( บันทึกเก็บไว้ เมื่อปี ๒๕๕๔ )
................ความสุขอยู่ตรงไหน
ถ้าถามคนหลาย ๆ คนว่าความสุขของเขาอยู่ที่อะไร เราคงได้คำตอบที่แตกต่างกันไป และถ้าเราถามตัวเราเองคำตอบก็คงไม่เหมือนใครเช่นกัน นั่นคือเรื่องของคนโต ๆ ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากแล้ว แต่ถ้าถามเด็ก ๆ ล่ะ โอ้โห คำตอบคงมากมายจนบรรยายไม่หมดใช่มั๊ย
หลาย ๆ คนคงคิดแบบนั้น แต่คำตอบเหล่านั้นส่วนมากมาจากความคิดของเราและจินตนาการของเด็กซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้ซับซ้อนและยุ่งยากตามที่เราคิดกันเลย มันง่าย ง่ายจนบางครั้งเรามองข้ามไป และไปหาสิ่งยาก ๆ ป้อนให้กับเขา เมื่อเขาไม่ยอมรับ สิ่งเหล่านั้นก็จะ
กองอยู่เต็มบ้านให้เรารำคาญใจเล่น ๆ
ลูกสาวผมจะเพลินอยู่กับการวาดรูปเป็นวัน ๆ สมุดกี่เล่มเอามาวาดรูปหมด กระดาษเอกสารที่ใช้ไปด้านเดียวก็ใช้ได้ ส่วนมากจะวาดรูปคน และบ้าน ลงสีมั่งไม่ลงมั่ง แล้วแต่อารมณ์ มองดูแล้วก็พอใช้ได้ ก็เลยหาสีมาให้ มีทั้งสีน้ำ สีเทียน สีไม้ สีเมจิก คิดว่ามีโอกาสจะพาไปเรียน
ศิลปะเพราะตอนนี้ยังวาดไปตามความเข้าใจ น่าจะเรียนหลักการเข้าไปด้วยหนังสือเธอก็ชอบอ่าน ขายหัวเราะ มหาสนุก และการ์ตูนพัฒนาการของเกาหลีชุดสาวน้อยคนเก่ง ชุดไม่ยาก ต่าง ๆ และการ์ตูนความรู้อื่น ๆอีก อ่านเร็วมาก เล่มนึงมีนาอ่านไม่ถึงชั่วโมง เคยเจอหนังสือลดราคา
ซื้อมาสิบสองเล่ม มีนาอ่านตั้งแต่ สี่โมงเย็น ทุ่มนึงอ่านหมดแล้ว เราก็มีโอกาสซื้อมามั่ง ไม่ซื้อมั่งเธอก็ไม่ว่าอ่านเล่มเก่าไป เล่มไหนชอบก็วางไว้หัวนอนเลย มีอยู่เกือบสิบเล่มเหมือนกันที่ชอบ ก็วางรวมไว้กับกองสมบัตินั่นแหละเกมก็เล่นนะ ตอนแรกเป็นแอร์การ์ดโหลดมามั่งไม่มามั่ง บางที
รอหน้าเดียวเกือบชั่วโมง ตอนหลังย้ายบ้านก็เลยเปลี่ยนเป็นเน็ตบ้าน จริง ๆ อยากเปลี่ยนมานานแล้วแต่เพิ่งมาลงตัวที่บ้านเช่าหลังใหม่นี่เอง เกมที่เล่นก็เป็นเกมเด็กผู้หญิง แต่งตัวตุ๊กตา ทำอาหาร ขายของ ปลูกต้นไม้ อะไรไปตามเรื่องแต่ชวนไปไหนมีนาไม่ค่อยไป ไปก็ไม่นานเดี๋ยว
เดียวก็ชวนกลับ งานแถวบ้านก็มีบ่อยมาก ตลาดนัดเอย ถนนคนเดินเอย เทศกาลอาหารเอย มีวนไปวนมาทั้งอาทิตย์ ตอนนี้ก็นี่เลย สวนชมน่านเจ้าเก่า จัดงานต้อนรับปีใหม่ มีตั้งแต่ วันที่ ๒๕ ธันวาคม ไปจนถึง ๓๑ ธันวาคม ของใช้ของกินมีเพียบ ยาวไปตามถนนริมน้ำน่าน ตั้งแต่หลังโรง
