แชร์รีวิวผิดพลาดจากการฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าอก Part 1

กระทู้สนทนา
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกเลยนะคะอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ผิดพลาดศัลยกรรมที่หน้าอกจากการฉีดฟิลเลอร์โดยที่ไม่ได้ศึกษาและหาความรู้ให้ละเอียด ก่อนตัดสินใจฉีดเข้าไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ ถือเป็นการแชร์ประสบการณ์ให้กับหลายๆคนที่กำลังคิดจะตัดสินใจทำศัลยกรรม

สวัสดีค่ะ ชื่อวาวานะค่ะ อายุ 36 ปี วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ผิดพลาดศัลยกรรมหน้าอกจากการฉีดฟิลเลอร์ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะเรื่องราวอาจจะยาวหน่อยเพราะรักษาหลายปีแต่เป็นข้อมูลสำหรับคนที่กำลังมีปัญหาที่เกิดจากฟิลเลอร์ค่ะ วาวาเป็นผู้หญิงตัวเล็ก สูง 159ซม. เป็นคนหน้าอกเล็กและอกไก่ ไม่มีเนินอกและร่องอก ทำให้ใส่เสื้อผ้าไม่มั่นใจ ณ ตอนนั้นไม่มีความรู้เรื่องศัลยกรรมเลย ยังไม่มีเน็ตไอดอล ไม่มีกระแสหรือรีวิวศัลยกรรมเหมือนสมัยนี้ ไม่มีใครหรือดารานักแสดงคนไหนออกมายอมรับว่าทำหน้าอก ทำศัลยกรรมต่างๆซึ่งมีเพื่อนคนหนึ่งได้มาเล่าให้ฟังว่า มีฟิลเลอร์ชนิดหนึ่งใช้ฉีดหน้าอก ฉีดแล้วอกสวยดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการผ่าตัดใส่ซิลิโคน ฟิลเลอร์อยู่ได้ 5 ปีก็จะสลาย แต่มีข้อห้ามคือ ห้ามซาวน์น่าและอาบน้ำอุ่นเพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายไว ฟังข้อมูลจากเพื่อนแล้วก็เกิดความสนใจทันที หลังจากที่เห็นเพื่อนไปฉีดหน้าอกมาก็ตัดสินใจทำบ้างโดยฉีดฟิลเลอร์ชนิดครั้งแรกตอนปี 2011 ข้างละ 50 CC โดยการทายาชารอบหน้าอกแล้วใช้สลิ้งค์ที่มีฟิลเลอร์ฉีดเข้ารอบหน้าอกทั้ง2 ข้าง หลังฉีดเสร็จหน้าอกสวยดูเป็นธรรมชาติมากคล้ายๆ ผู้หญิงที่ออกกำลังกายยกเวท หน้าอกดูเฟริมกระชับและจับไม่รู้เลยว่าฉีดมา
หลังจากนั้นไม่นานก็ฉีดฟิลเลอร์เพิ่มอีกข้างละ 50cc
ซึ่งตอนนั้นเราไม่มีความรู้และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คือการฉีดฟิลเลอร์โดยคุณหมอที่สนิทกันฉีดให้ ไม่ได้ทำที่คลินิก...ขอย้ำว่าเป็นหมอจริงๆ หลังจากฉีดครั้งที่ 2 ก็ทำให้มั่นใจมากขึ้น ใส่เสื้อผ้าอะไรก็สวยก็ดูดีได้รับคำชมจากเพื่อนๆ และคนรู้จัก จากนั้น 1-2 อาทิตย์ ก็สังเกตุเห็นที่อกข้างขวาเหมือนมีตุ่มสิวใสๆ อยู่ที่ข้างปานนมด้านซ้าย ลองเอามือบีบดูไม่ใช่สิวเป็นไตใสๆ แข็งๆ ไม่ได้เอะใจอะไร ใช้ชีวิตปกติมาเรื่อยๆ ต่อมากระแสศัลยกรรมเริ่มดังขึ้น เริ่มมีเน็ตไอดอล มีดาราพริตตี้ทำหน้าอกจนกลายเป็นว่าเรื่องศัลยกรรมเป็นเรื่องธรรมชาติสังคมยอมรับมาขึ้น ไม่แอนตี้คนทำหน้าอก ทำจมูก ทำตา ทำศัลยกรรมต่างๆ

หลังฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าอกก็เริ่มสนใจเกี่ยวกับศัลยกรรมความงาม เริ่มเข้าคลินิกดูแลใบหน้าและผิวพรรณโดยการศึกษาหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตบ้าง ลองผิดลองถูกด้วยตัวเองบ้างเช่น การฉีดโบท็อกการร้อยไหม การฉีดลิฟท์ติ้งยกกระชับและริ้วรอยต่างๆ การฉีดแฟตลดไขมัน การฉีดเมโสหน้าใส การฉีดวิตามินผิวใส และเครื่องเลเซอร์ต่างๆจนถึงเรื่องเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมทุกชนิด จนทำให้เราได้รู้ว่าสารฟิลเลอร์ที่เราได้ฉีดเข้าไปที่หน้าอกนั้นมันมีความเสี่ยงและเป็นอันตราย

ผ่านไป4-5ปีวาวาก็เลยคิดว่าอยากเอาฟิลเลอร์ออกแล้วเสริมซิลิโคนเข้าไปแทน เริ่มศึกษาหาข้อมูลจนมีคุณหมอท่านหนึ่งในใจจากที่เห็นจากรีวิวและคนรู้จักหลายคนไปทำมากับคุณหมอท่านนี้ วาวาก็ปรึกษากับแฟนว่าจะทำแฟนก็อนุญาติ เลยแพลนว่าหลังสงกรานต์กลับจากเที่ยวและทำงานเสร็จจากต่างประเทศค่อยเข้าไปปรึกษากับคุณหมอเรื่องทำหน้าอก แต่หน้าอกเกิดปัญหาขึ้นซะก่อน จำได้ไม่ลืมวันนั้นเป็นช่วงสงกรานต์พอดี 14 เมษายน 2015 ช่วงค่ำกำลังนั่งดูซีรี่ย์อยู่ก็รู้สึกว่าเสื้อตรงหน้าอกมันเปียกๆ ก็เลยเอามือจับดู ปรากฎว่าตุ่มใสๆ ที่มันอยู่ตรงหน้าอกเราหลังจากฉีดฟิลเลอร์มันหลุดออกมาเป็นรูแล้วมีฟิลเลอร์ไหลออกมา ตกใจมากทำอะไรไม่ถูก มันดึกแล้วไม่รู้จะไปหาหมอที่ไหน ทำได้ตอนนั้นคือเอาผ้าก๊อซมาปิดแผลป้องกันเชื้อโรคตรงที่ฟิลเลอร์ไหลออกมา จากนั้นก็หาข้อมูลเกี่ยวกับหมอที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้ ก็ได้ข้อมูลมา 2-3 คน รอพรุ่งนี้เช้าค่อยติดต่อสอบถาม

