เรื่องเกิดขึ้นกับแฟนนะคะ แต่แฟนอ่านหนังสือไม่ออก นิดหน่อยก็อ่านไม่ได้ค่ะ อยากแชร์ประสบการณ์และขอข้อมูลจากผู้รู้ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ตอนเช้าก่อนไปทำงานนายจ้างได้บอกว่หๅาต่อไปนี้เอาค่าแรงไปวันละ 300 โดยไม่มีมูลเหตุ (ค่าแรงปกติวันละ 450 บาท เป็นช่างเชื่อม) แฟนไม่อยากตกงานก็กัดฟันทำงานต่อแต่ไม่ได้แสดงอาการไม่พอใจ จากนั้นก่อนเข้าทำงานนายจ้างได้ให้คนงานด้วยกันมาตรวจปัสสาวะ ผลคือ 2 ขีด = ไม่มีสาร นายจ้างมีอาการไม่พอใจมาก ตอนพักเที่ยงให้คนงานมาตรวจซ้ำอีก ผลคือขึ้น 2 ขีดจางๆ = ไม่มีสาร นายจ้างบอกแฟนว่าให้ยอมรับว่าเสพจะได้จบๆ นายจ้างยืนยันว่าถ้าขึ้น 2 ขีดจางๆคือเสพมาจะมาเถียงไม่ได้ ถ้าไม่เสพมันจะวิ่งขึ้น 2 ขีดเข้มแบบเร็วมาก นี่มันค่อยๆขึ้นแถมขึ้นสีจางๆ แฟนก็ยืนยันว่าไม่ได้เสพ ช่วงบ่ายนายจ้างให้คนงานมาตรวจอีก แต่ครั้งนี้ขึ้น 1 ขีดที่ T คือชุดตรวจเสียอ่านค่าไม่ได้ เย็นหลังเลิกงานวันนั้นนายจ้างพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่ารีบกลับไปซะ ตั้งแต่พรุ่งนี้ไม่ต้องมา รวมทั้งคนงานอีกคนที่เป็นน้องข้างบ้านก็โดนไล่ออกด้วย นายจ้างพูดว่ามากับมันใช่มั้ยถ้างั้นกูไล่ออกด้วย บอกว่าค่าแรงกูไม่ให้ อยากได้ฟ้องเอา
แฟนมีความสัมพันธ์ก้บนายจ้างด้วยดีมาตลอด แต่ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง เราได้เอาสลิปเงินเดือนแฟนเข้าไปถามนายจ้าง 2 ครั้ง ครั้งแรกคือลงว่าหักค่าประกันงาน 250 บาท เราสงสัยเลยถามว่าไหนตอนแรกบอกนอกจากประกันสังคมแล้วไม่มีหักอย่างอื่นไม่ใช่เหรอคะ ครั้งที่ 2 เข้าไปถามว่าทำไมค่าแรงหารแล้วเหลือวันละ 320 บาท นายจ้างตอบว่าถ้าเขียนวันละ 450 บาทตามจริง คนงานจะโดนหักเงินค่านู่นนี่นั่นเยอะแยะ ต้องลงค่าแรงขึ้นต่ำเพื่อประโยชน์คนงาน ปกติก่อนวันเงินออกเราจะคิดค่าแรงไว้ในใจ ถ้าจำนวนเงินถูกต้องตรงกันก็โอเค ปกติไปรับแฟนตอนเลิกงานทุกวัน นายจ้างก็ไม่มีท่าทีอะไร ยังชอบเดินมาคุย(เรียกว่าชอบถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวดีกว่า) ยังบอกเราถ้าสงสัยหรือมีปัญหาอะไรถามได้ทุกเรื่องนะ ก็เพราะพูดมาแบบนี้ไง เราเลยคิดว่าแค่สลิปเงินเดือน สงสัยก็ถาม อธิบายมาก็จบ เพราะจำนวนเงินตรงกับที่เราคิดไว้ เค้าจะเขียนแบบไหนก็เรื่องของเขา
