพราะ ตอนเช้ามืดนะมันติดลบไปยัน -14 องศาเลย โนแกงเลย เพราะตอนแรกแบบนึกว่า -5 องศา แต่เพราะว่าตอนนั้นโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณเลยเข้าใจผิด พอเช็คอีกทีมีสัญญาณก็เลยรู้เลยว่า มันลงไปถึงจุดนั้นจริงๆ เตรียมเบาะรองนอน และ ถุงนอนหนาๆหน่อยก็ดี เสื้อกันหนาว ถุงเท้าหนาๆ และกล้องถ่ายรูป จบ
เสียอยู่อย่างเดียว นั่งรถกะบะจากอมก๋อย ไปจุดเริ่มเดินนานมาก เกือบ 2 ชม. ได้มั้ง. ระหว่างทางก็จะเห็นจีวรพันต้นไม้ด้วย ดูเป็นอะไรที่ขลังๆ ถ้าเลี่ยงคนเยอะๆ ควรไป วันธรรมดา
เป็นเขาที่แนะนำ สำหรับมือใหม่ มือเริ่มต้น มือโปร หรือ ที่ชอบเดินอยู่แล้ว เหมาะกับทุกสายงานอาชีพ เพราะมันสวยมากจริงๆ
ฉากที่ประทับใจที่สุดคือตอนพระอาทิตย์ตก แค่ช่วงพริบ ตา แล้วหมอกลงพร้อมลมแรงๆ คือ งงง หาแบบนี้ได้ที่ไหนอีก เป็นดอยเดียวที่อยากกลับไปซ้ำอีก. ห้องน้ำคือ ไม่ได้นะ 555 ด้วยความที่คนมันเยอะอะ ถ้าจะทำธุระหนักก็ได้แหละ แต่ธุระเบากับอาบน้ำเอาไว้ไปอาบข้างล่างเนอะ.
ปล. อุณภูมิปลายปี 2020 เป็นปีที่หนาวมากเป็นพิเศษเพราะ กทม ก็หนาวมากๆ
💚💚💚
3.เขาเจ็ดยอดพัทลุง 2 วัน 1 คืน ระยะทางคือ ดูแต่ละที่บอกไม่เหมือนกันเลย แต่ ที่วัดได้กับเพื่อน คือ ไปกลับ 28 กม. เฉลี่ยก็ ขึ้น 14 ลง อีก 14 กม. ใช้เวลาเดินขึ้น 8 ชั่วโมงจ่ะ ลง อีก 5 ชั่วโมง เพราะสับกันตีนแตก
เค้าว่ากันว่าป่าใต้เหมือนมีมนต์สะกด จริง มันสวยมาก สมบูรณ์มากๆ ชุ่มฉ่ำ และ จรรโลงใจมาก ก้อนหิน ต้นไม้คือใหญ่ยักเป็นร้อยปีเหมือนย้อนกลับไปยุคจูราสสิคเลย.
ทริปนี้ไปกับเพื่อนซี้สมัยเด็กน้อย Kung Kings ดูรูปโปรไฟล์มันสิ ยังอยู่ 7ยอดอยู่เลย ไม่ต้องบอกก็คือประทับใจมาก เป็นครั้งแรกที่นอนเปลสบายกว่าที่คิดมากๆ ตะกุกตะกักมากกับการผูกเปลกับต้นไม้ เสี่ยงว่าหลังจะแอ๊ก กลางดึกหรือเปล่า.
ทริปนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ไปกับเพจ Movepa กับกรุ๊ปเล็กๆ 9 คนเอง ที่สมาชิกร่วมทีมทุกคนคือสกิลการเดินป่าโหดมาก แถมยังได้ไปเดินกลุ่มแรกหลังจาก เปิด Lock down อีกครั้ง บอกเลยว่า สะใจสุด เพราะทางปิด เดินๆอยู่ต้นไม้ล้มโคร่มอีก สนุกมาก และ เพื่อนร่วมทริปก็โหดๆ เดือดๆ ฮาๆ กันหมดเลย มันรวมๆเลยกลายเป็นความประทับใจที่แบบแทบจะที่สุด จุดกลางเปล ก็เป็นตำแหน่งที่ลมโกรก ตลอดเวลา ดึกๆจะหลอนๆหน่อย ด้วยความที่มีกรุ๊ปเดียว เลยชิวกันมากๆ มีลำธารสะอาดๆเล็กๆ ให้ล้างหน้าแปรงฟันตอนเช้า อากาศตอนเช้าคือ ป่าดงดิบเลยจ้า รกๆ เถาวัลย์เยอะๆ หมอกปรอยๆ กับหยาดน้ำค้าง

ทั่วไปหมด.
