สงสัยเด็กที่เกิดมาพ่อแม่มีเงิน "บางคน" ไม่คิดจะทำงานเลยหรือ ?

สวัสดีค่ะ คือเราไม่ได้มีเจตนาจะมาตั้งกระทู้แฉหรือต่อว่าใคร แค่ต้องการความเห็นกับประสบการณ์ของคนในพันทิปที่เคยเป็น หรือ พบเจอบุคคลที่กล่าวถึงตามหัวข้อกระทู้ อยากทราบว่าเขามีความคิดยังไง? แล้วเมื่อแก่ตัวไปเขาใช้ชีวิตยังไง? พบเจอเหตุการณ์ที่เปลี่ยนเขายังไง? และเผื่อเป็นอุทาหรณ์ให้หลายๆคนที่ยังใช้ชีวิตแบบนี้อยู่ให้ระวังการใช้ชีวิตเช่นกัน

เกริ่นก่อนว่า เราเองก็เกิดมามีพร้อมทุกอย่าง ไม่ได้รวยล้นฟ้าแต่มีฐานะอยู่สบาย จนวันที่เราเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่วัยที่ยังเรียนไม่จบ ทำให้เราต้องแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียว ไม่ได้ใช้ชีวิตสุขสบาย พ่อแม่ให้เงินใช้เหมือนเด็กที่เกิดมาเหมือนเรา เราต้องสานต่อธุรกิจที่กำลังจะร่วง ตั้งแต่วัยที่ไม่พร้อม เจอปัญหามากมาย เจอคนโกงมากมาย เจอคนโลภมากมาย ไม่มีใครช่วย ต้องนอนร้องไห้ เจอความลำบาก เจอความเครียดที่ไม่รู้จะไปพึ่งพาใคร และได้เรียนรู้ว่า ไม่มีใครนอกจากตัวเราเองที่จะช่วยเหลือเราได้ ยิ่งมีมาก คนยิ่งต้องการหลอกเรามากจากผลประโยชน์ จากที่เคยเกือบไม่เหลืออะไร วันนี้เราสู้ด้วยตัวคนเดียวจนผ่านพ้นอุปสรรคนานามาได้ เรายืนได้ด้วยตัวเองแล้วในวันนี้ ไม่ต้องแบมือขอเงินใคร เรามีอิสระทางการเงินมากกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน เราสามารถซื้อรถ ซื้อที่ดิน ซื้อบ้าน ทำธุรกิจ หรือไปเที่ยวต่างประเทศได้แบบสบายๆ ไม่เหมือนเพื่อนๆรุ่นเดียวกันที่ยังต้องขออณุญาติพ่อแม่ ขอเงินไปเที่ยวอยู่ เราพูดได้เต็มปากว่าเรารู้จักโลกเร็วกว่าเด็กวัยเดียวกัน เวลาพูดคุยอะไรกับใครเรามักจะมองใกลกว่าเสมอ

แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาเหล่านั้นก็กำลังเรียนรู้ที่จะสานต่อธุรกิจของพ่อแม่ไปพร้อมๆกัน แบบค่อยเป็นค่อยไป รู้ว่าควรรับภาระต่อจากพ่อแม่มาดูแลได้แล้ว ถึงวัยที่ควรสร้างเนื้อสร้างตัวทดแทนบุญคุณ บางคนไม่ทำต่อเพราะมีพี่น้องรับต่อแทนตัวเองก็กู้เงินพ่อแม่สร้างธุรกิจของตัวเอง พูดง่ายๆ เพื่อนๆ ทุกคนเริ่มสนใจกับการสร้างเนื้อสร้างตัว เพื่อตัวเขาเองในอนาคตและเพื่อการปลดภาระให้พ่อแม่

