หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
แชร์รีวิวผิดพลาดจากการฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าอก Part 3
กระทู้สนทนา
ศัลยกรรมความงาม
อ่าน Part 1 ได้ที่
https://pantip.com/topic/38826412
อ่าน Part 2 ได้ที่
https://pantip.com/topic/38819329
วันผ่าตัดก็มาถึง...วาวามาถึงโรงพยาบาลแต่เช้า ทำประวัติเสร็จเจ้าหน้าก็พาไปเปลี่ยนชุดและนอนรอบนเตียง เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่ก็มาเข็นเข้าห้องผ่าตัด วิสัญญีแพทย์ก็มาดูแลเรื่องการวางยาสลบ ใช้เวลาผ่าตัดหลายชั่วโมง พอฟื้นขึ้นมาทางเจ้าหน้าก็เข็นไปที่ตึกห้องพักฟื้น ตลอดทางที่เข็นมาห้องพักฟื้นมีความเจ็บปวดจากแผลหลังผ่าตัดสุดแสนจะทรมานปวดร้าวไปทั้งตัวน้ำตาไหลตลอดทาง และเมื่อถึงห้องพักขั้นตอนการย้ายผู้ป่วยจากรถเข็นไปบนเตียงเจ็บจี๊ดจนถึงขึ้นกรีดร้องออกมา คุณหมอให้เลือด 1 ถุง เนื่องจากในห้องผ่าตัดเสียเลือดมาก ผ่านไปไม่ถึง 2 ชั่วโมงประจำเดือนก็มาอีก เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ เสียเลือดในห้องผ่าตัดแล้วประจำเดือนยังจะมาตอนนี้อีก เสียเลือดจนตัวซีดเหมือนศพเลยตอนนั้น นอนอยู่บนเตียงแบบนิ่งๆ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โชคดีที่มีรุ่นพี่มาช่วยดูแล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รุ่งขึ้นก็กลับไปพักฟื้นที่บ้านแม่ หลังผ่าตัดกินอาหารอะไรไม่ได้เลย คลื่นไส้อาเจียนตลอด แต่ก็ต้องพยายามกินให้ได้ เพื่อที่จะต้องกินยาหลังอาหารมีแม่และหลานคอยดูแลให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด เพราะลุกนั่งหรือหยิบของช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ร่างกายมันปวดร้าวระบมไปทั้งตัวได้แต่นอนนิ่งอยู่บนเตียง เวลาจะเข้าห้องน้ำก็ลำบากมาก แม่ประคองเดินหิ้วปีกแขนทั้งสองข้างส่วนหลานสาววัย 3 ขวบก็ช่วยถือถุงใส่กระปุกสายเดรนเลือด เดินประคองกัน 3 คนพร้อมกันเข้าห้องน้ำทุกครั้ง และทุกมื้อแม่ก็ต้องคอยป้อนอาหารเพราะมือวาวาไม่มีแรงยกช้อนเองไม่ได้ ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมอาการถึงหนักขนาดนั้น คำตอบก็คือตั้งแต่วันแรกที่แอดมิดโรงพยาบาล จนถึงวันที่ผ่าตัดใหญ่คว้านเอาฟิลเลอร์ออกทั้งหมด ภายในระยะเวลา 2 เดือน วาวาผ่าตัดทั้งหมด 4 ครั้ง ร่างกายผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง น้ำหนักจาก 43 กิโลกรัม ลดลงมาเหลือ 39-40 กิโลกรัม เสียเลือดมากมายตั้งแต่การเดรนหนองออกทุกวัน