กระทู้นี้ผมมาแชร์ประสบการณ์แย่ๆ และสิ่งที่ได้เจอจากการใช้บริการของ Truemove H Call Center ผมจะเล่าเท่าที่ผมจำได้ โดยผมจะแบ่งเป็น 2 พาส
ก่อนอื่นต้องบอกว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในพันทิป สมัครมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
กระทู้นี้ผมมาแชร์ประสบการณ์และสิ่งที่ได้เจอจากการใช้บริการ โดยผมจะเล่าเป็นฉากๆ เพื่อที่จะได้เข้าใจกันง่ายๆถึงสิ่งที่ผมพบเจอในช่วงนี้ ซึ่งมันทำให้ผมนึกถึงความรู้สึกแย่ๆที่ผมเคยมีมาก่อนหน้าด้วย
ผมใช้บริการ TrueMove H อยู่ 3เบอร์ แต่จะพูดถึงเพียง 2 เบอร์ โดยแบ่งเป็น
เบอร์ A เคยเป็นแบบรายเดือนเปลี่ยนมาใช้เป็นแบบเติมเงินได้ประมาณ 2 เดือน
เบอร์ B เป็นแบบรายเดือนจดทะเบียนในชื่อคุณแม่แต่ผมเป็นคนจ่าย
ก่อนเดือนเมษายนทั้ง 2 เบอร์จดทะเบียนเป็นรูปแบบรายเดือนแพ็คเกจโปรโมชั่นเหมือนกันทั้ง 2 เบอร์ ราคาเต็มที่ 899 บาทและยังมีส่วนลดโปรโมชั่นอีก 50% เป็นระยะเวลา 1 ปีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นผมเลยต้องจ่ายประมาณ 500 บาทต่อเบอร์ต่อเดือนไม่รวมกับแพ็คเกจเสริมที่ซื้อเพิ่ม โดยการชำระเงินส่วนมากผมจะชำระผ่าน Application True iService และผมเป็นคนใช้อินเตอร์เน็ตเยอะมากบางเดือนใช้ข้อมูลไปมากกว่า 100 GB/เบอร์ เลยทำให้ค่าบริการอยู่ที่เกือบพันบาทตลอดซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะตัวผมเองก็รู้ว่าเดือนเดือนนึงผมใช้เน็ตและค่าบริการไปเท่าไหร่
จนกระทั่งเมื่อเดือนเมษายนผมเริ่มสงสัยบิลค่าบริการของเบอร์ B ซึ่ง 2 เดือนก่อนเมษายน ค่าบริการของเบอร์นี้อยู่ที่ประมาณเกือบ 1,000 บาท มา 2-3 เดือนแล้ว แต่ตัวผมเองแน่ใจว่าผมไม่ได้ซื้อบริการเสริมกับเบอร์นี้จนต้องถึง 1000 บาทแน่นอน
ประมาณวันที่ 18 หรือ 19 เมษายนผมเลยโทรถาม Call Center ของ True Move Hว่าค่าบริการของผมมีรายละเอียดอะไรบ้างซึ่งคำตอบที่ผมได้รับคือส่วนลด 50% ของผมหมดไปประมาณน่าจะ 2 เดือนแล้ว (น่าจะหมดตั้งแต่ ก.พ. แล้ว) เลยทำให้ผมต้องจ่ายบิลเต็ม
#แต่ผมไม่ได้รับแจ้งว่าส่วนลด 50% นั้นจะหมดลง ทั้งที่จริงควรติดต่อมาแจ้งผมก่อน เพราะว่าทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็น การโทรแจ้ง, ข้อความ ,ไปรษณีย์หรือกระทั่งอีเมลล์ ในส่วนนี้ไม่มีการส่งแจ้งมาเลย
ทำให้ผมเสียความรู้สึกเล็กน้อยแต่ก็ยินดีที่จะจ่ายเงิน
ผมเลยถือโอกาสเช็คเบอร์ A ด้วย เพราะผมกลัวจะโดนเรียกเก็บค่าบริการเต็มบิลโดยไม่แจ้งล่วงหน้าเหมือนเบอร์ B แต่ในส่วนของเบอร์นี้นั้นยังได้รับส่วนลดอยู่อีกระยะหนึ่ง
