((((( มัคคสมังคี ))))) โอวาทธรรมโดย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย

((((( มัคคสมังคี ))))) โอวาทธรรมโดย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย

ผู้เจริญปัญญาวิปัสสนา จิตต้องน้อมลงสู่พระไตรลักษณ์อยู่เป็นนิจ ไม่ว่าจะได้รู้จะได้เห็น จะได้ยิน หรือได้ฟังอะไรทั้งหมด
เห็นโลกนี้เป็นแต่เครื่องอยู่อาศัยชั่วคราวในเมื่อยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น ในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นตัวตนทั้งสิ้น ล้วนเป็นอนิจจัง

เป็นของไม่เที่ยงมั่นถาวรสักอย่างเดียว ทนทุกข์ทรมาน เสวยของไม่เที่ยงทั้งนั้น
เมื่อจิตมันเห็นอยู่อย่างนั้นแล้วแน่นอน จิตก็จะน้อมไปเพื่อความพ้นจากทุกข์

ไม่ว่าจะทำอะไรทั้งสิ้น ทำไปเพื่อความอยู่รอดของชีวิตเท่านั้น
ผู้เห็นเช่นนี้อยู่เป็นนิจ จิตแก่กล้าเข้าแล้ว จะรวมเข้าเป็น มัคคสมังคี

มัคคสมังคีนั้น ผู้ทำภาวนาได้ฌาน ได้สมาธิมาโดยลำดับ
จนกระทั่งเข้าถึงเจริญวิปัสสนาแก่กล้าเต็มที่แล้ว เข้าถึงมัคคสมังคี

จิตจะรวมเข้ามาอยู่ในที่เดียว ธรรมทั้งหลายที่พิจารณาทั้งหมด ก็จะชัดอยู่ในที่เดียว
หายความลังเลสงสัยในธรรม ตามภูมิ ตามขั้นของท่าน ความชัดเจนแจ่มแจ้งของท่านที่ว่านี้

มิใช่เห็นด้วยฌานนั้นๆ ซึ่งเป็นภาพนิมิต มิใช่เห็นด้วยโอภาส แสงสว่างต่างๆ อันเป็นวิสัยของฌาน
แลมิใช่เห็นด้วยสมาธิ ซึ่งเป็นความรู้ความเห็นอันเป็นเอกเทศส่วนหนึ่งของปัญญาวิปัสสนา

แต่มัคคสมังคีนี้ เห็นเหตุทั้งผล ทั้งดีแลชั่วของกองกิเลสนั้นๆ มิใช่แต่ชั่วของกิเลสเห็นดีของมันด้วย
แต่เห็นด้วยฌานทัศนะ ทั้งรู้ ทั้งเห็นตามธรรมชาติ ธรรมดาของเป็นจริงของมัน จึงวางตัวให้เป็นกลางได้

แลเมื่อเห็นก็มีความบันเทิงร่าเริงอย่างเต็มที่ และเกิดความรู้ความ เห็นในขณะจิตอันเดียวเท่านั้น
แล้วก็ถอนออกมาจะมีความปราโมทย์อยู่อย่างเดียว ต่อจากนั้นก็ จะพิจารณาแต่ธรรมที่ตนได้รู้ได้เห็นนั้นอยู่เป็นนิจ

ความรู้ความเห็นที่พิจารณานั้น มิใช่เป็นมัคคสมังคี เป็นอนุโลมตามมัคคสมังคี มังคคสมังคีแท้เกิดในขณะจิตเดียวเท่านั้น

จิตที่เป็นมัคคสมังคีนี้จะเกิดแก่พระอริยบุคคลทั้งสี่แต่ละมัคค์ และจะเกิดหนเดียวเท่านั้นจะไม่เกิดซ้ำสอง
เมื่อออกจากนั้นแล้ว ถึงจะพิจารณาพระไตรลักษณ์จะเห็นชัดเห็นแจ้งสักเท่าไรๆ ก็เรียกว่าอนุโลม

คือเห็นตามของเก่า เห็นตามวิปัสสนานั่นแหละ แต่ไม่เหมือนของเก่า จึงไม่ได้เรียกว่ามัคคสมังคี
เว้นเสียแต่จะขึ้นขั้นสูงๆต่อไปก็เห็นแจ้งชัดด้วยตัวเองอย่างนั้นเหมือนกัน

แต่แจ้งสว่างชัดเจนและละกิเลสนั้นๆ ได้เป็นชั้นๆ ไปตามขั้นตอนของมัคค์นั้นๆ
เป็นความรู้ อันเกิดจากปัญญาวิปัสสนาของตนเอง ใครจะมารู้ด้วยไม่ได้
เว้นแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้น

"ถึงโลก ถึงธรรม" หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี (วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย)


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่