การผ่าตัดทุกครั้งและการดมยาก่อนผ่าตัดทุกครั้งอีก คุณคิดว่าร่างกายมันจะเจ็บปวดรวดร้าวทรมานแค่ไหน เมื่อถึงกำหนดนัดแกะผ้าพันแผลออก วินาทีแรกที่เห็นสภาพหน้าอกตัวเองแทบช็อกน้ำตาร่วงเลยคะ รับสภาพตัวเองไม่ได้จริงๆ รูปทรงหน้าอกเปลี่ยนไปไม่ได้แค่แบนราบ แต่ยุบลงไปเป็นแอ่งอีกด้วย เนื่องจากเนื้อนมถูกตัดออก ทำให้อกยุบลงไปทั้ง 2 ข้าง และผิวหน้าอกก็ยังเป็นคลื่นๆ ไตๆ เพราะไม่สามารถเอาออกได้ 100% ต้องมาพบแพทย์ทุกสัปดาห์ ประมาณ 1 เดือน เพื่อตรวจเช็คแผลและอาการติดเชื้อ สภาพใจจิตตัวเองเริ่มมีอาการจิตตกและแย่ลงเรื่อยๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชีวิตหลังผ่าตัดใหญ่เอาฟิลเลอร์ออกทั้งหมดก็ยังต้องเจอกับปัญหาอีกหลายอย่างตามมา วาวาไม่สามารถทำงานได้ ขับรถไม่ได้ ยกของหนักก็ไม่ได้ งดอาหารแสลงทุกชนิด เน้นทานไก่และไข่ขาว ทุกวันต้องทานอกไก่และไข่ขาววันละ 8 ฟองเพื่อเสริมสร้างเนื้อเยื่อหน้าอก การแต่งตัวก็ใส่ได้แค่เสื้อยืดกับเสื้อเชิ้ต เสื้อในก็ใส่เป็นสปอร์ตบราเสริมฟองน้ำแทน การเดินก็เดินอย่างช้าๆ การนอนก็ต้องนอนหงายเท่านั้น นอนตะแคงไม่ได้เพราะจะเจ็บแผลยังคงปวดร้าวไปทั้งตัว สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนั้นก็คือการสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิ ซึ่งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจได้ดีที่สุด ผ่านไป 2-3 เดือนเริ่มมีอาการนอนไม่หลับไปฝังเข็มก็ไม่ดีขึ้น สุดท้ายเลยตัดสินใจไปพบแพทย์ระบบประสาท ก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แพทย์ฟัง แพทย์วิเคราะห์อาการว่าเป็นอาการของโรคซึมเศรา รักษาด้วยวิธีการกินยาอย่างต่อเนื่องประมาณ 2 ปี หรืออย่างเร็วที่สุดก็ 1 ปี ควรออกกำลังกายและพบปะพูดคุยกับผู้คนมากๆ แพทย์สั่งจ่ายยาและนัดพบทุกเดือน มียาปรับอารมณ์และยาคลายเครียด โรคซึมเศร้าที่วาวาเป็นเกิดจากสภาวะการเจ็บป่วยเรื้อรังและรักษาเป็นเวลานาน ไม่สามารถทำงานได้ ไม่มีรายได้ซึ่งมีภาระครอบครัวที่ต้องดูแลและถูกคนรักทอดทิ้งในขณะที่เจ็บป่วย การทานยาตามแพทย์สั่งและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะทำให้อาการดีขึ้นตามลำดับ
