......บันทึก.......พ่อเลี้ยงเดี่ยว.......เรื่องที่ ๖ ..........@@ โดย ลุงแผน

กระทู้สนทนา



            ตอนเดืมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



                
     ( บันทึกจากความทรงจำ )


   ........สายใย
   .......คนที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลานี่มันอดไม่ได้ที่จะขัดใจกันไม่ว่าจะรักกันแค่ไหนหรือผูกพันกันยังไง มันต้องมีเหตุให้ ง้องแง้ง ๆ กันจนได้แหละ แล้วยิ่งวัยต่างกันก็ยิ่งไปกันใหญ่แล้วอะไรล่ะที่มันเป็นเส้นใยบาง ๆ ยึดโยงทั้งสองคนไว้ด้วยกัน ผู้ชายวัยสี่สิบกว่า ๆ กับเด็กผู้หญิงอายุ สิบขวบ ช่องว่างมันช่างห่างกันเหลือเกิน
      

         เรื่องประจำที่ผมกับลูกสาวจะงอนกันมันจะเริ่มขึ้นในตอนเช้าของทุกวัน และก็เป็นเรื่องเดิม ๆ ปลุกไม่ค่อยลุก น้ำไม่อาบ ข้าวไม่ยอมกิน ไอ้เราก็รีบ เดี๋ยวจะไปทำงานสาย บังคับมาก บ่นมากเข้าแกก็นั่งเฉยซะ ไม่ทำอะไร  ไม่พูด ไม่ร้องไห้ นั่งอยู่เฉย ๆ หยั่งงั้นแหละ เราก็หงุดหงิด หน้าแกก็ยังไม่ล้าง บอกยังไงก็ไม่ลุก เอ้า ไปนั่งรอที่รถก็ได้  บ่น ๆๆๆ แล้วก็เดินออกไปนั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์รออยู่หน้าบ้าน ดูนกดูไม้หมาแมวไปเรื่อยเฉื่อย  

        เด็กข้างบ้านซ้อนรถพ่อแม่ออกไปทีละบ้าน ละบ้าน จนแถวนั้นเริ่มเงียบแล้ว สักพักมีนาก็เดินออกมา หัวฟูหน้ายุ่งเดินก้มหน้าไม่พูดไม่จา เจ็ดโมงครึ่งแล้ว ไปโรงเรียนยี่สิบนาที ต่อไปที่ทำงานอีกสิบนาที พอดี ไม่ต้องแวะไหนกัน ข้าวเช้าก็ไม่ต้องกินกัน

        มีนาขึ้นซ้อนท้ายเสร็จผมก็ขี่รถตรงไปโรงเรียน ช่วงในเมืองรถก็มากหน่อยพอ ค่อย ๆ ออกนอกเมืองไปเรื่อย ๆ รถก็เริ่มน้อย ระยะทางหกเจ็ดกิโลนี่ขี่สบาย ๆ ใกล้ถึงโรงเรียนแล้วเวลายังพอมี ไม่บีบมาก ผมก็เริ่มสบายใจ หายหงุดหงิดแล้ว แต่มีนายังนั่งซ้อนท้ายเงียบอยู่ ผมก็เฉย ๆ

        ถึงหน้าโรงเรียน จอดรถแล้วก็ลงรถทั้งคู่ กอดลูกสาวไว้แกยืนนิ่งไม่กอดตอบ ผมถามเบา ๆ “  หิวข้าวมั๊ยลูก ” แกส่ายหน้า มองหน้าผม  “  ครู ให้หารูปแมว กับนก” ผมใจหายแว๊บ ลืมสนิทเลยมีนาบอกตั้งแต่เมื่อวานเย็น ทำนู่นทำนี่เพลินไปเลยไม่ได้หาให้ เน็ตใช้แอร์การ์ดก็หมุน ๆๆ ช้ามาก ว่าจะเข้าไปร้านถ่ายเอกสารให้เค้าหาแล้วพิมพ์ให้ก็ไม่ได้ไป เอาไงดีล่ะ  

