สวัสดีกันอีกครั้งนะครับ ... วันนี้ผมจะมาพาไปชิมร้าน Shabu Tower กันอีกสักรอบด้วยความติดอกติดใจรอบก่อนที่มากินชาบู แล้วเนื้อร้านนี้คือดีมาก ๆ และช่วงนี้ทางร้านได้เพิ่มไลน์ในส่วนของปิ้งย่าง ทาสบุฟเฟต์ ที่เป็นทั้งสายเนื้อ และสายปิ้งย่าง มีหรือที่จะพลาด และเช่นเดิมครับคุณภาพยังคงอัดแน่นเต็มเปี่ยม เพิ่มเติมคือเนื้อเยอะขึ้นไปอีกแค่ชิมอย่างละถาดก็แทบกลิ้งกลับบ้านแล้ว ทั้งเนื้อโคขุนไทยสายพันธ์ออสเตรเลีย เนื้อญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ยูเอส อาร์เจนติน่า โอ้ย .... เพียบ จะเรียกว่าเป็นแหล่งประชันเนื้อระดับนานาชาติก็ไม่ผิดเลย  มาดูกันครับเนื้อตัวไหนจะเด็ดที่สุด



รถยนส่วนตัว : เริ่มต้นที่การเดินทาง ร้านตั้งอยู่ที่พหสโยธิน ซอย 9 (เข้าซอยมาประมาณ 50 เมตร) หน้าปากซอยมีตึกชินวัตร 2  พหสโยธิน ซอย 9

รถไฟฟ้า BTS : สถานีอารีย์ ทางออก หมายเลข 3



สำหรับราคาปิ้งย่างของร้าน Shabu Tower จะราคาเดียวกับชาบูเลย ก็คือ (ไม่รวมเครื่องดื่ม)
1. 389++ บาท จะมีจำพวกเนื้อหมู ไก่ และผัก
2. 489++ บาท ราคานี้จะเริ่มมีเนื้อโคขุน ทั้งน่องลาย ริบอาย สามชั้น อาหารทะเลอย่าง หอยและกุ้ง
3. 689 ++ บาท มีครบทุกสิ่งอย่าง + ซูชิ  
ทางร้านจะมีทั้งแบบบุฟเฟต์และอะลาคาร์ท ซึ่งถ้าเลือกคอร์ส 389 ++ หรือ 489 ++ แล้วอยากกินบางเมนูของคอร์สที่แพงกว่าก็สามารถสั่งมาเพิ่มได้

เมนู 389 ++ บาท

เมนู 489 ++ บาท

เมนู 689 ++ บาท

เมนูซูชิสำหรับ ราคา 689 ++ บาท
และไอศครีมสำหรับทุกคอร์ส

เวลาความอร่อย :
วันอังคาร - วันศุกร์
11.00 - 14.30 น. และ 16.30 - 22.00 น.
วันเสาร์ - อาทิตย์
11.00 -  22.00 น.



ภายในร้านตกแต่งด้วยงานไม้ ดูอบอุ่น ปลอดโปร่ง  สะอาด สะอ้าน  และกระจก เหมาะกับสังสรรค์กับเพื่อนฝูง และบรรยากาศน่าเจริญอาหารดีนัก




   ตามหัวกระทู้เลยครับ ไฮไลท์หมัดเด็ดของร้าน Shabu Tower แห่งนี้คือเนื้อจริง ๆ คุณวีเจ้าของร้านทำการศึกษามาเป็นอย่างดีว่าต้องใช้ส่วนไหนมาทำ และกับการนำมาใช้ปิ้งอย่าง เพราะเนื้อบางประเภทนี่มันละเอียด ก็ไม่ได้เหมาะกับการปิ้งนักเพราะความร้อนของเตาจะละลายไขมันของเนื้อจนหมด อันนี้คุณวีเล่าให้ฟังว่ากว่าจะมาเป็นเมนูเนื้อแต่ละอย่างนั้นลองย่าง ลองปิ้งกันมานานแล้ว จนได้เนื้อส่วนที่ดีที่สุดเอามาเสริ์ฟให้แก่ลูกสายเนื้อของทางร้าน ผมเองก็ได้ความรู้ใหม่เยอะเลย นี่แหละครับการทำที่เกิดจากความใจรัก ความใส่ใจในการทำ อาหารมันจะมีออร่าของมันเองที่ไม่เหมือนใคร

