ล้อมวง เล่า เรื่อง ผี / ย้อนรอย...ในห้องใต้ดิน EP. 5 (ตอนจบ)
ความเดิมจาก EP. 4
“ก็ได้ค่ะ ดาจะทำตามที่วินบอก ดาจะไปแจ้งตำรวจเพื่อให้วศินได้รับโทษที่มันทำไว้กับเราสองคน” ญาดาพูดออกมาเพียงลำพัง ไม่มีเสียงของนาวินตอบกลับเขาคงรับรู้ในสิ่งที่เธอกำลังจะทำ หญิงสาวเดินตรงขึ้นไปบนบันไดเพื่อออกจากห้องใต้ดิน นี่ก็เช้ามากแล้วเธอต้องรีบออกไปจากที่นี่ก่อนที่วศินจะตื่นและจับเธอขังไว้เหมือนกับนาวิน เธอไม่มีวันยอมเสียท่าให้ชายชั่วนั่นเป็นครั้งที่สองแน่ มือซ้ายกำกระเป๋าใบโปรดไว้แน่นแล้วใช้มือขวาควานหากุญแจรถในขณะที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากบ้านตรงมาที่รถยนต์…
.......................................................
“เธอไม่ได้ตายนี่ญาดา จะเป็นไปได้ยังไงที่เธอจะกลับชาติมาเกิด บอย! พ่อไม่ตลกด้วยนะ” วศินขึ้นเสียงใส่บอยและไม่เชื่อเรื่องที่บอยเล่ามาทั้งหมด
“งั้นลองหันไปถามเมียสุดที่รักของดูซิว่าเคยไปทำอะไรไว้ในวันที่ทำให้ชีวิตกูต้องป่นปี้” บอยขึ้นเสียงตอบกลับวศินผู้เป็นพ่อเลี้ยง แต่ในแววตาของบอยในตอนนี้ไม่เหมือนแววตาที่เคยเป็นเด็กไร้เดียงสาอย่างเคย สายตาที่มองว่ามันชี้ชัดว่าเขาจำอดีตชาติของเขาได้หมด
“แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าวันไหน ฉันไม่เคยรู้จักแกด้วยซ้ำ” แพนยังคงร้องไห้ไม่หยุดและไม่รู้ว่าเธอไปทำกรรมอะไรเอาไว้กับญาดา แค่เธอใช้ชีวิตให้มีความสุขในแต่ละวันก็ยากแล้วที่ต้องมาต่อสู้กับภาระหนี้สินเกินตัว แต่นี่เธอต้องมาชดใช้ในสิ่งที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้ญาดาโกรธแค้น
“ในเช้าวันนั้นแพนโทรหาพี่จริงๆด้วย...” วศินนึกขึ้นได้
...................................................
เสียงถอนหายใจยาวๆดังออกมาจากญาดา หลังจากหนีออกมาพ้นซอยบ้านของวศิน หญิงสาวเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วตั้งใจจะขับไปยังสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดแต่คิดว่าโทรไปน่าจะเร็วกว่า จึงหยิบมือถือขึ้นมากดหมายเลขปลายทาง สายตาละจากถนนลงมามองมือถือในมือ พอเงยหน้าขึ้นมามองถนนอีกครั้งเธอกลับเห็นรถเก๋งคันหนึ่งขับตัดหน้ารถของเธออย่างกะทันหัน ญาดารีบเหยียบเบรคเพื่อชะลอความเร็วลงแต่จู่ๆยางรถล้อหน้าก็เกิดระเบิดขึ้น พวงมาลัยรถสั่นอย่างแรงจนเธอควบคุมไม่ได้รถจึงเสียหลักตกลงไปยังแม่น้ำข้างทาง หน้ารถค่อยๆจมลงๆ ญาดาตกใจร้องเรียกให้คนช่วยแต่ก็ไม่เป็นผล เธอเห็นรถเก๋งคันที่ขับตัดหน้าเธอเมื่อครู่จอดอยู่ริมทาง สาววัยรุ่นที่เป็นคนขับ หน้าตาตื่นตกใจเหมือนๆกับเธอ แต่แทนที่หญิงสาวคนนั้นจะลงจากรถมาช่วยแต่เธอกลับขับรถหนีไปหน้าตาเฉย ญาดาหมดทางที่จะหนีออกไปจากรถที่ค่อยๆจมลงไปยังก้นของแม่น้ำ น้ำไหลเข้ามาทุกทิศทุกทางเหลือเพียงอีกไม่กี่คืบก็จะจมหายไปทั้งคัน