ผมโทรติดต่อ Call Center เพื่อสอบถามเกี่ยวกับโปรโมชั่นที่ผมจะใช้งานต่อทั้ง 2 เบอร์แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่สามารถให้ส่วนลดได้อีกแล้ว หรือโปรโมชั่นที่มีให้ก็ต้องจ่ายในราคาที่ค่อนข้างสูงแต่ได้อินเตอร์เน็ตไม่เกิน 20 กิ๊กกะไบต์ ยอมรับว่าตอนนั้นผมลังเลใจที่จะย้ายไปใช้บริการค่ายใหม่อยู่เหมือนกัน
ในวันที่ 19 เมษายนช่วงบ่ายผมไปที่โรบินสันไลฟ์สไตล์สกลนคร และได้เข้าไปที่ทรูช้อปเพื่อติดต่อสอบถาม Promotionและเปลี่ยนแปลงการใช้บริการแต่โปรโมชั่นที่พนักงานเสนอก็คล้ายคล้ายกับของ Call Center และราคาอยู่ที่ 700 ถึง 800 บาท(ไม่มีส่วนลด 50% แล้ว) ผมจึงสอบถามในส่วนของโปรโมชั่นแบบเติมเงินซึ่งถ้าเทียบกันกับแบบรายเดือนโปรโมชั่นแบบเติมเงินผมสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ไม่ต่ำกว่า 75 กิกะไบต์ต่อเดือน
โดยโปรโมชั่นนี้จะอยู่ใน Application True Money wallet เป็นโปรโมชั่นราคา 150 บาทใช้งาน 7 วันได้รับอินเตอร์เน็ต 15 กิกะไบต์ ซึ่งหมายความว่าใน 1 เดือนผมเติมเงิน 750 บาทแต่ผมจะได้รับอินเตอร์เน็ต 75 กิกะไบต์แถมยังไม่ต้องเสีย vat 7% อีกด้วยรวมถึงยังได้เงินคืนอีกบางส่วนจาก Application นี้ จุดนี้เลยเป็นตัวตัดสินใจให้ผมเปลี่ยนมาใช้จากรายเดือนเป็นแบบเติมเงิน (ก่อนที่ผมจะมาที่ศูนย์บริการผมได้ซื้อแพคเกจเสริมไว้เรียบร้อยแล้ว มีการหักเงินออกจากบัญชีผมไปเรียบร้อยด้วยเหมือนกัน) ผมได้พูดถึงและปรึกษาในส่วนของการย้ายค่ายหรือยกเลิกบริการด้วยเหมือนกันแต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้แจ้งว่าไม่มีโปรโมชั่นอะไรให้มากนัก
########
ผมสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าถ้าผมเปลี่ยนมาใช้แบบเติมเงิน package รายเดือน ยริการทั้งหมดที่เกี่ยวเรียกเก็บมากับบิลรายเดือนจะถูกตัดสิทธิ์ทันทีเลยใช่ไหม
พนักงานตอบว่าใช่ สิทธิ์ทั้งหมดจะโดนระงับทันที
ผมเลยถามว่าแล้วผมซื้อแพ็คเกจที่ไม่เกี่ยวกับบิลรายเดือนผมจะยังใช้งานได้อยู่หรือไม่เพราะผมซื้อแพ็คเกจเสริมแบบหักเงินจากบัตรเครดิตไปเรียบร้อยแล้ว
พนักงานแจ้งว่าถ้าไม่เกี่ยวกับบิลรายเดือนก็ยังสามารถใช้ได้
#####
(ช่วงที่อยู่ในห้างมือถือผมต่อ wifi hotspot. )
หลังจากดำเนินการทุกอย่างเสร็จสิ้นไม่มีปัญหาผมได้เดินทางออกจากห้าง ไปยังจุดหมายต่อไป
