ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรื่องที่ ๑
https://pantip.com/topic/38229130
เรื่องที่ ๒
https://pantip.com/topic/38235931
เรื่องที่ ๓
https://pantip.com/topic/38257303
เรื่องที่ ๔
https://pantip.com/topic/38278726
( บันทึกเก็บไว้เมื่อปี ๒๕๕๔ )
เรื่องของลูก.....(ที่กลายเป็นเรื่องของพ่อ)
เลี้ยงลูกคนเดียวนี่มันได้อารมณ์หลากหลายจริง ๆ ทั้งสนุก ทั้งเหนื่อย ปน ๆ กันไป มีงอนมั่งตามประสา บางทีเราเป็นพ่อก็ไม่ค่อยเข้าใจเด็กผู้หญิงสักเท่าไรนัก ทั้งงานประจำที่ต้องทำทุกวันรวมทั้งงานบ้านที่เราก็ต้องทำให้ออกมาลงตัวให้ได้ด้วยตัวคนเดียว อ้อ ! ไม่ใช่สิ มีลูกสาวคอยช่วยด้วยอีกคน
17.00 น. เป็นเวลาปกติที่กลับถึงบ้าน อาจช้าเร็วบ้างนิดหน่อย ซื้อกับข้าวเรียบร้อย ส่วนข้าวกลับมาหุงที่บ้าน ก็แกงถุงง่าย ๆ ทางกลับบ้านผ่านตลาดข้างทางเล็ก ๆ เรียกตลาดถูกหรือเปล่าไม่รู้ มีแม่ค้าขายกับข้าวเรียงอยู่ข้างทางสิบกว่าเจ้า เป็นโต๊ะเตี้ย ๆ ขายแกงสองสามร้าน ปลาทอด ปลาเห็ด ไก่ทอดอะไรนั่นอีกร้านนึง ลูกชิ้นปิ้ง ไส้กรอก น้ำพริกผักต้ม ก็พื้น ๆ ทั่ว ๆ ไปแหละ
แกงก็วนไปวนมาซ้ำ ๆ กัน พะโล้ แกงไก่ แกงส้ม ต้มข่า แต่ งบมีจำกัด จะไปซื้อที่อื่นก็ไม่ไหว ที่นี่ถุงละยี่สิบ น้ำมั่งเนื้อมั่ง ก็ยังดีกว่ากินไข่ต้มทุกวัน เพราะถ้าวันไหนไม่ได้ซื้อกับข้าวมา พอกลับถึงบ้าน เวลาหุงข้าวก็เอาไข่ไก่ใส่ไปในหม้อข้าวสี่ลูก เผื่อเช้าด้วยเลย
เค้าถือกันว่าทำอย่างนี้ไม่ดี ที่ว่าเอาไข่ใส่ไปในหม้อข้าวน่ะ ดีไม่ดีไม่รู้ แต่ทั้งบ้านมีเครื่องครัวก็หม้อข้าวใบเดียวนี่แหละ เตาแก๊ส เตาถ่านอะไรก็ไม่มี ไม่ต้มไข่หยั่งงี้ก็ไม่รู้จะต้มยังไง ถึงบ้านเรียบร้อยเข็นรถเข้าที่ลูกสาวเดินแบกกระเป๋าหลังแอ่นเข้าบ้านก็บอกแก
“ มีนาทำการบ้านเลยนะลูกแล้วรีดผ้าด้วยพ่อจะหุงข้าวแล้วรองน้ำไว้ใช้” “ จ้ะพ่อ ” ตอบไปก็เดินไป เอากระเป๋าวางบนโต๊ะเตี้ยที่มีตัวเดียวในบ้าน
“ แล้วก็อาบน้ำจัดตารางสอนเลยนะลูกเสร็จแล้วจะได้กินข้าวพร้อมกัน ” ผมก็เตรียมหุงข้าว วันนี้ได้แกงปลามาถุงนึง พอแล้วละสองคนพ่อลูก ราดข้าวได้คนละจาน