6 เดือนผ่านไปมาพบหมอเพื่อตรวจเช็คหน้าอก ซึ่งผลก็คือเนื้อเยื่อยังไม่ดีเท่าที่ควร รออีก 3 เดือนมาตรวจเช็คอีกที ชีวิตที่ไม่มีหน้าอกมันช่างทรมานจริงๆ กินยาฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นโอเวอร์โดสหน้าบวมแขนขาบวมไปหมด แต่ก็ยังคงดำรงชีวิตให้อยู่ได้และสู้ต่อไป ครบ 1 ปี มาพบคุณหมอท่านบอกว่าสามารถผ่าตัดใส่ซิลิโคนได้แล้ว รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากที่จะได้กลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว ก่อนผ่าตัดคุณหมอได้แจ้งไว้ก่อนแล้วว่าหลังผ่าตัดใส่ซิลิโคนหน้าอกของเราจะไม่ได้สวยงามเพอร์เฟค 100% นะ เพราะเป็นคนเนื้อบางและถูกตัดเนื้อนมออกไป แต่หมอจะทำออกมาให้ดีที่สุด เชื่อใจคุณหมอค่ะ เพราะคุณหมอคือคนท่ีช่วยชีวิตเราให้รอดตายจากการติดเชื้อมาแล้ว ครั้งนี้ก็มั่นใจว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมถึงแม้จะไม่สมบูรณ์ 100% ก็ตาม
วันที่รอคอยก็มาถึงไปโรงพยาบาลตามนัดแต่เช้าเตรียมตัวพร้อมเข้าห้องผ่าตัด หมอแจ้งว่าครั้งนี้การผ่าตัดง่ายกว่าครั้งก่อนแค่ผ่าเสริมซิลิโคนใส่สายเดรนเลือดนอนพัก 1 คืนก็กลับบ้านได้ คุณหมอเสริมซิลิโคน 300 cc ยี่ห้อ Mentor ทรงกลมคะ ไม่สามารถใส่ขนาดใหญ่กว่านี้ได้เนื่องจากเคยตัดเนื้อนมออกและผิวค่อนข้างบาง หลังผ่าตัดเสร็จย้ายมาห้องพักฟื้นไม่ได้เป็นอย่างที่คิด นอนขยับตัวไม่ได้เลยปวดร้าวเจ็บทรมานไปทั้งตัวยิ่งเจ็บกว่าผ่าตัดครั้งที่แล้วอีก แม้แต่หายใจหรือจะพูดคุยก็เจ็บไปทั้งตัวได้แต่นอนร้องไห้น้ำตาไหลนองหน้ากับความเจ็บปวดผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็ขอยาแก้ปวดเพิ่มทั้งยาแก้ปวดและมอร์ฟีนก็เอาไม่อยู่กับความเจ็บปวดในครั้งนี้ วันรุ่งขึ้นตื่นมาก็ยังขยับร่างกายไม่ได้ ลุกขึ้นไม่ไหวคุณหมอให้พักอีก 1 คืน ความปวดก็ยังมีตลอดเวลาให้กินยาแก้ปวดชนิดแรงสุดก็ยังเอาไม่อยู่ ให้มอร์ฟีนก็แก้ปวดได้แค่ชั่วคราวต้องสู้และอดทนกับความเจ็บปวดพยายามข่มตาให้หลับเพื่อลดความเจ็บปวด รุ่งขึ้นอาการดีขึ้นพอขยับตัวลุกขึ้นได้คุณหมอมาตัดสายเดรนเลือดออกแล้วอนุญาติให้กลับบ้านได้ และมาพบตามนัด
หลังเสริมซิลิโคนก็ยังต้องดูแลรักษาตัวเองอีกหลายอย่าง ไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง ดูแลแผลหลังผ่าตัดไม่ให้เป็นคีย์รอย ดูแลสุขภาพฟื้นฟูจิตใจรักษาโรคซึมเศร้ากินยาและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอใช้เวลาเกือบ 3 ปีในการรักษากว่าจะกลับมาเป็นปกติ เงินเก็บที่เคยมีอยู่ก็หมดไปกับค่ารักษาจนหมดเนื้อหมดตัว ต้องกู้ยืมเงินคนอื่นมาเป็นค่าผ่าตัด พอสามารถขับรถได้ก็เริ่มกลับมาทำงานเหมือนเดิม ดีใจที่ได้กลับมาทำงานดูแลครอบครัวอีกครั้ง การป่วยหนักอย่างแสนสาหัสในครั้งนี้เป็นบทเรียนราคาแพงเลยทีเดียว มันทำให้เราได้รู้ว่าในวันที่เราป่วยหนักปางตายผ่าตัดแล้วผ่าตัดอีกเกือบติดเชื้อเข้ากระเเสเลือดเอาชีวิตเกือบไม่รอด