ระหว่างทางก็ชื้นๆ มีทากบ้าง ตามน้ำตก (ไปช่วงหน้าร้อน แห้งๆ) ถ้าหน้าฝนก็ตัวใครตัวมันจ้า ต้องพยายามเลี่ยงอย่าไปนั่งบนหินใกล้ๆน้ำตกนาน น้องทากจะเหมือนโดนปลุกให้คืนชีพ นี่โดน ไป 1 ก็คือหลอนไปเลย ก็เลยตลอดทางก็เดินเรื่อยๆ มีชันบ้าง ราบบ้าง มีน้ำจากน้ำตกให้เติมดื่มตลอด และ ก็เป็นน้ำที่ใสสะอาด จนเก็บน้ำมาเป็นที่ระลึกไว้จนถึงทุกวันนี้.
จากจุดกางเต๊นท์ต้องเดินไปอีกหน่อยเพื่อให้ถึงเจ็ดยอด ก็เดินตัวเปล่าไป พอไปถึงเจ็ดยอดก็คือ ป่าใต้แหละ ชุ่มชื้น ต้นไม้สวย มีหินก้อนใหญ่ที่ผลัดกันขึ้นไปยืนถ่ายรูป พอในทริปมีพี่ทอปที่เป็นตากล้องไปด้วยก็เลยได้รูปสวยๆกันคนละ shot ยิ่งขาลงยิ่งมันส์ เพราะ ไม่ได้เดิน แต่วิ่ง เพราะอยากจะถึงจุดพักเร็วๆ และอยากอาบน้ำด้วย พอมาถึงข้างล่างก็มาอาบน้ำตกหนานสะตอ จะบอกว่า โคตรฟิน จบทริปด้วย ติ่มซำขนมจีบ ตัง มัน complete มากๆ สิ่งที่ต้องเตรียม แน่ๆเลยคือ ถุงกันทาก สเปรย์กันทาก น้ำเกลือแร่ เปลผูกต้นไม้นอน และ ใจ.
ปล.ทริปนี้คือ เป็นช่วงที่ออกกำลังกายเเบบหนักมาก พอมาเจอทางโหดๆแบบนี้เลยรู้สึกฟินมากเป็นพิเศษด้วย ไม่มีอาการปวดใดๆ ขาไม่แตกอีกต่อไป และที่สำคัญ ไปมาคนเดียวทุกทริป ทริปนี้มีเพื่อนไป ก็คือดี เพิ่มดีกรีความสนุกเม้ามอยไปเรื่อย.
💚💚💚
4.ดอยหลวง ดอยหนอก พะเยา ระยะทางขึ้นทางพะเยา อย่างเดียว 7 กม. ใช้เวลาเดินประมาณ 6 -7 ชั่วโมงนี่แหละ
ทริปนี้ก็งงหลังจาก ปลด Lock down อีกเช่นกันก็อยากหาไปหน่อย เพราะอยากไปมาหลายดอยแล้วก็ล่ม ก็เลยหาเรื่องไป และก็คิดว่าไม่หนักมากเพราะใจคิดว่า เออกูผ่าน 7 ยอดมาละ มาเหอะ แต่ก็ต้องคิดใหม่ เพราะ ทางลงคือ เลี้ยหู้มากๆแม่ รก และ หญ้าสูง แหลมคมมาก เริ่มทริปก็ฝนตก ละ แต่ตกปรอยๆ ตอนแรกก็กังวล เพราะไม่เคยเดินตากฝน บวกกับเป็นทริปที่ลูกหาบไม่มี เต๊นท์เอย อาหารเอย น้ำเอย ก็ต้องแบกเองทั้งหมด. ทุกคนบอกว่าระหว่างทางจะสวยมากนะพี่ บลาๆ ....หมอกลง - -*
ขาขึ้นก็ยังชิวๆนะ เพราะ รู้สึกว่า มันชัน แล้วก็มีพักให้เดินทางราบ อุปสรรคที่คิดว่าเป็นฝนกลับไม่ใช่ เพราะฝนทำให้เดินง่ายกับอากาศชิวๆ ข้างทางก็เต็มไปด้วยดงหมอก และทางรกไง มันหลงง่ายมากๆ เพราะทางไม่ชัดเลย ต้องอาศัยสกิลพรานสาวเเกะรอย ถามว่า หลงต่อไหม ... หลง!!!!