พักไปจนถึงสะพานนเรศวรเลย ยาวมากคนก็เยอะมาก ถ้าไปกันตอนหกโมงเย็น เดินถึงสามทุ่มยังไม่สุดทางเลย ผมก็ชวนมีนาว่าใกล้ ๆ ปีใหม่งานไม่ค่อยยุ่งเพราะร้านค้าปิดกันมากเราไปเที่ยวกันดีกว่า มีนาบอกว่าไม่ไป ผมก็บอกว่าไปเถอะไปเดินดูอะไรกัน เธอก็ว่าอยู่บ้านเกมก็มีเล่น
หนังก็มีดูไม่อยากไปหรอก ผมก็ไม่ว่าอะไรไม่ไปก็ไม่ไป ก็เลยอยู่บ้านกัน มีนาเล่นเกมผมก็ทำอะไรไปเรื่อยเฉื่อย พอมีนาดูหนังก็เขียนเรื่องของมีนาต่อ เพราะหน้าจอแบ่งกันได้คนละครึ่งแต่เขียนไม่ค่อยลื่นหรอกเพราะเสียงหนังมันอยู่ใกล้ ๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เขียน คิดถึงงานเขียนมากนับ
สิบปีที่ไม่เคยได้เขียนอะไรเลย ต่างคนต่างเพลินกับเรื่องของตัวเองนึกอะไรออกก็ชวนกันคุย คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้กันไปพอดีนึกได้เรื่องชวนไปเที่ยวก็เลยถามมีนาว่าทำไมไม่ค่อยชอบไปไหน เธอก็บอกว่าไม่อยากไป ก็ถามว่าหนูชอบเล่นเกมรึไง เธอก็บอกว่า นิดหน่อย หรือชอบอ่าน
หนังสืออยู่บ้าน เธอก็บอกว่าไม่ใช่ก็เลยพูดว่“พ่อไม่ค่อยได้อยู่บ้านกับหนู แล้วก็ไม่ค่อยได้พาหนูไปไหน พอมีเวลาพ่อก็อยากจะพาไปเที่ยวมั่ง”
มีนาก็บอกว่า “อยู่บ้านดีแล้วพ่อตังเราก็ไม่ค่อยจะมี เจออะไรอยากได้ก็ซื้อไม่ได้”
“ก็หนูอยากได้อะไรหนูก็บอกพ่อสิ พอเก็บเงินได้พอพ่อก็จะซื้อให้ตอนนี้หนูอยากได้อะไรมั๊ย”
“ไม่อยากได้หรอกพ่อ”
“บอกพ่อได้นะว่าอยากได้อะไร พ่อจะหาให้ พ่ออยากให้หนูมีความสุขมาก ๆ” พอถึงตอนนี้เธอก็มองหน้าผมแล้วพูดว่า
“หนูไม่อยากได้อะไรหรอกพ่อ พ่อไม่ต้องซื้ออะไรให้หนูหรอกเสียดายตัง หนูได้อยู่ใกล้ ๆ พ่อหนูก็มีความสุขแล้ว หนูชอบอยู่บ้านเพราะได้อยู่กับพ่อ หนูเล่นเกมก็มีพ่ออยู่ข้าง ๆ หนูดูการ์ตูนก็ได้ดูกับพ่อ ทำอะไรก็มีพ่ออยู่ด้วย มาเหอะพ่อเรามาดูบาร์บี้ตอนใหม่กัน”
ผมดูบาร์บี้ไปหลายตอนแล้วครับ แล้วก็รู้แล้วว่าลูกอยากอยู่ใกล้ ๆ ผม ถ้าจะถามว่าผมนั่งดูการ์ตูนเด็กผู้หญิงกับลูก ผมไม่เบื่อหรือยังไง
ผมก็จะบอกว่า เวลาผมเห็นลูกมีความสุข ผมดีใจจน บอกไม่ถูกเลยละครับ..........@@
ลุงแผน
๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
..............................