“ พ่อหนูทำการบ้านแล้วขอดูหนังเรื่องนึงค่อยรีดผ้านะ” แน่ะ มีต่อรอง “ ก็ได้ลูกยังไม่ค่ำเลย ” อยู่ต่างจังหวัดก็ดีไปอย่าง คนกลับจากทำงาน นักเรียนกลับบ้าน ใช้เวลาอย่างมากก็ครึ่งชั่วโมง มีเวลาให้ทำอะไรเยอะแยะ ยกเว้นเด็กที่ไปรถตู้รับส่ง อันนี้น่าเห็นใจ เพราะไปหลายที่ เลยต้องใช้เวลามากหน่อย
18.00 น. หุงข้าว รองน้ำเสร็จเรียบร้อย เพื่อนให้ปั๊มน้ำตัวเล็กมาตัวนึง เวลาจะใช้น้ำก็ลากสายยาง สายไฟไปเสียบปั๊มข้าง ๆ บ่อน้ำ ข้างบ้านมีบ่อน้ำอยู่บ่อนึง น่าจะอยู่คู่บ้านมานานแล้ว เพราะรอบ ๆ เริ่ม เป็นเขตเมือง มีบ้านจัดสรร มีตึกแถวขึ้นมาหลายสิบห้อง กลุ่มที่อยู่กันสิบกว่าหลังนี้ น่าจะเป็นกลุ่มป่า บอนได้อีกไม่นานแล้วละ
เก็บสายไฟ สายยางแล้ว ถามลูกสาวที่นั่งอยู่ในห้อง เสียงการ์ตูนดังแจ้ว ๆ น่าจะเป็นนีโม่ “ มีนาทำการบ้านเสร็จหรือยังลูก ” “ เสร็จแล้วพ่อ ขอดูหนังเดี๋ยวแล้วหนูจะไปรีดผ้า ” เสียงตอบชัดแจ๋ว น่าจะกำลังสนุก ผมยกโต๊ะรองรีดตัวเล็ก ๆมาวาง เสียบเตารีดไว้ ปรับไฟกลาง ๆ
18.30 น. เดี๋ยวนานแล้ว มีนายังไม่ออกมาจากห้อง เสียงหัวเราะสลับกับเสียงการ์ตูนดังมาไม่ขาด ผมพยายามหัดให้ลูกทำอะไรเอง
มันเป็นประสบการณ์ตรงที่เจอกับตัว ตอนเด็ก ๆ โดนใช้ทำอะไรไม่หยุด เบื่อแสนเบื่อ ไม่ได้ไปเล่นไหนกับเค้า บางอย่างใช้เวลามาก บางอย่างก็ยาก อย่างเช็ดกระจก ทำยังไงก็ไม่เอี่ยม เช็ดไปร้องไห้ไป กว่าจะได้กินข้าวแทบจะหมดแรง
พอโตมาเจออะไรก็ง่ายหมด เจอของยากมาแล้วนี่ เดี๋ยวนี้เห็นงานไม่เคยกลัว แต่ตอนสอนลูกนี่ก็ต้องทำใจนะ “ วันนี้ผ้าเยอะนะลูก ” ลองกระตุ้นดูหน่อย ปล่อยให้ออกมาเองไม่แน่ใจ “ จ้าพ่อ พ่อช่วยหนูมั่งสิ ” เสียงแจ๋ว ๆ แต่ยังไม่เห็นตัว “ได้ ตัวเดียวนะ ” เตารีดเริ่มร้อนแล้ว วางทิ้งไว้เฉย ๆ มันก็ยังไงอยู่ “ สองตัวสิพ่อ..นะ..นะ ” นั่นไง คิดว่าจะช่วยสักตัวนึง “ ก็ได้ ” เอ้า เพิ่มอีกตัวเดียวจะเป็นไรไป
19.00 น. “ มีนาพ่อรีดเสร็จสองตัวแล้ว ” ผมบอกลูกหลังจาก รีดเสื้อนักเรียน กับกระโปรงไปอย่างละตัว กระโปรงนักเรียนนี่จีบรอบตัวเลย กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาพอควร รีดทางนี้ ทางนั้นยับ รีดทางนั้น ทางนี้มีรอยอีกแล้ว “ จ้าพ่อ....อีกแป๊บนึง ” “ แป๊บแค่ไหนลูก ” “ น่า..พ่อ..น่า ”