ภายในรถเต็มไปด้วยน้ำที่เอ่อท่วมเข้ามา ญาดาก้าวข้ามไปเบาะหลังที่ลอยอยู่สูงกว่า พยายามทุบกระจกเท่าไหร่ก็ไม่แตกและไม่สามารถเปิดประตูรถได้เนื่องจากรถเป็นระบบไฟฟ้า คงขัดข้องจากการกระแทก รถค่อยๆดิ่งลงไปเรื่อยๆ หมดความหวังที่จะหนีแล้ว เธอสูดหายใจเฮือกสุดท้ายเข้าเต็มปอดและทิ้งตัวลงปล่อยให้น้ำท่วมเหนือหัว คนเราจะกลั้นหายใจได้กี่นาทีกัน วินาทีสุดท้ายของชีวิตเธอนึกถึงภาพที่มีความสุขกับครอบครัวและนาวิน และความรู้สึกผิดที่ไม่อาจจะกลับเข้าไปเอาศพของแฟนหนุ่มออกมาจากห้องใต้ดินตามคำขอของเขาได้ ‘ถ้าชาติหน้ามีจริง ต้องชดใช้สิ่งที่ได้ทำไว้กับกู กูจะกลับมา..’ อากาศภายในปอดถูกน้ำเข้าไปแทนที่เกินกำลังที่จะกลั้นหายใจต่อไปไหว ญาดาสะอื้กน้ำอีกสองสามทีสติก็ดับไป
...................................................
“ในรถคันนั้นคือเธอเองเหรอ ฉ..ฉัน ฉันขอโทษ ตอนนั้นฉันยังเด็กอยู่” แพนนึกขึ้นได้หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมด “ฉันกลัวว่าฉันจะถูกจับ เลยขับหนีมา ฉันขอโทษ” เธอสำนึกผิดต่อการกระทำในครั้งนั้น ถ้าเธอลงจากรถไปเรียกคนมาช่วย ญาดาก็คงไม่ตาย เธอก็คงไม่ต้องมาเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้
“รู้สึกผิดตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว ผมรอเวลานี้มาเกือบทั้งชีวิต รอที่จะได้แก้แค้น” บอยไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินตรงไปที่คนทั้งสองนอนอยู่บนเตียงหมายจะจบเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ไม้ในมือยกขึ้นลอยอยู่เหนืออากาศเตรียมจะฟาดลงบนหัวของวศินและแพน ทั้งคู่ต่างร้องขอชีวิตแต่ก่อนที่บอยจะลงมือทำอะไร เขารู้สึกเจ็บแปลบๆที่กลางหลังและเห็นปลายแหลมของมีดทะลุออกมากลางอกของตัวเองก่อนที่สีแดงของเลือดจะไหลออกมาชุ่มไปทั้งตัว
“ถ้าอยากจะฆ่าคนก็อย่าบ้าน้ำลายมันเสียเวลา อยากฆ่าก็ฆ่าเลย” เสียงทุ้มของชายคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลังของบอย “เสียดายนะที่อุตสาห์กลับชาติมาเกิด แต่กลับต้องมาตายเพราะฝีมือของกูอีกครั้งหนึ่ง”
“เป็นใครว่ะ” ญาดาในร่างบอยเค้นเสียงถามพลางหันไปมอง แต่กลับเป็นใบหน้าที่เขาคุ้นเคยดี ‘กานต์’ ไอ้แก่ขี้ยาที่ชอบมาขอเงินจากวศินที่บ้านบ่อยๆ “หมายความว่าไงที่ต้องมาตายเพราะฝีมือของอีกครั้ง” บอยกระอักเลือดด้วยความเจ็บจากการถูกมีดแทง
