อยากเล่าจังครับ คันปาก จะมีใครอยากฟังไหมหนา
*สวัสดีครับ มีเรื่องน่าตื่นเต้นเรื่องนึง(มั้ง) ที่คิดว่า อาจจะเอามาเล่าในมุมมองของผมเองบ้าง มนุษย์ที่น้ำหนักเกินเกณฑ์คนนึงอยากเปลี่ยนมุมมองต่อโลกในมุมใหม่ๆบ้าง เลยจริงจังกับการลดน้ำหนักในวัย26ปี!!
เด็กอ้วนร่างดำ ตั้งแต่วัยกะเตาะ ชีวิตมีแต่อาหารอร่อยๆฝีมือแม่ กับยายที่ชอบขุนหลานให้ใหญ่โตเกินความจำเป็น สร้างโลกให้อาหารเป็นแทบทุกอย่างสำหรับผม
สิ่งที่เผชิญอยู่จวบจนโตมันมีความสุขมั้ย แน่นอนครับว่าสุขมากก ใครจะไม่ชอบ รูป รส กลิ่น ของอาหารไทยล่ะครับ ถึงขั้นดังไปทั่วโลกเลยนะ
รูปลักษณ์ผมเบ่งบานออกมาอย่างชัดเจนเมื่อวัย 6-7ขวบ สัมผัสตอนนั้นคือความแปลกใจ ในความแตกต่างของตนเองกับคนรอบข้าง (แต่ไม่ได้ทำให้ผมอิจฉาความผอมอะไรทำนองนั้นหรอกนะ หน้าปลาไหล หน้าเขียดกันทุกคน)
เชื่อมั้ยครับ ขึ้น ป.2 เสื้อผ้านักเรียนต้องตัดพิเศษ น้ำหนักเกิน 40+ แล้วมั้งครับตอนนั้น จบ ป.6 ก็น่าจะ 60+ แล้วล่ะ
พอขึ้นมัธยม อาการของเด็กอ้วนจะคล้ายๆกันอยู่อย่างคือ ถ้าไม่เป็นคนเก็บตัว ก็จะเป็นตัวตลกในสังคมเพื่อนฝูง เฮฮากันไป (ในส่วนนี้น่าจะมาจากการเลี้ยงดู ถ้าครอบครัวใส่ใจ และไม่เอาความอ้วนมาบอกว่านี่คือปมด้อยแก่เด็ก เด็กก็จะเติบโตมารักตัวเอง ภูมิใจในความเป็นตัวเอง มองโลกในแง่ดี แต่ถามว่ามันดีต่อตัวเด็กมั้ย ผมว่าเขาจะกลายเป็นคนรักการกินมากกว่าเดิมนะ และไม่มองว่าการลดน้ำหนัก จะเปลี่ยนแปลงตัวเขาได้อย่างไร) อ่ะ แล้วย้อนมาที่ผม ผมคือเด็กอ้วนแบบไหน
**แบบเก็บตัวครับ!! เพราะผมโดนบอกว่าความอ้วนคือสิ่งไม่ดี สิ่งเลวร้าย คือปัญหาใหญ่ และผมทำไมลดมันไม่ได้!! มันสร้างให้ผมกลายเป็นคนที่มองว่าตรงนี้คือปมด้อยมาก เลยชอบเก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร หรือจะพูดแบบเท่ๆหน่อยก็คือ โลกส่วนตัวสูง
*อยากจะฝากถึงผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูเด็กๆที่มีน้ำหนักเกณฑ์มาตรฐานนะครับ ว่าควรใส่ใจในด้านอารมณ์ โภชนาการ การสั่งสอน สังคมแก่เด็กเหล่านี้ให้มากๆนะครับ คุณไม่ได้สร้างแค่มนุษย์อ้วนคนนึงขึ้นมาเท่านั้น แต่คุณสร้างโลกทั้งใบให้กับเขาครับ สร้างพฤติกรรมผิดๆ สร้างวิถีชีวิตผิดๆให้กับเขา จนถึงขั้นอาจกู่ไม่กลับ มีปัญหากับชีวิตในอนาคตได้เลยนะ(จากใจเด็กอ้วนเลย)