19.10 น. นั่งฟังเสียงลูกสาวหัวเราะ คิกคัก ๆ ก็เพลินดี แกไม่ค่อยได้ไปไหนกะเค้า ทำงานทุกวันนี้ก็ได้แค่พอดีใช้ไปวันนึง มีติดกระเป๋าอยู่มั่งเต็มที่ก็ร้อยกว่าบาท ถ้าหยุดงานวันนึงก็คงหมด เลยต้องไปทุกวัน เสาร์อาทิตย์โรงเรียนหยุดก็พามีนาไปด้วย วิ่งเล่นเดินเล่นอยู่แถวนั้นแหละ
เลิกงานมาถ้าตรงกับตลาดนัด ก็พามีนาไปเดินดูนู่นดูนี่ ก่อนเข้าบ้าน ก็เพลินดีนะแก้เหงาไปได้หน่อย รีบเข้าบ้านไปเลยก็มีแต่การ์ตูนเรื่องเดิม และลูกสาวก็ไม่เคยรบเร้าจะเอาอะไร นอกจากนาน ๆ ทีกิ๊บติดผมสักอันมองอัน หรือไม่ก็ยางมัดผม
แต่หนังสือลดราคา กับซีดีมือสอง นี่ถ้าเจอถูกใจปุ๊บ คว้าปั๊บไม่พลาด อยากจะหาอะไรให้แกอย่างคนอื่นเหมือนกันนะ แต่ตอนนี้รายได้มีเท่านี้ก็ต้องทำใจ อดทนกันไปก่อน มองดูเตารีดกำลังร้อนอยู่ รีดต่ออีกนิดก็ได้ อีกอย่างนึง เสียบไปนาน ๆ ก็เปลืองไฟด้วย
20.00น . เรียบร้อยแล้วมีแต่ชุดนักเรียนลูกทั้งนั้นแหละ ยากตรงกระโปรงอย่างเดียวเสื้อก็ง่าย ๆ รีดแล้วก็แขวนไว้บนราวแบบสำเร็จ ของผมไม่ต้องรีดเพราะทำงานตัวมอมแมม และก็มีเสื้อแค่สองสามตัว กางเกงสองตัว เลิกงานมาซักสลัด ๆ ตากไว้ เวลาจะใส่ก็สลัดอีกทีใส่ได้เลย
ไม่ต้องไปอะไรมาก เย็นมาก็เลอะเทอะอยู่ดี “ มีนาพ่อรีดผ้าเสร็จแล้วนะ จัดตารางสอนเร็วลูก ” เข้าไปในห้องกองหนังสืออยู่ข้างที่นอนด้านถัดไปจากโต๊ะคอม การ์ตูนกำลังสนุก “ พ่อช่วยหนูด้วยนะ ” มีนานอนยาวกลิ้งไปบนที่นอนสามรอบก็ถึงกองหนังสือ
“ ก็ได้ ๆ สองทุ่มแล้วยังไม่ได้กินข้าวกันเลย ” “ จ้าพ่อ มาเร็วพ่อเร็วมาช่วยหนู ” แล้วลูกสาวก็นอนกางตารางสอน อ่านทีละวิชา พ่อก็ช่วยมองหาหนังสือเรียน พอเจอก็เอามากองไว้ข้างกระเป๋า
20.10 น “ มีนาไปอาบน้ำได้แล้ว ” “ พ่อไปอยู่เป็นเพื่อนหนูหน้าห้องน้ำด้วยสิ ” ป่าบอนข้างบ้านมืดตื๋อ เสียงเขียด เสียงจิ้งหรีด ร้องแข่งกัน จะว่าน่าสนุกก็ได้ จะว่าวังเวงน่ากลัวก็ได้อีกนั่นแหละ “ ได้..ได้ ” ผมก็ต้องไปอยู่ใกล้ห้องน้ำ ลูกสาวก็จะชวนคุยไปเรื่อย ๆ ให้รู้ว่าผมไม่ได้ไปไหน จนกว่าจะออกมานั่นแหละ