แต่ทีน่าผวาจริงๆคือดงทาก เตรียมใจมาเจอมากสุดแค่ 2 แต่นี่คือ ด้วยความที่ป่ามันรก และ ชอบเดินหลง ก็ เลยไปหลงกันในดงทากกันเลยสิเออ ก็ยั่วเยี้ยเต็มรองเท้าไปหมด สิ่งที่ชอบจริงๆของดอยนี้คือจุดกางเต๊นท์ เพราะ ตื่นเช้ามาเปิดเต๊นท์แล้วสวยเลย ไม่ต้องเดินไปไหน ชิวกับกาแฟ และเเสงแดดได้ทันที เป็นอะไรที่อิ่มใจมาก ส่วนอีกจุดก็คือไต่ผาขึ้นไปดอยหนอก...
อันนี้ต้องทิ้งเป้และเดินไปตัวเปล่าอีก 5 กม. จุกอยู่เหมือนกัน เพราะทางชันมาก แต่ข้างบนสวยนะ มีพระพุทธรูป พระธาตุ หลวงพ่อทันใจ ดูเป็นขุนเขาแห่งศรัทธา ได้อารมณ์แบบ ABC กับ ฑิเบตรวมๆกัน ขอพรให้ลงไปอย่างปลอดภัยก่อนหนึ่ง จากนั้นก็เดินลงจากพระธาตุถึงด้านล่างเป็น10 กม. นั้นแหละ สุดแสนจะโคตรชัน และความพีคคือมีแค่รากไม้เท้านั้นที่พยุงไม่ให้ลื่นล้ม แต่ถามว่าช่วยมั้ย. ไม่เลยจ้าา คือล้มจ้ำบ๊ะ เล่นเป็นสไลดเดอร์อยู่หลายรอบจนโมโห แล้วอ้อนวอนเจ้าป่าอย่าให้หนูลื่นอีกเลย. เพราะทางลงคือลงจริงๆ มีทางราบแค่ 10%
แล้วมันเป็นทริปที่ทำให้เล็บเท้าหลุด ไปพร้อมๆกัน 4 เล็บเพราะทางลงเลย แถมเผลอไปจับบุ้งไฟอีก นิ้วบวมเป็นหนองไปอีกเป็นอาทิตย์ สรุป เลยคือ เป็น- Least favorite - แล้วกัน ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง บวกกับออกกำลังกายไม่ได้บ่อยเท่าเมื่อก่อนด้วยแหละ ขาเลยไม่แข็งแรงเท่าที่ควร.
ถามว่าสวยไหม สวยนะ สวยเลย ต้นไม้เอย ภูเขาเอย หินผาเอย ดอกไม้เอย แนะนำว่าแขนยาวขายาวนะ เพราะ หญ้าสูงมาก บาด เต็มแขนไปหมดเลย
สิ่งที่ต้องเตรียมคือ อุปกรณ์กันทาก มันมาแน่ ถ้าชื้นๆ ฝนตก.