.......เรื่องนี้เก็บไว้เมื่อ ปี ๒๕๕๔ ตอนแรกลงเฟสของผมเองซึ่งมีเพื่อนอยู่ไม่ถึงร้อย มีคนอ่านอยู่สองสามคน ทั้งหมดหกเรื่อง มีสองเรื่องที่ยาวพอประมาณ สี่เรื่องที่เหลือสั้นนิดเดียว จะเรียกเรื่องสั้นได้หรือเปล่าไม่รู้ น่าจะเป็นบันทึกมากกว่า ช่วงนั้นผมอยู่กับลูกสาวหนึ่งคน แม่เธอ
ไปเที่ยวไกลมาก เลยกลับไม่ถูก เธอสิบขวบละ พ่อเป็นผู้ชาย ลูกเป็นผู้หญิง คุยกันกว่าจะรู้เรื่องแต่ละเรื่อง ปีนั้นได้คอมเก่า ๆ มาชุดนึง อาศัยอยู่บ้านเพื่อนที่เค้าทิ้งร้างไว้ รอบบ้าน รก น่ากลัวมาก คอมตัวนึงแบ่งคนละครึ่งจอ เธอดูการ์ตูนครึ่งนึง ผมพิมพ์เรื่องครึ่งนึง ก็ได้มาหกเรื่องแค่นั้น
แหละ งานก็ยุ่ง บ้านเดี๋ยวก็ย้าย เดี๋ยวก็ย้าย ถ้ามีโอกาสจะเขียนบันทึก ชีวิตระทึกของข้าพเจ้า มาให้ทุกท่านอ่านกัน ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามให้กำลังใจครับ.......
( ขออภัยล่วงหน้าครับ ถ้ามีการแก้ไข แสดงว่า ตัวหนังสือกระโดดไป กระโดดมา ข้ามบรรทัด กำลังศึกษาวิธีแก้อยู่ครับ )
.........บันทึก...........พ่อเลี้ยงเดี่ยว...............@@ โดย ลุงแผน
................ความสุขอยู่ตรงไหน
ถ้าถามคนหลาย ๆ คนว่าความสุขของเขาอยู่ที่อะไร เราคงได้คำตอบที่แตกต่างกันไป และถ้าเราถามตัวเราเองคำตอบก็คงไม่เหมือนใครเช่นกัน นั่นคือเรื่องของคนโต ๆ ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากแล้ว แต่ถ้าถามเด็ก ๆ ล่ะ โอ้โห คำตอบคงมากมายจนบรรยายไม่หมดใช่มั๊ย
หลาย ๆ คนคงคิดแบบนั้น แต่คำตอบเหล่านั้นส่วนมากมาจากความคิดของเราและจินตนาการของเด็กซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้ซับซ้อนและยุ่งยากตามที่เราคิดกันเลย มันง่าย ง่ายจนบางครั้งเรามองข้ามไป และไปหาสิ่งยาก ๆ ป้อนให้กับเขา เมื่อเขาไม่ยอมรับ สิ่งเหล่านั้นก็จะ
กองอยู่เต็มบ้านให้เรารำคาญใจเล่น ๆ
ลูกสาวผมจะเพลินอยู่กับการวาดรูปเป็นวัน ๆ สมุดกี่เล่มเอามาวาดรูปหมด กระดาษเอกสารที่ใช้ไปด้านเดียวก็ใช้ได้ ส่วนมากจะวาดรูปคน และบ้าน ลงสีมั่งไม่ลงมั่ง แล้วแต่อารมณ์ มองดูแล้วก็พอใช้ได้ ก็เลยหาสีมาให้ มีทั้งสีน้ำ สีเทียน สีไม้ สีเมจิก คิดว่ามีโอกาสจะพาไปเรียน
