[CR] เล่าสู่กันฟัง ไปเที่ยว Jaipur ด้วยสายการบิน Thai Smile แล้วอยากจะร้องไห้แทนแอร์ฯ จริงๆ

อันนี้ขอแชร์แบบเล่าสู่กันฟังนะคะ ยาวนิดนึงค่ะ ...

เมื่อวันที่ 7-11/09/2018 ที่ผ่านมา จขกท. ก็มีนัดกับเพื่อนๆ ในก๊วนกันเองไปเที่ยวชัยปุระ หรือ ไจเปอร์ ไจปูย์ คือ ที่นี่ชื่อเรียกเยอะมาก การไปอินเดียครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับพวกเราหรอกค่ะ แต่เป็นครั้งแรกที่ใช้สายการบินของไทย คือ Thai Smile รอยยิ้มคู่ฟ้าของเรา เนื่องจากกดได้ตั๋วช่วงโปรพอดี

ขาไป เป็นวันที่ 7/9/2018 Flight 4 ทุ่ม เนื่องจากระบบของ Thai Smile คือเราไม่สามารถเช็คอินออนไลน์ได้แต่เลือกที่นั่งได้ ก็เลยเลือกขาไปแบบช่วงหน้าๆ หน่อย ส่วนขากลับไม่ได้เลือกเพราะว่า ช่วงหน้าๆ ยังไม่เปิดให้เลือก ซึ่งโชคดีมาก ที่เข้าไปเลือกแถวหน้าๆ ไว้ก่อน

เช็คอินเรียบร้อยที่เค้าเตอร์ เตรียมขึ้นเครื่องก็ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งผู้โดยสารขึ้นเครื่องครบหมด ซึ่งเท่าที่กวาดสายตาดูแบบเร็วๆ แล้ว Flight นี้ ผู้โดยสารชาวไทยน้อยมากส่วนใหญ่เป็นคนอินเดีย และร้อยละเก้าสิบของคนอินเดีย เป็นผู้ชาย

ดราม่านี้เริ่มจาก หนุ่มๆ อินเดียเหล่านั้น พอขึ้นเครื่องได้ก็ไม่เข้าประจำที่ตัวเองค่ะ รวมกลุ่มยืนคนกันเดินไปเดินมาส่งเสียงดังลั่นห้องโดยสารเลย ขอแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้
1. กลุ่มจับจ้อง ... คือจะคอยมองหาแถวที่นั่งว่าง เพื่อที่จะใช้สำหรับการนอนเหยียดตัวแบบสบายๆ
2. กลุ่มรักเพื่อน ... กลุ่มนี้คือ แม้จะได้ที่นั่งใกล้กันแต่ไม่ได้ที่นั่งติดกัน จะต้องเดินมาเกาะเบาะเพื่อนเพื่อคุยกันแบบเสียงดังมาก เหมือนทั้งทริปไม่ได้เจอกัน เพิ่งมาเจอกันบนเครื่องนี่แหล่ะ และแน่นอน ยืนขวางทางมาก
3. กลุ่ม Social ... ทั้งภาพนิ่ง ทั้ง VDO ถ่ายตลอด ตอน VDO นี่มีแบบขอเสียงข้างหลังหน่อย เฮ่ เป็นที่สนุกสนานหูมาก และถ่ายกันแบบไม่แคร์ใครเลย ถ่ายมันตลอดถ่ายทุกอย่าง รวมไปถึง live สด ก่อนเครื่องขึ้นก็มี

น้องแอร์เอง ก็ได้พยายามจัดการแบบเต็มกำลัง ทั้งพูดเสียงหวานจ๋อย ยิ้มหวาน กว่าจะยอมสงบแบบยอมนั่งที่ตัวเองได้คือ ... น้องน่าจะเสียพลังไปแล้วประมาณ 40% และขอบอกเลยว่า น้องแอร์ Thai Smile Flihgt นี้หน้าตาน่ารักมากเลยค่ะ ... คือเป็นความพยายามดุแต่มันก็ยังดูน่ารัก ฮา...

เมื่อเครื่องเริ่มจะขึ้น ก็มีปัญหาจุกจิกอีกเล็กน้อยคือ ไม่ยอมใส่เข็มขัดนิรภัย ไม่ปิดมือถือ ฯลฯ และที่พีคคือ ตอนเครื่องจะขึ้น มีลุกขึ้นยืน แล้วทำท่าเหมือนจะเดินออกมาจากที่นั่งจ้า น้องแอร์ตะโกนกันระงมเลยให้ไปนั่งที่ แล้วรัดเข็มขัด