เช้าวันรุ่งขึ้นก็โทรติดต่อคุณหมอทุกท่านตามโรงพยาบาลที่หาข้อมูลไว้ แต่ว่าทุกท่านไปต่างประเทศกันหมด เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ วาวาก็โทรปรึกษารุ่นพี่คนหนึ่ง เค้าบอกว่ามีรพ.ศัลยกรรมตกแต่งแห่งหนึ่งไม่น่าปิด ลองไปดูไหม? เพราะน่าจะมีหมอเข้าเวรเฉพาะทางอยู่บ้าง วาวาก็ตัดสินใจไปทันทีค่ะ ไปถึงโรงพยาบาลแห่งนั้นก็กรอกประวัติเขียนข้อมูลตามความเป็นจริง เราก็แจ้งกับทางคุณหมอว่าเรามีงานที่ต้องไปต่างประเทศคุณหมอจะรักษายังไงกับแผลนี้ค่ะ? หมอแนะนำให้กรีดแผลและเย็บปิดก่อนก่อนเข้าห้องผ่าตัดหมอก็ให้ขึ้นไปบนเตียงตรวจ หมอกดและบีบฟิลเลอร์ที่หน้าอกออก หมอก็พูดบ่นว่าไปฉีดซิลิโคนเหลวกับหมอกระเป๋ามาอักเสบจนเน่า ถ้ามาแก้กับหมอ หมอก็ไม่รับเคส คือฟังแล้วสะอึกมาก และหมอก็บีบหน้าอกแรงมากจนน้ำตาไหลเพื่อให้ฟิลเลอร์ไหลออกมา หลังจากนั้นก้เข้าห้องผ่าตัดเย็บปิดแผล เย็บแผลเสร็จหมอก็ให้กลับมากินยาตามที่จ่าย แล้วมาตัดไหมตามใบนัดหมาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผ่านไป 1 สัปดาห์เต้านมเกิดอาการแดงครึ่งเต้านม ซึ่งน่าจะเป็นอาการอักเสบติดเชื้อเลยตัดสินใจไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถวสุขุมวิท พอไปถึงแจ้งอาการ ทางเจ้าหน้าที่ให้รักษาที่แผนกศัลยกรรมทั่วไปก่อน พอได้พบคุณหมอท่านบอกว่า แผลน่าจะอักเสบและติดเชื้อต้องรักษาอาการอักเสบและติดเชื้อเบี้องต้นก่อนหลังจากนั้นค่อยพบหมอศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อเย็บตกแต่งปิดปากแผล คุณหมอให้ขึ้นนอนบนเตียงทำแผลเพื่อกรีดเปิดแผลเดรนหนองออก พยาบาลผู้ช่วยเอากรวยไตมารองข้างๆ หน้าอก พอคุณหมอกรีดเปิดแผลเชื่อไหม คือตกใจมาก หนองทะลักออกมาจากหน้าอกสีเหมือนนมข้นหวานเต็มกรวยไตเลย เสร็จคุณหมอก็ใช้ไม้พันสำลีชุบเบตาดีนเช็ดคว้านด้านในเต้านม แล้วใช้ผ้าก๊อซจุ่มเบตาดีนยัดลงไปโพรงแผล เพื่อให้หนองที่เกิดขึ้นใหม่ไหลออกมาได้ เรียกว่าก๊อซเดรน การรักษาขั้นต่อไปก็คือการให้ยาฆ่าเชื้อและเดรนหนองออกทุกวัน โพรงแผลก็จะเล็กลงตามระยะเวลาก๊อชเดรนที่ใส่ก็จะสั้นลงเรื่อยๆ จนเกิดเนื้อใหม่สร้างขึ้นเต็มโพรงก็ไม่ต้องใส่ก๊อซเดรนอีกต่อไป รอแอดมิดเข้าห้องพักฟื้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ทุกวันคุณหมอและผู้ช่วยต้องเข้ามาทำแผลเดรนหนองมาเวลาไม่ตรงกันในแต่ละวัน หน้าอกก็จะมีอาการปวดตุ๊บๆ เต้านมอุ่นๆ หนองพร้อมที่จะทะลักออกมา ปวดมากจนถึงขั้นยาแก้ปวดเอาไม่อยู่ ต้องขอพยาบาลฉีดมอร์ฟีน พอคุณหมอมาถึงพยาบาลคนหนึ่งจับแขนอีกคนจับขาไว้ เพื่อที่เราจะได้ไม่ดิ้นให้คุณหมอทำแผลได้เร็วขึ้น คนไข้อย่างเราก็ทำได้แค่เอามือจิกหมอนและร้องไห้น้ำตานองหน้าทนความเจ็บความทรมานในการทำแผลทุกๆ ครั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แขนทั้ง 2 ข้างก็โดนเจาะน้ำเกลือจนพรุนมาก เพราะเส้นเลือดบวมและแตกง่ายต้องเจาะเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ทุกๆ 2 วัน แผลเริ่มดีขึ้นรอยแดงจางลงแต่ยังต้องเดรนหนองทุกวัน บิลค่าใช้จ่ายออกมาหลักแสนสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหวก็เลยแจ้งทางโรงพยาบาลว่า ขอเป็นมาทำแผลทุกวันแทนและทุกวันก็ขับรถมาโรงพยาบาลคนเดียวเพื่อทำแผล การทำแผลที่แสนจะทรมานพยาบาลทุกคนก็ให้กำลังใจว่าสู้ๆนะค่ะเดี๋ยวก็หาย หลังทำแผลเสร็จก็จะนั่งวิวแชร์ให้พยาบาลเข็นมานั่งพักตรงที่มีคนน้อยๆ เพื่อพักให้หายเจ็บหายปวดก่อนเกือบชั่วโมงอาการปวดเริ่มดีขึ้น แล้วก็ขับรถมือเดียวกลับคอนโด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การรักษาก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องโดยที่เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหน การรักษาจะเป็นอย่างไรต่อไป.....
โปรดติดตามต่อใน Part 2 --> https://pantip.com/topic/38819329
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่