[CR] โอบไอหนาวนี้ที่ "หว่าหวาโจ หงอนไก่ ปุยหลวง จ.แม่ฮ่องสอน"

“May your trails be crooked, winding, lonesome, dangerous, leading to the most amazing view.”

- Edward Abbey -

"ขอให้เส้นทางของคุณคดเคี้ยว เปล่าเปลี่ยว อันตราย และนำไปสู่ทัศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด"

- เอ็ดเวิร์ด แอบบีย์ -

เปิดด้วยโควทแบบ คดเคี้ยวเปล่าเปลี่ยวและอันตราย 🤣 คือมันอธิบายความรู้สึกของเราบนเส้นทางนี้ที่สุดอ่ะ

คดเคี้ยวตั้งแต่ทางรถ ยันทางเดินทั้งเริ่มเดินขึ้น เดินต่อไปอีกแคมป์ จนเดินลงก็ยังชันอยู่ สำหรับคนกลัวความสูงแบบเรานี่ท้าทายมิใช่น้อยเลยนะ

.

เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า ทริปนี้เกิดจากการที่เราอยู่ไม่สุขเอง เพิ่งกลับจากเชียงดาวก็อยากจะเข้าป่าอีกแล้ว บวกกับจับฉลากรอบก่อนสิ้นปีได้วันหยุดพอดี เลยถามเพจนำเที่ยวชื่อ สวนหลังบ้าน ซึ่งหลายๆคนน่าจะรู้จักเพราะเพจนี้เขามีมานานมากกกแล้ว ได้ความว่าเหลือ 1 ที่นั่งสุดท้าย เลย CF ซะเลย

.

ซึ่งหว่าหวาโจ หงอนไก่ ปุยหลวง ตั้งอยู่ใน จ.แม่ฮ่องสอน เราต้องนั่งรถกันเกือบ 15 ช.ม. เลยทีเดียว🫠

.

มาเริ่มจัดของกันดีกว่า รอบนี้อะไรไม่จำเป็นตัดออกหมด 🤣 เอาเฉพาะที่ใช้เท่านั้น รอบก่อนไปเชียงดาว เอาที่นอนเป่าลมไปรู้สึกว่าความเย็นทะลุหลังขึ้นมาเลยไม่เวิร์คอย่างแรง รอบนี้เลยเอาแบบแผ่นปูไปดีกว่า ไม่แน่ใจว่าตอนกลางคืนอุณหภูมิเท่าไหร่ แต่แผ่นรองนอน อันละสามสี่ร้อย กับถุงนอนดาวน์ขนเป็ด คือนอนอุ่นมากเว่ออออ อุ่นจนร้อน 🫠 เต๊นท์ Naturehike Spider คู่บุญ แมวข่วนมุ้งเป็นรูหลายรูก็ปะแล้วก็ยังใช้ได้ดีอยู่ 🤣

จาน แก้ว ช้อน เอาไปด้วย ทัวร์ทำอาหารให้แต่ต้องพกจานไปเองน้า รวมๆไม่แน่ใจว่ากี่กิโล ไม่อยากชั่ง ไม่อยากรับรู้ 555

.         

วันเดินทาง เราออกเดินทางวันที่ 4 ธ.ค. จุดนัดพบที่ลานจอดรถ BTS หมอชิต มาถึงคือตกใจมากกก คนเยอะมากกกก ละมีแต่คนแบกเป้ คือตอนจองก็ลืมคิดไปว่าเอ้ยตรงวันหยุดนี่หว่า ในใจก็คิดป่าจะแตกมั้ยน้ออนี่🫠

          พอถึงเวลาก็จัดของขึ้นรถ พร้อมออกเดินทาง มุ่งหน้าสู่ จ.แม่ฮ่องสอน นั่งไปได้ซักพักก็ต้องกินยาแก้เมารถ ให้มันหลับๆไป เพราะทางค่อนข้างคดเคี้ยวพอสมควร รถจะแวะปั๊มให้พักเป็นระยะๆ เลยน้า

          วันถัดมาเกือบๆ เที่ยง ก็ถึงจุดดร็อปสัมภาระ ส่งประเป๋าให้ลูกหาบ เราจ้างแบกแค่เต๊น กับน้ำขวดใหญ่ 2 ขวด ทริปนี้ 3 วัน 2 คืน เอาน้ำ 1.5 ลิตร 2 ขวด กับน้ำขวดเล็ก 2 ขวด(พกติดตัวตอนเดิน) เราว่าพอนะสำหรับเรา สำหรับใครที่จะเอาน้ำไปน้อยกว่านี้ วันแรกที่แคมป์ เราจะพักที่แคมป์หว่าโจ ซึ่งไม่มีแหล่งน้ำ ก็จะเท่ากับว่าจะไม่มีน้ำกรองใช้ แต่วันที่ 2 แคมป์ปุยหลวง จะมีแหล่งน้ำ เราจะมีน้ำกรองที่แคมป์ให้เติมได้ค่ะ

.

.

