กระทู้นี้ขออนุญาตรวบรวมร้านทั้งหมดที่เรากินที่ Osaka ครับ ซึ่งสามารถเอาชื่อภาษาอังกฤษไปเสิร์ทได้เลยในกุเกิ้ลครับ บางร้านก็น่าประทับใจ บางร้านก็เฉยๆ ไปลองดูกันครับว่ามีร้านไหนบ้าง
1. ตลาดคุโรมง อิจิบะ Kuromon Ichiba Market
ตลาดคุโรมง ตลาดขายอาหารขนาดใหญ่ใจกลางโอซาก้า ตลาดแห่งนี้มีของขายหลากหลายมากครับ ทั้งผักผลไม้ และอาหารทะเลนานาชนิด มีทั้งของสดและของปรุงสุก หากเราไปตอนเช้าๆจะเห็นเลยครับว่า มันคือของแช่แข็งแล้วเอามาอุ่นร้อนนี่แหละครับ แต่รสชาติก็ใช้ได้อยู่นะ

ของสดที่ขายในตู้แช่

สตอเบอรี่สีแดงสดน่ากินสุดๆ

ที่ตลาดคุโรมงแห่งนี้จะมีร้านให้เลือกกินเยอะมากครับ หากเรามาตอนบ่ายๆ จะมีของลดราคาด้วยครับ
เราเลือกร้านที่เป็นซุปเปอร์มาเก็ตย่อมๆ อยู่ข้างๆครับ ซึ่งเราสามารถซื้อพวกข้าวกล่องจากในโซนซุปเปอร์มาเก็ต แล้วมานั่งทานในร้านนี้ได้ สำหรับตัวร้านที่เรานั่งจะมีทั้งของปรุงสุกและปลาดิบขายครับ ยกกันมาทั้งทะเล ทั้งแซลมอน มากุโร่ กุ้งย่าง หอยย่าง ทาโกะยากิก็มีครับ มีให้เลือกหลายอย่างมากครับ
สั่งมาแบบจัดเต็มพอสมควรเลยครับ

ทาโกะยากิ รสชาติปกติครับ

หอยอันนี้อร่อย เนื้อเด้งมากๆครับ

กุ้งย่าง อันนี้ผิดหวังมากครับ กลับไปกินที่ไทยเด็ดกว่าเยอะ

โอโทโร่ ใช้ได้ ละลายในปาก แต่ยังแล่มาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บางส่วนยังมีหนังติดมาด้วย อารมณ์จะเหมือนเคี้ยวยางครับ

แซลมอนดีงามครับ สด อร่อย
สำหรับตลาดคุโรมงถือว่ามีของให้เลือกกินเยอะมากครับ แนะนำให้มาตอนเที่ยงๆ ร้านทุกร้านจะเปิดและพร้อมขายอย่างสมบูรณ์ ซึ่งราคาบางอย่างก็แพงใช้ได้เลยครับ สำหรับผม ผมซื้อสตอเบอรี่จากที่นี่กลับไปไทยด้วยครับ ซึ่งผมหยิบตัวที่มันอยู่ในกล่องมา แล้วทางร้านเขาก็เอากระดาษลังรองให้เพิ่มอีกชั้น แล้วผมก็ถือแบบนี้ขึ้นเครื่องไปเลยครับ
2. ร้านอุด้งราคาประหยัด Tsurumaru Nipponbashi
ร้านอุด้งร้านนี้อยู่ใกล้กับโรงแรม Hotel WBF Art Stay Namba ครับ ร้านเปิดตั้งแต่เช้า ไม่มีที่นั่งต้องยืนกินเอาครับ อาหารที่ร้านนี้ราคาเริ่มต้นที่ 210 เยนถูกกว่าซื้อข้าวกล่องที่ร้านสะดวกซื้ออีกนะ เมนูจะเป็นอุด้งแบบต่างๆครับ สามารถสั่งอาหารจากพ่อครัวได้เลย หลังจากรับอาหารมาเราสามารถไปหยิบของทานเล่น อย่าง พวกเทมปุระต่างๆ แล้วค่อยจ่ายเงินครับ ซึ่งกุ้งเทมปุระเด็ดมากนะครับ แนะนำให้หยิบ