เอ้า ไหลออกทะเล ถึงไหนนะ!! ร่างกายที่ซับไขมันมาเป็นเวลานาน แน่นอนว่าจะทำให้ผิวหนังเสื่อมสภาพครับ(สำหรับบางคนนะ คหสต) บางคนตัวนี่ดำเลยนะ บางคนขาวจั๊วเลยก็มี อันนี้งงอยู่ ผ่าน
กลิ่นตัวก็มาครับ ความเครียดที่สะสมอยู่ลึกๆเริ่มระเหิดออกมา กิจกรรมต่างๆที่คนอื่นทำได้ เราทำไม่ได้ เสียใจนะ แต่ถามว่าทำไมไม่ลดล่ะ (มันฝังรากมาตั้งแต่เด็กไงครับ)
พอมัธยม ก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือน้ำหนักที่ขึ้นเอาๆ จนปาไป 90-100 ตัวนี่ดำเมี่ยมครับอย่าให้พูด จนขึ้นมหาลัย *ไม่รู้คนอื่นจะสังเกตุตัวเองไหมนะครับ ผมกลายเป็นคนที่เฉื่อยมากๆเลยครับ เหนื่อยหอบ ไม่อยากไปไหน ไม่อยากเจอใคร ใช้ชีวิตเท่ๆที่เรียกว่าโลกส่วนตัวสูงกับตัวเองไปวันๆ ยัดอาหาร ยัดของชอบเข้าร่างกาย โดยมองว่ามันคือเรื่องปกติ ที่ทุกคนเกิดมาต้องกินอาหาร จนน้ำหนักเข้าไป100+ครับ พระเจ้าา คนรอบข้างบอกว่า ทำโมสังโฆ..แต่ไหงผมเฉยๆกับมันก็ไม่รู้สิครับ (โรคหลอกตัวเองซึมเข้าสายเลือด)
++ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านทุกอย่างที่คนอ้วนดำๆจะได้รับ...จน..
*ผมชักจะยืดเยื้อ เอาไงดี ........
.
.
จนน้ำหนัก 120!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! (ในวัย26)
#นึกย้อนกลับไป ผมเสียใจมากๆเลยกับช่วงชีวิตวัยรุ่นที่ขาดหายไป เสียดายที่ความหล่อเหลาถูกบีบอัดไปด้วยไขมัน 555
#ไม่ขอรวดเดียวจบนะ มาเป็นท่อนๆแท่นๆละกันนะครับ
******ต่อนะครับ ผมจะอธิบายในมุมของคนธรรมดาคนนึงนะครับ เพราะผมเป็นคนธรรมดาๆ ที่วันนึง อยากลุกขึ้นมาทำอะไรบ้างก็เท่านั้น (อยากมีแควนน)
ชีวิตที่ผ่านๆมา ผมพยายามหาข้ออ้างให้ตัวเองมาตลอด อ้างนู้น อ้างนี่ อ้างเวลา สารพัดที่จะเอามาอ้าง คนอ้วนหลายๆคนก็เบื่อตัวเองเหมือนผมใช่ไหมล่ะรู้นะ
พอจบมัธยม ก็อ้างเรื่องเรียนต่อ พอเรียนๆไป ก็อ้างเรียนหนัก อ้างเพื่อนเยอะ อ้างวิถีชีวิต อ้างรถติด อ้างติดเที่ยว อ้างอาหารมันอร่อย อ้างร้านค้าเยอะ อ้างงงตัวเอง สารพัดจะอ้าง จนแล้วจนรอด ที่ลึกๆอยากลดน้ำหนัก ลดได้มั้ย หึ! ขึ้นสิครับ มหาลัยวัยร่าเริงงงง วัยข้ออ้างงง
พอมาทำงาน... ... .. .
ข้ออ้างหลายๆอย่างของผม เริ่มหายไป ชีวิตเริ่มวนลูป ทำงาน กลับห้อง ทำงาน กลับห้อง เริ่มเบื่อตัวเอง....