หลังเครื่องขึ้นแล้ว ... น้องแอร์ก็จะเริ่มเสิร์ฟเครื่องดื่ม และอาหารร้อน กลุ่มพ่อหนุ่มกลุ่ม VDO ก็เริ่มออกอาการคือ ขอวิสกี้จากน้องแอร์ ขณะที่น้องอยู่ด้านหน้าบริการผู้โดยสารท่านอื่นอยู่ โดยตะโกนข้ามมาจากด้านหลัง น้องก็บอกว่าให้รอก่อนค่ะยังไม่ถึงแถวของคุณนะ ก็ตะโกนอยู่นั่นแหล่ะ น้องก็จิตแข็งมาก พยายามบริการไปทีละแถวตามลำดับ จนกระทั่งถึงคนที่ร้องขอวิสกี้ น้องก็รินและยื่นให้ ปรากฏว่าพ่อหนุ่มคนนั้น ก็รับไปดื่มรวดเดียวหมดแล้วบอกว่า เอาอีก ... ไม่พอแค่นั้นยังใช้เท้าขัดไปที่ล้อของรถบริการเครื่องดื่ม ไม่ให้ไปต่อ จะเอาวิสกี้อีกให้ได้ ...

ณ จุดนี้ จะหาว่า จขกท. เป็นคนใฝ่รู้ก็ได้ (ใฝ่ที่จะรู้ในเรื่องของชาวบ้าน ฮาา) คือ เรามองและคอยดูเหตุการณ์อยู่ตลอด ไม่รู้จะอธิบายการกระทำของคนกลุ่มนี้ด้วยคำพูดแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับการกระทำแบบนี้ดี ... สำหรับน้องแอร์ เราสงสารจนอยากจะร้องไห้แทนน้องเลย แต่น้องๆ ก็ทนกันมาก ยังเห็นยิ้มกันอยู่ ยื้ออยู่ซักพักจนเพื่อนๆ ในกลุ่มเองเริ่มห้ามกันเอง น้องถึงหลุดไปได้ อารมณ์ประมาณว่าน้องเค้าฝึกมาแล้วก็เลยังยิ้มได้ แต่ จขกท. ไม่เคยฝึกสินะ ถึงรู้สึกว่ามันเกินไปมากจนอึดอัดแทน

มาถึงตอนเสิร์ฟอาหาร คือเมื่ออาหารมาเสิร์ฟแล้ว ตามปกติเราก็เริ่มรับประทาน ซักพักใหญ่ๆ น้องแอร์ก็จะเริ่มมาเก็บ ซึ่งพ่อหนุ่มกลุ่ม VDO เช่นเคย น่าจะรับประทานได้ช้า ก็เลยตกรอบการเก็บถาดอาหารไป ซึ่งปกติถ้ารับประทานเสร็จแล้วก็วางไว้ที่โต๊ะพับด้านหน้านั่นแหล่ะ เดี๋ยวน้องแอร์เค้าก็มาเก็บเอง ... แต่ปรากฏว่า เค้าไม่รอจ่ะ เอาถาดอาหารวางไว้ที่พื้นทางเดินเลย จากนั้นตัวเองก็เหยียดขา ด้วยขาที่ยาว ก็ถีบโดนถาดอาหารทำให้อะไรก็ตามที่อยู่ในถาดนั้น กระจายทั่วพื้นเลย ... แล้วเพื่อนๆ ของพ่อหนุ่มเค้า ก็เดินกันมาเตะ เดินกันไปเตะ แบบไม่แยแสว่าจะทำให้พื้นมันสกปรก หรือว่าจะทำให้การเก็บถาดอาหารอันนั้นมันยากขึ้นขนาดไหน

เรากับเพื่อนๆ ได้แต่นั่งมองน้องแอร์สองคน หนึ่งคนถือถุงพลาสติกมาใส่ขยะ และอีกคนใส่ถุงมือพลาสติก มานั่งเก็บเศษขยะ เศษอาหารที่กระจายอยู่ที่พื้นและทางเดิน

หดหู่มาก ...

มีซีนนึงคือเราไปเข้าห้องน้ำ เนื่องจากนั่งชั้น Eco ห้องน้ำก็เลยต้องเดินไปด้านหลัง ... ระหว่างทางเดินหนุ่มๆเค้า ก็ยังเดินกันไม่หยุด กดปุ่มเรียกแอร์ ส่งเสียงเรียกแอร์ขอวิสกี้ๆ จนน้องต้องบอกว่า หมดแล้วเอาเป็นอย่างอื่นทดแทนได้มั้ย ตอนนี้คือมีแต่น้ำ แต่ก็นั่นแหล่ะ ไม่ได้วิสกี้ ก็ วอเทอร์ๆๆๆ ... โอ้ เราช่างโชคดี ที่เลือกที่นั่งแถวหน้าๆ ไว้ เพราะข้างหลังมันสุดบรรยายมากจริงๆ นอกจากจะป่วนกันบริเวณห้องโดยสารแล้ว บางคนก็เดินพรวดๆ เข้าไปในห้องเก็บของ ที่น้องแอร์กำลังทำงานหรือเตรียมของอยู่ มีม่านกั้นก็จริงแต่ก็ไม่ได้ช่วยยังคงเดินพรวดเข้าไปเลย