💚💚💚
เดี๋ยวมาต่อจ้า
ฝากเพจเราด้วย : wanna go to Mars
https://www.facebook.com/wannagotoMars
รีวิว เดินครบ 5 ดอย !!!! ในรอบ1 ปี
1.ดอยมะม่วง สามหมื่น( ความยาก 7.5 / 10)
2.ม่อนจอง ( ความยาก 3/10 )
3.เขาเจ็ดยอดพัทลุง (ความยาก 8/10)
4.ดอยหลวง ดอยหนอกพะเยา ( ความยาก 7.5/10)
5.ภูสอยดาว (ความยาก 6.5/10)
ด้วยความหลวมตัวมาพร้อมกับความตั้งใจจริงๆตั้งแต่แรกคือ อยากให้โอกาสตัวเองเดินให้ครบ 10 เขา สักครั้งในชีวิต ทั้งไทย และ ต่างประเทศ พอมาถึงครึ่งทางแล้วก็อยากรีวิวไว้สักหน่อย เผื่อใครอยากลองเอาตัวเองไปลองทำอะไรใหม่ๆ เจอเพื่อน สังคมใหม่ๆ หรือ เจอกับบรรยากาศใหม่ๆ ลดอาการหัวร้อน และบำบัดจิตไปในตัว เพราะทุกครั้งที่มีปัญหาก็จะหนีไปซมซานกับป่าไม้ทุกครั้งให้ปวดตัว.
เริ่ม!!!!!! 🏞💚💐🌿🪵🍃🌾
1.ดอยมะม่วงสามหมื่น (จ.ตาก) ระยะทางประมาณ 9.8 กม. (ขึ้นอย่างเดียว)
ง อันนี้คือตาแตกมาก เข่าและตีนก็แตกเช่นกัน ด้วยความทริปแรกอะแกรร ก็จะมีความแบบรองเท้าสวย ซื้อด้วยความอินโนเซ้นต์ พื้นนิ่มๆ เป้เเพงๆ แบบกันน้ำ เอามาทำไมก๊อนนนน เพราะไม่ได้เดินแบก ฮ่าๆ.
และมาแบบงง ๆ เพราะ ตั้งใจมาทีลอซู และ ล่องแก่ง คือนึกว่ามาชมธรรมชาติ แล้วก็เป็นการเที่ยวป่าคนเดียวด้วยครั้งแรก และดูคนที่ร่วมทริปมาก็ดูชิวๆ ไม่ได้เตรียมอะไรมาใหญ่โต แต่จำได้ว่านั่งรถ 2 แถวจากรีสอร์ทที่นอนคืนแรกไปจุดตั้งแคมป์นานมาก - จำได้ว่าไปกางเต๊นท์นอนตรงไร่มะละกอ และเช้าปุ๊ปก็เดินปั๊บ ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 6 ชั่วโมงนิดๆ ตอนนั้นที่ว่าออกกำลังกายมานะ ยังแทบตาย คือมันเป็นทางขึ้นชันๆ และป่ารกๆ ที่มีแต่หินแข็งๆ ใหญ่เล็กสลับกัน เล่นเอาซะฟ่าเท้าระบมไปเเล้วครึ่งทาง พอจะถึงยอด ถึงยอด ก็ไม่ถึงสักที เพราะมันมีหลายเนินมาก หลอกกันแล้วหลอกกันอีก คนที่เดินสวนมาก็แบบ "สู้ๆนะคะ" - ยิ้มให้กันแห้งๆ- แต่บุญบาปเอาจริงๆ ระหว่างทางคือสวยมาก ๆ เลยนะ เป็นเนินทุ่งหญ้าเทเลทับบี้ สลับ กับต้นไม้หลอมแหลม อากาศเย็นๆ เดินสวนตัดกันกับต้นหญ้าปะเอวถึงอก.
พอขึ้นไปถึงข้างบนดอยมะม่วง 30,000 คือ กลับเฉยๆ มากกว่าเพราะ ระหว่างทางคือสวยพีคมากกว่า แต่ข้างบนจะเป็นอารมณ์แบบ ไม่มีอะไรมาก มีป้ายสุดสูงสุด แล้วก็นั่งกินข้าวชมวิวหมอกโปะยอดภูเขา กับ ดื่มด่ำความสำเร็จเล็กๆที่ขึ้นมาถึงยอด แต่ถ้าใครไปก็แนะนำ ว่า ให้พยายามขึ้นไปให้ถึงสามหมื่นนะ หลายคน กลับไปตอนถึง หมื่นห้า อยากให้ลองไปให้สุดดูแหละ มันก็ฟินมาก และขนาดเป็นทริปที่ไม่ได้แบกของเอง ก็คือลงมาแล้วเข่าพังไปเป็นอาทิตย์เพราะขาลงคือ หิน ที่ชันแบบเกือบจะ 90 องศา จะขึ้นจะลงแต่ละก้าวคือ หลับตาแล้วฮึบหลายรอบอยู่. ขากลับก็เเวะไปดูน้ำตกรูปหัวใจ แช่เท้าพักก่อน ที่จะลงต่อไปจุดตั้งแคมป์
มันเป็นดอยที่โหดติดอันดับท๊อปๆ เลย แล้วคือ ดอยแรกกูงะะ ใจก็แบบ เลิก คือ เลิกแน่ๆ ไม่เอาเเล้ว จะไม่พาตัวเองมาลำบากแบบนี้อีกแล้ว.