เข้าประเด็นค่ะ ใจคิดว่าไล่ออกก็ออกแต่ไม่จ่ายค่าแรงไม่คืนเงินประกันนี่ยอมไม่ได้ ถึงค่าแรงจะแค่ 3 วันก็เงิน เงินประกันอีก 2,500 เวลาไม่มีเงิน 1 บาทก็ขอใครไม่ได้ วันต่อมาเราได้แว๊นไปทวงถามค่าแรงที่ทำงาน 2 รอบห่างกัน 3 ชม. แต่ประตูปิดทึบ โทรติดต่อไม่ได้ ครั้งที่ 3 ไปช่วงบ่ายแต่เปลี่ยนรถ เอารถยนต์ไป ซักแปปนึงนายจ้างเปิดประตูออมา คือหน้าประตูมีกล้องค่ะ เค้าจะดูจากข้างในว่าใครมา พอเอารถอีกคันไปเค้าคงคิดว่าคนมาติดต่องาน ตอนนั้นก็เถียงกันพักใหญ่ มีการอัดคลิปวีดีโอไว้ มันชัดเจนมากจากคำพูดและท่าทางว่านายจ้างไล่ออกและไม่ยอมจ่ายเงิน หลังจากวันที่โดนไล่ออก 3 วัน คนที่ทำงานโทรมาหาแฟนค่ะ(อัดเสียงไว้) เล่าให้ฟังว่าเช้าวันนั้นนายจ้างเรียนคนงานทุกคนมารวมกันและสั่งว่าถ้ามีตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ตรวจแรงมาถามอะไรเรื่องไล่แฟนออก ให้ทุกคนบอกว่าไม่รู้ ใครพูดอะไรมากกว่านั้นจะไล่ออก และบอกว่าที่ไล่แฟนออกเพราะเมียมันรู้มาก เอาไว้จะเป็นภัยใกล้ตัว ที่ต้องทำให้ฉี่ม่วงมีสารเสพติด เพราะแฟนจะได้เรียกร้องค่าอะไรไม่ได้ แต่ในวันนั้นคนที่ทำงาน(ป้าแก่ๆ)ได้เล่าอีกว่านายจ้างได้เรียกไปตรวจปัสสาวะ ผลคือมีสารเสพติด ป้าแกก็บอกป้าไม่เคยเสพเลยมันจะม่วงได้ไง ป้าทำงานที่นี่มาหลายปี คนไม่ม่วงก็บังคับให้ม่วงหลายต่อหลายคน ประเด็นสำคัญคือป้าฉี่ม่วงแต่ไม่ไล่ออก กลับบอกว่าถ้าอยากทำงานต่ออย่าพูดอะไรมาก และอย่าติดต่อกับแฟนอีก คือนายจ้างรู้ว่าป้าคนนี้กับแฟนสนิทกัน อีกเรื่องนึงอยากยกเข้ามาในเรื่องนี้ด้วยคือมีคนงานอีกคนค่ะพึ่งกลับมางานได้ไม่กี่วัน เพราะก่อนหน้านี้เค้าโดนจับเสพและถูกส่งไปบำบัด 45 วัน พอกลับมาก็มาทำงานเหมือนเดิม นายจ้างก็รับทราบตลอดตั้งแต่วันที่เค้าโดนจับ ลำเอียงเห็นๆ
เรากับแฟนได้เข้าไปพบเจ้าหน้าที่ตรวจแรงงานทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรกพอให้รายละเอียดทั้งหมดไปและหลักฐานคือ สลิปเงินเดือน คลิปเสียงบางส่วนที่ยืนยันชัดเจนว่าถูกไล่ออกเพราะเกลียดเราและได้กลั่นแกล้งแฟนเราให้ออกจากงาน วันนั้นเจ้าหน้าที่รับเรื่องและให้คำแนะนำดีมากๆ เราไปพบเพียงเพื่ออยากได้เงินค่าแรงและค่าประกันคืนเท่านั้น ส่วนอื่นๆเราไม่อยากได้ งานใช้แรงมันเหนื่อยกว่าจะได้แต่ละบาทเราอยากได้เงินของเราคืน เจ้าหน้าที่บอกว่าอยากได้แค่นี้ไม่ได้นะ นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยและค่าบอกกล่าวล่วงหน้าด้วยเพราะเป็นการเลิกจ้าง และทำงานเกินเวลาอีกคือวันละ 8 ชม. 20 น. เค้าก็ให้กรอกเอกสารเรียกเงินที่เราควรได้
