[CR] รีวิวบุฟเฟ่ต์อาหารจีนร้าน Wang Jia Sha @ Siam Paragon เพียง 799.- ยัดได้ยัดเข้าไปจนกว่าจะกลิ้ง !

กระทู้รีวิว

อาหารจีน อาหาร ร้านอาหาร อาหารบุฟเฟ่ต์ อาหารคาว

กินธรรมดาได้ไม่กิน กระเพาะร้องแต่จะกินบุฟเฟ่ต์ กี่ครั้งแล้วที่ตามใจปากแต่ก็ไม่รู้จักเข็ด เพราะว่า Hungry Hub จัดความคุ้มให้ตลอด โดยเปลี่ยนร้านอาหารสุดหรูให้กลายเป็นบุฟเฟ่ต์ชั้นเยี่ยม มีของดีให้กินราคาไม่แพง ใครจะไปอดใจไหว ยิ่งดูรีวิวของคนอื่นที่ทานในแอป Hungry Hub ให้คะแนนร้าน Wang Jia Sha @ Siam Paragon เรียกได้ว่าสูงมากคนน่าตกใจ ไม่เชื่อไปอ่านที่ https://bit.ly/2NGadhN วันนี้จะมาพิสูจน์กัน ว่าจะดีอย่างที่เขาว่ากันไหม

ร้านตั้งอยู่ชั้น G ศูนย์การค้า สยามพารากอน ประวัติของร้านเรียกว่าไม่ธรรมดา เป็นร้านอาหารจีนที่เก่าแก่เปิดดำเนินกิจการนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2488 โดยที่คนรีวิวคนก่อนบอกว่า อาหารที่ร้านแต่ละจานไม่ต่ำกว่า 200 กินสัก 2-3 อย่างก็คุ้มแล้ว เดินมาถึงหน้าร้านแล้ว เอาจริงๆป้ายหน้าร้านเล็กมาก ต้องเพ่งเลยแหละว่าใช่ร้านนี้ไหม อยู่ด้านในสุดของห้างฝั่งร้านอาหาร บรรยากาศในร้านไม่จีนเลย เรียกว่าเป็นแบบผสมผสาน เอาสไตล์ Modern มาใช้กับเครื่องจานชามแบบไทย ในร้านอาหารจีน อ้าว งงในงง ช่างมันเถอะ ที่สำคัญคือรสชาติต่างหาก ความคาดหวังสูงมากสำหรับร้านนี้ เพราะอดอาหารเพื่อมากินทีเดียวที่นี่โดยเฉพาะเลยนะ

อีกอย่างที่น่าแปลกใจ คือร้านนี้ไม่ใช้เมนูของทาง Hungry Hub แต่ให้ติ๊กจำนวนที่ต้องการทาน ลงในกระดาษรับออเดอร์ แล้วยื่นให้พนักงานได้เลย ราคา 799.- Net. รวมของหวานและเครื่องดื่มแล้วจ้า

จานแรก ไก่แช่เหล้า มาในขนาดกระจุ๋มกระจิ๋มตอนแรกนึกว่าขนาดบุฟเฟ่ต์ เลยลองเปิดดูในเล่มเมนูร้านดู ขนาดจริงที่ใช้เสิร์ฟนี่หว่า เล็กแค่นี้นะ 294 บาท แม่จ้าว ! ตอนแรกนึกว่าจะกระจอก แค่คีบไก่ก็รู้สึกได้เลยว่า สัมผัสโคตรแน่น เนื้อเต็มเด้งในปากเคี้ยวสู้ฟันสุดๆ ทานกับซอสน้ำมันพริกรสเผ็ดหวานโคตรอร่อย เหล้าที่แช่มากลิ่นค่อนข้างรุนแรง เป็นเหล้าผสมซุปต้มไก่ ด้านล่างเป็นเห็ดหูหนู ดาเมจแอลกอฮอลล์ รุนแรงเกินไป ถ้าคนกินเหล้าอาจจะกินจานนี้แล้วตาเยิ้มได้เลยทีเดียว แต่ผมสู้ไม่ไหว กินแต่ไก่แล้วต่อจานถัดไปเลยแล้วกัน

จานนี้คือขาหมูเย็น ราคาเต็ม 259 บาท เป็นขาหมูที่ถูกแบ่งเป็นชั้น ชั้นล่างสุดคือหนังหมูแข็งที่ต้มจนไม่มีความเหนียวเลย ตรงกลางเป็นเนื้อขาหมูที่ถูกอัดจนแน่น ด้านบนสุดเป็นซุปจากการต้มขาหมู เอาไปใส่พิมพ์แล้วหั่นแบ่งเสิร์ฟ สาวๆคนไหน อยากเป็นสาวพันปี ต้องจานนี้เลย เนื้อแน่น รสชาติเข้มข้น ได้คอลลาเจนเต็มๆ ทานกับน้ำมันพริกรสหวานเผ็ด ตัดเลี่ยนด้วยขิงฝอย โคตรเด็ดอีกแล้ว