เดินทางออกมาไกลพอสมควรผมมีธุระจะต้องใช้โทรศัพท์เพื่อติดต่องาน แต่พอผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อที่จะเติมเงินเข้ามือถือจากแอพพลิเคชั่นของธนาคารผมไม่สามารถทำรายการได้เนื่องจากโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ผมคิดแค่ว่าตัวสัญญาณอาจจะยังไม่ดีเพราะผมพึ่งเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานเลยตัดสินใจ Restartมือถือ 1 ครั้งผลที่ออกมาก็ยังไม่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้เหมือนเดิม
ผมแวะจุดพักรถเพื่อขอน้องคนหนึ่งต่อ Hotspot เพื่อที่จะเติมเงินเข้ามือถือ หลังจากที่ผมเติมเงินเรียบร้อยและคุยธุระเสร็จแล้วผมได้ติดต่อไปหาเจ้าหน้าที่ Call Center เพื่อสอบถามรายละเอียดอีกครั้ง
และคำตอบที่ผมได้รับคือผมจะโดนตัดสิทธิ์ทุกอย่างเมื่อทำการเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานไม่ว่าจะเป็นแพ็คเกจรายเดือนหรือแม้กระทั่งแพ็กเกจเสริมที่ผมซื้อต่างหากไม่ว่าจะเป็นการซื้อผ่านแอพพลิเคชั่นหรือการกดสมัคร ตัดวงเงินจากบัตร ทุกอย่างจะต้องโดนรีเซ็ตหมด
ผมตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ว่าผมจ่ายเงินไปแล้วและผมพึ่งจ่ายไปเพื่อซื้อบริการของคุณแต่ผมใช้ไม่ได้ ถูกต้องใช่ไหม?
เจ้าหน้าที่ตอบว่า "ใช่ทุกอย่างที่ผมจ่ายไปแม้กระทั่งก่อนหน้าไม่กี่ชั่วโมงหรือซื้อแล้วจ่ายแล้วก็โดน Reset หมด" อีกทั้งรอบบิลล่าสุดที่ยังไม่ออกมาผมต้องจ่ายด้วย (รอบบิลผมตัดทุกวันที่ 21 ของทุกเดือน)
ผมเลยพูดกับเจ้าหน้าที่ว่าถ้ารีเซ็ตหมดบิลล่าสุดทำไมไม่รีเซ็ตให้ผมด้วย เจ้าหน้าที่ก็ตอบว่าเนื่องจากมีการใช้บริการและระบบบันทึกข้อมูลไปแล้วยังไงก็ต้องจ่าย
ผมบอกว่าผมเข้าใจว่าผมต้องจ่ายแต่ถ้าคุณบอกว่าระบบบันทึกไปแล้วว่ามีการใช้งาน แล้วส่วนที่ผมซื้อบริการมีการหักเงินผมไปแล้วผ่านบัตร เงินออกจากบัญชีเรียบร้อย ระบบบันทึกข้อมูลไปแล้วว่าผมซื้อแพ็คเกจแต่ทำไมผมใช้แพคเกจที่ผมซื้อไม่ได้
พนักงานก็ไม่สามารถให้คำตอบผมได้แจ้งเพียงแต่ว่าระบบมันเป็นแบบนี้ ซึ่งพนักงานก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เพราะไม่มีนโยบายคืนเงินหรือใดๆทั้งสิ้น
#สรุปเหตุการณ์ในครั้งนี้#
1.เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์บริการและ Call Center ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน
2.ผมต้องรอจ่ายค่าบริการรอบบิลล่าสุด แต่ในทางสวนกันผมไม่สามารถใช้บริการที่ผมพึ่งจะจ่ายเงินเพื่อซื้อไปได้