ครั้งที่ 2 นายจ้างให้รับเงินค่าแรง 3 วันที่ค้างไว้ แฟนก็ไปรับมาแต่ยังอุตส่าห์หักมาสาย 2 วัน วันละ 50 บาท ทั้งที่ไม่ได้มาสาย คนอื่นๆที่มาพร้อมกันวันนั้นไม่โดนหักเลย พอได้ค่าแรงก็เลยถามถึงเงินประกันว่าจะคืนเมื่อไร นายจ้างบอกอีก 3 เดือนค่อยมาเอาเพราะต้องค่อยๆคิดว่าต้องหักอะไรบ้าง แฟนไม่อยากเถียงเพราะคิดว่าเดี๋ยวกรมสวัสดิการแรงงานก็ตามเรื่องให้ เพราะแฟนไม่ได้อยู่ใน 7 อาชีพที่ต้องหักเงินประกัน ถึงแม้ในสัญญาเงินประกันจะระบุเงื่อนไขอะไร จะคืนเมื่อไร เมื่อพ้นสัญญาจ้างแล้วนายจ้างต้องคืนเงินประกันภายใน 7 วัน เราก็เข้าไปพบเจ้าหน้าที่เพื่อแจ้งว่าได้รับเงินค่าแรงแล้ว เหลือแต่เงินประกันงาน ครั้งนี้เป็นเจ้าหน้าที่อีกคนค่ะ เค้าบอกว่าอาจจะเรียกเงินอะไรไม่ได้นะเพราะไม่ใช่นายจ้างตัวจริง นายจ้างตัวจริงคือผู้ที่จดทะเบียนประกอบการไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย และให้เรากลับ พอเราแย้งก็เหมือนจะไม่รับฟัง
ครั้งที่ 3 เจ้าหน้าที่นัดพบ คือวันนี้ค่ะ 7 มี.ค. 62 เจ้าหน้าที่คนเดียวกับครั้งก่อนได้สรุปสั้นๆว่านายจ้างที่คุณร้องเรียนมาไม่มีความผิดและคุณไม่สามารถเอาผิดใดๆกับนายจ้างได้เลยไม่ว่าจะด้วยเหตุอะไรก็ไม่มีช่องทางเอาผิดได้ เพราะเค้าไม่ใช่นายจ้างคุณ ไล่คุณออกไม่ได้ คุณไม่มาทำงานเอง เพราะนายจ้างตัวจริงคือเจ้าของบริษัทเค้าไม่ได้ไล่คุณออกและไม่รู้เห็นเรื่องนี้เลย คุณจะกลับไปทำงานต่อก็ได้ แล้วนายจ้างที่คุณกล่าวหาว่าไล่คุณออกแค่วาจาเท่านั้นมันไม่มีผลต่อกฎหมายเลย แล้วคุณก็ได้ค่าแรงมาแล้ว ส่วนเงินประกันถ้านายจ้างเอามาให้ตอนไหนจะโทรตามให้มาเอา สรุปคุณไม่ติดใจเอาความนะคะเพราะถึงเอาความไปก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี อยากได้มากกว่านี้ไปฟ้องศาลเอานะ เจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิ์จะเรียกร้องเงินอะไรให้ จบค่ะ แย้งไปก็ไม่ฟังอะไรเลย