“สาเหตุที่รถตกน้ำเป็นเพราะกูนี่แหล่ะ” กานต์กระซิบที่ข้างหูของบอย “คืนนั้นพี่วศินออกมาจากบ้าน หลังจากลากขึ้นไปข่มขืนเสร็จ พี่วศินสั่งให้กูแอบตามถ้าคิดหนีโดยแลกกับเงินก้อนหนึ่งพอที่จะไปซื้อยามาเสพได้เยอะน่าดู แต่กูขี้เกียจรอจนถึงเช้า กูก็เลยแอบปล่อยลมยางรถถ้ายางแบนคงหนีไปไหนไม่ได้ แต่ผิดคาดกลับไม่ใส่ใจยางรถและขับหนีออกไป จนทำให้ยางระเบิดกลางทาง” กานต์บิดมีดเพื่อเปิดแผลกลางหลังของบอยให้กว้างขึ้นก่อนจะดึงออกมา เขาทิ้งร่างของบอยให้ลงไปนอนกองจมกองเลือดทั้งๆที่หายใจโรยริน แล้วข้ามไปช่วยวศินและแพนจากพันธนาการ
วศินยืนขึ้นพร้อมกับพยุงภรรยาไปแนบกาย ทั้งคู่มองไปที่ร่างของบอยตรงแทบเท้า “ญาดาขอให้แล้วต่อกันเถอะนะ อโหสิกรรมให้ผมและแพนด้วย ตอนนั้นเราทั้งหมดก็ยังเด็กอยู่ และพวกเราก็อโหสิกรรมให้เธอด้วยที่เธอทำไปในวันนี้” เสียงสำนึกผิดของวศินเอ่ยขึ้น เป็นน้ำเสียงที่สำนึกผิดจริงๆแต่ไม่มีเสียงตอบกลับจากญาดาในร่างของบอย เลือดสีแดงฉานไหลซึมไปทั่วพื้นห้อง
“ฉันก็ขอโทษเธอด้วยนะญาดา ฉันเสียใจจริงๆที่เราได้ทำผิดไว้กับเธอ” ถึงแม้แพนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของญาดาน้อยที่สุดเธอก็ขอโทษด้วยความจริงใจและถือว่าเหตุการณ์ที่เธอถูกกระทำในครั้งนี้ก็คือผลกรรมที่ได้ทำเอาไว้
วศิน แพน และกานต์ ออกมาจากบ้านและทิ้งให้ญาดาในร่างของบอยนอนตายจมอยู่ในกองเลือดภายในห้องนอน ทั้งสามขับรถออกมาจากละแวกนั้นเพื่อหนีความผิดฐานฆ่าคนตาย แต่กว่าที่ตำรวจจะสังเกตเห็นและตรวจพบ พวกเขาคงหนีไปไกลแล้ว วศินจับมือภรรยาตลอดทางที่ขับรถหนีออกมา ส่วนกานต์นั่งอยู่เบาะหลังทางฝั่งคนขับมองออกไปข้างนอกกระจกอย่างเหม่อลอยก่อนที่จะพูดออกมาเบาๆ
“เรายังหนีไม่พ้นนะพี่วศิน เขาไม่ให้เราไป” เสียงยานคางเหมือนตอนดูดกัญชาของกานต์พูดออกมาช้า “ผมเห็นเขายืนอยู่ข้างนอกนั้น”
“ใครว่ะไอ้กานต์” วศินมองกระจกมองหลังพูดกับกานต์
“ก็เพื่อนพี่ไง”
“เป็นไปได้ยังไง ตาฝาดไปเองรึเปล่า เล่นกัญชามากไปนะเนี่ย” วศินไม่ใส่ใจกับคำพูดของกานต์ เขายังคงขับไปตามทางต่อ
“พี่อยากรู้ไหมว่าผมเข้ามาช่วยพี่ได้ยังไง และผมรู้มาจากไหน” คำพูดปริศนาของกานต์ทำเอาวศินและแพนมองหน้ากัน “พี่สองคนจะเชื่อหรือไม่นั้นก็แล้วแต่นะ แต่ผมเชื่อและผมจะทำตามคำพูดของคนๆนั้น”
“คนไหนเหรอกานต์” แพนหันหน้ามาถามด้วยความอยากรู้