3.ถ้าเกิดรถผมไปเสียกลางทางผมต้องใช้โทรศัพท์เพื่อติดต่อด่วนผมต้องทำยังไง ต้องรอคนมาช่วย ต้องโบกรถข้างทาง หรือผมต้องไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าป่าเจ้าเขาเพื่อให้สัญญาณโทรศัพท์เข้าเครื่อง
ผมเข้าใจได้ว่ามันอาจจะเป็นเพราะความสะเพร่าของตัวผมเองแต่เจ้าหน้าที่ก็ควรให้ข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้หรือไม่ และเป็นข้อมูลที่ควรตรงกัน
#มันก็แค่ทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆเท่านั้น#
เหตุการณ์ครั้งนั้นผมโทรไปติชมการให้บริการตามปกติเท่านั้นและก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรอีกเลยรอเพียงแต่ต้องจ่ายบิลค่าบริการเดือนล่าสุดเท่านั้น แต่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันก็ไม่มีการเรียกเก็บเงินเข้ามาเลย จนผมคิดไปเองว่าเจ้าหน้าที่อาจจะแสดงความรับผิดชอบโดยการไม่เก็บค่าบริการเดือนล่าสุด
#################
และเมื่อประมาณวันที่ 20 เดือนพฤษภาคมผมได้ทำการติดตั้งอินเตอร์เน็ตบ้านและทรูวิชั่นที่คอนโดเพิ่มอีก 1 บริการ ในส่วนนี้ผมค่อนข้างประทับใจกับเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการให้เพราะมีการแจ้งรายละเอียดอย่างชัดเจนว่าผมต้องจ่ายเงินเพิ่มมากกว่าลูกค้าทั่วไปที่ติดตั้งฟรีเพราะต้องเสียค่าคู่สายระยะสายที่มันยาวเกินที่ทางบริษัทกำหนดให้ ซึ่งผมยินดีที่จะจ่าย
มันทำให้ผมมองเจ้าหน้าที่ของ True ในมุมมองที่ดีขึ้น
#################
มีต่อ part 2
TrueMove H กับพนักงานที่ไม่มี Service Mind
ก่อนอื่นต้องบอกว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในพันทิป สมัครมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
กระทู้นี้ผมมาแชร์ประสบการณ์และสิ่งที่ได้เจอจากการใช้บริการ โดยผมจะเล่าเป็นฉากๆ เพื่อที่จะได้เข้าใจกันง่ายๆถึงสิ่งที่ผมพบเจอในช่วงนี้ ซึ่งมันทำให้ผมนึกถึงความรู้สึกแย่ๆที่ผมเคยมีมาก่อนหน้าด้วย
ผมใช้บริการ TrueMove H อยู่ 3เบอร์ แต่จะพูดถึงเพียง 2 เบอร์ โดยแบ่งเป็น
เบอร์ A เคยเป็นแบบรายเดือนเปลี่ยนมาใช้เป็นแบบเติมเงินได้ประมาณ 2 เดือน
เบอร์ B เป็นแบบรายเดือนจดทะเบียนในชื่อคุณแม่แต่ผมเป็นคนจ่าย
ก่อนเดือนเมษายนทั้ง 2 เบอร์จดทะเบียนเป็นรูปแบบรายเดือนแพ็คเกจโปรโมชั่นเหมือนกันทั้ง 2 เบอร์ ราคาเต็มที่ 899 บาทและยังมีส่วนลดโปรโมชั่นอีก 50% เป็นระยะเวลา 1 ปีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นผมเลยต้องจ่ายประมาณ 500 บาทต่อเบอร์ต่อเดือนไม่รวมกับแพ็คเกจเสริมที่ซื้อเพิ่ม โดยการชำระเงินส่วนมากผมจะชำระผ่าน Application True iService และผมเป็นคนใช้อินเตอร์เน็ตเยอะมากบางเดือนใช้ข้อมูลไปมากกว่า 100 GB/เบอร์ เลยทำให้ค่าบริการอยู่ที่เกือบพันบาทตลอดซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะตัวผมเองก็รู้ว่าเดือนเดือนนึงผมใช้เน็ตและค่าบริการไปเท่าไหร่