ตัวแรก เนื่อ นิวซีแลนด์ (NZ Beef) เป็นเนื้อที่ถูกจริตผมมากที่สุด ทั้งความมันแทรกและความนุ่มละลาย สุดยอดจริง ๆ



น้ำจิ้มไม่พูดถึงไม่ได้หลาย ๆ คนคงเคยลองแล้ว แต่ผมเป็นครั้งแรก คุณวี ยก Super Egg มาให้ชิมบอกว่าเป็นไข่ไก่ที่มีไข่แดงใหญ่มาก ๆ เหมาะแก่การจิ้มเนื้อ ผมเองทีแรกก็กล้า ๆ กลัว คิดว่ามันไม่น่าจะเข้ากันได้ ถ้าเป็น สุกี้ยากี้ ก็ว่าไปอย่าง ปรากฎว่ามันดีเว่อมาก จุ่มไข่ แล้วโรยเกลือฮิมาลายัน และพริกไทยดำนิดอร่อยมากที่สุดชูรสเนื้อออกมาดีมาก เกลือฮิมาลายัน (ชมพู) จะออกรสหวาน ถ้าไม่ชอบหวานให้โรยเกลือเมดิเตอเรเนียน จะออกรสเค็ม ต้องลองครับ ตอนนี้ผมคงหันหลังให้กับน้ำจิ้มยากินิขุแล้วแน่ ๆ 5555


ถ้าไม่ถนัดน้ำจิ้มยากินิขุก็อร่อยครับ

มาถึงเรื่องเนื้อกันต่อ ตัวต่อมา U.S. Marble นุ่มเหมือนกันแต่ได้ฟีลเคี้ยวนิดนึง

เนื้อวากิวญี่ปุ่น ใช้ส่วนท้องมันแทรกเยอะทีเดียว นุ่มละลายมาก พอ ๆ กับ เนื้อนิวซีแลนด์เลย วัดกันสูสี

เนื้อออสเตรเลีย ตัวนี้ดีผิดคาดดูมันน้อยแต่เนื้อนุ่มมาก

เนื้อวากิวออสเตรเลีย ตัวนี้เป็นเนื้อสายพันธ์ญี่ปุ่นที่นำมาเลี้ยงในออสเตรเลีย นุ่มเคี้ยวขาดง่ายอีกแล้ว

เนื้อคารูบิ เป็นเนื้อใต้ซี่โครง

โคขุนใบพาย และโคขุนน่องลาย เป็นสายพันธ์ออสเตรเลียที่ถูกเลี้ยงในไทย ความนุ่มสู้เนื้อนอกได้สบายเลย

เนื้ออาร์เจนติน่า

เนื้อ U.S. ลูกเต๋า & เนื้อนิวซีแลนด์พิเศษ

เตาร้อน และกว้างดีมาก ปิ้งได้เยอะไม่ต้องแย่งที่กัน

ถ่านที่ทางร้านใช้คุณภาพดีมาก ๆ ครับ ร้อนแรงและกระกระจายทั่วทุกพื้นที่จริง ๆ


คนที่ไม่ทานเนื้อก็ไม่ต้องงอลไป ถ้าแฟนหรือเพื่อนอยากกินเนื้อเราก็สามารถมาสนุกกับเนื้อหมูคุโรโบตะ หรืออาหารทะเลได้เช่นกัน มาดูเมนูบางส่วนกันครับ

หมูสันคอ

หมูสามชั้นโรสแมรี่


คูโรบูตะสามชั้น

สามชั้นหม่าล่า ผมชอบมากหม่าล่าเผ็ดกำลังดี ไม่ออกหวานตัดเลี่ยนดีเลย

หมูย่างชีส

เบคอน


อาหารทะเลที่ร้านเสริมทัพจัดเต็มเพิ่มกว่าเดิมอีก ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก มากมายก่ายกอง เริ่มที่กุ้งแม่น้ำมาสด ๆ เลยแนื้อแน่น

กุ้งหมักน้ำมันมะกอก กับหอยแมลงภู่ออสเตรเลีย

ปลาไข่ กับปลาดอร์รี่

ปลาแซลมอน กับ ไข่ปลาหมึก สดอร่อยทั้งคู่เลย

หอยหวานกับหมึกทาโกะ

หอยเชลล์ นี่ปรบมือให้เลยสดอร่อยมาก เอาชีสโรยหน่อยดีงามมาก

ปลาซาบะย่างเทริยากิ กับ มะเขือม่วงญี่ปุ่น


นอกจากไฮไลท์ที่เล่าไปข้างต้นยังมีของกินเล่นและผักประมาณนี้