รีวิวเผชิญวิบากกรรมสายฟาร์มต่อวีซ่าปีสอง Working Holiday ที่ QLD, Australia มันที่สุดเลยเว้ยแก!

สวัสดีค่ะ ในส่วนของกระทู้นี้คือการรีวิวชีวิตสาวกรรมกรออฟฟิศย่านทองหล่อ สู่การผันตัวเป็นชาวไร่ที่ได้ไปเผชิญวิบากกรรมเพื่อต่อวีซ่าปีสอง Australia Working Holiday ที่จังหวัด Stanthrope aka ประจวบคีรีขันธ์ และ Emerald aka เพชรบุรี สาขา QLD ย่อมากจาก ควีนสแลนด์ ประเทศออสเตรเลียนะคะ และกระทู้นี้ยาวมากค่ะ อ่านเอาเพลินๆ ตอนว่างๆ ก็ได้



เตือนแล้วนะคะว่ายาวมากจริงๆ ไปค่ะ!


เกริ่นนำนิดนึงว่าตัดสินใจมา WAH เพราะชีวิตมันเกินจะทน แพสชั่นหดหาย งานที่ทำอยู่เคยสนุกก็ไม่สนุก เงินก็น้อย หัวหน้าก็ (อืมนะ) ส่วนครอบครัวก็... ทุกอย่างมันรุมเร้า มันเป็นช่วงชีวิตที่เรียกได้ว่า วดฟ!!? มากๆ ก็เลยพอกันที อยู่ต่อต้องแย่แน่ๆ เราต้องเปลี่ยนสภาพแวดล้อม!! สอบไอเอล กดโควต้า ยื่นวีซ่า กดตั๋วบิน เย้!



ใช้ชีวิตศิวิไลตื่นตาตื่นใจในประเทศซิดนีย์อยู่ได้หกเดือนก็หมดเวลาสนุกแล้วสิ เดือนพฤศจิกายน 2018 ต้องย้ายเมืองไปต่อวีได้แล้ว เพราะคิดไว้แต่แรกว่าจะเอาให้ครบสิทธิ์สองปีที่ให้มา เริ่มหางานไปเก็บ 88 วันตามพื้นที่อิมกำหนด หาอยู่สองสามวีคไม่ได้เลยจนกระทั่งอิมเปลี่ยนกฎใหม่ว่า subclass visa เราทำงานได้ทุกรัฐ แต่รัฐที่เพิ่มมาใหม่ยูทำได้แต่สายฟาร์มเท่านั้น หึหึ โอกาสเปิดมาขนาดนี้แล้ว รออะไรล่ะ  ไหนใครว่าทำฟาร์มที่นี่ได้เงินดี มาพิสูจน์กัน วันเดียวหลังประกาศเปลี่ยนกฎก็ได้งานเลยที่ไร่สตรอว์เบอร์รี่แห่งหนึ่ง รัฐควีนสแลนด์



มาค่ะในส่วนของวิบากกรรมแรก

- ไร่สตรอว์เบอร์รี่, Stanthrope aka ประจวบคีรีขันธ์ สาขา QLD

ถามว่าทำไมถึงเป็นประจวบฯ คือระหว่างทางที่ไปจากบริสเบน นั่งบัสชมวิวไปมันให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ประจวบฯ เลยอะ ไม่ได้รู้สึกว่าอยู่ต่างประเทศ แต่เป็นประจวบฯ ที่ปลูกสตรอว์เบอร์รี่ สภาพอากาศไม่ได้ร้อนตามคำร่ำลือถึงตอนเหนือๆ หน่อยของออสฯ ว่าร้อนมาก! ที่นี่ไม่ร้อนขนาดนั้น เรามาช่วงพฤศจิกายนยังมีอากาศหนาวบางวัน 19 องศาเอง ร้อนก็มีเป็นบางวันอุ่นๆ แดดแรงให้แสบผิวเล่น แต่ส่วนใหญ่ไม่ร้อนนะ เสื้อผ้าซัมเมอร์คอลเลคชั่นคือแทบไม่ได้หยิบมาใส่เลยจ้า

