สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
สาเหตุที่ไปไหว้แม่ไม่ได้เลยได้แค่มาพิมพ์กระทู้แบบนี้นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พ่อแม่เราอยากแยกทางกันนะครับครับ
คือพ่อเรานะ เล่าง่ายๆ ปากเสีย ไม่ค่อยถนอมน้ำใจ แล้วก็ทนกันมาอยู่เกือบยี่สิบปีแล้วไง มันมาถึงวันที่แม่เรารู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้ว แม่เราอยากกลับไปอยู่กับยาย ซึ่งเราก็เห็นด้วยกับแม่ เรื่องพ่อกับแม่จะเลิกกัน ส่วนตัวเป็นลูกก็แอบใจหาย แต่เรามันพวกคิดนอกคอกอ่ะ แบบ เราเข้าใจว่าความรักทุกชนิดมันมีวันหมดอายุอ่ะ พ่อกับแม่เรารักกันจริงๆ และก็เลิกกันเพราะมันเรื้อรังมานานเกินไปแล้วสำหรับบาดแผลในชีวิตของคนๆหนึ่ง
ไม่มีใครควรถูกผูกมัด "ความไม่รัก" ด้วยเหตุผลอะไรทั้งนั้นแม้กระทั้งลูกก็ตาม พวกเขายังเป็นพ่อกับแม่เราเหมือนเดิม เพียงแค่ต่างคนต่างเลือกจะไปใช้ชีวิตในจุดที่มันสบายใจต่อกันและกัน อนาคตค่อยว่ากันอีกที ซึ่งเราว่ามันเวิร์กกว่าการบอกให้ทนอยู่กันไปเพื่อลูกหรือเห็นแก่เวลาที่ผ่านมา
ถ้าคนเราเห็นแก่เวลาที่ผ่านมา แล้วแน่ใจเหรอว่าจะไม่เสียดายเวลาในอนาคตที่จะเสียไป?
พูดกันแบบไม่ดราม่า เราไม่คิดว่าคนหมดรักกันแล้วจำเป็นจะต้องประคับประครองต่อกันเพื่อใครสักคน ลูกทุกคนในครอบครัวโตพอจะเข้าใจสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เราเองก็ต้องการรีบเรียนจบเพื่อให้แม่เราหมดห่วงและกลับไปอยู่กับยายได้อย่างสบายใจ และเราจะรับภาระในการเลี้ยงดูน้องเราต่อ เพราะติดเรื่องกองทุนกับการเตรียมตารางเรียนเนี้ยแหละครับ เลยไปไหนไม่ได้ ทำได้แค่โทร.ไปหาแล้วก็เล่าให้ฟังเฉย ๆ ว่าเรากำลังทำอะไร
ในฐานะลูกคนโตของบ้าน เราก็ทำได้แค่ปลดห่วงที่เขามีกับเราออก เราอยากให้เขาเป็นอิสระต่อกันและกัน เพราะแรกเริ่มเราก็ไม่ใช่เด็กที่อยากส่งเงินให้ที่บ้านทุกเดือนอยู่แล้วอ่ะ คือเราถูกเลี้ยงดูมาให้พึ่งพาตัวเองเป็นหลัก ดังนั้นสิ่งที่เราจะทำคือการสร้างหลักประกันชีวิตให้พ่อแม่ ว่าต่อให้สักวันหนึ่งเราตาย,หายไปจากชีวิตพวกเขา แต่พวกเขาจะอยู่กันต่อไปได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเรา มีชีวิตเป็นของตัวเองด้วยหลักประกันที่เราสร้างไว้ อาจจะเป็นกิจการเล็กๆหรืออะไรสักอย่างที่มากกว่าแค่ส่งเงินให่ใช้เป็นเดือนๆ เราเชื่อว่าแบบนั้นจะส่งผลดีต่อพ่อแม่เรามากกว่าแค่ส่งเงินเปล่าๆ
นั้นคือความรักของเราที่มอบให้กับพ่อกับแม่ที่เป็นมนุษย์เหมือนๆกันกับเรา เราอยากให้พวกเขายืนหยัดอยู่ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเรา พ่อกับแม่เราเจ๋ง พวกเขาแค่ขาดโอกาสและการศึกษาที่มากพอ. เราจะเป็นผู้มอบโอกาสนั้นให้แก่พวกเขา โดยที่เราเองก็จำเป็นต้องแสวงหาโอกาสนั้นเพื่อส่งมอบมันต่อไป