ขอคำแนะนำค่ะ กรณีแบบนี้ควรทำยังไงต่อไปคะ ตอนสมัครงานก็สมัครกับนายจ้างคนนี้ รับเงินค่าแรง เบิกเงินค่าแรงก็รับกับคนนี้ เวลาทำงานนายจ้างคนนี้ก็คุมงานตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย คนสั่งงานก็คือคนนี้คนเดียว ส่วนที่ว่านายจ้างตัวจริงคืออีกคน เค้าเป็นใครมาจากไหนแฟนบอกไม่รู้จักเลย ตอนสมัครงานใครจะกล้าถามคะว่าคุณใช่เจ้าของบริษัทมั้ย คุณใช่ผู้จดทะเบียนหรือเปล่า
ทำงานมาเกือบ 5 เดือนค่ะ เห็นว่ามีประกันสังคมเลยไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานจะได้รับเงินชดเชย แต่ไม่ได้ค่ะเพราะเพิ่งส่งประกันสังคมได้แค่ 1 เดือนจึงไม่ได้สิทธิ์รับเงินชดเชย วิ๊งเลยได้ยินแบบนี้ หาข้อมูลดูนายจ้างต้องทำประกันสังคมให้ลูกจ้างภายใน 30 วันตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน กรณีนายจ้างมีความผิดมั้ยคะ
สุดท้ายนี้ขอแนบภาพสลิปเงินเดือนให้ดูค่ะ จากวิกแรกทำงานได้ 5 วันเขียนชัดเจนว่าค่าแรงวันละ 400 และหมายเหตุข้างล่างตัวเล็กๆว่าจะคืนเงินประกันหลังลาออก 1 เดือน
พอวิกหลัง 3 วิกที่ผ่านมา หลังจากมีคนโดนไล่ออกติดๆกันและมาทวงถามเงินประกัน นายจ้างได้เปลี่ยนวันคืนเงินประกันหลังจากลาออก 1 เดือน เป็นจะคืนเงินประกันหลังลาออก 3 เดือนค่ะ จริงๆเราเพิ่งเห็นว่าเปลี่ยนตอนที่โดนไล่ออกแล้ว มันเปลี่ยนกันง่ายๆโดยที่ไม่แจ้งคนงานคนไหนเลยได้ด้วยเหรอคะ หลังจากทำงานได้เดือนกว่าก็ขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 450 แต่ในสลิปเงินเดือนไม่ระบุชัดเจนเหมือนตอนแรก พอหารค่าแรงแล้วเท่ากับวันละ 320 แต่มีค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าวิชาชีพในสลิปเงินเดือน ถ้าบวกรวมกันค่าแรงแล้วเอาจำนวนวันทำงานหารก็จะได้วันละ 450 แต่จริงๆไม่ได้มีเบี้ยเลี้ยงหรือสวัสดิการอะไรเลยทั้งที่ทำงานนอกสถานที่ทุกวัน โอที ชม.ละ 50 เท่ากันทุกตำแหน่งงาน แบบนี้ผิดกฎหมายมั้ยคะ
ถูกเลิกจ้างงานแต่เอาผิดนายจ้างไม่ได้ พนักงานตรวจแรงงานบอกว่าไม่ใช่นายจ้างตัวจริง นายจ้างคือผู้จดทะเบียนประกอบการเท่านั้น
แฟนมีความสัมพันธ์ก้บนายจ้างด้วยดีมาตลอด แต่ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง เราได้เอาสลิปเงินเดือนแฟนเข้าไปถามนายจ้าง 2 ครั้ง ครั้งแรกคือลงว่าหักค่าประกันงาน 250 บาท เราสงสัยเลยถามว่าไหนตอนแรกบอกนอกจากประกันสังคมแล้วไม่มีหักอย่างอื่นไม่ใช่เหรอคะ ครั้งที่ 2 เข้าไปถามว่าทำไมค่าแรงหารแล้วเหลือวันละ 320 บาท นายจ้างตอบว่าถ้าเขียนวันละ 450 บาทตามจริง