แบบบะหมี่เย็นก็มีครับ

รสชาติอร่อยใช้ได้เลย
อันนี้เป็นแบบสไตล์โอซาก้าครับ มีเต้าหู้ทอด

ร้านนี้ ผมว่าอร่อยนะครับ และราคาก็ถูกมากๆ เหมาะสำหรับเวลาตอนเช้าที่เร่งรีบ และต้องการประหยัดเงินไว้จัดมื้อใหญ่ตอนเย็นอย่างมากครับ
3. ราเมง Gyokukaen
ร้านราเมงร้านนี้อยู่ใกล้กับโรงแรม Hotel WBF Art Stay Namba ฝั่งตรงกันข้ามครับ ร้านนี้สุ่มเข้ามาครับ ไม่ได้อยู่ในแผนที่จะมากิน ราคาเริ่มต้นที่ชามละ 700 เยนครับ
หน้าตาเมนูของทางร้านครับ

ร้านนี้บรรยากาศจะเงียบๆครับ สั่งกันไปคนละชาม รอประมาณ 20-30 นาทีนะ กว่าจะได้กิน
ราเมงซุปกระดูกหมู พิเศษ

หมูชาชูนุ่ม น้ำซุปเข้มข้นอร่อยดีครับ ไม่ผิดหวัง
Tsukemen

ตัวนี้เป็นราเมงแบบแยกซุป ต้องเอาเส้นจุ่มลงในซุปแล้วกิน ซุปรสชาติเข้มข้น อร่อยเช่นกันครับ
ร้านนี้อร่อยนะครับ ผมว่าอร่อยกว่าร้านในบ้านเราหลายร้านเลย และซุปไม่เค็มจนเกินไปด้วย ติดอยู่ที่เขาใช้เวลาทำค่อนข้างนานครับ
4. Luke's Lobster
ร้านขนมปังสอดไส้ เนื้อลอปสเตอร์ชื่อดังจากอเมริกา ตัวร้านอยู่ย่าน Shinsaibashi เดินมาไม่ไกลจากสะพานกุลิโกะ

เมนูของทางร้าน

หลังจากเราสั่งอาหารและจ่ายเงินเสร็จ พนักงานจะเรียกตามคิวให้เรามารอรับได้ตรงนี้ครับ

ทางร้านมีที่นั่งไว้ให้กิน อยู่ในซอยข้างร้านครับ
Lobster Roll (Regular)

เนื้อกุ้งแน่นๆ แต่สำหรับรสชาติ ผมว่าเฉยๆนะ
5. Isonoryotaro Namba
ร้านซูชิ 100 เยน มีหลายร้านมากๆ ใน Namba เราเลือกร้านนี้ เพราะเห็นคะแนนในกุเกิ้ลอยู่ที่ 3.5 น่าจะพอได้อยู่ ตัวร้านอยู่ในตึก ต้องขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 2 ร้านจะอยู่ขวามือ ร้านมีที่นั่งเยอะมากๆครับ พอเราเข้ามาถึงก็แจ้งพนักงานว่ามากี่คน แล้วเขาจะนำเราไปที่โต๊ะ เราได้นั่งติดกับครัว ซึ่งมองเข้าไปแล้วก็บรรยากาศเหมือนร้านบุฟเฟ่ต์บ้านเรา ที่โต๊ะตรงเรานั่งจะมี รูปเมนูไว้ให้ดูซึ่งเราสามารถหยิบจากสายพานหรือจะสั่งเอาจากจอมอนิเตอร์ก็ได้


ตรงจอมอนิเตอร์มีเมนูภาษาอังกฤษ ใช้สำหรับสั่งอาหารและเรียกพนักงาน ซึ่งใช้เวลาไม่นานพนักงานก็จะยกมาเสิร์ฟให้
นอกจากพวกซูชิแล้ว ซุป เครื่องดื่ม ขนมหวานก็สั่งจากจอได้เลย
เราสั่งกินกันไปหลายอย่าง ซึ่งคุณภาพก็ตามราคาครับ เดี๋ยวมาดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
ซูชิแซลมอนเบิร์น