20.30 น “ มากินข้าวกันลูก ” ตักข้าวสองจาน น้ำปลาขวดละแปดบาท หยดไปบนข้าวจานละหน่อยแกงปลาเทใส่ถ้วย วางไว้ข้าง ๆ ลูกสาววิ่งปรู๊ดออกมาจากห้องเสียงการ์ตูนยังดังอยู่เป็นเพื่อน “ พ่อกินพร้อมหนูนะ ” “ มาเลย “ “ พ่อนั่งใกล้ ๆ หนูด้วย ”
นั่งกับพื้นนั่นแหละโต๊ะเก้าอี้อะไรไม่มีหรอก “ เอาสิ ” นั่งกินข้าวไปคุยกันไป มีนากินกับไม่เปลือง ถุงเดียวสองคนสบาย ๆ บางอย่างก็เหลือซะอีกด้วย มองลูกแล้วก็คิด สักคำ แกไม่เคยจะขออะไรเลยตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา
20.40 น. ( กินข้าวเสร็จแล้ว ) “ มีนาเอาจานไปล้างสิลูก ” บอกลูกไว้ หัดทำอะไรเอง ถูบ้าน ซักเสื้อผ้า ล้างจาน ทำให้เป็นนิสัยไปอยู่ที่ไหนได้ไม่ลำบาก ลูกสาวลุกยืน เดินไปเข้าห้อง “ พ่อล้างของพ่อไปก่อนนะหนูขอวาดรูปเดี๋ยว ” (เดี๋ยวอีกแล้ว)
20.45 น. นั่งรออยู่พักนึง ยุงเริ่มกวนแล้ว ลูกสาวก็ยังไม่ออกมายังไงน้ำยาล้างจานก็ผสมใส่กะละมังไว้แล้ว ล้างให้หมดเลยก็แล้วกัน
21.00 น. “ มีนามานอนได้แล้วลูก ” “ จ้ะพ่อหนูขอเล่นเกมด่านนึงนะ ” “ เอาสิด่านเดียวนะดึกแล้ว ”
22.00 น. “ มีนานอนได้แล้ว ” ผมง่วงจนตาจะลืมไม่ขึ้น ได้แต่นอนหลับตาฟังเสียงลูกหัวเราะอยู่หน้าคอม“ จ้ะพ่อแป๊บเดียว”
.....มีนา.......จ้ะพ่อ........ ( เรียกกี่ครั้งก็มีคำขานหวาน ๆ ตอบมาตลอดจนเราหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ )
ครับ ลูกสาวผมไม่เคยขัดใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว และทุก ๆวันก็เป็นแบบนี้ สนุกดีครับพอถึงเวลานอนก็หมดแรงพอดี ราตรีสวัสดิ์ครับ ผมทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด ยังดีนะ ที่มีลูกสาวคอยช่วยงานบ้านอีกแรง ไม่งั้นแย่แน่ ๆ เลย (จริง ๆ นะ)
ลุงแผน
๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
.....ขออภัยทุกท่านนะครับ เรื่องนี้ขยายขึ้นมานิดนึง แต่เนื้อหายังคงเดิม ที่บันทึกไว้ แค่สรุปเรื่องราวตามเวลาที่พอมี เลยสั้นไปหน่อย ขอบพระคุณทุกท่าน ที่ติดตามให้กำลังใจมาตลอดนะครับ ขอบคุณครับ..........