        ถามว่าใช้กี่โมง มีนาบอกตอนบ่าย  ยังไหวอยู่พักเที่ยงเดี๋ยวเลยไปหน้า ม. ร้านถ่ายเอกสารมีหลายร้าน แล้วบิดย้อนมาให้  บอกกับลูกสาวแล้วก็รีบไปทำงาน ขี่รถไปก็นึกเจ็บใจตัวเอง เคยบ่นแกเวลาครูสั่งอะไรชอบมาบอกตอนเช้าใครจะไปหาทัน บางอย่างมันก็ต้องย้อนเข้าไปในตลาด รีบก็รีบรถก็เยอะ ทีหลังเลิกเรียนแล้วบอกพ่อเลย  แกรับปากแล้วก็ทำตามไอ้เรากลับลืมซะเอง ถึงว่าหน้าหงิกแต่เช้า
          

        พักเที่ยงวันนี้ก็พักช้าไปนิด กว่าจะบิดไปถึงหน้า ม. ก็เที่ยงครึ่ง ดูร้านเหมาะ ๆ คนไม่ค่อยมาก ก็เข้าไปหารูปที่ลูกสาวบอก ร้านถ่ายเอกสารแถว ม.นี่ดีตรงที่เค้ามีคอมเรียงอยู่ห้าหกเครื่อง ค้นงานค้นรูปอะไรกันแล้วก็สั่งพิมพ์เองเลย ถ้าเป็นที่อื่น เราต้องไปอธิบายให้เจ้าของร้านฟังแล้วเขาทำให้กว่าจะคุยกันเข้าใจก็เหนื่อยพอดู

        ได้รูปแล้วพิมพ์เผื่อมาสามสี่แผ่น กันไว้จะได้เลือกได้บิดย้อนกลับไปโรงเรียนมีนา พอไปถึงเด็กเข้าชั้นเรียนกันหมดแล้ว อาคารเรียนมีชั้นเดียวเป็นไม้ยกพื้นสูงมีบันไดขึ้นตรงกลาง  เสียงเด็กให้แซ่ดไปหมด เดินขึ้นบันไดเลี้ยวซ้ายไปสองห้องก็เจอห้องมีนา  

        ครูยืนสอนอยู่ ผมมองเข้าไปก็เจอตาสายตาลูกสาวที่มองมาพอดีท่าทางเหมือนกับมองรออยู่ตลอดเวลา คุณครูหยุดสอนเดินยิ้มเข้ามาหา ผมส่งรูปที่เตรียมมาให้ คุณครูรับพูดขอบคุณเบา ๆ แล้วเดินกลับไป ผมมองหน้าลูกเหมือนไกลกันมาก รอบตัวมีแต่คนแปลกหน้า เด็กชายเด็กหญิงนั่งกันอยู่เต็มห้อง  เหมือนมีอะไรกั้นอยู่จะเข้าไปหาก็ไม่ได้ แกจะออกมาก็ไม่ได้  ได้แต่นั่งนิ่งมองมาทางพ่อ  

        ยืนมองลูกอยู่แป๊บนึง ครูเริ่มสอนก็เดินถอยออกมาแกก็มองตามจนสุดสายตาเหมือนกัน กลับมาที่รถขี่ย้อนไปทำงาน บ่ายโมงกว่าแล้ว แดดจ้ามาก ผมไม่รู้สึกร้อน ไม่รู้สึกหิว และ ไม่รู้สึกเหนื่อย  คิดอยู่ในใจแค่อย่างเดียว อยากให้เลิกงานเร็ว ๆ  จะรีบมารับมีนา...........@@


..........ขอบพระคุณทุกท่าน ที่ติดตามให้กำลังใจมาตลอดครับ ขอบคุณครับ.........


                                                                                                                                         ลุงแผน
                                                                                                                              ๕  พฤศจิกายน  ๒๕๖๑



พาพันติดฝน



..............................
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่