ศิลปะเพราะตอนนี้ยังวาดไปตามความเข้าใจ น่าจะเรียนหลักการเข้าไปด้วยหนังสือเธอก็ชอบอ่าน ขายหัวเราะ มหาสนุก และการ์ตูนพัฒนาการของเกาหลีชุดสาวน้อยคนเก่ง ชุดไม่ยาก ต่าง ๆ และการ์ตูนความรู้อื่น ๆอีก อ่านเร็วมาก เล่มนึงมีนาอ่านไม่ถึงชั่วโมง เคยเจอหนังสือลดราคา
ซื้อมาสิบสองเล่ม มีนาอ่านตั้งแต่ สี่โมงเย็น ทุ่มนึงอ่านหมดแล้ว เราก็มีโอกาสซื้อมามั่ง ไม่ซื้อมั่งเธอก็ไม่ว่าอ่านเล่มเก่าไป เล่มไหนชอบก็วางไว้หัวนอนเลย มีอยู่เกือบสิบเล่มเหมือนกันที่ชอบ ก็วางรวมไว้กับกองสมบัตินั่นแหละเกมก็เล่นนะ ตอนแรกเป็นแอร์การ์ดโหลดมามั่งไม่มามั่ง บางที
รอหน้าเดียวเกือบชั่วโมง ตอนหลังย้ายบ้านก็เลยเปลี่ยนเป็นเน็ตบ้าน จริง ๆ อยากเปลี่ยนมานานแล้วแต่เพิ่งมาลงตัวที่บ้านเช่าหลังใหม่นี่เอง เกมที่เล่นก็เป็นเกมเด็กผู้หญิง แต่งตัวตุ๊กตา ทำอาหาร ขายของ ปลูกต้นไม้ อะไรไปตามเรื่องแต่ชวนไปไหนมีนาไม่ค่อยไป ไปก็ไม่นานเดี๋ยว
เดียวก็ชวนกลับ งานแถวบ้านก็มีบ่อยมาก ตลาดนัดเอย ถนนคนเดินเอย เทศกาลอาหารเอย มีวนไปวนมาทั้งอาทิตย์ ตอนนี้ก็นี่เลย สวนชมน่านเจ้าเก่า จัดงานต้อนรับปีใหม่ มีตั้งแต่ วันที่ ๒๕ ธันวาคม ไปจนถึง ๓๑ ธันวาคม ของใช้ของกินมีเพียบ ยาวไปตามถนนริมน้ำน่าน ตั้งแต่หลังโรง
พักไปจนถึงสะพานนเรศวรเลย ยาวมากคนก็เยอะมาก ถ้าไปกันตอนหกโมงเย็น เดินถึงสามทุ่มยังไม่สุดทางเลย ผมก็ชวนมีนาว่าใกล้ ๆ ปีใหม่งานไม่ค่อยยุ่งเพราะร้านค้าปิดกันมากเราไปเที่ยวกันดีกว่า มีนาบอกว่าไม่ไป ผมก็บอกว่าไปเถอะไปเดินดูอะไรกัน เธอก็ว่าอยู่บ้านเกมก็มีเล่น
หนังก็มีดูไม่อยากไปหรอก ผมก็ไม่ว่าอะไรไม่ไปก็ไม่ไป ก็เลยอยู่บ้านกัน มีนาเล่นเกมผมก็ทำอะไรไปเรื่อยเฉื่อย พอมีนาดูหนังก็เขียนเรื่องของมีนาต่อ เพราะหน้าจอแบ่งกันได้คนละครึ่งแต่เขียนไม่ค่อยลื่นหรอกเพราะเสียงหนังมันอยู่ใกล้ ๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เขียน คิดถึงงานเขียนมากนับ
สิบปีที่ไม่เคยได้เขียนอะไรเลย ต่างคนต่างเพลินกับเรื่องของตัวเองนึกอะไรออกก็ชวนกันคุย คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้กันไปพอดีนึกได้เรื่องชวนไปเที่ยวก็เลยถามมีนาว่าทำไมไม่ค่อยชอบไปไหน เธอก็บอกว่าไม่อยากไป ก็ถามว่าหนูชอบเล่นเกมรึไง เธอก็บอกว่า นิดหน่อย หรือชอบอ่าน