บรรยากาศเริ่มจะดีขึ้นก็ตอนที่ พ่อหนุ่มทั้งหลายเค้าเริ่มหลับกัน และนั่นแหล่ะที่นั่งช่วงไหนที่ว่างสามที่นั่งติดก็ถูกจับจองนอนยาวเท้าชี้หน้า เป็นที่เรียบร้อย เต็มทุกพื้นที่ เมื่อเครื่องลงจอดถึงสนามบิน Jaipur คือ อยากจะลุกขึ้นยืนและปรบมือให้กับความอดทนขั้นสูงของน้องแอร์จริงๆ แต่ไม่ได้ทำนะ ฮาาา เขินๆ อยู่ ตอนลงทำได้แค่ยิ้มและยกมือไหว้ตอบน้องๆ เท่านั้นเอง

สำหรับขากลับคือ วันที่ 11/09/2018 Flight ตี 2 คือ ด้วยเหตุผลใดก็ไม่รู้ กลุ่มที่รับเช็คอินคือกราวน์ของสายการบินแอร์อินเดีย ได้จัดที่นั่งให้พวกเราแบบ ลึกสุดใจมากคือเอาเป็นว่า อยู่แบบหลังๆ เกือบหลังสุดเลยทีเดียว

พอขึ้นเครื่อง หัวหน้าแอร์ก็ทักทายและบอกว่า ที่นั่งด้านหน้ายังมีว่างนะคะ ยังไงผู้โดยสารสามารถนั่งตรงนี้ได้เลยค่ะ เพราะด้านหลังน่าจะค่อนข้างเสียงดัง และเหมือนหนังม้วนเดิม กลับมาฉายเลย วิสกี้ๆ กดปุ่มเรียก ตะโกนเรียก ขอนู่น ขอนี่ เดินให้วุ่นวาย และ สุดคลาสสิคคือ เอาขาขัดรถเข็นบริการเครื่องดื่มไว้ เพื่อขอวิสกี้ๆ

ส่วนตัว จขกท. และเพื่อนๆ ต้องขอขอบคุณในความเอื้อเฟื้อของน้องแอร์ให้พวกเราได้นั่งด้านหน้าๆ (ไม่ใช่หน้าด้านนะ อย่าอ่านกลับหลังนะคะ ฮาา) เสียงรบกวนจึงค่อนข้างน้อย ทำให้เราหลังรับประทานอาหารเสร็จก็หลับยาวถึงไทยเลยค่ะ

การเดินทางไปอินเดียครั้งนี้เทียบกับการเดินทางครั้งแรกด้วย Jet Airway ลง Delhi คือ ความวุ่นวายต่างกันมาก ถึงมากที่สุดเลยค่ะ ตอนนั้นก็ยังประทับใจอยู่เลยว่า คนอินเดียนี่ไม่เห็นเหมือนเขาเล่าว่าเลย ... พอมาเจอรอบนี้ด้วยตัวเอง อึ้งไปเลย อืมมม คนที่เป็นแบบนี้มีอยู่จริงๆ นะ เขาเล่าว่าก็ไม่ได้เป็นเรื่องเหลวไหลเสมอไป

สำหรับกระทู้นี้ไม่มีภาพประกอบนะคะ เนื่องจากเราปิดเครื่องตั้งแต่ขึ้นเครื่องแล้วค่ะ ทั้งไปและกลับเป็น เป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ ที่เรามักจะทำเวลาขึ้นเครื่อง ส่วนกล้องก็อยู่ลึกสุดใจเลยไม่ได้ถ่ายอะไรไว้ เพื่อนๆ คนไทยท่านไหน ที่ไป Flight เดียวกัน ก็สามารถแชร์กันได้นะคะ

ส่วนตัว จขกท. บินบ่อย ไม่ได้มีสายการบินในดวงใจอะไรหรือแม้แต่กับแอร์แทบไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ แต่ Flight นี้ทำให้รู้เลยว่า อาชีพแอร์นี่มันไม่ใช่แค่หน้าตาดีพูดภาษาอังกฤษได้ แล้วจะมาเป็นกันได้นะ ถ้าใจคุณใหญ่ไม่พอ

สุดท้ายสำหรับ จขกท. ไม่ขอเหมารวมนะคะ ว่าคนอินเดียเป็นแบบนี้ทุกคน แต่ขอเอ่ยถึงแค่กลุ่มคนที่ได้พบเจอและไปใฝ่รู้ในเรื่องของเค้ามาเล่าเท่านั้นเองค่ะ ฝากถึงเพื่อนๆ คนไทยที่จะไปเที่ยวด้วยว่าจองที่นั่งแถวหน้าๆ ไว้เลยนะคะ เสียงจะได้รบกวนน้อยลงหน่อย ^^"

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่