หลังจากเคลียร์สัมภาระกับลูกหาบ รับประทานอาหารกลางวันแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทาง นั่งรถโฟร์วีลขึ้นไปที่จุดเริ่มเดินของเราในวันนี้ ระยะเวลานั่งรถก็ประมาณ 1 ช.ม. แบบขึ้นเขา 🫠 พอถึงจุดเดินก็กระจายสัมภาระ แล้วเริ่มเดินได้เลย

.

           .

      จุด Start ของเราคือแบบ ขุ่นพระ ชันมากแม่เอ๊ย 🫠ชันตั้งแต่เริ่มมม ชันอย่างเดียววว

คือระยะเดินมันสั้นมากนะ แต่ก็ชันมากเช่นกัน เล่นเอาเหนื่อยหอบอ่ะ

     ทางชันนี่ คนกลัวความสูงอย่างเรานี่เสียวสันหลังอยู่นะ ต้องเดินอย่างมาสติ ก้าวให้เต็มเท้า ระวังลื่น เหนื่อยก็พัก ไม่ต้องเร่งเท่าคนอื่น

step ใคร step มัน ใครไหวไปก่อนโลด

.

.

มองอย่างนี้จะดูไม่ออกว่ามันเนินชันขึ้น แต่สภาพจริงๆคือ ดันอย่างเดียวเลยจ้าา

.

.

ลูกหาบผู้หญิง กับช้างดาวคู่ใจ คือไหวได้ไงก๊อนนนนน 🫠 ยอมเลยเก่งมากก

.

.

เดินไปเรื่อยๆ ๆๆๆ สักพักก็ถึงยอดมีป้ายหว่าหวาโจตั้งอยู่ แล้ววิวคือสวยยยยมองไปเห็นทิวเขาสลับกัน คือมันดันขึ้นมาอย่างเดียว ไม่แปลกใจเลยทำไมอยู่ดีดีก็สูง 🤣

.

.

ภาพข้างล่าง เนินขวานั่นคือที่เราไต่มาเรื่อยๆนะคะ ขึ้นอย่างเดียวเลย ส่วนด้านซ้ายบนยอดคือธงแล้วก็ป้ายหว่าหวาโจ สำหรับแคมป์ของเราวันนี้ จะพักที่แคมป์หว่าหวาโจ จุดกางแคมป์ค่อนข้างเล็ก รับคนได้น้อยค่ะ สำหรับวันนี้ทัวร์เรารวมลูกหาบ ไม่น่าเกิน 50-60 คนถ้านับกะจากสายตานะคะ แคมป์ของเราเดินลงเนินมาอีก แล้วเลียบตามไหล่เขา คือ ทางก็แค๊บแคบ ข้างล่างก็คือเหวเลย วัดใจคนขี้กลัวสุดๆ 🥶

.

.

เดินลงมาเรื่อยๆก็ต้องผ่านอีก สองสามเนินเล็ก ก็จะถึงจุดกางแคมป์ เราไปกางแคมป์ตรงท้ายๆ เลยค่ะ วิวสวยมากกกก ใกล้ห้องน้ำ(ธรรมชาติ) ด้วย แต่พื้นก็คือเอียง กับมีก้อนหินที่ปลายเท้า แต่ก็นอนได้ค่ะ ตื่นมาตัวไหลลงไปด้านขวานิดนึงด้วย 🤣

.

.

วิวตอนเดินลงไปจุดตั้งแคมป์ สวยมาก ฟ้าเปิดสุดๆ 🌳🌄

.

.

จุดกางเต๊นท์ของเรา ถือว่าวิวดีมากนะ ชุมชนเล็กๆของเรา สุดทางหมู่บ้านมีทั้งหมด 6 หลังคาเรือน มี 10 ชีวิตอยู่บนเขาลูกเล็กนี้ 🤩

.

.

วิวจากหน้าเต๊นท์ คือบ้ามาก เปิดมาเจอวิวเลย สวยมากก คุ้มค่ากับการเดินดันเนินมาสุดๆ

.

.

พระอาทิตย์ตก อากาศก็เริ่มเย็น พระอาทิตย์ตกที่นี่สวยมากค่ะ วิวไกลสุดลูกหูลูกตา แสงสีส้มๆ ลมเย็นๆ บรรยากาศเงียบสงบ คิดภาพตามแล้วก็คิดถึงโมเม้นท์นั้นๆ ขอเก็บภาพจำให้ชัดเจน ไม่รู้จะได้กลับมาอีกมั้ยนะที่นี่ คือสวยจริง แต่เดินชันนี่ไม่ค่อยสู้เท่าไหร่ 🤣

คือมันสวยมากอ่ะ ต้องมาเห็นด้วยตาเนื้อของตัวเอง ภาพถ่ายว่าสวยแล้ว แต่ภาพจำที่เรารับจากสายตาคือสวยกว่า มันรู้สึกอิ่มเอมอ่ะ มีความสุขมาก

.

.