อีกเมนูที่คนไทยจะขาดไปไม่ได้สำหรับการเข้าร้านอาหารจีน นั่นคือเป็ดย่าง แต่ร้านนี้เขาใช้ชื่อเป็ดหมักซอสเซี่ยงไฮ้ 259 บาท อ้าวจุดคุ้มทุนแล้วนี่ ต่อไปนี้เรียกได้ว่าเป็นกำไรล้วนๆ รสชาติจานนี้ค่อนข้างจืด แต่ตัวซอสมีความหอม เนื้อเป็ดแน่นสู้ฟันสุดๆ กล้าการันตีเลยว่าเป็ดเจ้าไหนก็สู้ที่นี่ไม่ได้ในเรื่องความเด้งสู้ฟัน เป็นอีกจานที่รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ทาน แบบนี้ค่อยสนุกขึ้นมาหน่อย จานต่อไปมาเลยเพ่.....

ชื่อเมนูโคตรจะธรรมดาอย่างหมูสามชั้นพันแตงกวา ตอนแรกก็คิดว่าเป็นแค่หมูสามชั้นพันธุ์แตงกวาโง่ๆที่ไหนได้เป็นหมู่ 3 ชั้นพันกับแตงกวาดองและผักอื่นๆโรยหน้าด้วยซอส XO สูตรของทางร้าน รสเผ็ด หอมกลิ่นเครื่องทะเลแห้งเข้มข้น โคตรอร่อย เป็นอีกจานนึงที่แนะนำเลยว่าต้องสั่ง (212 บาท)

เมนูต่อไปคือเสี่ยวหลงเปา 1 เข่งราคาเต็ม 188 บาทมี 5 ลูกเล็กๆอยู่ด้านในมาแบบร้อนๆ ตอนแรกนึกว่าจะทานยากลิ้นพอง แต่กลับเป็นว่าไส้ไม่ได้ร้อนจนลิ้นพองขนาดนั้นรสชาติของไส้คล้ายๆกับหมูในโจ๊ก ส่วนตัวน้ำซุปเป็นสีทองรสชาติเข้มข้นแป้งด้านนอกมีความบางเหนียวหนึบให้สัมผัสที่ลื่นคอทานง่ายยิ่งกินกับขิงดองยิ่งเข้ากันเป็นอีกจานที่แนะนำว่ามาต้องสั่ง ให้ทาน 10 เข่งก็ยังไหวอ่ะ บอกเลย

ซาลาเปาไส้คัสตาร์ดลาวาลูกสีส้มอย่างใหญ่ มองตอนแรกก็นึกว่าซาลาเปาไส้ส้มที่ไหนได้เป็นไส้ไข่แดงเค็มลาวารสชาติหวานเค็มกลมกล่อมอัดไส้มาเต็มที่ฉีกทีไส้ไหลสะใจ ราคาของเข่งนี้ สามลูก 121 บาท

อยู่ดีๆก็ชูคอมาแต่ไกลนึกว่าอะไรที่แท้ก็คือเผือกทอดหงส์ทองคำ ที่มีขนมปังบิสกิตรูปคอหงส์ติดมากับเผือกทอด เรียกได้ว่าหน้าตาก็กินขาดแล้วส่วนรสชาตินั้นถ้าใครคุ้นเคยกับเผือกทอดของ MK ที่มีไส้หมูสับผัดรสเข้มข้นอยู่ตรงกลาง ร้านนี้เรียกได้ว่าแตกต่างสิ้นเชิง เป็นผักผัดกับน้ำซุปรสชาติเข้มข้นมีความหนืดห่อด้วยเผือกแบบเต็มๆ ด้านนอกแป้งบางกรอบละลายในปากเรียกได้ว่าเป็นความอร่อยในอีกรูปแบบหนึ่งสงวนราคาอยู่ที่จานละ 177 บาท

จานต่อมาเป็นเกี๊ยวเซี่ยงไฮ้ในซุปเสฉวนมันคือเกี๊ยวหมูราดด้วยซอสรสเผ็ดมีความหอมซีอิ๊ว อมหวานนิดๆสไตล์เสฉวนทานได้เรื่อยๆนุ่มลื่นละลายเข้าไปในปากราคาอยู่ที่จานละ 247 บาทส่วนปริมาณนั้นเรียกได้ว่าไม่น้อยเลย