มาถึงที่ป้าคอนแทรคก็มารับเข้าที่พักในฟาร์ม อันนี้ดีลมาแต่แรกว่าจะพักในฟาร์มเพราะเห็นว่าน่าจะสะดวกกว่า ตื่นมาก็เดินไปทำงานเลยงี้ แต่ลำบากตรงเข้าเมืองไปซื้อของใช้ทีก็ต้องเสีย $10 ให้ขับรถพาไปกว่า 30 นาที คือฟาร์มตั้งอยู่โดดๆ มาก ห่างไกลตัวเมือง จะออกไปไหนมาไหนต้องรถยนต์เท่านั้น ที่พักในฟาร์มนี่วีคละ $130 เป็นห้องตู้คอนเทนเนอร์สภาพดีนะ มีเตียง มีโต๊ะ ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า มีแอร์ มีฮีตเตอร์ แต่ห้องน้ำห้องอาบน้ำแยกไปเข้ารวม ห้องครัว ห้องอาหาร ห้องซักผ้าก็ใช้รวม คือรวมๆ ก็โอเคอะ ดีกว่าที่จินตนาการไว้ด้วยซ้ำ แต่ที่สังเกตคือมีแต่คนจีนมาทำ เกาหลีญี่ปุ่นรองลงมา มีตะวันตกอยู่หยิบมือคอนแทรคทีมเดียวกับเรา และใช่ค่ะ ไม่มีคนไทยเลย ไม่มีคนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเราเลย เลิ่กลั่กแล้วฉัน นี่ไม่ได้มีปัญหากับภาษาอังกฤษนะ คือพอไม่มีคนแทบๆ เดียวกันมาทำแล้วรู้สึกว่ามันต้องยังไงล่ะน้า แต่เอาไว้เฉลยตอนหลัง 55555555






ตัดมาเรื่องงานที่นี่ก็เก็บสตรอว์เบอร์รี่ เป็นงาน piecework คือทำได้เท่าไหร่ก็ได้เท่านั้น ที่นี่ให้ tray ละ $2 ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้บอกว่า $4-3 แต่ก็เออๆ มาแล้วนี่ลองหน่อยแล้วกัน $2/tray ทำแค่ layer เดียวไม่ต้องเต็ม tray เอาให้ไม่เห็นพรมที่รองข้างล่างพอ วันแรกที่ทำคอนแทรคก็สอนให้เก็บยังไงบลาๆ แล้วเขาจะมีรถเข็นให้เราก็นั่งไถเก็บตามแปลงใส่ tray ไป หันไปมองเพื่อนบ้าน โอ้โห นั่นทีมชาติหรือเปล่ายู พี่จีนกับเกาหลีคือไวมาก เราเก็บต้นแปลง เงยหน้าไปอีกที โน่น ไปกันจะครึ่งแปลงแล้วจ้า คารวะ ส่วนเราก็ไถไป ให้กำลังใจตัวเองใครจะไปเก่งตั้งแต่แรกเล่า เพิ่งมาวันแรกเองแก ไถๆ ไปเรื่อยๆ ก่อน คือนั่งไถไม่เท่าไหร่นะ เฉยๆ มันพีคตรงนี้แหละค่ะทุกท่านคะ ในตอนที่ต้องเข็นรถเข็นที่มี tray ใส่สตรอว์เบอร์รี่เยอะๆ ไปส่ง truck น่ะ ทางไม่ใช่เรียบๆ เลย แต่เป็นเนินจ้า โอ้โหหหห เข็นหอบแหลกไปเลยค่ะ รถยางก็ไม่ใช่ดี ยิ่งหนักมาก เหนื่อยมาก ผลสรุปวันนั้นได้ไปไม่ถึง 20 trays... สลบตั้งแต่สองทุ่ม ก่อนหน้าที่โดนไซโคมาว่างานนี่เหนื่อยท่าจะจริง จริงเลยล่ะ!!