อาหารเย็นวันนี้ คือทำถึงเกิ๊นน ผัดลูกชิ้น กระเพราทะเล ต้มไก่ ผัดคะน้าปลาเค็ม(อร่อยม๊ากก) ผัดตับ ปอเปี๊ยะทอด หอยจ๊อ เยอะมากกกก ของหวานวันนี้เป็นเผือกบวชกะทิร้อนๆ แก้หนาวได้ดีมากกก

.

.

หลังมื้อค่ำวันนี้ก็ได้เวลาแยกย้ายกันไปพักผ่อน เก็บแรงไว้เดินขึ้นหงอนไก่ เพื่อไปแคมป์ปุยหลวงกันในวันพรุ่งนี้ 😴

ละแสงตอนเช้าต้องสวยขนาดนี้มั้ยยยย

.

.

หลังจากกินข้าวเช้ากันเสร็จ ก็เตรียมตัวออกเดินทางเพื่อไป ยอดหงอนไก่ และไปตั้งแคมป์กันที่ปุยหลวง ซึ่งทางไปตรงยอดหงอนไก่ ค่อนข้างชัน เป็นทางเดินขึ้น เลียบเหวเลยก็ว่าได้ ทางแคบนิดเดียว ตอนเดินต้องมีสติระวังลื่น นี่ยังว่าดีนะที่เราเดินขึ้นฝั่งหว่าโจ แล้วค่อยไปหงอนไก่ ปุยหลวง มันเป็นทางขึ้น ถือว่าเดินง่ายกว่าทาง ที่ย้อนมาจากปุยหลวง ลงมาหงอนไก่ อันนั้นคือชันมากกกกกกก เดินยากกว่าขึ้นแน่นอน 🥶 นี่ยืนเหม่อหมองยอดหงอนไก่ ..ใช่ค่ะ ลูกขวามือสูงสู๊งงนั่นแหละค่ะ 🫠🙃

.

.

เดินไปเดินมา เลาะเลียบไปเรื่อยๆ ไม่รู้อยู่ตรงไหนแล้ว ไม่รู้ข้ามเขาไปกี่ลูกกก เหนื่อยมากแม่ 🫠 ละก็ชัน โอ๊ยยย..  

.

.

ตรงทางเดินเริ่มมีป้ายเตือนทางชัน ระวังพื้นลื่น พื้นมะนเป็นลักษณะ ดินกับหินกรวดแห้งๆ ร่วนๆ พอเหยียบแล้วมันลื่นๆ

ทางเดินคือเลาะตามเขาไหล่เขาไปเรื่อยๆ

.

ถึงซักทีหงอนไก่ 🫠 เล่นเอาหอบเลยยยย ข้างหลังนั่นคือเขาที่เดินผ่านๆมาปะน่ะ 🤣

หลังจากนี้จะไม่ใช่ไหล่ขาแล้ว จะเป็นเลาะตามป่าไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นแคมป์ปุยหลวง

จริงๆมียอดข้างหลังอีกสองยอด แต่นี่ไม่กล้าลงไป กลัวววววววค่าาาาา

.

เดินตามๆเขามา ถึงไหนแล้วไม่รู้ แต่น่าจะใกล้ถึงแล้วแหละ 🤣

.

น้องม่วงคู่ใจ ใช้มา 3 ทริป แบกแต่ละทริปไม่ต่ำกว่า 10 โลแน่นอน กลับมาไม่เคยทำให้ปวดหลังเลย(มีแต่ปวดหลังจากการนั่งทำงาน🤣) น้องกระจายน้ำหนักได้ดีม๊ากกก จุได้เยอะมากกกกก ยัดลงกระเป๋าก็งง ว่ามันจะยัดได้เหรอ สรุปได้เยอะกว่าที่คิด 🤣

.

พักหายเหนื่อยแล้วก็ได้เวลาเดินต่อ อีกนิดเดียวน่าจะถึงแคมป์แล้ว ทางเดินจากนี้จะเป็นเขาเกือบจะโล้นๆ มีเนิน มีไม้พุ่ม ถ้ามาช่วง พ.ย. ดอกไม้น่าจะสวยมากๆ เป็นทางที่เดินง่ายแล้วแหละ  เดินไปเดินมาก็มาถึงแคมป์แล้ววว เป็นแคมป์ที่มีสีสันจริงๆ เต๊นท์สีสดใสมากก 🤣

.

.

ท๊าาดาาาา บ้านหลังน้อยของช้านเองงงง น้อยจริงงงงง หลายคนมองว่าเล็กมากแต่เราว่าพอดีเลยสำหรับเราคนเดียว

.

ข้าวเที่ยงที่ได้กินตอนบ่ายๆ อร่อยม๊ากกกกก หิวววววว ใช้พลังงานไปจนจะหมดละกับเนินหงอนไก่ตรงนั้น 🫠

.

พอช่วงเย็นๆ ก็พากันเดินชึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกดินกัน ด้านบนยอดปุยหลวง ลักษณะมันคล้ายๆกับม่อนจองเลยเป็นเนินที่เดินถึงกันได้ กว้างๆ วิวสวยมากๆ

.

.

นั่งรอพระอาทิตย์ตกกัน ชมวิวไปพลางๆๆ

.