จนกระทั่งเมื่อเดือนเมษายนผมเริ่มสงสัยบิลค่าบริการของเบอร์ B ซึ่ง 2 เดือนก่อนเมษายน ค่าบริการของเบอร์นี้อยู่ที่ประมาณเกือบ 1,000 บาท มา 2-3 เดือนแล้ว แต่ตัวผมเองแน่ใจว่าผมไม่ได้ซื้อบริการเสริมกับเบอร์นี้จนต้องถึง 1000 บาทแน่นอน
ประมาณวันที่ 18 หรือ 19 เมษายนผมเลยโทรถาม Call Center ของ True Move Hว่าค่าบริการของผมมีรายละเอียดอะไรบ้างซึ่งคำตอบที่ผมได้รับคือส่วนลด 50% ของผมหมดไปประมาณน่าจะ 2 เดือนแล้ว (น่าจะหมดตั้งแต่ ก.พ. แล้ว) เลยทำให้ผมต้องจ่ายบิลเต็ม
#แต่ผมไม่ได้รับแจ้งว่าส่วนลด 50% นั้นจะหมดลง ทั้งที่จริงควรติดต่อมาแจ้งผมก่อน เพราะว่าทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็น การโทรแจ้ง, ข้อความ ,ไปรษณีย์หรือกระทั่งอีเมลล์ ในส่วนนี้ไม่มีการส่งแจ้งมาเลย
ทำให้ผมเสียความรู้สึกเล็กน้อยแต่ก็ยินดีที่จะจ่ายเงิน
ผมเลยถือโอกาสเช็คเบอร์ A ด้วย เพราะผมกลัวจะโดนเรียกเก็บค่าบริการเต็มบิลโดยไม่แจ้งล่วงหน้าเหมือนเบอร์ B แต่ในส่วนของเบอร์นี้นั้นยังได้รับส่วนลดอยู่อีกระยะหนึ่ง
ผมโทรติดต่อ Call Center เพื่อสอบถามเกี่ยวกับโปรโมชั่นที่ผมจะใช้งานต่อทั้ง 2 เบอร์แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่สามารถให้ส่วนลดได้อีกแล้ว หรือโปรโมชั่นที่มีให้ก็ต้องจ่ายในราคาที่ค่อนข้างสูงแต่ได้อินเตอร์เน็ตไม่เกิน 20 กิ๊กกะไบต์ ยอมรับว่าตอนนั้นผมลังเลใจที่จะย้ายไปใช้บริการค่ายใหม่อยู่เหมือนกัน
ในวันที่ 19 เมษายนช่วงบ่ายผมไปที่โรบินสันไลฟ์สไตล์สกลนคร และได้เข้าไปที่ทรูช้อปเพื่อติดต่อสอบถาม Promotionและเปลี่ยนแปลงการใช้บริการแต่โปรโมชั่นที่พนักงานเสนอก็คล้ายคล้ายกับของ Call Center และราคาอยู่ที่ 700 ถึง 800 บาท(ไม่มีส่วนลด 50% แล้ว) ผมจึงสอบถามในส่วนของโปรโมชั่นแบบเติมเงินซึ่งถ้าเทียบกันกับแบบรายเดือนโปรโมชั่นแบบเติมเงินผมสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ไม่ต่ำกว่า 75 กิกะไบต์ต่อเดือน