“ผมว่าพี่สองคนน่าจะได้เห็นเขาในทีวีแล้วนะ เรื่องมันมีอยู่ว่า หลังจากคืนที่เกิดเรื่องพี่ออกมาบอกผมให้ดูว่าผู้หญิงคนนั้นจะหนีไปตอนกลางคืนไหม พี่บอกให้ผมเฝ้าอยู่หน้าบ้านไว้แต่วันนั้นผมง่วงมากบวกกับเมาด้วยผมเลยขี้เกียจรอ ผมก็เลยไปปล่อยลมยางรถ แต่ก็ไม่ถึงกับแบนนะแล้วผมก็เข้าไปนอน พอรู้ตัวตอนเช้าก็มันก็เป็นเรื่องซะแล้ว ผู้หญิงคนนั้นขับรถออกไปแล้วเกิดยางระเบิดเพราะดันไปเหยียบเบรคกะทันหัน ยางที่แบนอยู่แล้วและมาโดนขอบล้อสีจนร้อน ยางระเบิด รถเสียหลักตกแม่น้ำไป เธอติดอยู่ในน้ำสามวันสามคืน และความรู้สึกผิดแบบนั้นมันทำให้ผมเก็บมาฝันร้ายทุกคืน จนเมื่อไม่นานมานี้ มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาที่บ้านผม เขาเล่าให้ฟังว่าเขาจำเรื่องราวทั้งหมดได้ และบอกว่าเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เขาจำอดีตชาติได้เพราะดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองมาอย่างอาฆาต และไม่กี่วันเขาก็ตาย เขาบอกว่าเขาคือตาบุญ แล้วยังบอกอีกว่าถ้าอยากจะให้จบเรื่องทั้งหมดต้องทำแบบนี้” พูดจบกานต์ก็ควักปืนขึ้นมายิงท้ายทอยวศิน ปัง! วศินตายคาที่ทันที ร่างฟุบลงไปกับพวงมาลัยที่ไร้การควบคุม เสียงกรี๊ดของแพนดังขึ้นในขณะที่รถเซขึ้นฟุบบาทชนเข้ากับเสาไฟฟ้าต้นใหญ่อย่างแรง ร่างของแพนที่อยู่ด้านหน้ากระแทกเข้ากับกระจกหัวแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เลือดกระจายไปทั่วภายในรถ ส่วนกานต์คอหักตายคาที่เพราะชนกับพนักพิงด้านหน้า ทั้งหมดจบชีวิตลงเพียงเสียวนาที...
ตู๊ดดด... ตู๊ดดด... “ฮัลโหล ญาดาพูดค่ะ” ปลายสายพูด
“ฮัลโหล.. แม่ ผมจัดการเรียบร้อยแล้วนะครับ พวกมันได้ไปใช้กรรมในนรกทั้งหมดครอบครัวแล้ว” ชายหนุ่มยืนโทรศัพท์อยู่ในตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญสาธารณะใกล้ๆที่เกิดเหตุ
“ดีมากนิค เดี๋ยวกลับมาเรามาฉลองสำหรับเวลาที่แม่รอคอยมายาวนานกว่ายี่สิบห้าปี ไม่เสียแรงที่แม่ส่งนิคเรียนด้านจิตแพทย์ แค่ความเปราะบางทางจิตใจของไอ้บอยลูกเลี้ยงของพวกมันและไอ้ขี้ยาที่หลงวนเวียนอยู่ในความสำนึกผิดที่มันทำไว้กับแม่ แค่นี้ก็สะกดให้มันเชื่อซะแนบเนียนเลย” ญาดาหัวเราะนิดๆด้วยความสะใจ ในเมื่อเธอรอดจากการจมน้ำเพราะมีพลเมืองดีช่วยขึ้นมาไว้ทัน แต่พอบอกความจริงกับตำรวจหรือใครๆกลับไม่มีใครเชื่อ เธอต้องทนมานานกว่าจะถึงวันนี้ เธอเฝ้าเลี้ยงลูกมาคนเดียวลำพังกว่ายี่สิบสามปี “แล้วศพของพ่อล่ะนิค” ญาดาไม่ลืมถามถึงนาวิน
“ผมพาพ่อออกมาด้วยแล้วครับ แม่ไม่ต้องห่วงพรุ่งนี้เราก็สามารถจัดงานศพให้พ่อตามที่แม่ตั้งใจเอาไว้ งั้นเดี๋ยวเจอกันที่บ้านนะครับแม่” นิควางสายโทรศัพท์แล้วก้าวออกมาจากตู้โทรศัพท์พร้อมกับเสียงของรถตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพอดี ไม่มีใครสงสัยในตัวเขาซักนิด นิคหันกลับไปที่เศษซากของรถที่ไฟลุกท่วมทั้งคันในขณะที่มีคนมาช่วยกันดับเพลิง “ขอให้แล้วต่อกันเถอะนะ อโหสิกรรมให้ผมและแม่ด้วย...”