เอาเป็นว่าแนะนำว่าควรไปปลายๆ หน้าฝน ( ตุลา คือจะดีมากเลย ) เพราะน้ำตกจะสวย อากาศไม่ร้อนเกินไป แต่ถ้าฝนตกนี่คิดว่าน่าจะลื่นมาก เพราะมันเป็นหินทั้งนั้นเลย ก็ต้องดูรองเท้าดีๆและที่สำคัญพวกน้ำมันมวย ซื้อไว้รอนวดเลย
ดอยนี้อะ เหมาะกับสายลุยโดยเฉพาะเลย ข้อดีคือ ไม่ต้องแบกของเลยจ้า เพราะส่วนใหญ่จะตั้งแค้มป์ แล้วเดนขึ้นตอนเช้า เดินตัวเปล่าๆ กับน้ำ และ อาหาร หรือใครอยากจะเอากาแฟไปดริปข้างบนก็ชิวๆไปเลย.
💚💚💚
2. ม่อนจอง เชียงใหม่ (ระยะทาง 4 กม.)
แนะนำ เลย สำหรับคนที่อยากเริ่ม เหมาะมาก ควรจะเอาไปเดินเป็นเขาแรกๆ
พอว่าจะเลิกๆ - -' เขาก็มาเรียกตอนเหงา ม่อนจอง จ.เชียงใหม่ เป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากๆ เพราะหลังจากซมซานกับดอยมะม่วงสามหมื่นก็อยากหาอะไรสวยๆ ไม่ยากเย็นบ้าง
ซึ่ง อันนี้คือ 🚨 - ควร - ไป 🚨. ใช้เวลาเดินขึ้น 2-3 ชั่วโมงเอง ไม่รวมเวลานั่งรถไปจุดเริ่มต้น
กับผัวก็ได้ กับคนที่คุยเฉยๆ หรือคุยกับแบบ ไม่คิดอะไรกับ จะกับเพื่อน หรือคนเดียว ก็ได้เพราะมันสวยแบบสับ สวยตาแตก ทางเดินคือ ง่ายเลย ไม่อยากแบกของก็มีลูกหาบแบกให้ ระหว่างทางก็เดินเรื่อยๆ ชมต้นไม้สวยๆ ดอกไม้ดีๆ มีขรุขระให้พอเป็นพิธีว่าแบบ เอ้อออ! มาเดินป่านะ และที่สำคัญ เข่าไม่แตกจ่ะ เพราะมันมีทางราบเยอะเลย 4 โลเอง จะมีพีคๆหน่อยคือเนินหมาหอบ แต่นี่ผ่านอีมะม่วงมาละ เนินมาหอบคือแทบวิ่งขึ้นเนินไปได้เลย ซึ่งถ้าไม่อยากหอบ มันมีทางอ้อมนะ แต่ มาแล้วอะ ก็หอบหน่อยเหอะ.
พอขึ้นมาถึงข้างบนคือ มันสวยมาก มันเหมือนลานเทเลทับบี้เลย ถ่ายรูปเป็น หมื่น และ เเคปมุมไหนก็สวยไปหมด ตรงสนามกอล์ฟช้าง คือไปยืนเรียงๆถ่ายรูปกันกูนึกว่า Ad Givenchy! ต่อให้มีคนยืนออกันเต็มไปหมด ก็คือสวยมากๆอะ นี่ไปตอน ต้นเดืน ธค. ก็จะเป็นทุ่งหญ้าเขียวๆ แต่ถ้าไป มค หรือ กพ ก็จะเป็นทุ่งหญ้าสีทอง แต่ช่วง กพ เจ้าหน้าที่ก็จะให้ระวังช้างป่า ก็ต้องถามทางเจ้าหน้าที่หรือคนจัดทริปดีๆ.