วันต่อๆ มาเลยพยายามเรียนรู้จากทีมชาติทั้งหลาย เริ่มรู้ทริกว่าต้องเก็บแบบไหนถึงได้เยอะ โดยทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับความไว และใช่ค่ะ ดิฉัน so slow ก็เร็วได้เท่านี่ มากสุดก็ 30 trays หน่อยๆ วันไหนเก็บที่ฟาร์มตัวเองก็ตื่นตีห้า วันไหนต้องไปฟาร์มข้างนอกเช้าสุดคือต้องตื่นตีสามครึ่ง ส่วนเวลาเลิกบางวันบ่ายสอง บางวันก็โน่นสี่ห้าโมงก็มี บางวันเก็บตอนเช้า ตอนบ่ายแดดเปรี้ยงๆ ก็ให้ไปทำงาน cutting คือตัดรากต้นสตรอว์เบอร์รี่ที่มันยาวๆ ออก แต่อันนี้หารกันคิดเป็นเมตร แปลงนึงกี่เมตร ทำกี่แปลง ก็หารตามจำนวนคนในทีมที่ทำไป ปวดหลัง ปวดขา โดนได้ทำวันอากาศร้อน ร้อนก็ร้อน แมลงวันก็เยอะ เป็นท้อ



เพื่อนเนเธอร์แลนด์ถามว่ายูคิดจะอยู่ถึงเมื่อไหร่ นี่ก็บอกสองอาทิตย์ ถ้าไม่ดีขึ้นจะไปแล้ว เพราะหลังจากอยู่ได้เกือบสี่วันรู้สึกว่าไม่ใช่ทางเลย พยายามยังไงมันก็ไม่เร็ว เคยคิดว่าตัวเองน่าจะทำได้ 40-50 trays ต่อวัน แต่พอมาทำจริง มันยากมากเลยนะที่จะได้เก็บเยอะๆ ขึ้นอยู่กับความไวไม่พอ ขึ้นอยู่กับแปลงที่ได้เก็บด้วย เจอแปลงมีให้เก็บเยอะก็ดีไป มีให้เก็บน้อยก็คือเซ็ง ไม่ได้อะไรเล้ย แถมคนเก็บเยอะกว่าแปลงที่มีให้เก็บ บางทีต้องเก็บแบบซ้อนแปลงกันอีก



พอเราบอกเพื่อนเนเธอร์แลนด์ไปว่าให้เวลาตัวเองถึงแค่สิ้นเดือน ก็คือสองอาทิตย์ นางบอกเลยว่า Good Idea! ยูอยู่เอาวันทำชิลๆ ไปต่อวีซ่าอะได้ แต่จะมาหวังเงินอ่ะ sh*t money นะ เหนื่อยแถมไม่คุ้ม ยูไปที่อื่นได้ก็ไปเหอะ พวกไอก็จะไปอีกสองอาทิตย์เท่ายูนั่นแหละ เราก็เลยไปนอนคิดคืนนึง คือเรามาเก็บเงินด้วยไม่ใช่ว่ามาเอาวันเฉยๆ ตอนไปเงินยังไม่พอจะทำสเตทเม้นต่อวีซ่าอ่ะ เราเลยแบบพอล่ะเก็บตรงนี้ เงินไม่ดีอย่างที่พวกนางว่าจริงๆ เราว่าตรงนี้ที่โดนลดค่าแรงต่อ tray มันน่าจะเป็นผลเพราะเรื่องเข็มในสตรอว์เบอร์รี่เลยทำให้ราคามันตก