พอได้ครับจานนี้
ซูชิปลาไหล

อันนี้ปลาไหลมันก็จะแข็งๆหน่อย
ซุชิกุ้งหวานและฮามาจิ

รสชาติพอได้ครับ แต่กุ้งตัวเล็กมาก
ซูชิหน้าเมนไทโกะ

อันนี้เค็มมากถึงมากที่สุดครับ ไม่ผ่าน
ซูชิหน้าไข่หอยเม่น

ตามราคาครับ รสมันจะแหยงๆหน่อย ไม่แนะนำครับ
ซูชิหน้าไข่ปลา

อันนี้มันแข็งๆ กินไปแล้วน่ากลัวยังไงไม่รู้ครับ
ซูชิแซลมอนและไข่ปลาแซลมอน

จานนี้อร่อยที่สุดแล้วครับของที่ร้าน
ซูชิหน้าแซลมอนสับปรุงรส

จานนี้พอได้ครับ อร่อยอยู่
ซูชิหน้าหอยเชลล์

หอยชิ้นใหญ่ แต่มันก็จะเย็นๆ ชืดๆ หน่อย
ซุปหอยตลับ

รสชาติเหมือนซุปซองเล็กๆครับ ที่ซื้อตามร้านในญี่ปุ่น
สำหรับมื้อนี้เราหมดไป 1702 เยนครับ ซึ่งอิ่มข้าวมากๆ 555 (ล้อเล่นนะ) เนื่องจากมื้อนี้อยู่ในมื้อสุดท้ายก่อนกลับก็เลยต้องกินตามกำลังเงินที่เหลืออยู่ครับ
6. Yakiniku Buffet Sakon
ร้านเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์ อยู่ที่ชั้น 2 ของห้าง Seacle ก่อนถึง Rinku Outlet ร้านนี้จำกัดเวลาที่ 1.30 ครับ ซึ่งราคามื้อกลางวันจะถูกกว่ามื้อเย็นครับ ไลน์อาหารมีเยอะพอสมควรครับ มีเนื้อ หมู ไก่ แต่ไก่นี่หนังเยอะมากครับ



นอกจากนี้ยังมีของทอดด้วยครับ

โอเด้งก็มีครับ

มีอุด้งกับโซบะด้วยครับ

หยิบเสร็จก็มาย่างครับ

หมูแผ่นๆ นั่นอร่อยสุดละครับ ที่เหลือก็ตามราคาครับ แต่เนื้อนี่เหนียวใช้ได้เลยนะ
สำหรับน้ำจิ้มเขามีหลายอย่างครับ น้ำจิ้มย่าง น้ำจิ้มสุกี้ โคชูจังก็มีครับ ส่วนเครื่องดื่มถ้าน้ำเปล่า ชา กาแฟ ฟรีครับ ส่วนน้ำอัดลมต้องอัพราคาเพิ่มถึงจะกินได้ นอกจากของคาวแล้ว ที่นี่มีไอศครีมหลายรสมากครับ ผลไม้ก็มีนะ สำหรับมื้อนี้เรากินกันสองคนหมดไป 2592 เยน ถือว่าไม่แพงนะ ตกคนละ 300 กว่าบาท
7. Gram Pancake สาขาปราสาท Osaka
ร้านแพนเค้กชื่อดังจากญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้มีสาขาในไทยแล้ว เอาจริงๆแล้วร้านนี้มีหลายสาขามากๆครับ ใน Namba แต่ไปไม่เคยได้กิน เจ้าพรีเมียมแพนเค้กสักทีครับ เนื่องจากเขามียอดจำกัดในการขายแต่ละวัน เลยมากินที่สาขาปราสาทโอซาก้าแทน ร้านจะอยู่ใกล้ๆกับสถานี JR Osakajokoen ครับ แต่หากเราไม่ได้ใช้ JR Pass ก็เดินเอาเรื่องเหมือนกันนะ ตรงจุดที่ร้านตั้งจะมีหลายๆร้านอยู่ครับ รวมไปถึง Starbuck ด้วย สาขาที่ปราสาทโอซาก้าดูกว้างขวางและน่านั่งมากกว่าใน Namba มากครับ
เมื่อเราไปถึงร้านไม่รอช้าครับ เรารีบถามก่อนเลยว่ามีตัวพรีเมียมแพนเค้กไหม โชคดีที่ร้านเพิ่งเปิดครับเลยยังมีอยู่ เราสั่งไปสองอย่างครับคือตัว Premium Pancake กับ เมนูที่เป็น autumn เมนู ซึ่งขายเฉพาะในช่วงนี้ครับ
Premium Pancake