..............................
......บันทึก.......พ่อเลี้ยงเดี่ยว.......เรื่องที่ ๕ ..........@@ โดย ลุงแผน
ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องของลูก.....(ที่กลายเป็นเรื่องของพ่อ)
เลี้ยงลูกคนเดียวนี่มันได้อารมณ์หลากหลายจริง ๆ ทั้งสนุก ทั้งเหนื่อย ปน ๆ กันไป มีงอนมั่งตามประสา บางทีเราเป็นพ่อก็ไม่ค่อยเข้าใจเด็กผู้หญิงสักเท่าไรนัก ทั้งงานประจำที่ต้องทำทุกวันรวมทั้งงานบ้านที่เราก็ต้องทำให้ออกมาลงตัวให้ได้ด้วยตัวคนเดียว อ้อ ! ไม่ใช่สิ มีลูกสาวคอยช่วยด้วยอีกคน
17.00 น. เป็นเวลาปกติที่กลับถึงบ้าน อาจช้าเร็วบ้างนิดหน่อย ซื้อกับข้าวเรียบร้อย ส่วนข้าวกลับมาหุงที่บ้าน ก็แกงถุงง่าย ๆ ทางกลับบ้านผ่านตลาดข้างทางเล็ก ๆ เรียกตลาดถูกหรือเปล่าไม่รู้ มีแม่ค้าขายกับข้าวเรียงอยู่ข้างทางสิบกว่าเจ้า เป็นโต๊ะเตี้ย ๆ ขายแกงสองสามร้าน ปลาทอด ปลาเห็ด ไก่ทอดอะไรนั่นอีกร้านนึง ลูกชิ้นปิ้ง ไส้กรอก น้ำพริกผักต้ม ก็พื้น ๆ ทั่ว ๆ ไปแหละ
แกงก็วนไปวนมาซ้ำ ๆ กัน พะโล้ แกงไก่ แกงส้ม ต้มข่า แต่ งบมีจำกัด จะไปซื้อที่อื่นก็ไม่ไหว ที่นี่ถุงละยี่สิบ น้ำมั่งเนื้อมั่ง ก็ยังดีกว่ากินไข่ต้มทุกวัน เพราะถ้าวันไหนไม่ได้ซื้อกับข้าวมา พอกลับถึงบ้าน เวลาหุงข้าวก็เอาไข่ไก่ใส่ไปในหม้อข้าวสี่ลูก เผื่อเช้าด้วยเลย
เค้าถือกันว่าทำอย่างนี้ไม่ดี ที่ว่าเอาไข่ใส่ไปในหม้อข้าวน่ะ ดีไม่ดีไม่รู้ แต่ทั้งบ้านมีเครื่องครัวก็หม้อข้าวใบเดียวนี่แหละ เตาแก๊ส เตาถ่านอะไรก็ไม่มี ไม่ต้มไข่หยั่งงี้ก็ไม่รู้จะต้มยังไง ถึงบ้านเรียบร้อยเข็นรถเข้าที่ลูกสาวเดินแบกกระเป๋าหลังแอ่นเข้าบ้านก็บอกแก
“ มีนาทำการบ้านเลยนะลูกแล้วรีดผ้าด้วยพ่อจะหุงข้าวแล้วรองน้ำไว้ใช้” “ จ้ะพ่อ ” ตอบไปก็เดินไป เอากระเป๋าวางบนโต๊ะเตี้ยที่มีตัวเดียวในบ้าน
“ แล้วก็อาบน้ำจัดตารางสอนเลยนะลูกเสร็จแล้วจะได้กินข้าวพร้อมกัน ” ผมก็เตรียมหุงข้าว วันนี้ได้แกงปลามาถุงนึง พอแล้วละสองคนพ่อลูก ราดข้าวได้คนละจาน