ใครที่ทอดทิ้งเราและใครที่อยู่เคียงข้างเราดูแลช่วยเหลือเรา เชื่อมั้ยคนรักที่เคยบอกว่าจะดูแลเราไปตลอดกลับมาทิ้งเราในวันที่เราต้องการกำลังใจมากที่สุดแล้วไปมีความสุขกับผู้หญิงคนใหม่ มีแต่ครอบครัวที่ดูแลเราด้วยความรักด้วยใจบริสุทธิ์จากคนที่เราเรียกว่าแม่ แม่อดหลับอดนอนประคองเราเข้าห้องน้ำตลอดคืน ป้อนข้าว ป้อนน้ำ เตรียมยาตามเวลา เช็ดหน้า เช็ดตัว สระผม ตัดเล็บมือเล็บเท้าให้เรา เหนื่อยแค่ไหนแม่ก็ดูแลเราไม่เคยบ่น และอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เรารอดมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การสวดมนต์ การนั่งสมาธิเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ให้เราฟุ้งซ่านและมีสติในการดำรงชีวิตมากขึ้น หลังจากที่เคยคิดฆ่าตัวตาย เมื่อเรามีสติเราก็จะมีแรงสู้และดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่
“ศัลยกรรมยังเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคนที่รักสวยรักงามและอยากที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ควรศึกษาและหาข้อมูลให้ดีก่อนทำทุกประเภท อย่าเพียงแต่ฟังจากคำพูดที่เค้าพูดต่อกันมา จากจุดผิดพลาดเล็กๆสามารถกลายเป็นความผิดพลาดอย่างแสนสาเหตุเลยทีเดียว บทเรียนราคาแพง”
ขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆทุกคนที่ช่วยเหลือดูแลและให้กำลังใจวาวาจนกลับมาหายดีเป็นปกติและหวังว่าการเขียนแชร์ประสบการณ์ผิดพลาดศัลยกรรมจากฟิลเลอร์ในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับใครอีกหลายๆคนที่กำลังประสบปัญหาอยู่ ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านตั้งแต่ต้นจนจบนะคะถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ
ปล. ติดตามหรือเข้ามาพูดคุยปรึกษาที่เฟสบุ๊คได้เช่นกันนะคะวาวายินดีให้คำแนะนำ
facebook : Passaran Wawa
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
เช็กด่วน! อาการริดสีดวงทวารแต่ละระยะเป็นอย่างไร? สัญญาณเตือนที่คุณต้องรู้
คุณกำลังประสบปัญหานั่งไม่สบาย ถ่ายอุจจาระแล้วรู้สึกเจ็บ หรือมีเลือดออกปนมากับอุจจาระใช่หรือไม่? อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของ ‘ริดสีดวงทวาร’ โรคใกล้ตัวที่หลายคนกำลังเผชิญและอาจมองข้าม
DR PRI ดอกเตอร์ไพร
แชร์ประสบการณ์ ทำหน้าอกได้ 3 วันแล้วไปทำงานแบบชิวๆ (โดยพักฟื้นคนเดียว)
สมาชิกหมายเลข 4398139
ฟิลเลอร์เกาะเป็นก้อนที่หน้าอก ต้องผ่าตัด!
ฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าอกประมาณ10ปีกว่าแล้วค่ะ พอมารู้สึกได้ช่วงนี้ว่ามันมีก้อนๆที่หน้าอก ไปพบหมอปรากฏว่าต้องผ่าตัดเพราะฟิลเลอร์เกาะเป็นก้อนและหมอไม่รับผ่าต้องให้หมอเฉพาะทางผ่าออก อยากจะสอบถามว่าที่จังหวั
สมาชิกหมายเลข 3549700
รีวิวทำตาสองชั้น ฉบับคนตาง่วงปรือ กล้ามเนื้ออ่อนแรง
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนน 🤗 ❤️ หลังจากที่มีคนทักเราว่าหน้าง่วงอยู่บ่อยๆ วันนี้เลยตัดสินใจขึ้นเขียงทำสวยเพื่อเปลี่ยนตัวเอง เราเลือกทำตาสองชั้นกับคลินิกหมอรวงข้าวนะคะ ทำเทคนิคดึงกล้ามเนื้อตาลีเว
not buy the moon
ดวง โชค ซุ่มซ่าม
เรื่องราวชีวิตที่ผมเคยเจอมา วัยเด็กกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ตอนผมยังเด็ก ประมาณอนุบาล ผมชอบดูละครเรื่อง "องค์บาก" มาก ก็เลยเลียนแบบโดยการเล่นต่อสู้กับเพื่อน แต่เพื่อนผมดันมี มีดเหลาดินสอ อยู่ใน
สมาชิกหมายเลข 4441995
รีวิวทำหน้าอกไซส์พอดีตัวกับคลินิกดัง แก้น้องนมไม่เท่ากัน
ครั้งแรกกับการทำศัลยกรรมครั้งใหญ่ของเค้าเลยค่ะ ทำนมนี่ถือว่าใหญ่ไหมอะ? ส่วนตัวเค้าก็คิดว่ามันใหญ่และแอบหวั่นๆอยู่นะ เพราะมีการดมยาสลบด้วยไรด้วย เค้าทำกับคลินิกที่นึงค่ะ ขึ้นฟีดบ่อยมากกกที่นี่ คนรอบ
สมาชิกหมายเลข 8889544
มีใครเคยท้องนอกมดลูก แล้วแท้งเองบ้างไหมคะ
เราตรวจเจอว่าเราท้อง วันที่ 11/06 แต่ยังไม่ได้ไปฝากท้อง เพราะเราอาศัยอยู่ต่างประเทศ และกำลังตัดสินใจว่าจะกลับมาฝากท้องที่ไทยดีไหม หลังจากรู้ตัวว่าท้อง นอนเรานอนมีอาการปวดท้องแต่ไม่ได้ปวดมากบ่อยครั้ง
สมาชิกหมายเลข 9000477
เส้นเลือดในสมองตีบ อันตรายแต่รักษาได้! พร้อมการดูแลไม่ให้เป็นซ้ำ
เส้นเลือดในสมองตีบ รักษาหาย ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ 📌 เส้นเลือดในสมองตีบ หรือเรียกว่า Ischemic Stroke เป็นภาวะที่สมองขาดเลือดและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง ทำให้เซลล์สมองเกิดความเสียหาย จนไม่สามารถทำหน้
VEJTHANI HOSPITAL
ขอคนเมตตา 🙏🏻🙏🏻
📌 ขออนุญาตเปิดระดมทุนเพื่อรักษาน้องแมว 10 - 20 บาท 🟡น้องชื่อ ข้าวหอม อายุประมาณ 2-3ปี พอดีน้องเป็นแมวจรมาก่อน ▶️เมื่อวันจันทร์ที่ 26 พ.ค. 68 น้องโดนหมากัด+โดนรถชน ทำให้ผนังช่องท้อง
สมาชิกหมายเลข 8857419
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ศัลยกรรมความงาม
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 43
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
แชร์รีวิวผิดพลาดจากการฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าอก Part 3
อ่าน Part 2 ได้ที่ https://pantip.com/topic/38819329