ผมเองก็ไม่เคยกินที่ไทยเหมือนกันครับ เลยไม่รู้ว่ารสชาติมันเหมือนกันไหม แต่บอกได้เลยว่ามันนุ่มมากๆ ครับ แต่กินไปเยอะๆก็เลี่ยนเหมือนกันครับ
Autumn Menu

จานนี้ก็อร่อยครับ เป็นแพนเค้กมันหวานครับ ทั้งตัวครีม และ ท๊อปปิ้ง คือทำมาจากมันหวานทั้งหมดเลยครับ ตัวที่โรยอยู่ที่ขอบจานนั่นก็กรอบๆ ดีครับ
ต้องบอกว่าร้านนี้รู้สึกคุ้มค่าที่เดินมาเกือบกิโลเพื่อมากินมากครับ สำหรับใครที่มาแล้วอยากมาทานต้นตำรับ ผมแนะนำสาขานี้ครับ คนไม่เยอะ แล้วน่าจะไม่พลาดเจ้าพรีเมียมแพนเค้กด้วยครับ
นี้คือร้านทั้งหมดที่ผมกินตอนไปเที่ยวที่ Osaka ครับ สำหรับเพื่อนคนไหนที่เอาชื่อร้านไปเสิร์ทแล้วหาร้านไม่เจอ ก็ถามเข้ามาได้เลยครับ
<<กลับไปกระทู้หลัก>>
รีวิวเที่ยวโซนคันไซ 7 วัน (คิโนซากิออนเซน, โกเบ, เกียวโต, วากายาม่า, คุมาโนะ, และ โอซาก้า) เดินทางโดยสายการบิน Jal
https://pantip.com/topic/38339283
[CR] กินอะไรดี ที่Osaka
1. ตลาดคุโรมง อิจิบะ Kuromon Ichiba Market
ตลาดคุโรมง ตลาดขายอาหารขนาดใหญ่ใจกลางโอซาก้า ตลาดแห่งนี้มีของขายหลากหลายมากครับ ทั้งผักผลไม้ และอาหารทะเลนานาชนิด มีทั้งของสดและของปรุงสุก หากเราไปตอนเช้าๆจะเห็นเลยครับว่า มันคือของแช่แข็งแล้วเอามาอุ่นร้อนนี่แหละครับ แต่รสชาติก็ใช้ได้อยู่นะ
ของสดที่ขายในตู้แช่
สตอเบอรี่สีแดงสดน่ากินสุดๆ
ที่ตลาดคุโรมงแห่งนี้จะมีร้านให้เลือกกินเยอะมากครับ หากเรามาตอนบ่ายๆ จะมีของลดราคาด้วยครับ
เราเลือกร้านที่เป็นซุปเปอร์มาเก็ตย่อมๆ อยู่ข้างๆครับ ซึ่งเราสามารถซื้อพวกข้าวกล่องจากในโซนซุปเปอร์มาเก็ต แล้วมานั่งทานในร้านนี้ได้ สำหรับตัวร้านที่เรานั่งจะมีทั้งของปรุงสุกและปลาดิบขายครับ ยกกันมาทั้งทะเล ทั้งแซลมอน มากุโร่ กุ้งย่าง หอยย่าง ทาโกะยากิก็มีครับ มีให้เลือกหลายอย่างมากครับ
สั่งมาแบบจัดเต็มพอสมควรเลยครับ
สำหรับตลาดคุโรมงถือว่ามีของให้เลือกกินเยอะมากครับ แนะนำให้มาตอนเที่ยงๆ ร้านทุกร้านจะเปิดและพร้อมขายอย่างสมบูรณ์ ซึ่งราคาบางอย่างก็แพงใช้ได้เลยครับ สำหรับผม ผมซื้อสตอเบอรี่จากที่นี่กลับไปไทยด้วยครับ ซึ่งผมหยิบตัวที่มันอยู่ในกล่องมา แล้วทางร้านเขาก็เอากระดาษลังรองให้เพิ่มอีกชั้น แล้วผมก็ถือแบบนี้ขึ้นเครื่องไปเลยครับ
2. ร้านอุด้งราคาประหยัด Tsurumaru Nipponbashi