THE END
ติดตามเรื่องราวต่อๆไปได้ที่ เพจ Facebook :
https://www.facebook.com/ShockTimeStory/
และ
https://shocktimestory.blogspot.com/ ขอบคุณครับ
ล้อมวง เล่า เรื่อง ผี / ย้อนรอย...ในห้องใต้ดิน EP. 5 (ตอนจบ)
ความเดิมจาก EP. 4
“ก็ได้ค่ะ ดาจะทำตามที่วินบอก ดาจะไปแจ้งตำรวจเพื่อให้วศินได้รับโทษที่มันทำไว้กับเราสองคน” ญาดาพูดออกมาเพียงลำพัง ไม่มีเสียงของนาวินตอบกลับเขาคงรับรู้ในสิ่งที่เธอกำลังจะทำ หญิงสาวเดินตรงขึ้นไปบนบันไดเพื่อออกจากห้องใต้ดิน นี่ก็เช้ามากแล้วเธอต้องรีบออกไปจากที่นี่ก่อนที่วศินจะตื่นและจับเธอขังไว้เหมือนกับนาวิน เธอไม่มีวันยอมเสียท่าให้ชายชั่วนั่นเป็นครั้งที่สองแน่ มือซ้ายกำกระเป๋าใบโปรดไว้แน่นแล้วใช้มือขวาควานหากุญแจรถในขณะที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากบ้านตรงมาที่รถยนต์…
.......................................................
“เธอไม่ได้ตายนี่ญาดา จะเป็นไปได้ยังไงที่เธอจะกลับชาติมาเกิด บอย! พ่อไม่ตลกด้วยนะ” วศินขึ้นเสียงใส่บอยและไม่เชื่อเรื่องที่บอยเล่ามาทั้งหมด
“งั้นลองหันไปถามเมียสุดที่รักของดูซิว่าเคยไปทำอะไรไว้ในวันที่ทำให้ชีวิตกูต้องป่นปี้” บอยขึ้นเสียงตอบกลับวศินผู้เป็นพ่อเลี้ยง แต่ในแววตาของบอยในตอนนี้ไม่เหมือนแววตาที่เคยเป็นเด็กไร้เดียงสาอย่างเคย สายตาที่มองว่ามันชี้ชัดว่าเขาจำอดีตชาติของเขาได้หมด
“แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าวันไหน ฉันไม่เคยรู้จักแกด้วยซ้ำ” แพนยังคงร้องไห้ไม่หยุดและไม่รู้ว่าเธอไปทำกรรมอะไรเอาไว้กับญาดา แค่เธอใช้ชีวิตให้มีความสุขในแต่ละวันก็ยากแล้วที่ต้องมาต่อสู้กับภาระหนี้สินเกินตัว แต่นี่เธอต้องมาชดใช้ในสิ่งที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้ญาดาโกรธแค้น
“ในเช้าวันนั้นแพนโทรหาพี่จริงๆด้วย...” วศินนึกขึ้นได้
...................................................
เสียงถอนหายใจยาวๆดังออกมาจากญาดา หลังจากหนีออกมาพ้นซอยบ้านของวศิน หญิงสาวเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วตั้งใจจะขับไปยังสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดแต่คิดว่าโทรไปน่าจะเร็วกว่า จึงหยิบมือถือขึ้นมากดหมายเลขปลายทาง สายตาละจากถนนลงมามองมือถือในมือ พอเงยหน้าขึ้นมามองถนนอีกครั้งเธอกลับเห็นรถเก๋งคันหนึ่งขับตัดหน้ารถของเธออย่างกะทันหัน ญาดารีบเหยียบเบรคเพื่อชะลอความเร็วลงแต่จู่ๆยางรถล้อหน้าก็เกิดระเบิดขึ้น พวงมาลัยรถสั่นอย่างแรงจนเธอควบคุมไม่ได้รถจึงเสียหลักตกลงไปยังแม่น้ำข้างทาง หน้ารถค่อยๆจมลงๆ ญาดาตกใจร้องเรียกให้คนช่วยแต่ก็ไม่เป็นผล เธอเห็นรถเก๋งคันที่ขับตัดหน้าเธอเมื่อครู่จอดอยู่ริมทาง สาววัยรุ่นที่เป็นคนขับ หน้าตาตื่นตกใจเหมือนๆกับเธอ แต่แทนที่หญิงสาวคนนั้นจะลงจากรถมาช่วยแต่เธอกลับขับรถหนีไปหน้าตาเฉย ญาดาหมดทางที่จะหนีออกไปจากรถที่ค่อยๆจมลงไปยังก้นของแม่น้ำ น้ำไหลเข้ามาทุกทิศทุกทางเหลือเพียงอีกไม่กี่คืบก็จะจมหายไปทั้งคัน