โดยโปรโมชั่นนี้จะอยู่ใน Application True Money wallet เป็นโปรโมชั่นราคา 150 บาทใช้งาน 7 วันได้รับอินเตอร์เน็ต 15 กิกะไบต์ ซึ่งหมายความว่าใน 1 เดือนผมเติมเงิน 750 บาทแต่ผมจะได้รับอินเตอร์เน็ต 75 กิกะไบต์แถมยังไม่ต้องเสีย vat 7% อีกด้วยรวมถึงยังได้เงินคืนอีกบางส่วนจาก Application นี้ จุดนี้เลยเป็นตัวตัดสินใจให้ผมเปลี่ยนมาใช้จากรายเดือนเป็นแบบเติมเงิน (ก่อนที่ผมจะมาที่ศูนย์บริการผมได้ซื้อแพคเกจเสริมไว้เรียบร้อยแล้ว มีการหักเงินออกจากบัญชีผมไปเรียบร้อยด้วยเหมือนกัน) ผมได้พูดถึงและปรึกษาในส่วนของการย้ายค่ายหรือยกเลิกบริการด้วยเหมือนกันแต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้แจ้งว่าไม่มีโปรโมชั่นอะไรให้มากนัก
########
ผมสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าถ้าผมเปลี่ยนมาใช้แบบเติมเงิน package รายเดือน ยริการทั้งหมดที่เกี่ยวเรียกเก็บมากับบิลรายเดือนจะถูกตัดสิทธิ์ทันทีเลยใช่ไหม
พนักงานตอบว่าใช่ สิทธิ์ทั้งหมดจะโดนระงับทันที
ผมเลยถามว่าแล้วผมซื้อแพ็คเกจที่ไม่เกี่ยวกับบิลรายเดือนผมจะยังใช้งานได้อยู่หรือไม่เพราะผมซื้อแพ็คเกจเสริมแบบหักเงินจากบัตรเครดิตไปเรียบร้อยแล้ว
พนักงานแจ้งว่าถ้าไม่เกี่ยวกับบิลรายเดือนก็ยังสามารถใช้ได้
#####
(ช่วงที่อยู่ในห้างมือถือผมต่อ wifi hotspot. )
หลังจากดำเนินการทุกอย่างเสร็จสิ้นไม่มีปัญหาผมได้เดินทางออกจากห้าง ไปยังจุดหมายต่อไป
เดินทางออกมาไกลพอสมควรผมมีธุระจะต้องใช้โทรศัพท์เพื่อติดต่องาน แต่พอผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อที่จะเติมเงินเข้ามือถือจากแอพพลิเคชั่นของธนาคารผมไม่สามารถทำรายการได้เนื่องจากโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ผมคิดแค่ว่าตัวสัญญาณอาจจะยังไม่ดีเพราะผมพึ่งเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานเลยตัดสินใจ Restartมือถือ 1 ครั้งผลที่ออกมาก็ยังไม่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้เหมือนเดิม
ผมแวะจุดพักรถเพื่อขอน้องคนหนึ่งต่อ Hotspot เพื่อที่จะเติมเงินเข้ามือถือ หลังจากที่ผมเติมเงินเรียบร้อยและคุยธุระเสร็จแล้วผมได้ติดต่อไปหาเจ้าหน้าที่ Call Center เพื่อสอบถามรายละเอียดอีกครั้ง
และคำตอบที่ผมได้รับคือผมจะโดนตัดสิทธิ์ทุกอย่างเมื่อทำการเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานไม่ว่าจะเป็นแพ็คเกจรายเดือนหรือแม้กระทั่งแพ็กเกจเสริมที่ผมซื้อต่างหากไม่ว่าจะเป็นการซื้อผ่านแอพพลิเคชั่นหรือการกดสมัคร ตัดวงเงินจากบัตร ทุกอย่างจะต้องโดนรีเซ็ตหมด
ผมตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ว่าผมจ่ายเงินไปแล้วและผมพึ่งจ่ายไปเพื่อซื้อบริการของคุณแต่ผมใช้ไม่ได้ ถูกต้องใช่ไหม?