คนงานจะโดนหักเงินค่านู่นนี่นั่นเยอะแยะ ต้องลงค่าแรงขึ้นต่ำเพื่อประโยชน์คนงาน ปกติก่อนวันเงินออกเราจะคิดค่าแรงไว้ในใจ ถ้าจำนวนเงินถูกต้องตรงกันก็โอเค ปกติไปรับแฟนตอนเลิกงานทุกวัน นายจ้างก็ไม่มีท่าทีอะไร ยังชอบเดินมาคุย(เรียกว่าชอบถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวดีกว่า) ยังบอกเราถ้าสงสัยหรือมีปัญหาอะไรถามได้ทุกเรื่องนะ ก็เพราะพูดมาแบบนี้ไง เราเลยคิดว่าแค่สลิปเงินเดือน สงสัยก็ถาม อธิบายมาก็จบ เพราะจำนวนเงินตรงกับที่เราคิดไว้ เค้าจะเขียนแบบไหนก็เรื่องของเขา
เข้าประเด็นค่ะ ใจคิดว่าไล่ออกก็ออกแต่ไม่จ่ายค่าแรงไม่คืนเงินประกันนี่ยอมไม่ได้ ถึงค่าแรงจะแค่ 3 วันก็เงิน เงินประกันอีก 2,500 เวลาไม่มีเงิน 1 บาทก็ขอใครไม่ได้ วันต่อมาเราได้แว๊นไปทวงถามค่าแรงที่ทำงาน 2 รอบห่างกัน 3 ชม. แต่ประตูปิดทึบ โทรติดต่อไม่ได้ ครั้งที่ 3 ไปช่วงบ่ายแต่เปลี่ยนรถ เอารถยนต์ไป ซักแปปนึงนายจ้างเปิดประตูออมา คือหน้าประตูมีกล้องค่ะ เค้าจะดูจากข้างในว่าใครมา พอเอารถอีกคันไปเค้าคงคิดว่าคนมาติดต่องาน ตอนนั้นก็เถียงกันพักใหญ่ มีการอัดคลิปวีดีโอไว้ มันชัดเจนมากจากคำพูดและท่าทางว่านายจ้างไล่ออกและไม่ยอมจ่ายเงิน หลังจากวันที่โดนไล่ออก 3 วัน คนที่ทำงานโทรมาหาแฟนค่ะ(อัดเสียงไว้) เล่าให้ฟังว่าเช้าวันนั้นนายจ้างเรียนคนงานทุกคนมารวมกันและสั่งว่าถ้ามีตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ตรวจแรงมาถามอะไรเรื่องไล่แฟนออก ให้ทุกคนบอกว่าไม่รู้ ใครพูดอะไรมากกว่านั้นจะไล่ออก และบอกว่าที่ไล่แฟนออกเพราะเมียมันรู้มาก เอาไว้จะเป็นภัยใกล้ตัว ที่ต้องทำให้ฉี่ม่วงมีสารเสพติด เพราะแฟนจะได้เรียกร้องค่าอะไรไม่ได้ แต่ในวันนั้นคนที่ทำงาน(ป้าแก่ๆ)ได้เล่าอีกว่านายจ้างได้เรียกไปตรวจปัสสาวะ ผลคือมีสารเสพติด ป้าแกก็บอกป้าไม่เคยเสพเลยมันจะม่วงได้ไง ป้าทำงานที่นี่มาหลายปี คนไม่ม่วงก็บังคับให้ม่วงหลายต่อหลายคน ประเด็นสำคัญคือป้าฉี่ม่วงแต่ไม่ไล่ออก กลับบอกว่าถ้าอยากทำงานต่ออย่าพูดอะไรมาก และอย่าติดต่อกับแฟนอีก คือนายจ้างรู้ว่าป้าคนนี้กับแฟนสนิทกัน อีกเรื่องนึงอยากยกเข้ามาในเรื่องนี้ด้วยคือมีคนงานอีกคนค่ะพึ่งกลับมางานได้ไม่กี่วัน เพราะก่อนหน้านี้เค้าโดนจับเสพและถูกส่งไปบำบัด 45 วัน พอกลับมาก็มาทำงานเหมือนเดิม นายจ้างก็รับทราบตลอดตั้งแต่วันที่เค้าโดนจับ ลำเอียงเห็นๆ