“ พ่อหนูทำการบ้านแล้วขอดูหนังเรื่องนึงค่อยรีดผ้านะ” แน่ะ มีต่อรอง “ ก็ได้ลูกยังไม่ค่ำเลย ” อยู่ต่างจังหวัดก็ดีไปอย่าง คนกลับจากทำงาน นักเรียนกลับบ้าน ใช้เวลาอย่างมากก็ครึ่งชั่วโมง มีเวลาให้ทำอะไรเยอะแยะ ยกเว้นเด็กที่ไปรถตู้รับส่ง อันนี้น่าเห็นใจ เพราะไปหลายที่ เลยต้องใช้เวลามากหน่อย
18.00 น. หุงข้าว รองน้ำเสร็จเรียบร้อย เพื่อนให้ปั๊มน้ำตัวเล็กมาตัวนึง เวลาจะใช้น้ำก็ลากสายยาง สายไฟไปเสียบปั๊มข้าง ๆ บ่อน้ำ ข้างบ้านมีบ่อน้ำอยู่บ่อนึง น่าจะอยู่คู่บ้านมานานแล้ว เพราะรอบ ๆ เริ่ม เป็นเขตเมือง มีบ้านจัดสรร มีตึกแถวขึ้นมาหลายสิบห้อง กลุ่มที่อยู่กันสิบกว่าหลังนี้ น่าจะเป็นกลุ่มป่า บอนได้อีกไม่นานแล้วละ
เก็บสายไฟ สายยางแล้ว ถามลูกสาวที่นั่งอยู่ในห้อง เสียงการ์ตูนดังแจ้ว ๆ น่าจะเป็นนีโม่ “ มีนาทำการบ้านเสร็จหรือยังลูก ” “ เสร็จแล้วพ่อ ขอดูหนังเดี๋ยวแล้วหนูจะไปรีดผ้า ” เสียงตอบชัดแจ๋ว น่าจะกำลังสนุก ผมยกโต๊ะรองรีดตัวเล็ก ๆมาวาง เสียบเตารีดไว้ ปรับไฟกลาง ๆ
18.30 น. เดี๋ยวนานแล้ว มีนายังไม่ออกมาจากห้อง เสียงหัวเราะสลับกับเสียงการ์ตูนดังมาไม่ขาด ผมพยายามหัดให้ลูกทำอะไรเอง
มันเป็นประสบการณ์ตรงที่เจอกับตัว ตอนเด็ก ๆ โดนใช้ทำอะไรไม่หยุด เบื่อแสนเบื่อ ไม่ได้ไปเล่นไหนกับเค้า บางอย่างใช้เวลามาก บางอย่างก็ยาก อย่างเช็ดกระจก ทำยังไงก็ไม่เอี่ยม เช็ดไปร้องไห้ไป กว่าจะได้กินข้าวแทบจะหมดแรง
พอโตมาเจออะไรก็ง่ายหมด เจอของยากมาแล้วนี่ เดี๋ยวนี้เห็นงานไม่เคยกลัว แต่ตอนสอนลูกนี่ก็ต้องทำใจนะ “ วันนี้ผ้าเยอะนะลูก ” ลองกระตุ้นดูหน่อย ปล่อยให้ออกมาเองไม่แน่ใจ “ จ้าพ่อ พ่อช่วยหนูมั่งสิ ” เสียงแจ๋ว ๆ แต่ยังไม่เห็นตัว “ได้ ตัวเดียวนะ ” เตารีดเริ่มร้อนแล้ว วางทิ้งไว้เฉย ๆ มันก็ยังไงอยู่ “ สองตัวสิพ่อ..นะ..นะ ” นั่นไง คิดว่าจะช่วยสักตัวนึง “ ก็ได้ ” เอ้า เพิ่มอีกตัวเดียวจะเป็นไรไป
19.00 น. “ มีนาพ่อรีดเสร็จสองตัวแล้ว ” ผมบอกลูกหลังจาก รีดเสื้อนักเรียน กับกระโปรงไปอย่างละตัว กระโปรงนักเรียนนี่จีบรอบตัวเลย กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาพอควร รีดทางนี้ ทางนั้นยับ รีดทางนั้น ทางนี้มีรอยอีกแล้ว “ จ้าพ่อ....อีกแป๊บนึง ” “ แป๊บแค่ไหนลูก ” “ น่า..พ่อ..น่า ”