จานต่อไปน่ารักมาก ! เรียกได้ว่าเป็นจานเด็ดที่นอกจากจะสวยงามแล้วยังรสชาติดีอีกต่างหาก เมนูชื่อว่าฮะเก๋าปลาทอง เป็นฮะเก๋านึ่งไส้กุ้ง ตกแต่งมาในรูปแบบของปลาทองตัวเล็กๆและปิดด้วยแผ่นทองคำเปลว ราดด้วยน้ำซุปใสแต่รสชาตินั้นเข้มข้นสุดๆ ได้ความสวยงามและความอร่อยไปพร้อมกันราคาจานนี้141บาท

ขนมจีบกุ้งดูจากหน้าตาแล้วก็เหมือนร้านทั่วไปธรรมดาไม่มีอะไร แต่ว่าสัมผัสของหมูและกุ้งภายในนั้นเรียกได้ว่าแน่นสู้ฟันเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของร้านนี้เลยทีเดียวจะไม่ได้สัมผัสเด้งนิ่มหรือว่ากุ้งกรุบกรอบแตกต่างสุดๆเมื่อเทียบกับร้านอื่นๆ ราคาเข่งนี้ 141 บาท

จานต่อมาเป็นไก่ราดซอสหม่าหลาด ราคา 294 บาท รสชาติไม่ค่อยเผ็ดแม้สีสันจะดูน่ากลัวเล็กน้อย กลิ่นและรสชาติของซอสที่ราดคล้ายกับพริกหมาล่าแต่ความเผ็ดและลิ้นชานั้นไม่มีทานง่ายเนื้อไก่แน่นซอสหวานเผ็ดอ่อนๆอร่อยกำลังดี

ใครชอบแกงจืดหมูใส่สาหร่ายน่าจะคุ้นเคยกับรสชาติของชามนี้นั่นก็คือเกี๊ยวน้ำหมูสาหร่ายที่ตัวแป้งเกี๊ยวนั้นบางนุ่มลื่น ไส้หมูด้านในเด้ง แต่ตัวน้ำซุปสาหร่ายที่ให้มานั้นไม่ต่างจากต้มจืดทำเองที่บ้านเลยราคาถ้วยนี้อยู่ที่ 188 บาท รีบกินแต่เกี๊ยวแล้วข้ามไปจานต่อไป

ใครชอบกับข้าวรสเข้มข้น 1 จานแล้วทานกับข้าวสวยแล้วจบ ขอแนะนำปลาทอดเซี่ยงไฮ้ รสชาติหวานเปรี้ยวเคลือบซอสมาแบบเข้มข้นเรียกได้ว่า มันคือปลาทอดซอสเปรี้ยวหวานที่คุ้นเคย ราคาจานละ 247 บาท ให้ปลามาชิ้นใหญ่หลายชิ้นเลย

ปอเปี๊ยะทอดกรอบทานกับน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยรสชาติไม่ได้เรียกว่าหวือหวามาก เป็นไส้ผักกับวุ้นเส้นธรรมดาราคาจานนี้อยู่ที่ 141 บาท เมื่อเทียบราคาและรสชาติแล้ว แนะนำว่าจานนี้อย่าสั่งจะดีกว่านะ

มีงานเข้าแล้ว ! เมื่อจานต่อไปยกออกมานี่แบบมองหน้ากันสองคนว่าจะกินหมดไหม ? เป็นบะหมี่ ต่าม ต่าม กับพอร์คชอปทอด ตอนแรกคิดว่าจะเป็นบะหมี่ถ้วยเล็กๆไม่เยอะ มากที่ไหนได้มาชามใหญ่เส้นเยอะหมูทอดชิ้นเบ้อเริ่มแต่ถามว่ากินหมดไหม จะเหลือเรอะ ส่วนรสชาตินั้นเริ่มจากพอร์คชอปอร่อยมากแป้งบางกรอบด้านในเนื้อชุ่มฉ่ำแทรกมัน ส่วนบะหมี่นั้นเส้นเหนียวนุ่มสัมผัสเดียวกับเส้นหมี่ซั่ว รสชาติน้ำซุปเหมือนมีการผสมถั่วมีหวานหนืดนิดๆให้ความหอม รสหวานเผ็ดเล็กน้อยคล้ายกับทันทันเมงของญี่ปุ่น ชุดนี้ 512 บาท สั่งชุดเดียว+ของหวานก็คุ้มแล้ว