นี่ตั้งใจว่าก็อยากกลับไปซ้ำทุ่งหญ้าสีทองสักหน่อย อากาศคือ หนาวมาก เพราะ ตอนเช้ามืดนะมันติดลบไปยัน -14 องศาเลย โนแกงเลย เพราะตอนแรกแบบนึกว่า -5 องศา แต่เพราะว่าตอนนั้นโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณเลยเข้าใจผิด พอเช็คอีกทีมีสัญญาณก็เลยรู้เลยว่า มันลงไปถึงจุดนั้นจริงๆ เตรียมเบาะรองนอน และ ถุงนอนหนาๆหน่อยก็ดี เสื้อกันหนาว ถุงเท้าหนาๆ และกล้องถ่ายรูป จบ
เสียอยู่อย่างเดียว นั่งรถกะบะจากอมก๋อย ไปจุดเริ่มเดินนานมาก เกือบ 2 ชม. ได้มั้ง. ระหว่างทางก็จะเห็นจีวรพันต้นไม้ด้วย ดูเป็นอะไรที่ขลังๆ ถ้าเลี่ยงคนเยอะๆ ควรไป วันธรรมดา
เป็นเขาที่แนะนำ สำหรับมือใหม่ มือเริ่มต้น มือโปร หรือ ที่ชอบเดินอยู่แล้ว เหมาะกับทุกสายงานอาชีพ เพราะมันสวยมากจริงๆ
ฉากที่ประทับใจที่สุดคือตอนพระอาทิตย์ตก แค่ช่วงพริบ ตา แล้วหมอกลงพร้อมลมแรงๆ คือ งงง หาแบบนี้ได้ที่ไหนอีก เป็นดอยเดียวที่อยากกลับไปซ้ำอีก. ห้องน้ำคือ ไม่ได้นะ 555 ด้วยความที่คนมันเยอะอะ ถ้าจะทำธุระหนักก็ได้แหละ แต่ธุระเบากับอาบน้ำเอาไว้ไปอาบข้างล่างเนอะ.
ปล. อุณภูมิปลายปี 2020 เป็นปีที่หนาวมากเป็นพิเศษเพราะ กทม ก็หนาวมากๆ
💚💚💚
3.เขาเจ็ดยอดพัทลุง 2 วัน 1 คืน ระยะทางคือ ดูแต่ละที่บอกไม่เหมือนกันเลย แต่ ที่วัดได้กับเพื่อน คือ ไปกลับ 28 กม. เฉลี่ยก็ ขึ้น 14 ลง อีก 14 กม. ใช้เวลาเดินขึ้น 8 ชั่วโมงจ่ะ ลง อีก 5 ชั่วโมง เพราะสับกันตีนแตก
เค้าว่ากันว่าป่าใต้เหมือนมีมนต์สะกด จริง มันสวยมาก สมบูรณ์มากๆ ชุ่มฉ่ำ และ จรรโลงใจมาก ก้อนหิน ต้นไม้คือใหญ่ยักเป็นร้อยปีเหมือนย้อนกลับไปยุคจูราสสิคเลย.
ทริปนี้ไปกับเพื่อนซี้สมัยเด็กน้อย Kung Kings ดูรูปโปรไฟล์มันสิ ยังอยู่ 7ยอดอยู่เลย ไม่ต้องบอกก็คือประทับใจมาก เป็นครั้งแรกที่นอนเปลสบายกว่าที่คิดมากๆ ตะกุกตะกักมากกับการผูกเปลกับต้นไม้ เสี่ยงว่าหลังจะแอ๊ก กลางดึกหรือเปล่า.
ทริปนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ไปกับเพจ Movepa กับกรุ๊ปเล็กๆ 9 คนเอง ที่สมาชิกร่วมทีมทุกคนคือสกิลการเดินป่าโหดมาก แถมยังได้ไปเดินกลุ่มแรกหลังจาก เปิด Lock down อีกครั้ง บอกเลยว่า สะใจสุด เพราะทางปิด เดินๆอยู่ต้นไม้ล้มโคร่มอีก สนุกมาก และ เพื่อนร่วมทริปก็โหดๆ เดือดๆ ฮาๆ กันหมดเลย มันรวมๆเลยกลายเป็นความประทับใจที่แบบแทบจะที่สุด จุดกลางเปล ก็เป็นตำแหน่งที่ลมโกรก ตลอดเวลา ดึกๆจะหลอนๆหน่อย ด้วยความที่มีกรุ๊ปเดียว เลยชิวกันมากๆ มีลำธารสะอาดๆเล็กๆ ให้ล้างหน้าแปรงฟันตอนเช้า อากาศตอนเช้าคือ ป่าดงดิบเลยจ้า รกๆ เถาวัลย์เยอะๆ หมอกปรอยๆ กับหยาดน้ำค้าง
ระหว่างทางก็ชื้นๆ มีทากบ้าง ตามน้ำตก (ไปช่วงหน้าร้อน แห้งๆ) ถ้าหน้าฝนก็ตัวใครตัวมันจ้า ต้องพยายามเลี่ยงอย่าไปนั่งบนหินใกล้ๆน้ำตกนาน น้องทากจะเหมือนโดนปลุกให้คืนชีพ นี่โดน ไป 1 ก็คือหลอนไปเลย ก็เลยตลอดทางก็เดินเรื่อยๆ มีชันบ้าง ราบบ้าง มีน้ำจากน้ำตกให้เติมดื่มตลอด และ ก็เป็นน้ำที่ใสสะอาด จนเก็บน้ำมาเป็นที่ระลึกไว้จนถึงทุกวันนี้.
จากจุดกางเต๊นท์ต้องเดินไปอีกหน่อยเพื่อให้ถึงเจ็ดยอด ก็เดินตัวเปล่าไป พอไปถึงเจ็ดยอดก็คือ ป่าใต้แหละ ชุ่มชื้น ต้นไม้สวย มีหินก้อนใหญ่ที่ผลัดกันขึ้นไปยืนถ่ายรูป พอในทริปมีพี่ทอปที่เป็นตากล้องไปด้วยก็เลยได้รูปสวยๆกันคนละ shot ยิ่งขาลงยิ่งมันส์ เพราะ ไม่ได้เดิน แต่วิ่ง เพราะอยากจะถึงจุดพักเร็วๆ และอยากอาบน้ำด้วย พอมาถึงข้างล่างก็มาอาบน้ำตกหนานสะตอ จะบอกว่า โคตรฟิน จบทริปด้วย ติ่มซำขนมจีบ ตัง มัน complete มากๆ สิ่งที่ต้องเตรียม แน่ๆเลยคือ ถุงกันทาก สเปรย์กันทาก น้ำเกลือแร่ เปลผูกต้นไม้นอน และ ใจ.
ปล.ทริปนี้คือ เป็นช่วงที่ออกกำลังกายเเบบหนักมาก พอมาเจอทางโหดๆแบบนี้เลยรู้สึกฟินมากเป็นพิเศษด้วย ไม่มีอาการปวดใดๆ ขาไม่แตกอีกต่อไป และที่สำคัญ ไปมาคนเดียวทุกทริป ทริปนี้มีเพื่อนไป ก็คือดี เพิ่มดีกรีความสนุกเม้ามอยไปเรื่อย.