จู่ๆวันนึงก็มาคิด ว่าไหนๆก็ว่างหลังกลับจากทำงาน (ถามว่ามีแรงบันดาลใจอะไรมั้ยตอนนั้น หึ! ไม่มีครับ แค่มันว่างๆเซ็งๆอืดๆ)เลยจะลองเริ่มต้นลดน้ำหนักดูครับ และนี่แหละ คือจุดเปลี่ยนของผม
จู่ๆ จากน้ำหนัก 120 ก็เหลือ 69 พระเจ้า กูบ้าไปแล้วครับ
*สวัสดีครับ มีเรื่องน่าตื่นเต้นเรื่องนึง(มั้ง) ที่คิดว่า อาจจะเอามาเล่าในมุมมองของผมเองบ้าง มนุษย์ที่น้ำหนักเกินเกณฑ์คนนึงอยากเปลี่ยนมุมมองต่อโลกในมุมใหม่ๆบ้าง เลยจริงจังกับการลดน้ำหนักในวัย26ปี!!
เด็กอ้วนร่างดำ ตั้งแต่วัยกะเตาะ ชีวิตมีแต่อาหารอร่อยๆฝีมือแม่ กับยายที่ชอบขุนหลานให้ใหญ่โตเกินความจำเป็น สร้างโลกให้อาหารเป็นแทบทุกอย่างสำหรับผม
สิ่งที่เผชิญอยู่จวบจนโตมันมีความสุขมั้ย แน่นอนครับว่าสุขมากก ใครจะไม่ชอบ รูป รส กลิ่น ของอาหารไทยล่ะครับ ถึงขั้นดังไปทั่วโลกเลยนะ
รูปลักษณ์ผมเบ่งบานออกมาอย่างชัดเจนเมื่อวัย 6-7ขวบ สัมผัสตอนนั้นคือความแปลกใจ ในความแตกต่างของตนเองกับคนรอบข้าง (แต่ไม่ได้ทำให้ผมอิจฉาความผอมอะไรทำนองนั้นหรอกนะ หน้าปลาไหล หน้าเขียดกันทุกคน)
เชื่อมั้ยครับ ขึ้น ป.2 เสื้อผ้านักเรียนต้องตัดพิเศษ น้ำหนักเกิน 40+ แล้วมั้งครับตอนนั้น จบ ป.6 ก็น่าจะ 60+ แล้วล่ะ
พอขึ้นมัธยม อาการของเด็กอ้วนจะคล้ายๆกันอยู่อย่างคือ ถ้าไม่เป็นคนเก็บตัว ก็จะเป็นตัวตลกในสังคมเพื่อนฝูง เฮฮากันไป (ในส่วนนี้น่าจะมาจากการเลี้ยงดู ถ้าครอบครัวใส่ใจ และไม่เอาความอ้วนมาบอกว่านี่คือปมด้อยแก่เด็ก เด็กก็จะเติบโตมารักตัวเอง ภูมิใจในความเป็นตัวเอง มองโลกในแง่ดี แต่ถามว่ามันดีต่อตัวเด็กมั้ย ผมว่าเขาจะกลายเป็นคนรักการกินมากกว่าเดิมนะ และไม่มองว่าการลดน้ำหนัก จะเปลี่ยนแปลงตัวเขาได้อย่างไร) อ่ะ แล้วย้อนมาที่ผม ผมคือเด็กอ้วนแบบไหน
**แบบเก็บตัวครับ!! เพราะผมโดนบอกว่าความอ้วนคือสิ่งไม่ดี สิ่งเลวร้าย คือปัญหาใหญ่ และผมทำไมลดมันไม่ได้!! มันสร้างให้ผมกลายเป็นคนที่มองว่าตรงนี้คือปมด้อยมาก เลยชอบเก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร หรือจะพูดแบบเท่ๆหน่อยก็คือ โลกส่วนตัวสูง
*อยากจะฝากถึงผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูเด็กๆที่มีน้ำหนักเกณฑ์มาตรฐานนะครับ ว่าควรใส่ใจในด้านอารมณ์ โภชนาการ การสั่งสอน สังคมแก่เด็กเหล่านี้ให้มากๆนะครับ คุณไม่ได้สร้างแค่มนุษย์อ้วนคนนึงขึ้นมาเท่านั้น แต่คุณสร้างโลกทั้งใบให้กับเขาครับ สร้างพฤติกรรมผิดๆ สร้างวิถีชีวิตผิดๆให้กับเขา จนถึงขั้นอาจกู่ไม่กลับ มีปัญหากับชีวิตในอนาคตได้เลยนะ(จากใจเด็กอ้วนเลย)