หนังสืออยู่บ้าน เธอก็บอกว่าไม่ใช่ก็เลยพูดว่“พ่อไม่ค่อยได้อยู่บ้านกับหนู แล้วก็ไม่ค่อยได้พาหนูไปไหน พอมีเวลาพ่อก็อยากจะพาไปเที่ยวมั่ง”
มีนาก็บอกว่า “อยู่บ้านดีแล้วพ่อตังเราก็ไม่ค่อยจะมี เจออะไรอยากได้ก็ซื้อไม่ได้”
“ก็หนูอยากได้อะไรหนูก็บอกพ่อสิ พอเก็บเงินได้พอพ่อก็จะซื้อให้ตอนนี้หนูอยากได้อะไรมั๊ย”
“ไม่อยากได้หรอกพ่อ”
“บอกพ่อได้นะว่าอยากได้อะไร พ่อจะหาให้ พ่ออยากให้หนูมีความสุขมาก ๆ” พอถึงตอนนี้เธอก็มองหน้าผมแล้วพูดว่า
“หนูไม่อยากได้อะไรหรอกพ่อ พ่อไม่ต้องซื้ออะไรให้หนูหรอกเสียดายตัง หนูได้อยู่ใกล้ ๆ พ่อหนูก็มีความสุขแล้ว หนูชอบอยู่บ้านเพราะได้อยู่กับพ่อ หนูเล่นเกมก็มีพ่ออยู่ข้าง ๆ หนูดูการ์ตูนก็ได้ดูกับพ่อ ทำอะไรก็มีพ่ออยู่ด้วย มาเหอะพ่อเรามาดูบาร์บี้ตอนใหม่กัน”
ผมดูบาร์บี้ไปหลายตอนแล้วครับ แล้วก็รู้แล้วว่าลูกอยากอยู่ใกล้ ๆ ผม ถ้าจะถามว่าผมนั่งดูการ์ตูนเด็กผู้หญิงกับลูก ผมไม่เบื่อหรือยังไง
ผมก็จะบอกว่า เวลาผมเห็นลูกมีความสุข ผมดีใจจน บอกไม่ถูกเลยละครับ..........@@
ลุงแผน
๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
.......เรื่องนี้เก็บไว้เมื่อ ปี ๒๕๕๔ ตอนแรกลงเฟสของผมเองซึ่งมีเพื่อนอยู่ไม่ถึงร้อย มีคนอ่านอยู่สองสามคน ทั้งหมดหกเรื่อง มีสองเรื่องที่ยาวพอประมาณ สี่เรื่องที่เหลือสั้นนิดเดียว จะเรียกเรื่องสั้นได้หรือเปล่าไม่รู้ น่าจะเป็นบันทึกมากกว่า ช่วงนั้นผมอยู่กับลูกสาวหนึ่งคน แม่เธอ
ไปเที่ยวไกลมาก เลยกลับไม่ถูก เธอสิบขวบละ พ่อเป็นผู้ชาย ลูกเป็นผู้หญิง คุยกันกว่าจะรู้เรื่องแต่ละเรื่อง ปีนั้นได้คอมเก่า ๆ มาชุดนึง อาศัยอยู่บ้านเพื่อนที่เค้าทิ้งร้างไว้ รอบบ้าน รก น่ากลัวมาก คอมตัวนึงแบ่งคนละครึ่งจอ เธอดูการ์ตูนครึ่งนึง ผมพิมพ์เรื่องครึ่งนึง ก็ได้มาหกเรื่องแค่นั้น
แหละ งานก็ยุ่ง บ้านเดี๋ยวก็ย้าย เดี๋ยวก็ย้าย ถ้ามีโอกาสจะเขียนบันทึก ชีวิตระทึกของข้าพเจ้า มาให้ทุกท่านอ่านกัน ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามให้กำลังใจครับ.......
( ขออภัยล่วงหน้าครับ ถ้ามีการแก้ไข แสดงว่า ตัวหนังสือกระโดดไป กระโดดมา ข้ามบรรทัด กำลังศึกษาวิธีแก้อยู่ครับ )