วันผ่าตัดก็มาถึง...วาวามาถึงโรงพยาบาลแต่เช้า ทำประวัติเสร็จเจ้าหน้าก็พาไปเปลี่ยนชุดและนอนรอบนเตียง เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่ก็มาเข็นเข้าห้องผ่าตัด วิสัญญีแพทย์ก็มาดูแลเรื่องการวางยาสลบ ใช้เวลาผ่าตัดหลายชั่วโมง พอฟื้นขึ้นมาทางเจ้าหน้าก็เข็นไปที่ตึกห้องพักฟื้น ตลอดทางที่เข็นมาห้องพักฟื้นมีความเจ็บปวดจากแผลหลังผ่าตัดสุดแสนจะทรมานปวดร้าวไปทั้งตัวน้ำตาไหลตลอดทาง และเมื่อถึงห้องพักขั้นตอนการย้ายผู้ป่วยจากรถเข็นไปบนเตียงเจ็บจี๊ดจนถึงขึ้นกรีดร้องออกมา คุณหมอให้เลือด 1 ถุง เนื่องจากในห้องผ่าตัดเสียเลือดมาก ผ่านไปไม่ถึง 2 ชั่วโมงประจำเดือนก็มาอีก เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ เสียเลือดในห้องผ่าตัดแล้วประจำเดือนยังจะมาตอนนี้อีก เสียเลือดจนตัวซีดเหมือนศพเลยตอนนั้น นอนอยู่บนเตียงแบบนิ่งๆ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โชคดีที่มีรุ่นพี่มาช่วยดูแล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชีวิตหลังผ่าตัดใหญ่เอาฟิลเลอร์ออกทั้งหมดก็ยังต้องเจอกับปัญหาอีกหลายอย่างตามมา วาวาไม่สามารถทำงานได้ ขับรถไม่ได้ ยกของหนักก็ไม่ได้ งดอาหารแสลงทุกชนิด เน้นทานไก่และไข่ขาว ทุกวันต้องทานอกไก่และไข่ขาววันละ 8 ฟองเพื่อเสริมสร้างเนื้อเยื่อหน้าอก การแต่งตัวก็ใส่ได้แค่เสื้อยืดกับเสื้อเชิ้ต เสื้อในก็ใส่เป็นสปอร์ตบราเสริมฟองน้ำแทน การเดินก็เดินอย่างช้าๆ การนอนก็ต้องนอนหงายเท่านั้น นอนตะแคงไม่ได้เพราะจะเจ็บแผลยังคงปวดร้าวไปทั้งตัว สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนั้นก็คือการสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิ ซึ่งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจได้ดีที่สุด ผ่านไป 2-3 เดือนเริ่มมีอาการนอนไม่หลับไปฝังเข็มก็ไม่ดีขึ้น สุดท้ายเลยตัดสินใจไปพบแพทย์ระบบประสาท ก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แพทย์ฟัง แพทย์วิเคราะห์อาการว่าเป็นอาการของโรคซึมเศรา รักษาด้วยวิธีการกินยาอย่างต่อเนื่องประมาณ 2 ปี หรืออย่างเร็วที่สุดก็ 1 ปี ควรออกกำลังกายและพบปะพูดคุยกับผู้คนมากๆ แพทย์สั่งจ่ายยาและนัดพบทุกเดือน มียาปรับอารมณ์และยาคลายเครียด โรคซึมเศร้าที่วาวาเป็นเกิดจากสภาวะการเจ็บป่วยเรื้อรังและรักษาเป็นเวลานาน ไม่สามารถทำงานได้ ไม่มีรายได้ซึ่งมีภาระครอบครัวที่ต้องดูแลและถูกคนรักทอดทิ้งในขณะที่เจ็บป่วย การทานยาตามแพทย์สั่งและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะทำให้อาการดีขึ้นตามลำดับ