ร้านอุด้งร้านนี้อยู่ใกล้กับโรงแรม Hotel WBF Art Stay Namba ครับ ร้านเปิดตั้งแต่เช้า ไม่มีที่นั่งต้องยืนกินเอาครับ อาหารที่ร้านนี้ราคาเริ่มต้นที่ 210 เยนถูกกว่าซื้อข้าวกล่องที่ร้านสะดวกซื้ออีกนะ เมนูจะเป็นอุด้งแบบต่างๆครับ สามารถสั่งอาหารจากพ่อครัวได้เลย หลังจากรับอาหารมาเราสามารถไปหยิบของทานเล่น อย่าง พวกเทมปุระต่างๆ แล้วค่อยจ่ายเงินครับ ซึ่งกุ้งเทมปุระเด็ดมากนะครับ แนะนำให้หยิบ
แบบบะหมี่เย็นก็มีครับ
อันนี้เป็นแบบสไตล์โอซาก้าครับ มีเต้าหู้ทอด
ร้านนี้ ผมว่าอร่อยนะครับ และราคาก็ถูกมากๆ เหมาะสำหรับเวลาตอนเช้าที่เร่งรีบ และต้องการประหยัดเงินไว้จัดมื้อใหญ่ตอนเย็นอย่างมากครับ
3. ราเมง Gyokukaen
ร้านราเมงร้านนี้อยู่ใกล้กับโรงแรม Hotel WBF Art Stay Namba ฝั่งตรงกันข้ามครับ ร้านนี้สุ่มเข้ามาครับ ไม่ได้อยู่ในแผนที่จะมากิน ราคาเริ่มต้นที่ชามละ 700 เยนครับ
หน้าตาเมนูของทางร้านครับ
ร้านนี้บรรยากาศจะเงียบๆครับ สั่งกันไปคนละชาม รอประมาณ 20-30 นาทีนะ กว่าจะได้กิน
ราเมงซุปกระดูกหมู พิเศษ
Tsukemen
ร้านนี้อร่อยนะครับ ผมว่าอร่อยกว่าร้านในบ้านเราหลายร้านเลย และซุปไม่เค็มจนเกินไปด้วย ติดอยู่ที่เขาใช้เวลาทำค่อนข้างนานครับ
4. Luke's Lobster
ร้านขนมปังสอดไส้ เนื้อลอปสเตอร์ชื่อดังจากอเมริกา ตัวร้านอยู่ย่าน Shinsaibashi เดินมาไม่ไกลจากสะพานกุลิโกะ
เมนูของทางร้าน
หลังจากเราสั่งอาหารและจ่ายเงินเสร็จ พนักงานจะเรียกตามคิวให้เรามารอรับได้ตรงนี้ครับ
Lobster Roll (Regular)
5. Isonoryotaro Namba
ร้านซูชิ 100 เยน มีหลายร้านมากๆ ใน Namba เราเลือกร้านนี้ เพราะเห็นคะแนนในกุเกิ้ลอยู่ที่ 3.5 น่าจะพอได้อยู่ ตัวร้านอยู่ในตึก ต้องขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 2 ร้านจะอยู่ขวามือ ร้านมีที่นั่งเยอะมากๆครับ พอเราเข้ามาถึงก็แจ้งพนักงานว่ามากี่คน แล้วเขาจะนำเราไปที่โต๊ะ เราได้นั่งติดกับครัว ซึ่งมองเข้าไปแล้วก็บรรยากาศเหมือนร้านบุฟเฟ่ต์บ้านเรา ที่โต๊ะตรงเรานั่งจะมี รูปเมนูไว้ให้ดูซึ่งเราสามารถหยิบจากสายพานหรือจะสั่งเอาจากจอมอนิเตอร์ก็ได้
นอกจากพวกซูชิแล้ว ซุป เครื่องดื่ม ขนมหวานก็สั่งจากจอได้เลย
เราสั่งกินกันไปหลายอย่าง ซึ่งคุณภาพก็ตามราคาครับ เดี๋ยวมาดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
ซูชิแซลมอนเบิร์น
ซูชิปลาไหล
ซุชิกุ้งหวานและฮามาจิ
ซูชิหน้าเมนไทโกะ
ซูชิหน้าไข่หอยเม่น
ซูชิหน้าไข่ปลา
ซูชิแซลมอนและไข่ปลาแซลมอน
ซูชิหน้าแซลมอนสับปรุงรส
ซูชิหน้าหอยเชลล์
ซุปหอยตลับ