สิ่งที่เราอยากทำให้นางให้ได้ในตอนนี้ คือการได้เรียนจบมหาวิทยาลัยภายใน 3 ปี เราปรึกษากับทางมหาวิทยาลัยแล้ว ทางนั้นรับทราบเหตุผลแนะแนวทางในการจบภายในสามปีให้ แต่เราต้อง cover ค่าใช้จ่ายส่วนต่างจากที่จะจบไวมากขึ้น (แต่ก็ประหยัดค่าธรรมเนียม ค่าหอ ค่าใช้จ่ายมากขึ้นเช่นกัน) อารมณ์แบบจ่ายเท่าเดิม แต่จ่ายไวมากขึ้น แต่ทุนเรามันฟิกแล้วว่าได้แค่เท่าไหร่ในแต่ละเทอม
เรามานั่งคำนวณแล้ว เราไหว เกรดปีหนึ่งสองเทอมที่ผ่านมาเราเฉลี่ยแล้วได้ 3.60 เราคิดว่าเราสามารถเรียนแบบ IFIC ได้จนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งได้ แต่เราต้องการโอกาส และเราอยากขอโอกาสจากทุกคนที่ผ่านมา เราไม่ได้ต้องการเงิน แต่เราต้องการโอกาสในการที่เราจะได้ทำงานแลกเงินจากพี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคน เราเลยต้องนั่งปั่นงานหามรุ่งหามค่ำหาค่าเทอมมาหมุนเนี้ยแหละครับ
จึงอยากรบกวนนะครับ ใครมีงานอะไรที่น่าสนใจ สามารถบอกเราได้เลยนะครับ เต็มใจและยินดีทำทุกงานครับ ตอนนี้ยังไม่เปิดเทอมเราก็ทำงานจิปาถะทั่วไป ทั้งเขียน Content รีวิวต่าง ๆ ทำภาพกราฟฟิคและอาร์ตเวิร์ค เป็นแอดมินเพจ ทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับการพูด ฟัง อ่าน เขียน ถอดเทป พิสูจน์อักษร สอนพิเศษไทยสังคม รับจ้างไปซื้อของ ทำความสะอาดคอนโด อื่น ๆ ดังนั้นแล้วมีงานอะไรโยนมาให้เราทำทั้งหมดได้เลยครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
หื้ม ขายของแบบนี้ก็ได้เหรอ? ได้สิครับ 55555555555 เพื่อเงินค่าเทอมน้องทำได้หมดอ่ะพี่จ้า หลังไมค์มาสอบถามเพิ่มเติมได้นะครับ เพื่ออยากให้เราทำอะไรให้
อ่านสปอลย์แล้ว สัญญานะครับว่าจะไม่เขวี้ยงอะไรใส่เรา 555555555555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พ่อแม่เราอยากแยกทางกันนะครับครับ
คือพ่อเรานะ เล่าง่ายๆ ปากเสีย ไม่ค่อยถนอมน้ำใจ แล้วก็ทนกันมาอยู่เกือบยี่สิบปีแล้วไง มันมาถึงวันที่แม่เรารู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้ว แม่เราอยากกลับไปอยู่กับยาย ซึ่งเราก็เห็นด้วยกับแม่ เรื่องพ่อกับแม่จะเลิกกัน ส่วนตัวเป็นลูกก็แอบใจหาย แต่เรามันพวกคิดนอกคอกอ่ะ แบบ เราเข้าใจว่าความรักทุกชนิดมันมีวันหมดอายุอ่ะ พ่อกับแม่เรารักกันจริงๆ และก็เลิกกันเพราะมันเรื้อรังมานานเกินไปแล้วสำหรับบาดแผลในชีวิตของคนๆหนึ่ง
ไม่มีใครควรถูกผูกมัด "ความไม่รัก" ด้วยเหตุผลอะไรทั้งนั้นแม้กระทั้งลูกก็ตาม พวกเขายังเป็นพ่อกับแม่เราเหมือนเดิม เพียงแค่ต่างคนต่างเลือกจะไปใช้ชีวิตในจุดที่มันสบายใจต่อกันและกัน อนาคตค่อยว่ากันอีกที ซึ่งเราว่ามันเวิร์กกว่าการบอกให้ทนอยู่กันไปเพื่อลูกหรือเห็นแก่เวลาที่ผ่านมา
ถ้าคนเราเห็นแก่เวลาที่ผ่านมา แล้วแน่ใจเหรอว่าจะไม่เสียดายเวลาในอนาคตที่จะเสียไป?