ภายในรถเต็มไปด้วยน้ำที่เอ่อท่วมเข้ามา ญาดาก้าวข้ามไปเบาะหลังที่ลอยอยู่สูงกว่า พยายามทุบกระจกเท่าไหร่ก็ไม่แตกและไม่สามารถเปิดประตูรถได้เนื่องจากรถเป็นระบบไฟฟ้า คงขัดข้องจากการกระแทก รถค่อยๆดิ่งลงไปเรื่อยๆ หมดความหวังที่จะหนีแล้ว เธอสูดหายใจเฮือกสุดท้ายเข้าเต็มปอดและทิ้งตัวลงปล่อยให้น้ำท่วมเหนือหัว คนเราจะกลั้นหายใจได้กี่นาทีกัน วินาทีสุดท้ายของชีวิตเธอนึกถึงภาพที่มีความสุขกับครอบครัวและนาวิน และความรู้สึกผิดที่ไม่อาจจะกลับเข้าไปเอาศพของแฟนหนุ่มออกมาจากห้องใต้ดินตามคำขอของเขาได้ ‘ถ้าชาติหน้ามีจริง ต้องชดใช้สิ่งที่ได้ทำไว้กับกู กูจะกลับมา..’ อากาศภายในปอดถูกน้ำเข้าไปแทนที่เกินกำลังที่จะกลั้นหายใจต่อไปไหว ญาดาสะอื้กน้ำอีกสองสามทีสติก็ดับไป
...................................................
“ในรถคันนั้นคือเธอเองเหรอ ฉ..ฉัน ฉันขอโทษ ตอนนั้นฉันยังเด็กอยู่” แพนนึกขึ้นได้หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมด “ฉันกลัวว่าฉันจะถูกจับ เลยขับหนีมา ฉันขอโทษ” เธอสำนึกผิดต่อการกระทำในครั้งนั้น ถ้าเธอลงจากรถไปเรียกคนมาช่วย ญาดาก็คงไม่ตาย เธอก็คงไม่ต้องมาเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้
“รู้สึกผิดตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว ผมรอเวลานี้มาเกือบทั้งชีวิต รอที่จะได้แก้แค้น” บอยไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินตรงไปที่คนทั้งสองนอนอยู่บนเตียงหมายจะจบเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ไม้ในมือยกขึ้นลอยอยู่เหนืออากาศเตรียมจะฟาดลงบนหัวของวศินและแพน ทั้งคู่ต่างร้องขอชีวิตแต่ก่อนที่บอยจะลงมือทำอะไร เขารู้สึกเจ็บแปลบๆที่กลางหลังและเห็นปลายแหลมของมีดทะลุออกมากลางอกของตัวเองก่อนที่สีแดงของเลือดจะไหลออกมาชุ่มไปทั้งตัว
“ถ้าอยากจะฆ่าคนก็อย่าบ้าน้ำลายมันเสียเวลา อยากฆ่าก็ฆ่าเลย” เสียงทุ้มของชายคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลังของบอย “เสียดายนะที่อุตสาห์กลับชาติมาเกิด แต่กลับต้องมาตายเพราะฝีมือของกูอีกครั้งหนึ่ง”
“เป็นใครว่ะ” ญาดาในร่างบอยเค้นเสียงถามพลางหันไปมอง แต่กลับเป็นใบหน้าที่เขาคุ้นเคยดี ‘กานต์’ ไอ้แก่ขี้ยาที่ชอบมาขอเงินจากวศินที่บ้านบ่อยๆ “หมายความว่าไงที่ต้องมาตายเพราะฝีมือของอีกครั้ง” บอยกระอักเลือดด้วยความเจ็บจากการถูกมีดแทง