เจ้าหน้าที่ตอบว่า "ใช่ทุกอย่างที่ผมจ่ายไปแม้กระทั่งก่อนหน้าไม่กี่ชั่วโมงหรือซื้อแล้วจ่ายแล้วก็โดน Reset หมด" อีกทั้งรอบบิลล่าสุดที่ยังไม่ออกมาผมต้องจ่ายด้วย (รอบบิลผมตัดทุกวันที่ 21 ของทุกเดือน)
ผมเลยพูดกับเจ้าหน้าที่ว่าถ้ารีเซ็ตหมดบิลล่าสุดทำไมไม่รีเซ็ตให้ผมด้วย เจ้าหน้าที่ก็ตอบว่าเนื่องจากมีการใช้บริการและระบบบันทึกข้อมูลไปแล้วยังไงก็ต้องจ่าย
ผมบอกว่าผมเข้าใจว่าผมต้องจ่ายแต่ถ้าคุณบอกว่าระบบบันทึกไปแล้วว่ามีการใช้งาน แล้วส่วนที่ผมซื้อบริการมีการหักเงินผมไปแล้วผ่านบัตร เงินออกจากบัญชีเรียบร้อย ระบบบันทึกข้อมูลไปแล้วว่าผมซื้อแพ็คเกจแต่ทำไมผมใช้แพคเกจที่ผมซื้อไม่ได้
พนักงานก็ไม่สามารถให้คำตอบผมได้แจ้งเพียงแต่ว่าระบบมันเป็นแบบนี้ ซึ่งพนักงานก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เพราะไม่มีนโยบายคืนเงินหรือใดๆทั้งสิ้น
#สรุปเหตุการณ์ในครั้งนี้#
1.เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์บริการและ Call Center ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน
2.ผมต้องรอจ่ายค่าบริการรอบบิลล่าสุด แต่ในทางสวนกันผมไม่สามารถใช้บริการที่ผมพึ่งจะจ่ายเงินเพื่อซื้อไปได้
3.ถ้าเกิดรถผมไปเสียกลางทางผมต้องใช้โทรศัพท์เพื่อติดต่อด่วนผมต้องทำยังไง ต้องรอคนมาช่วย ต้องโบกรถข้างทาง หรือผมต้องไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าป่าเจ้าเขาเพื่อให้สัญญาณโทรศัพท์เข้าเครื่อง
ผมเข้าใจได้ว่ามันอาจจะเป็นเพราะความสะเพร่าของตัวผมเองแต่เจ้าหน้าที่ก็ควรให้ข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้หรือไม่ และเป็นข้อมูลที่ควรตรงกัน
#มันก็แค่ทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆเท่านั้น#
เหตุการณ์ครั้งนั้นผมโทรไปติชมการให้บริการตามปกติเท่านั้นและก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรอีกเลยรอเพียงแต่ต้องจ่ายบิลค่าบริการเดือนล่าสุดเท่านั้น แต่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันก็ไม่มีการเรียกเก็บเงินเข้ามาเลย จนผมคิดไปเองว่าเจ้าหน้าที่อาจจะแสดงความรับผิดชอบโดยการไม่เก็บค่าบริการเดือนล่าสุด
#################
และเมื่อประมาณวันที่ 20 เดือนพฤษภาคมผมได้ทำการติดตั้งอินเตอร์เน็ตบ้านและทรูวิชั่นที่คอนโดเพิ่มอีก 1 บริการ ในส่วนนี้ผมค่อนข้างประทับใจกับเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการให้เพราะมีการแจ้งรายละเอียดอย่างชัดเจนว่าผมต้องจ่ายเงินเพิ่มมากกว่าลูกค้าทั่วไปที่ติดตั้งฟรีเพราะต้องเสียค่าคู่สายระยะสายที่มันยาวเกินที่ทางบริษัทกำหนดให้ ซึ่งผมยินดีที่จะจ่าย
มันทำให้ผมมองเจ้าหน้าที่ของ True ในมุมมองที่ดีขึ้น
#################
มีต่อ part 2