พูดกันแบบไม่ดราม่า เราไม่คิดว่าคนหมดรักกันแล้วจำเป็นจะต้องประคับประครองต่อกันเพื่อใครสักคน ลูกทุกคนในครอบครัวโตพอจะเข้าใจสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เราเองก็ต้องการรีบเรียนจบเพื่อให้แม่เราหมดห่วงและกลับไปอยู่กับยายได้อย่างสบายใจ และเราจะรับภาระในการเลี้ยงดูน้องเราต่อ เพราะติดเรื่องกองทุนกับการเตรียมตารางเรียนเนี้ยแหละครับ เลยไปไหนไม่ได้ ทำได้แค่โทร.ไปหาแล้วก็เล่าให้ฟังเฉย ๆ ว่าเรากำลังทำอะไร
ในฐานะลูกคนโตของบ้าน เราก็ทำได้แค่ปลดห่วงที่เขามีกับเราออก เราอยากให้เขาเป็นอิสระต่อกันและกัน เพราะแรกเริ่มเราก็ไม่ใช่เด็กที่อยากส่งเงินให้ที่บ้านทุกเดือนอยู่แล้วอ่ะ คือเราถูกเลี้ยงดูมาให้พึ่งพาตัวเองเป็นหลัก ดังนั้นสิ่งที่เราจะทำคือการสร้างหลักประกันชีวิตให้พ่อแม่ ว่าต่อให้สักวันหนึ่งเราตาย,หายไปจากชีวิตพวกเขา แต่พวกเขาจะอยู่กันต่อไปได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเรา มีชีวิตเป็นของตัวเองด้วยหลักประกันที่เราสร้างไว้ อาจจะเป็นกิจการเล็กๆหรืออะไรสักอย่างที่มากกว่าแค่ส่งเงินให่ใช้เป็นเดือนๆ เราเชื่อว่าแบบนั้นจะส่งผลดีต่อพ่อแม่เรามากกว่าแค่ส่งเงินเปล่าๆ
นั้นคือความรักของเราที่มอบให้กับพ่อกับแม่ที่เป็นมนุษย์เหมือนๆกันกับเรา เราอยากให้พวกเขายืนหยัดอยู่ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเรา พ่อกับแม่เราเจ๋ง พวกเขาแค่ขาดโอกาสและการศึกษาที่มากพอ. เราจะเป็นผู้มอบโอกาสนั้นให้แก่พวกเขา โดยที่เราเองก็จำเป็นต้องแสวงหาโอกาสนั้นเพื่อส่งมอบมันต่อไป
สิ่งที่เราอยากทำให้นางให้ได้ในตอนนี้ คือการได้เรียนจบมหาวิทยาลัยภายใน 3 ปี เราปรึกษากับทางมหาวิทยาลัยแล้ว ทางนั้นรับทราบเหตุผลแนะแนวทางในการจบภายในสามปีให้ แต่เราต้อง cover ค่าใช้จ่ายส่วนต่างจากที่จะจบไวมากขึ้น (แต่ก็ประหยัดค่าธรรมเนียม ค่าหอ ค่าใช้จ่ายมากขึ้นเช่นกัน) อารมณ์แบบจ่ายเท่าเดิม แต่จ่ายไวมากขึ้น แต่ทุนเรามันฟิกแล้วว่าได้แค่เท่าไหร่ในแต่ละเทอม
เรามานั่งคำนวณแล้ว เราไหว เกรดปีหนึ่งสองเทอมที่ผ่านมาเราเฉลี่ยแล้วได้ 3.60 เราคิดว่าเราสามารถเรียนแบบ IFIC ได้จนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งได้ แต่เราต้องการโอกาส และเราอยากขอโอกาสจากทุกคนที่ผ่านมา เราไม่ได้ต้องการเงิน แต่เราต้องการโอกาสในการที่เราจะได้ทำงานแลกเงินจากพี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคน เราเลยต้องนั่งปั่นงานหามรุ่งหามค่ำหาค่าเทอมมาหมุนเนี้ยแหละครับ