สี่วันผ่านไปเก็บไม่น่าไหว เราเลยไปทำ packing ใน shed แทน งานนี้ก็แพ็คสตรอว์เบอร์รี่ลงกล่อง กล่องมี 3 แบบ กล่องแบน กล่องเล็ก กล่องใหญ่ ราคาแพ็คต่อกล่องคือ 0.15-17 c จะจ่ายเงินต่อเมื่อเซ็นต์เอากล่องใหม่เท่านั้น เอาไปเป็นแถว แถวนึงมีประมาณ 2-300 กล่อง กล่องแบนคือการแพ็คที่ทุกคนรอคอยเพราะมันง่ายมาก ทุกคนจะไวมากเหมือนกำลังแข่งโอลิมปิก packing ส่วนเราน่ะเหรอ มือใหม่ พยายามแล้วจริงๆ แต่บางวันไม่ได้เอาแถวกล่องใหม่เลย = ไม่ได้เงิน... แล้วทำตามออเดอร์ วันไหนมากก็เช้ายันเย็น วันไหนน้อยก็ทำแค่ตอนเช้า บางวันก็ไม่มีให้ทำ เจอแบบนี้ไปเริ่มเครียดแล้วนะ เงินที่เตรียมไปมันก็เริ่มหมด เก็บจากที่นี่ก็น้อยนิด ทำงานในเมืองเคยได้เยอะกว่านี้ ด้วยซ้ำ เครียดเลย เพราะเรามีภาระที่ต้องจ่ายที่ไทยด้วย เครียดจนอยากร้องไห้ เลยเริ่มมองหาทางออก จนมาเจอจุดพีค



มีอยู่วันนึง supervisor ชาวญี่ปุ่นให้เปิดเป็นกล่องใหญ่ คือเอากล่องไปเลยหนึ่งกล่องใหญ่ๆ ในนั้นมีกล่องแบนทั้งหมดหกแถว บางวันก็ไม่ได้แพ็คกล่องแบน บางวันก็เลิกเร็ว กล่องมันก็ไม่หมดสักที คนอื่นนี่วิ่งไปเปิดกล่องใหม่กันแล้วนี่แบบ ห้ะ!? ทำได้ไงฟ่ะ!!? ของเรายังเหลืออยู่เลย จนเราคุยกับเพื่อนจีนที่ยืนแพ็คข้างๆ เรา เพราะเราเห็นนางไปเซ็นต์ใบ leaving ก็ถามว่าจะไปแล้วเหรอ นางบอกใช่ ไม่ทนแล้ว ไม่อยากมาเสียเวลากับที่นี่ เงินโคตรน้อย! อินเนอร์ยูแรงมาก ขนาดคนจีนยังเอ่ยปาก ขนาดคนที่อยู่มานานกว่า แพ็คเร็วกว่าเรายังจะไป เอ้า จะอยู่ต่อทำไมอะ หนีสิคะ ตัดสินใจหนีกับเพื่อนอีกคนที่เพิ่งมาทำไม่นานในตอนนั้นเลย



เลยไลน์ไปหาพี่คนนึงที่ตอนแรกว่าจะไปทำงานกับเค้า แต่ได้งานที่ไร่นี่ก่อน ปรากฎว่ายังไปได้อยู่เลยตัดสินใจไป เลยกดจองตั๋วบัสไปบริสเบน ตั๋วเครื่องบินไปต่ออีกเมืองวันนั้นแล้วก็ไปเลยภายในสองวัน เงินค่ามัดจำห้องอะไรไม่รอไม่เอาแล้ว เงินค่าแรงที่แพ็คไปที่ยังไม่จ่ายมาให้เพราะแพ็คไม่หมดกล่องใหญ่ ทั้งๆ ที่เหลืออีกสองแถวก็ไม่เอาแล้ว ไม่ไหว I’m so done!

และนี่แหละค่ะเฉลยว่าทำไมไม่มีประเทศเพื่อนบ้านมาทำที่นี่กันเลย อืม ชัดๆ เลยว่า ลงแรงไปก็ไม่คุ้ม!!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่