มีใครทำงานที่ต้องพึ่งแม่บ้านบ้างครับ รู้สึกปัญหาเยอะเหลือเกิน ทั้งที่ให้ค่าแรงวันละ 300

คงต้องบอกตามตรง เพราะมันจะเป็นประโยชน์กับตัวจขกท.เอง

มุมมองเรื่องการจ้างแรงงานของ จขกท. เป็นมุมมองของเจ้าของกิจการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด เป็นเรื่องปกติของเจ้าของกิจการที่จะมีความเห็นแบบนี้
แต่ตามที่อ่านมา จขกท.ยังขาดความเข้าใจเรื่องการจ้างงาน ทั้งด้านจิตใจและด้านกฏหมายครับ

สมมุติว่า จขกท.สามารถย้ายที่ตั้งโรงแรมของคุณได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เอาไปตั้งที่ไหนก็ได้ตามใจ จะย้ายไหมครับ แม่บ้านก็คิดคล้ายๆกันนี่ล่ะ ไม่มีพันธะอะไรใดๆ

แรงงานแม่บ้านคือแรงงานระดับต่ำที่สุดในองค์กรนะครับ ระดับเดียวกับคนสวน รปภ. แต่เป็นงานที่สำคัญมากในธุรกิจโรงแรม หาแรงงานแม่บ้านไม่ได้ก็คือพังเลย เป็นงานแบบที่ใช้แรงแลกเงิน เป็นแรงงานแบบไม่คิดถึงอนาคต จขกท.ไม่ต้องไปพูดถึงการพัฒนาตัวเอง, เป้าหมายองค์กร, อนาคต, วางแผนการเงิน ฯลฯ ครับ เสียเวลา

สิ่งที่จำเป็นสำหรับคนงานในระดับนี้มีอย่างเดียวคือ เงิน ที่ไหนมีเงินให้มาก แรงงานก็ไหลไปที่นั่น การขึ้นค่าแรงก็เหมือนเป็นแม่เหล็กในระดับหนึ่งแล้ว ต่อไปคือการจัดการบริหารทรัพยากรมนุษย์

จขกท. จ้างงานปีนี้ 20 กว่าคน แสดงว่ามีปัญหามา 20 ครั้ง แต่ละครั้งเรียนรู้อะไรบ้าง แล้วได้นำมาใช้คัดเลือกแรงงานคนต่อๆมาหรือเปล่า จำนวนการจ้างแรงงานแล้วมีปัญหาถี่แบบนี้ พูดตรงๆคือล้มเหลวในการคัดคนงานนะครับ จขกท.คงมีความจำเป็นที่ทำให้ต้องจ้างงานในแบบที่ทำอยู่ แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าปัญหาน่าจะมาจากเรื่องค่าแรงแล้วก็ปรับแก้ นี่เป็นสิ่งที่ดีครับ ต่อไปก็จะมีการวางแผนการจ้างแรงงานได้

จขกท.อาจจะมีประเด็นว่ารายได้ของกิจการไม่ดี เลยต้องจำกัดเรื่องค่าตอบแทน ตามมุมมองของเจ้าของกิจการก็ถูกต้องครับ แต่อยากให้คิดสักนิดว่า ลูกค้าไม่เข้าพัก, คนไม่รู้จักโรงแรม, ค่าใช้จ่ายสูง เรื่องพวกนี้ไม่ใช่ความรับผิดชอบของแม่บ้านครับ มันเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของกิจการ ถ้าห้องพักไม่สะอาด, ผ้าปูเตียงนอนไม่ตึง, ห้องน้ำมีคราบ, ทางเดินในอาคารไม่สะอาด, กระจกหม่น เรื่องพวกนี้เป็นความรับผิดชอบของแม่บ้านครับ เรื่องพวกนี้จขกท.ติแม่บ้านได้ทันที

เรื่องการซื้อใจแรงงาน การดูแลบริวาร ถ้าจขกท.เป็นชาวพุทธ ก็คงรู้จัก ทิศ 6 ก็พิจารณาเอาว่าจะทำแบบไหนให้เหมาะสมกับสถานที่ของจขกท.

แล้วก็ศึกษากฏหมายแรงงาน, การจ้างแรงงานต่างด้าว, การประกอบอาชีพโรงแรมที่ถูกวิธี ไว้ด้วย ผมรู้สึกว่า จขกท. ยังไม่เข้าใจเรื่องทั้งสามนี้อย่างละเอียด ถ้าพูดแรงๆก็บอกเลยว่าถ้ามีประเด็นสามเรื่องนี้เมื่อไหร่ จขกท.ล้มแน่ๆ

เท่าที่อ่านดู จขกท.กำลังเครียด และอยากได้วิธีแก้แบบอ่านแล้วเอาไปทำปัญหาหมดทันที แต่เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลาครับ การขึ้นค่าแรงก็เป็นทางแก้หนึ่ง แต่ต้องหาต้นตอของปัญหาให้เจอแล้วแก้ตรงนั้น

ที่บอกไปทั้งหมด เป็นเรื่องที่ผมจัดการมาแล้วทั้งนั้น ก็เลยเลือกที่จะแบ่งปันแนวคิดมากกว่าแบ่งปันวิธีการครับ