เอ้า ไหลออกทะเล ถึงไหนนะ!! ร่างกายที่ซับไขมันมาเป็นเวลานาน แน่นอนว่าจะทำให้ผิวหนังเสื่อมสภาพครับ(สำหรับบางคนนะ คหสต) บางคนตัวนี่ดำเลยนะ บางคนขาวจั๊วเลยก็มี อันนี้งงอยู่ ผ่าน
กลิ่นตัวก็มาครับ ความเครียดที่สะสมอยู่ลึกๆเริ่มระเหิดออกมา กิจกรรมต่างๆที่คนอื่นทำได้ เราทำไม่ได้ เสียใจนะ แต่ถามว่าทำไมไม่ลดล่ะ (มันฝังรากมาตั้งแต่เด็กไงครับ)
พอมัธยม ก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือน้ำหนักที่ขึ้นเอาๆ จนปาไป 90-100 ตัวนี่ดำเมี่ยมครับอย่าให้พูด จนขึ้นมหาลัย *ไม่รู้คนอื่นจะสังเกตุตัวเองไหมนะครับ ผมกลายเป็นคนที่เฉื่อยมากๆเลยครับ เหนื่อยหอบ ไม่อยากไปไหน ไม่อยากเจอใคร ใช้ชีวิตเท่ๆที่เรียกว่าโลกส่วนตัวสูงกับตัวเองไปวันๆ ยัดอาหาร ยัดของชอบเข้าร่างกาย โดยมองว่ามันคือเรื่องปกติ ที่ทุกคนเกิดมาต้องกินอาหาร จนน้ำหนักเข้าไป100+ครับ พระเจ้าา คนรอบข้างบอกว่า ทำโมสังโฆ..แต่ไหงผมเฉยๆกับมันก็ไม่รู้สิครับ (โรคหลอกตัวเองซึมเข้าสายเลือด)
++ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านทุกอย่างที่คนอ้วนดำๆจะได้รับ...จน..
*ผมชักจะยืดเยื้อ เอาไงดี ........
.
.
จนน้ำหนัก 120!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! (ในวัย26)
#นึกย้อนกลับไป ผมเสียใจมากๆเลยกับช่วงชีวิตวัยรุ่นที่ขาดหายไป เสียดายที่ความหล่อเหลาถูกบีบอัดไปด้วยไขมัน 555
#ไม่ขอรวดเดียวจบนะ มาเป็นท่อนๆแท่นๆละกันนะครับ
******ต่อนะครับ ผมจะอธิบายในมุมของคนธรรมดาคนนึงนะครับ เพราะผมเป็นคนธรรมดาๆ ที่วันนึง อยากลุกขึ้นมาทำอะไรบ้างก็เท่านั้น (อยากมีแควนน)
ชีวิตที่ผ่านๆมา ผมพยายามหาข้ออ้างให้ตัวเองมาตลอด อ้างนู้น อ้างนี่ อ้างเวลา สารพัดที่จะเอามาอ้าง คนอ้วนหลายๆคนก็เบื่อตัวเองเหมือนผมใช่ไหมล่ะรู้นะ
พอจบมัธยม ก็อ้างเรื่องเรียนต่อ พอเรียนๆไป ก็อ้างเรียนหนัก อ้างเพื่อนเยอะ อ้างวิถีชีวิต อ้างรถติด อ้างติดเที่ยว อ้างอาหารมันอร่อย อ้างร้านค้าเยอะ อ้างงงตัวเอง สารพัดจะอ้าง จนแล้วจนรอด ที่ลึกๆอยากลดน้ำหนัก ลดได้มั้ย หึ! ขึ้นสิครับ มหาลัยวัยร่าเริงงงง วัยข้ออ้างงง
พอมาทำงาน... ... .. .
ข้ออ้างหลายๆอย่างของผม เริ่มหายไป ชีวิตเริ่มวนลูป ทำงาน กลับห้อง ทำงาน กลับห้อง เริ่มเบื่อตัวเอง....
จู่ๆวันนึงก็มาคิด ว่าไหนๆก็ว่างหลังกลับจากทำงาน (ถามว่ามีแรงบันดาลใจอะไรมั้ยตอนนั้น หึ! ไม่มีครับ แค่มันว่างๆเซ็งๆอืดๆ)เลยจะลองเริ่มต้นลดน้ำหนักดูครับ และนี่แหละ คือจุดเปลี่ยนของผม