เรากับแฟนได้เข้าไปพบเจ้าหน้าที่ตรวจแรงงานทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรกพอให้รายละเอียดทั้งหมดไปและหลักฐานคือ สลิปเงินเดือน คลิปเสียงบางส่วนที่ยืนยันชัดเจนว่าถูกไล่ออกเพราะเกลียดเราและได้กลั่นแกล้งแฟนเราให้ออกจากงาน วันนั้นเจ้าหน้าที่รับเรื่องและให้คำแนะนำดีมากๆ เราไปพบเพียงเพื่ออยากได้เงินค่าแรงและค่าประกันคืนเท่านั้น ส่วนอื่นๆเราไม่อยากได้ งานใช้แรงมันเหนื่อยกว่าจะได้แต่ละบาทเราอยากได้เงินของเราคืน เจ้าหน้าที่บอกว่าอยากได้แค่นี้ไม่ได้นะ นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยและค่าบอกกล่าวล่วงหน้าด้วยเพราะเป็นการเลิกจ้าง และทำงานเกินเวลาอีกคือวันละ 8 ชม. 20 น. เค้าก็ให้กรอกเอกสารเรียกเงินที่เราควรได้
ครั้งที่ 2 นายจ้างให้รับเงินค่าแรง 3 วันที่ค้างไว้ แฟนก็ไปรับมาแต่ยังอุตส่าห์หักมาสาย 2 วัน วันละ 50 บาท ทั้งที่ไม่ได้มาสาย คนอื่นๆที่มาพร้อมกันวันนั้นไม่โดนหักเลย พอได้ค่าแรงก็เลยถามถึงเงินประกันว่าจะคืนเมื่อไร นายจ้างบอกอีก 3 เดือนค่อยมาเอาเพราะต้องค่อยๆคิดว่าต้องหักอะไรบ้าง แฟนไม่อยากเถียงเพราะคิดว่าเดี๋ยวกรมสวัสดิการแรงงานก็ตามเรื่องให้ เพราะแฟนไม่ได้อยู่ใน 7 อาชีพที่ต้องหักเงินประกัน ถึงแม้ในสัญญาเงินประกันจะระบุเงื่อนไขอะไร จะคืนเมื่อไร เมื่อพ้นสัญญาจ้างแล้วนายจ้างต้องคืนเงินประกันภายใน 7 วัน เราก็เข้าไปพบเจ้าหน้าที่เพื่อแจ้งว่าได้รับเงินค่าแรงแล้ว เหลือแต่เงินประกันงาน ครั้งนี้เป็นเจ้าหน้าที่อีกคนค่ะ เค้าบอกว่าอาจจะเรียกเงินอะไรไม่ได้นะเพราะไม่ใช่นายจ้างตัวจริง นายจ้างตัวจริงคือผู้ที่จดทะเบียนประกอบการไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย และให้เรากลับ พอเราแย้งก็เหมือนจะไม่รับฟัง
ครั้งที่ 3 เจ้าหน้าที่นัดพบ คือวันนี้ค่ะ 7 มี.ค. 62 เจ้าหน้าที่คนเดียวกับครั้งก่อนได้สรุปสั้นๆว่านายจ้างที่คุณร้องเรียนมาไม่มีความผิดและคุณไม่สามารถเอาผิดใดๆกับนายจ้างได้เลยไม่ว่าจะด้วยเหตุอะไรก็ไม่มีช่องทางเอาผิดได้ เพราะเค้าไม่ใช่นายจ้างคุณ ไล่คุณออกไม่ได้ คุณไม่มาทำงานเอง เพราะนายจ้างตัวจริงคือเจ้าของบริษัทเค้าไม่ได้ไล่คุณออกและไม่รู้เห็นเรื่องนี้เลย คุณจะกลับไปทำงานต่อก็ได้ แล้วนายจ้างที่คุณกล่าวหาว่าไล่คุณออกแค่วาจาเท่านั้นมันไม่มีผลต่อกฎหมายเลย