ซุปเสฉวน ตอนแรกก็นึกภาพไม่ออกว่าจะเป็นยังไงพอยกมาที่โต๊ะ ดูหน้าตามันเหมือนกระเพาะปลาแต่มีจุดเด่นคือมีกุ้งที่กรอบแน่นใส่แทนกระเพาะปลา ส่วนรสชาตินั้นคล้ายกับซุปกระเพาะปลาที่ใส่จิ๊กโฉ่วเยอะๆ รสเปรี้ยวฉุนเผ็ดเล็กน้อย ปกติเป็นคนชอบจิ๊กโฉ่วอยู่แล้วจานนี้ผ่านสำหรับเรา กินแล้วมันจี๊ดดี เหมือนคนโรคจิตหน่อยๆเนอะ ชามนี้ 150 บาท

จานต่อมาเป็นเกี๊ยวซ่าไส้หมูซึ่งจะลองสั่งมาทานเทียบกับของญี่ปุ่นว่าจะแตกต่างกันอย่างไร ดูหน้าตาเหมือนร้านอื่นทั่วไปแต่มีความพิเศษคือด้านในมีน้ำซุปรสชาติอ่อนๆอยู่ตรงกลางทำให้คล่องคอทานได้ง่าย ทานกับซอสซีอิ๊วรสชาติคล้ายกับซอยขนมกุยช่าย รสชาติต่างจากเกี๊ยวซ่าแบบญี่ปุ่นอย่างสิ้นเชิง จานนี้ 177 บาท

อาหารคาวจานสุดท้ายจานที่ 18 ก่อนหน้านี้มีเบิ้ลไปบางเมนูแล้วนะ ผัดหมี่เซี่ยงไฮ้ + พอร์คชอปเป็นอีกจานที่สาหัสอีกแล้ว แต่ต้องทานให้หมด เป็นเส้นหมี่เหลืองคล้ายหมี่ฮกเกี้ยนภาคใต้บ้านเรา แต่รสชาติเข้มข้นหวานเค็ม กลมกล่อม หอมกลิ่นกระทะผัด ทานกับพอร์คชอปทอดเนื้อแทรกมันชิ้นใหญ่ไม่ต่างจากเมื่อกี้ อร่อยนะไม่ไหวแล้วอ่ะ ไปของหวานเลยแล้วกัน กระเพาะแรกเต็มแล้ว เปิดประตูกระเพาะที่ 2 ได้ !

ส่วนของหวานที่นี่ดูเหมือนจะเป็นเมนูธรรมดาอย่างบัวลอยน้ำขิงสอดไส้งาดำ แต่มีความพิเศษคือแป้งเหนียวนุ่มบาง สอดไส้งาดำผัดกับน้ำตาลปริมาณกำลังดี ส่วนน้ำขิงนั้นใช้ขิงอ่อนในการต้มทำให้มีกลิ่นอ่อนๆรสหวานบางๆ ทานได้ไม่มีเบื่อกิน ฟาดไปหลายชามอยู่เหมือนกันราคาชาม 1 อยู่ที่ 141 บาท

ต่อมาเป็นของหวานที่ชื่อก็แปลกแล้วอย่างข้าวแช่บัวลอยดอกกุ้ยฮวา บอกตามตรงว่าไม่เคยได้ยินมาก่อน ส่วนหน้าตาของมันก็คือซุปร้อนๆที่ใส่บัวลอยพร้อมข้าวสวยหน้าตาสวยงาม มีกลิ่นหอมของดอกไม้ สัมผัสของซุปนั้นมีความข้นเหนียวเล็กน้อย รสชาติหวานอ่อนๆ ให้สัมผัสหลายอย่างทั้งความนุ่มหนึบของตัวบัวลอยความลื่นไหลของตัวข้าวและความหอมขึ้นจมูกของกลิ่นดอกไม้กุ้ยฮวา เป็นอีกจานที่ไม่คิดว่าจะสั่งแต่พอสั่งแล้วก็ประทับใจมากๆ 1 ถ้วยอยู่ที่ 129 บาท

ขนมไข่หงส์ลาวาปกติไม่ชอบกินเลยเจ้าขนมตัวนี้ แต่ทางร้านแนะนำมาว่าห้ามพลาด เลยลองสั่งมาสักที่นึงปรากฏว่าอร่อยมากแป้งนุ่มไม่เหนียวแบบร้านอื่นๆ กัดทีไส้ทะลักเต็มปาก ไม่มีกลิ่นของน้ำมันเก่าเหม็นหืน เรียกได้ว่าเป็นอีกจานแนะนำที่อยากจะให้ลองกัน ราคาจานนี้ 141 บาท