“สาเหตุที่รถตกน้ำเป็นเพราะกูนี่แหล่ะ” กานต์กระซิบที่ข้างหูของบอย “คืนนั้นพี่วศินออกมาจากบ้าน หลังจากลากขึ้นไปข่มขืนเสร็จ พี่วศินสั่งให้กูแอบตามถ้าคิดหนีโดยแลกกับเงินก้อนหนึ่งพอที่จะไปซื้อยามาเสพได้เยอะน่าดู แต่กูขี้เกียจรอจนถึงเช้า กูก็เลยแอบปล่อยลมยางรถถ้ายางแบนคงหนีไปไหนไม่ได้ แต่ผิดคาดกลับไม่ใส่ใจยางรถและขับหนีออกไป จนทำให้ยางระเบิดกลางทาง” กานต์บิดมีดเพื่อเปิดแผลกลางหลังของบอยให้กว้างขึ้นก่อนจะดึงออกมา เขาทิ้งร่างของบอยให้ลงไปนอนกองจมกองเลือดทั้งๆที่หายใจโรยริน แล้วข้ามไปช่วยวศินและแพนจากพันธนาการ
วศินยืนขึ้นพร้อมกับพยุงภรรยาไปแนบกาย ทั้งคู่มองไปที่ร่างของบอยตรงแทบเท้า “ญาดาขอให้แล้วต่อกันเถอะนะ อโหสิกรรมให้ผมและแพนด้วย ตอนนั้นเราทั้งหมดก็ยังเด็กอยู่ และพวกเราก็อโหสิกรรมให้เธอด้วยที่เธอทำไปในวันนี้” เสียงสำนึกผิดของวศินเอ่ยขึ้น เป็นน้ำเสียงที่สำนึกผิดจริงๆแต่ไม่มีเสียงตอบกลับจากญาดาในร่างของบอย เลือดสีแดงฉานไหลซึมไปทั่วพื้นห้อง
“ฉันก็ขอโทษเธอด้วยนะญาดา ฉันเสียใจจริงๆที่เราได้ทำผิดไว้กับเธอ” ถึงแม้แพนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของญาดาน้อยที่สุดเธอก็ขอโทษด้วยความจริงใจและถือว่าเหตุการณ์ที่เธอถูกกระทำในครั้งนี้ก็คือผลกรรมที่ได้ทำเอาไว้
วศิน แพน และกานต์ ออกมาจากบ้านและทิ้งให้ญาดาในร่างของบอยนอนตายจมอยู่ในกองเลือดภายในห้องนอน ทั้งสามขับรถออกมาจากละแวกนั้นเพื่อหนีความผิดฐานฆ่าคนตาย แต่กว่าที่ตำรวจจะสังเกตเห็นและตรวจพบ พวกเขาคงหนีไปไกลแล้ว วศินจับมือภรรยาตลอดทางที่ขับรถหนีออกมา ส่วนกานต์นั่งอยู่เบาะหลังทางฝั่งคนขับมองออกไปข้างนอกกระจกอย่างเหม่อลอยก่อนที่จะพูดออกมาเบาๆ
“เรายังหนีไม่พ้นนะพี่วศิน เขาไม่ให้เราไป” เสียงยานคางเหมือนตอนดูดกัญชาของกานต์พูดออกมาช้า “ผมเห็นเขายืนอยู่ข้างนอกนั้น”
“ใครว่ะไอ้กานต์” วศินมองกระจกมองหลังพูดกับกานต์
“ก็เพื่อนพี่ไง”
“เป็นไปได้ยังไง ตาฝาดไปเองรึเปล่า เล่นกัญชามากไปนะเนี่ย” วศินไม่ใส่ใจกับคำพูดของกานต์ เขายังคงขับไปตามทางต่อ
“พี่อยากรู้ไหมว่าผมเข้ามาช่วยพี่ได้ยังไง และผมรู้มาจากไหน” คำพูดปริศนาของกานต์ทำเอาวศินและแพนมองหน้ากัน “พี่สองคนจะเชื่อหรือไม่นั้นก็แล้วแต่นะ แต่ผมเชื่อและผมจะทำตามคำพูดของคนๆนั้น”
“คนไหนเหรอกานต์” แพนหันหน้ามาถามด้วยความอยากรู้
“ผมว่าพี่สองคนน่าจะได้เห็นเขาในทีวีแล้วนะ เรื่องมันมีอยู่ว่า หลังจากคืนที่เกิดเรื่องพี่ออกมาบอกผมให้ดูว่าผู้หญิงคนนั้นจะหนีไปตอนกลางคืนไหม พี่บอกให้ผมเฝ้าอยู่หน้าบ้านไว้แต่วันนั้นผมง่วงมากบวกกับเมาด้วยผมเลยขี้เกียจรอ ผมก็เลยไปปล่อยลมยางรถ แต่ก็ไม่ถึงกับแบนนะแล้วผมก็เข้าไปนอน พอรู้ตัวตอนเช้าก็มันก็เป็นเรื่องซะแล้ว ผู้หญิงคนนั้นขับรถออกไปแล้วเกิดยางระเบิดเพราะดันไปเหยียบเบรคกะทันหัน