💚💚💚
4.ดอยหลวง ดอยหนอก พะเยา ระยะทางขึ้นทางพะเยา อย่างเดียว 7 กม. ใช้เวลาเดินประมาณ 6 -7 ชั่วโมงนี่แหละ
ทริปนี้ก็งงหลังจาก ปลด Lock down อีกเช่นกันก็อยากหาไปหน่อย เพราะอยากไปมาหลายดอยแล้วก็ล่ม ก็เลยหาเรื่องไป และก็คิดว่าไม่หนักมากเพราะใจคิดว่า เออกูผ่าน 7 ยอดมาละ มาเหอะ แต่ก็ต้องคิดใหม่ เพราะ ทางลงคือ เลี้ยหู้มากๆแม่ รก และ หญ้าสูง แหลมคมมาก เริ่มทริปก็ฝนตก ละ แต่ตกปรอยๆ ตอนแรกก็กังวล เพราะไม่เคยเดินตากฝน บวกกับเป็นทริปที่ลูกหาบไม่มี เต๊นท์เอย อาหารเอย น้ำเอย ก็ต้องแบกเองทั้งหมด. ทุกคนบอกว่าระหว่างทางจะสวยมากนะพี่ บลาๆ ....หมอกลง - -*
ขาขึ้นก็ยังชิวๆนะ เพราะ รู้สึกว่า มันชัน แล้วก็มีพักให้เดินทางราบ อุปสรรคที่คิดว่าเป็นฝนกลับไม่ใช่ เพราะฝนทำให้เดินง่ายกับอากาศชิวๆ ข้างทางก็เต็มไปด้วยดงหมอก และทางรกไง มันหลงง่ายมากๆ เพราะทางไม่ชัดเลย ต้องอาศัยสกิลพรานสาวเเกะรอย ถามว่า หลงต่อไหม ... หลง!!!!
แต่ทีน่าผวาจริงๆคือดงทาก เตรียมใจมาเจอมากสุดแค่ 2 แต่นี่คือ ด้วยความที่ป่ามันรก และ ชอบเดินหลง ก็ เลยไปหลงกันในดงทากกันเลยสิเออ ก็ยั่วเยี้ยเต็มรองเท้าไปหมด สิ่งที่ชอบจริงๆของดอยนี้คือจุดกางเต๊นท์ เพราะ ตื่นเช้ามาเปิดเต๊นท์แล้วสวยเลย ไม่ต้องเดินไปไหน ชิวกับกาแฟ และเเสงแดดได้ทันที เป็นอะไรที่อิ่มใจมาก ส่วนอีกจุดก็คือไต่ผาขึ้นไปดอยหนอก...
อันนี้ต้องทิ้งเป้และเดินไปตัวเปล่าอีก 5 กม. จุกอยู่เหมือนกัน เพราะทางชันมาก แต่ข้างบนสวยนะ มีพระพุทธรูป พระธาตุ หลวงพ่อทันใจ ดูเป็นขุนเขาแห่งศรัทธา ได้อารมณ์แบบ ABC กับ ฑิเบตรวมๆกัน ขอพรให้ลงไปอย่างปลอดภัยก่อนหนึ่ง จากนั้นก็เดินลงจากพระธาตุถึงด้านล่างเป็น10 กม. นั้นแหละ สุดแสนจะโคตรชัน และความพีคคือมีแค่รากไม้เท้านั้นที่พยุงไม่ให้ลื่นล้ม แต่ถามว่าช่วยมั้ย. ไม่เลยจ้าา คือล้มจ้ำบ๊ะ เล่นเป็นสไลดเดอร์อยู่หลายรอบจนโมโห แล้วอ้อนวอนเจ้าป่าอย่าให้หนูลื่นอีกเลย. เพราะทางลงคือลงจริงๆ มีทางราบแค่ 10%
แล้วมันเป็นทริปที่ทำให้เล็บเท้าหลุด ไปพร้อมๆกัน 4 เล็บเพราะทางลงเลย แถมเผลอไปจับบุ้งไฟอีก นิ้วบวมเป็นหนองไปอีกเป็นอาทิตย์ สรุป เลยคือ เป็น- Least favorite - แล้วกัน ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง บวกกับออกกำลังกายไม่ได้บ่อยเท่าเมื่อก่อนด้วยแหละ ขาเลยไม่แข็งแรงเท่าที่ควร.
ถามว่าสวยไหม สวยนะ สวยเลย ต้นไม้เอย ภูเขาเอย หินผาเอย ดอกไม้เอย แนะนำว่าแขนยาวขายาวนะ เพราะ หญ้าสูงมาก บาด เต็มแขนไปหมดเลย
สิ่งที่ต้องเตรียมคือ อุปกรณ์กันทาก มันมาแน่ ถ้าชื้นๆ ฝนตก.
💚💚💚
เดี๋ยวมาต่อจ้า
ฝากเพจเราด้วย : wanna go to Mars
https://www.facebook.com/wannagotoMars