จึงอยากรบกวนนะครับ ใครมีงานอะไรที่น่าสนใจ สามารถบอกเราได้เลยนะครับ เต็มใจและยินดีทำทุกงานครับ ตอนนี้ยังไม่เปิดเทอมเราก็ทำงานจิปาถะทั่วไป ทั้งเขียน Content รีวิวต่าง ๆ ทำภาพกราฟฟิคและอาร์ตเวิร์ค เป็นแอดมินเพจ ทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับการพูด ฟัง อ่าน เขียน ถอดเทป พิสูจน์อักษร สอนพิเศษไทยสังคม รับจ้างไปซื้อของ ทำความสะอาดคอนโด อื่น ๆ ดังนั้นแล้วมีงานอะไรโยนมาให้เราทำทั้งหมดได้เลยครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
หื้ม ขายของแบบนี้ก็ได้เหรอ? ได้สิครับ 55555555555 เพื่อเงินค่าเทอมน้องทำได้หมดอ่ะพี่จ้า หลังไมค์มาสอบถามเพิ่มเติมได้นะครับ เพื่ออยากให้เราทำอะไรให้
อ่านสปอลย์แล้ว สัญญานะครับว่าจะไม่เขวี้ยงอะไรใส่เรา 555555555555
โอกาสเพียงหนเดียว ถูกใจ, เอื้ออารี หลงรัก, Achilles Heel ถูกใจ, granny ซึ้ง, สมาชิกหมายเลข 3288832 ซึ้ง, stoney ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 972021 ขำกลิ้ง, จับแมวเหมียวด้วยมือเปล่า ถูกใจ, Happy Moment ถูกใจ, Lady1412 ถูกใจรวมถึงอีก 12 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ขออนุญาตมาเล่าเรื่องของเรากับแม่ กับเหตุผลว่าทำไมผู้หญิงทุกคนควรถามตัวเองว่า "คุณอยากมีลูกเพราะอะไร?"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากเรื่องทั้งหมดที่เราเล่ามา เราถึงพูดเสมอว่าก่อนจะมีลูกนะ อยากให้ถามก่อนว่าอยากมีลูกเพราะอะไร? การเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งมันต้องมีความพร้อมมากกว่าแค่ความรักที่มีให้กันนะ มันต้องมีการวางแผน มีแพลนเต็มไปหมด และที่สำคญคือต้องมี "ความพร้อม" ทั้งสภาวะในการเลี้ยงดูและเงินทองที่เป็นปัจจัยหลักของมนุษย์
เพราะเมื่อคนๆหนึ่งเกิดมาแล้ว เขาจะส่งผลกระทับทั้งตัวคุณ ทั้งสังคม ทั้งอื่นๆเต็มไปหมด
เด็กนะ เลือกเกิดไม่ได้ว่าจะเกิดกับใคร แต่พ่อแม่นะเลือกได้นะว่าอยากให้เขาเกิดหรือไม่เกิด
ดังนั้นแล้ว ถ้ายังไม่มีความพร้อม อย่าเพิ่งมีลูกเลยครับ เพราะผลเสียทั้งหมดที่ตามมาบางครั้งคุณอาจจะไม่เข้าใจมันไงว่ามันไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ตัวคุณเอง
แต่มันส่งผลต่อโลกทั้งใบของคนๆ หนึ่ง
ถ้าวันนั้น แม่ไม่ร้องไห้ ไม่กอดปลอบเรา
...แม่อาจจะเสียเราไปทั้งชีวิตของแม่เลยจริงๆก็ได้ ใครจะรู้