ยางที่แบนอยู่แล้วและมาโดนขอบล้อสีจนร้อน ยางระเบิด รถเสียหลักตกแม่น้ำไป เธอติดอยู่ในน้ำสามวันสามคืน และความรู้สึกผิดแบบนั้นมันทำให้ผมเก็บมาฝันร้ายทุกคืน จนเมื่อไม่นานมานี้ มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาที่บ้านผม เขาเล่าให้ฟังว่าเขาจำเรื่องราวทั้งหมดได้ และบอกว่าเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เขาจำอดีตชาติได้เพราะดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองมาอย่างอาฆาต และไม่กี่วันเขาก็ตาย เขาบอกว่าเขาคือตาบุญ แล้วยังบอกอีกว่าถ้าอยากจะให้จบเรื่องทั้งหมดต้องทำแบบนี้” พูดจบกานต์ก็ควักปืนขึ้นมายิงท้ายทอยวศิน ปัง! วศินตายคาที่ทันที ร่างฟุบลงไปกับพวงมาลัยที่ไร้การควบคุม เสียงกรี๊ดของแพนดังขึ้นในขณะที่รถเซขึ้นฟุบบาทชนเข้ากับเสาไฟฟ้าต้นใหญ่อย่างแรง ร่างของแพนที่อยู่ด้านหน้ากระแทกเข้ากับกระจกหัวแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เลือดกระจายไปทั่วภายในรถ ส่วนกานต์คอหักตายคาที่เพราะชนกับพนักพิงด้านหน้า ทั้งหมดจบชีวิตลงเพียงเสียวนาที...
ตู๊ดดด... ตู๊ดดด... “ฮัลโหล ญาดาพูดค่ะ” ปลายสายพูด
“ฮัลโหล.. แม่ ผมจัดการเรียบร้อยแล้วนะครับ พวกมันได้ไปใช้กรรมในนรกทั้งหมดครอบครัวแล้ว” ชายหนุ่มยืนโทรศัพท์อยู่ในตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญสาธารณะใกล้ๆที่เกิดเหตุ
“ดีมากนิค เดี๋ยวกลับมาเรามาฉลองสำหรับเวลาที่แม่รอคอยมายาวนานกว่ายี่สิบห้าปี ไม่เสียแรงที่แม่ส่งนิคเรียนด้านจิตแพทย์ แค่ความเปราะบางทางจิตใจของไอ้บอยลูกเลี้ยงของพวกมันและไอ้ขี้ยาที่หลงวนเวียนอยู่ในความสำนึกผิดที่มันทำไว้กับแม่ แค่นี้ก็สะกดให้มันเชื่อซะแนบเนียนเลย” ญาดาหัวเราะนิดๆด้วยความสะใจ ในเมื่อเธอรอดจากการจมน้ำเพราะมีพลเมืองดีช่วยขึ้นมาไว้ทัน แต่พอบอกความจริงกับตำรวจหรือใครๆกลับไม่มีใครเชื่อ เธอต้องทนมานานกว่าจะถึงวันนี้ เธอเฝ้าเลี้ยงลูกมาคนเดียวลำพังกว่ายี่สิบสามปี “แล้วศพของพ่อล่ะนิค” ญาดาไม่ลืมถามถึงนาวิน
“ผมพาพ่อออกมาด้วยแล้วครับ แม่ไม่ต้องห่วงพรุ่งนี้เราก็สามารถจัดงานศพให้พ่อตามที่แม่ตั้งใจเอาไว้ งั้นเดี๋ยวเจอกันที่บ้านนะครับแม่” นิควางสายโทรศัพท์แล้วก้าวออกมาจากตู้โทรศัพท์พร้อมกับเสียงของรถตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพอดี ไม่มีใครสงสัยในตัวเขาซักนิด นิคหันกลับไปที่เศษซากของรถที่ไฟลุกท่วมทั้งคันในขณะที่มีคนมาช่วยกันดับเพลิง “ขอให้แล้วต่อกันเถอะนะ อโหสิกรรมให้ผมและแม่ด้วย...”
THE END
ติดตามเรื่องราวต่อๆไปได้ที่ เพจ Facebook : https://www.facebook.com/ShockTimeStory/
และ https://shocktimestory.blogspot.com/ ขอบคุณครับ