ความสงสัยของเราคือ เรามีเพื่อนอยู่ "บางคน" ไม่ได้สนิทมากแต่ก็ไม่ใช่ว่าห่างเหิน เราสามารถทักไลน์คุยเล่นได้ตลอดเวลา แต่ไม่ได้สนิทถึงขั้นไปมาหาสู่กันตลอดเวลา มีอยู่ สอง สาม คน ที่จนถึงเลข 2 ปลายๆก็ยังไม่คิดจะทำงานอะไร ต่อให้พ่อแม่มีธุรกิจ ก็ไม่คิดจะทำต่อเพราะเห็นว่าพ่อแม่ยังคงทำต่อหรือเพราะแค่มันไม่ใช่ทางของตัวเอง คือพูดง่ายๆว่ายังขอเงินพ่อแม่ใช้ในการเที่ยว กินข้าวร้านหรูๆ ช็อปปิ้ง ใช้ชีวิตเหมือนตัวเองไม่มีภาระอะไรเลย เราไม่กล้าถามค่ะต้องบอกก่อน ไม่งั้นเราไม่มาตั้งกระทู้ และเพื่อเป็นการเตือนสติเพื่อนๆทุกคนที่กำลังคิดแบบนี้อยู่ด้วยนะคะ

จากที่เราเคยได้ฟังมาเวลาเขาเล่าว่าไม่พอใจเวลามีคนมาถามว่าทำงานอะไร เขาค่อนข้างไม่พอใจกับคำถามนี้ เราเลยไม่คิดจะถามเช่นกัน จากที่เห็นพอ่แม่ก็เขาไม่เคยพูดอะไรหรือต่อว่าอะไรในเรื่องนี้ เราก็เลยมองว่าเราเป็นแค่เพื่อน จะไปสอนเขาตรงๆคงไม่มีประโยชน์ เราเลยได้แต่มองเฉยๆแอบสอนบ้างแบบอ้อมๆ ส่วนเพื่อนๆที่สนิทกับเขาจริงๆ หลายคนก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ ทุกคนเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวให้กับตัวเอง เริ่มทำหน้าที่ต่อจากพ่อแม่ บางคนก็มีครอบครัวมีลูกของตัวเองที่ต้องดูแลแล้ว ความรับผิดชอบเยอะขึ้นตามวัย

ในความคิดเรา เราคิดอย่างนี้ค่ะ จากที่เราเคยประสบมา ต่อให้มีมาก แต่ถ้าวันใดวันนึงมันจะไป มันก็สามารถไปได้ภายในข้ามคืน ไม่มีอะไรจีรัง สิ่งที่เราควรทำคือเตรียมพร้อมรับมือ และ ไม่สะเพร่าในการใช้ชีวิต ยิ่งธุรกิจที่เราทำ พ่อแม่สร้างมากับมือจาก 0 เรายิ่งปล่อยให้มันหายไปไม่ได้ ต่อให้วันนี้พวกท่านไม่อยู่แล้ว อย่างๆน้อยๆ เราก็ทำให้ท่านเห็นว่า เราสามารถดูแลตัวเองได้ในวันที่ท่านไม่สามารถอยู่ดูแลเราได้

ส่วนของคำแนะนำจากเรา เราเป็นห่วง จะเตือนๆตรงๆก็ไม่ได้ หวังว่าจะมาเจอกระทู้นี้กัน เราอยากเตือนนะว่า พ่อแม่ท่านเลี้ยงดูเรามาจนถึงตอนนี้ท่านเหนื่อยมามาก วัย 25-30 ไม่ใช่วัยเด็กเล่นแล้ว ควรจะเป็นวัยที่เริ่มหยิบจับอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้บ้างแล้ว ต่อให้พ่อแม่บางคนอาจไม่ได้ขอ อาจไม่ได้เตือน เชื่อเถอะว่ามันเหนื่อย เชื่อเถอะว่าเขาต้องเป็นห่วง หากวันใดที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างเราเกิดขึ้น คุณอาจจะไม่เหลืออะไรเลยนะ โลกความเป็นจริงมันโหดร้ายมากกว่าที่คุณเห็น วันนี้เขายิ้มให้ วันนี้เขาพูดคุญดีกับคุณ เพียงเพราะเขายังมีผลประโยชน์จากการคบคุณ แต่ถ้าวันนึงคุณไม่เหลืออะไร คุณจะได้เห็นธาติแท้ ของใครหลายๆคน แม้กระทั่งญาติ พี่น้องเองก็ตาม ลืมบอกไปว่า เราอายุกำลังใกล้เข้าเลข 3
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
อย่าไปเดือดร้อนกับเค้าครับ

บางคนเค้ารวยมาก จนชีวิตนี้อาจจะไม่ต้องทำอะไรเลย ใช้เงินปีละหลายล้านยังจะตายก่อนเงินหมดซะอีก
ความคิดเห็นที่ 78
เฮ้อ ปลงขอให้โลกสงบสุข
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่