19.10 น. นั่งฟังเสียงลูกสาวหัวเราะ คิกคัก ๆ ก็เพลินดี แกไม่ค่อยได้ไปไหนกะเค้า ทำงานทุกวันนี้ก็ได้แค่พอดีใช้ไปวันนึง มีติดกระเป๋าอยู่มั่งเต็มที่ก็ร้อยกว่าบาท ถ้าหยุดงานวันนึงก็คงหมด เลยต้องไปทุกวัน เสาร์อาทิตย์โรงเรียนหยุดก็พามีนาไปด้วย วิ่งเล่นเดินเล่นอยู่แถวนั้นแหละ
เลิกงานมาถ้าตรงกับตลาดนัด ก็พามีนาไปเดินดูนู่นดูนี่ ก่อนเข้าบ้าน ก็เพลินดีนะแก้เหงาไปได้หน่อย รีบเข้าบ้านไปเลยก็มีแต่การ์ตูนเรื่องเดิม และลูกสาวก็ไม่เคยรบเร้าจะเอาอะไร นอกจากนาน ๆ ทีกิ๊บติดผมสักอันมองอัน หรือไม่ก็ยางมัดผม
แต่หนังสือลดราคา กับซีดีมือสอง นี่ถ้าเจอถูกใจปุ๊บ คว้าปั๊บไม่พลาด อยากจะหาอะไรให้แกอย่างคนอื่นเหมือนกันนะ แต่ตอนนี้รายได้มีเท่านี้ก็ต้องทำใจ อดทนกันไปก่อน มองดูเตารีดกำลังร้อนอยู่ รีดต่ออีกนิดก็ได้ อีกอย่างนึง เสียบไปนาน ๆ ก็เปลืองไฟด้วย
20.00น . เรียบร้อยแล้วมีแต่ชุดนักเรียนลูกทั้งนั้นแหละ ยากตรงกระโปรงอย่างเดียวเสื้อก็ง่าย ๆ รีดแล้วก็แขวนไว้บนราวแบบสำเร็จ ของผมไม่ต้องรีดเพราะทำงานตัวมอมแมม และก็มีเสื้อแค่สองสามตัว กางเกงสองตัว เลิกงานมาซักสลัด ๆ ตากไว้ เวลาจะใส่ก็สลัดอีกทีใส่ได้เลย
ไม่ต้องไปอะไรมาก เย็นมาก็เลอะเทอะอยู่ดี “ มีนาพ่อรีดผ้าเสร็จแล้วนะ จัดตารางสอนเร็วลูก ” เข้าไปในห้องกองหนังสืออยู่ข้างที่นอนด้านถัดไปจากโต๊ะคอม การ์ตูนกำลังสนุก “ พ่อช่วยหนูด้วยนะ ” มีนานอนยาวกลิ้งไปบนที่นอนสามรอบก็ถึงกองหนังสือ
“ ก็ได้ ๆ สองทุ่มแล้วยังไม่ได้กินข้าวกันเลย ” “ จ้าพ่อ มาเร็วพ่อเร็วมาช่วยหนู ” แล้วลูกสาวก็นอนกางตารางสอน อ่านทีละวิชา พ่อก็ช่วยมองหาหนังสือเรียน พอเจอก็เอามากองไว้ข้างกระเป๋า
20.10 น “ มีนาไปอาบน้ำได้แล้ว ” “ พ่อไปอยู่เป็นเพื่อนหนูหน้าห้องน้ำด้วยสิ ” ป่าบอนข้างบ้านมืดตื๋อ เสียงเขียด เสียงจิ้งหรีด ร้องแข่งกัน จะว่าน่าสนุกก็ได้ จะว่าวังเวงน่ากลัวก็ได้อีกนั่นแหละ “ ได้..ได้ ” ผมก็ต้องไปอยู่ใกล้ห้องน้ำ ลูกสาวก็จะชวนคุยไปเรื่อย ๆ ให้รู้ว่าผมไม่ได้ไปไหน จนกว่าจะออกมานั่นแหละ