6 เดือนผ่านไปมาพบหมอเพื่อตรวจเช็คหน้าอก ซึ่งผลก็คือเนื้อเยื่อยังไม่ดีเท่าที่ควร รออีก 3 เดือนมาตรวจเช็คอีกที ชีวิตที่ไม่มีหน้าอกมันช่างทรมานจริงๆ กินยาฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นโอเวอร์โดสหน้าบวมแขนขาบวมไปหมด แต่ก็ยังคงดำรงชีวิตให้อยู่ได้และสู้ต่อไป ครบ 1 ปี มาพบคุณหมอท่านบอกว่าสามารถผ่าตัดใส่ซิลิโคนได้แล้ว รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากที่จะได้กลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว ก่อนผ่าตัดคุณหมอได้แจ้งไว้ก่อนแล้วว่าหลังผ่าตัดใส่ซิลิโคนหน้าอกของเราจะไม่ได้สวยงามเพอร์เฟค 100% นะ เพราะเป็นคนเนื้อบางและถูกตัดเนื้อนมออกไป แต่หมอจะทำออกมาให้ดีที่สุด เชื่อใจคุณหมอค่ะ เพราะคุณหมอคือคนท่ีช่วยชีวิตเราให้รอดตายจากการติดเชื้อมาแล้ว ครั้งนี้ก็มั่นใจว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมถึงแม้จะไม่สมบูรณ์ 100% ก็ตาม
วันที่รอคอยก็มาถึงไปโรงพยาบาลตามนัดแต่เช้าเตรียมตัวพร้อมเข้าห้องผ่าตัด หมอแจ้งว่าครั้งนี้การผ่าตัดง่ายกว่าครั้งก่อนแค่ผ่าเสริมซิลิโคนใส่สายเดรนเลือดนอนพัก 1 คืนก็กลับบ้านได้ คุณหมอเสริมซิลิโคน 300 cc ยี่ห้อ Mentor ทรงกลมคะ ไม่สามารถใส่ขนาดใหญ่กว่านี้ได้เนื่องจากเคยตัดเนื้อนมออกและผิวค่อนข้างบาง หลังผ่าตัดเสร็จย้ายมาห้องพักฟื้นไม่ได้เป็นอย่างที่คิด นอนขยับตัวไม่ได้เลยปวดร้าวเจ็บทรมานไปทั้งตัวยิ่งเจ็บกว่าผ่าตัดครั้งที่แล้วอีก แม้แต่หายใจหรือจะพูดคุยก็เจ็บไปทั้งตัวได้แต่นอนร้องไห้น้ำตาไหลนองหน้ากับความเจ็บปวดผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็ขอยาแก้ปวดเพิ่มทั้งยาแก้ปวดและมอร์ฟีนก็เอาไม่อยู่กับความเจ็บปวดในครั้งนี้ วันรุ่งขึ้นตื่นมาก็ยังขยับร่างกายไม่ได้ ลุกขึ้นไม่ไหวคุณหมอให้พักอีก 1 คืน ความปวดก็ยังมีตลอดเวลาให้กินยาแก้ปวดชนิดแรงสุดก็ยังเอาไม่อยู่ ให้มอร์ฟีนก็แก้ปวดได้แค่ชั่วคราวต้องสู้และอดทนกับความเจ็บปวดพยายามข่มตาให้หลับเพื่อลดความเจ็บปวด รุ่งขึ้นอาการดีขึ้นพอขยับตัวลุกขึ้นได้คุณหมอมาตัดสายเดรนเลือดออกแล้วอนุญาติให้กลับบ้านได้ และมาพบตามนัด
“ศัลยกรรมยังเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคนที่รักสวยรักงามและอยากที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ควรศึกษาและหาข้อมูลให้ดีก่อนทำทุกประเภท อย่าเพียงแต่ฟังจากคำพูดที่เค้าพูดต่อกันมา จากจุดผิดพลาดเล็กๆสามารถกลายเป็นความผิดพลาดอย่างแสนสาเหตุเลยทีเดียว บทเรียนราคาแพง”
ขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆทุกคนที่ช่วยเหลือดูแลและให้กำลังใจวาวาจนกลับมาหายดีเป็นปกติและหวังว่าการเขียนแชร์ประสบการณ์ผิดพลาดศัลยกรรมจากฟิลเลอร์ในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับใครอีกหลายๆคนที่กำลังประสบปัญหาอยู่ ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านตั้งแต่ต้นจนจบนะคะถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ
ปล. ติดตามหรือเข้ามาพูดคุยปรึกษาที่เฟสบุ๊คได้เช่นกันนะคะวาวายินดีให้คำแนะนำ
facebook : Passaran Wawa