สำหรับมื้อนี้เราหมดไป 1702 เยนครับ ซึ่งอิ่มข้าวมากๆ 555 (ล้อเล่นนะ) เนื่องจากมื้อนี้อยู่ในมื้อสุดท้ายก่อนกลับก็เลยต้องกินตามกำลังเงินที่เหลืออยู่ครับ
6. Yakiniku Buffet Sakon
ร้านเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์ อยู่ที่ชั้น 2 ของห้าง Seacle ก่อนถึง Rinku Outlet ร้านนี้จำกัดเวลาที่ 1.30 ครับ ซึ่งราคามื้อกลางวันจะถูกกว่ามื้อเย็นครับ ไลน์อาหารมีเยอะพอสมควรครับ มีเนื้อ หมู ไก่ แต่ไก่นี่หนังเยอะมากครับ
นอกจากนี้ยังมีของทอดด้วยครับ
โอเด้งก็มีครับ
มีอุด้งกับโซบะด้วยครับ
หยิบเสร็จก็มาย่างครับ
สำหรับน้ำจิ้มเขามีหลายอย่างครับ น้ำจิ้มย่าง น้ำจิ้มสุกี้ โคชูจังก็มีครับ ส่วนเครื่องดื่มถ้าน้ำเปล่า ชา กาแฟ ฟรีครับ ส่วนน้ำอัดลมต้องอัพราคาเพิ่มถึงจะกินได้ นอกจากของคาวแล้ว ที่นี่มีไอศครีมหลายรสมากครับ ผลไม้ก็มีนะ สำหรับมื้อนี้เรากินกันสองคนหมดไป 2592 เยน ถือว่าไม่แพงนะ ตกคนละ 300 กว่าบาท
7. Gram Pancake สาขาปราสาท Osaka
ร้านแพนเค้กชื่อดังจากญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้มีสาขาในไทยแล้ว เอาจริงๆแล้วร้านนี้มีหลายสาขามากๆครับ ใน Namba แต่ไปไม่เคยได้กิน เจ้าพรีเมียมแพนเค้กสักทีครับ เนื่องจากเขามียอดจำกัดในการขายแต่ละวัน เลยมากินที่สาขาปราสาทโอซาก้าแทน ร้านจะอยู่ใกล้ๆกับสถานี JR Osakajokoen ครับ แต่หากเราไม่ได้ใช้ JR Pass ก็เดินเอาเรื่องเหมือนกันนะ ตรงจุดที่ร้านตั้งจะมีหลายๆร้านอยู่ครับ รวมไปถึง Starbuck ด้วย สาขาที่ปราสาทโอซาก้าดูกว้างขวางและน่านั่งมากกว่าใน Namba มากครับ
เมื่อเราไปถึงร้านไม่รอช้าครับ เรารีบถามก่อนเลยว่ามีตัวพรีเมียมแพนเค้กไหม โชคดีที่ร้านเพิ่งเปิดครับเลยยังมีอยู่ เราสั่งไปสองอย่างครับคือตัว Premium Pancake กับ เมนูที่เป็น autumn เมนู ซึ่งขายเฉพาะในช่วงนี้ครับ
Premium Pancake
Autumn Menu
ต้องบอกว่าร้านนี้รู้สึกคุ้มค่าที่เดินมาเกือบกิโลเพื่อมากินมากครับ สำหรับใครที่มาแล้วอยากมาทานต้นตำรับ ผมแนะนำสาขานี้ครับ คนไม่เยอะ แล้วน่าจะไม่พลาดเจ้าพรีเมียมแพนเค้กด้วยครับ
นี้คือร้านทั้งหมดที่ผมกินตอนไปเที่ยวที่ Osaka ครับ สำหรับเพื่อนคนไหนที่เอาชื่อร้านไปเสิร์ทแล้วหาร้านไม่เจอ ก็ถามเข้ามาได้เลยครับ
<<กลับไปกระทู้หลัก>>
รีวิวเที่ยวโซนคันไซ 7 วัน (คิโนซากิออนเซน, โกเบ, เกียวโต, วากายาม่า, คุมาโนะ, และ โอซาก้า) เดินทางโดยสายการบิน Jal
https://pantip.com/topic/38339283
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้