20.30 น “ มากินข้าวกันลูก ” ตักข้าวสองจาน น้ำปลาขวดละแปดบาท หยดไปบนข้าวจานละหน่อยแกงปลาเทใส่ถ้วย วางไว้ข้าง ๆ ลูกสาววิ่งปรู๊ดออกมาจากห้องเสียงการ์ตูนยังดังอยู่เป็นเพื่อน “ พ่อกินพร้อมหนูนะ ” “ มาเลย “ “ พ่อนั่งใกล้ ๆ หนูด้วย ”
นั่งกับพื้นนั่นแหละโต๊ะเก้าอี้อะไรไม่มีหรอก “ เอาสิ ” นั่งกินข้าวไปคุยกันไป มีนากินกับไม่เปลือง ถุงเดียวสองคนสบาย ๆ บางอย่างก็เหลือซะอีกด้วย มองลูกแล้วก็คิด สักคำ แกไม่เคยจะขออะไรเลยตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา
20.40 น. ( กินข้าวเสร็จแล้ว ) “ มีนาเอาจานไปล้างสิลูก ” บอกลูกไว้ หัดทำอะไรเอง ถูบ้าน ซักเสื้อผ้า ล้างจาน ทำให้เป็นนิสัยไปอยู่ที่ไหนได้ไม่ลำบาก ลูกสาวลุกยืน เดินไปเข้าห้อง “ พ่อล้างของพ่อไปก่อนนะหนูขอวาดรูปเดี๋ยว ” (เดี๋ยวอีกแล้ว)
20.45 น. นั่งรออยู่พักนึง ยุงเริ่มกวนแล้ว ลูกสาวก็ยังไม่ออกมายังไงน้ำยาล้างจานก็ผสมใส่กะละมังไว้แล้ว ล้างให้หมดเลยก็แล้วกัน
21.00 น. “ มีนามานอนได้แล้วลูก ” “ จ้ะพ่อหนูขอเล่นเกมด่านนึงนะ ” “ เอาสิด่านเดียวนะดึกแล้ว ”
22.00 น. “ มีนานอนได้แล้ว ” ผมง่วงจนตาจะลืมไม่ขึ้น ได้แต่นอนหลับตาฟังเสียงลูกหัวเราะอยู่หน้าคอม“ จ้ะพ่อแป๊บเดียว”
.....มีนา.......จ้ะพ่อ........ ( เรียกกี่ครั้งก็มีคำขานหวาน ๆ ตอบมาตลอดจนเราหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ )
ครับ ลูกสาวผมไม่เคยขัดใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว และทุก ๆวันก็เป็นแบบนี้ สนุกดีครับพอถึงเวลานอนก็หมดแรงพอดี ราตรีสวัสดิ์ครับ ผมทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด ยังดีนะ ที่มีลูกสาวคอยช่วยงานบ้านอีกแรง ไม่งั้นแย่แน่ ๆ เลย (จริง ๆ นะ)
ลุงแผน
๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
.....ขออภัยทุกท่านนะครับ เรื่องนี้ขยายขึ้นมานิดนึง แต่เนื้อหายังคงเดิม ที่บันทึกไว้ แค่สรุปเรื่องราวตามเวลาที่พอมี เลยสั้นไปหน่อย ขอบพระคุณทุกท่าน ที่ติดตามให้กำลังใจมาตลอดนะครับ ขอบคุณครับ..........