แล้วคุณก็ได้ค่าแรงมาแล้ว ส่วนเงินประกันถ้านายจ้างเอามาให้ตอนไหนจะโทรตามให้มาเอา สรุปคุณไม่ติดใจเอาความนะคะเพราะถึงเอาความไปก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี อยากได้มากกว่านี้ไปฟ้องศาลเอานะ เจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิ์จะเรียกร้องเงินอะไรให้ จบค่ะ แย้งไปก็ไม่ฟังอะไรเลย
ขอคำแนะนำค่ะ กรณีแบบนี้ควรทำยังไงต่อไปคะ ตอนสมัครงานก็สมัครกับนายจ้างคนนี้ รับเงินค่าแรง เบิกเงินค่าแรงก็รับกับคนนี้ เวลาทำงานนายจ้างคนนี้ก็คุมงานตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย คนสั่งงานก็คือคนนี้คนเดียว ส่วนที่ว่านายจ้างตัวจริงคืออีกคน เค้าเป็นใครมาจากไหนแฟนบอกไม่รู้จักเลย ตอนสมัครงานใครจะกล้าถามคะว่าคุณใช่เจ้าของบริษัทมั้ย คุณใช่ผู้จดทะเบียนหรือเปล่า
ทำงานมาเกือบ 5 เดือนค่ะ เห็นว่ามีประกันสังคมเลยไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานจะได้รับเงินชดเชย แต่ไม่ได้ค่ะเพราะเพิ่งส่งประกันสังคมได้แค่ 1 เดือนจึงไม่ได้สิทธิ์รับเงินชดเชย วิ๊งเลยได้ยินแบบนี้ หาข้อมูลดูนายจ้างต้องทำประกันสังคมให้ลูกจ้างภายใน 30 วันตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน กรณีนายจ้างมีความผิดมั้ยคะ
สุดท้ายนี้ขอแนบภาพสลิปเงินเดือนให้ดูค่ะ จากวิกแรกทำงานได้ 5 วันเขียนชัดเจนว่าค่าแรงวันละ 400 และหมายเหตุข้างล่างตัวเล็กๆว่าจะคืนเงินประกันหลังลาออก 1 เดือน
พอวิกหลัง 3 วิกที่ผ่านมา หลังจากมีคนโดนไล่ออกติดๆกันและมาทวงถามเงินประกัน นายจ้างได้เปลี่ยนวันคืนเงินประกันหลังจากลาออก 1 เดือน เป็นจะคืนเงินประกันหลังลาออก 3 เดือนค่ะ จริงๆเราเพิ่งเห็นว่าเปลี่ยนตอนที่โดนไล่ออกแล้ว มันเปลี่ยนกันง่ายๆโดยที่ไม่แจ้งคนงานคนไหนเลยได้ด้วยเหรอคะ หลังจากทำงานได้เดือนกว่าก็ขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 450 แต่ในสลิปเงินเดือนไม่ระบุชัดเจนเหมือนตอนแรก พอหารค่าแรงแล้วเท่ากับวันละ 320 แต่มีค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าวิชาชีพในสลิปเงินเดือน ถ้าบวกรวมกันค่าแรงแล้วเอาจำนวนวันทำงานหารก็จะได้วันละ 450 แต่จริงๆไม่ได้มีเบี้ยเลี้ยงหรือสวัสดิการอะไรเลยทั้งที่ทำงานนอกสถานที่ทุกวัน โอที ชม.ละ 50 เท่ากันทุกตำแหน่งงาน แบบนี้ผิดกฎหมายมั้ยคะ