สวัสดีครับทุกคน ห่างหายจากการสิงบอร์ดไป2เดือน เกือบๆ 3เดือน เนื่องจาก การผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
และพักฟื้นแผลผ่าตัด ซึ่ง ในระหว่างนั้นไม่สามารถออกกำลังกายได้เต็มที่ บวกกับ ติดหยุดยาวบริษัท จึงทำให้ต้องหยุดพัก
การออกกำลังกายไปถึง2เดือน และแน่นอนช่วงหยุดพักก็กินแหลก แหกกระจาด น้ำหนักขึ้นมาบ้างประมาณ3กิโล ฮ่าๆๆๆ
โทษใครไม่ได้เลย นอกจากปากตัวเอง
เมื่อวานเป็นวันที่2 ที่กลับมาวิ่งออกกำลังกายดังเดิม บอกคำเดียวครับ หอบแ**ก เลยทีเดียว ปกติก่อนหยุดพัก วิ่งอยู่ที่ระยะทาง
ประมาณ7-10กิโลต่อวัน ด้วยความเร็วเพช6-7 กลับมาคราวนี้ วิ่งได้ต่อเนื่องได้แค่3-4กิโลเมตร ความเร็วเพช8 หลังจากนั้นเดินครับ
วิ่งต่อไม่ไหว ดรอปไปเยอะมาก แต่ในใจก็คิดว่า เท่านี้ก็บุญหัวแล้ว ร่างกายห่างมานานคงต้องฟื้นฟูประสิทธิภาพอีกสักพัก
พล่ามมาเยอะแล้ว แค่จะแวะมาบอกทุกคนว่า ใครที่ไม่มีไฟ ใครที่กำลังจะลดความอ้วน ขอให้สู้ๆนะครับ มาสู้เหมือนกันกับผมอีกครั้ง
สุขภาพคือสิ่งสำคัญ เพราะร่างกายเราต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งนี้ไปอีกนาน ใครมีวิธีใด แนวไหนที่ไม่ฝืนธรรมชาติก็มาแชร์กันได้ครับ
สุดท้าย อยากจะขอเตือนเกี่ยวกับ "โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทสักนิด"
ประสบการณ์จริงที่ผมเป็นเองข้อที่L5S1 แถวๆแนวกระดูกสะโพก ทนเจ็บมานานถึง3ปี ตอนนี้ได้หายไปประมาณ99% แล้วครับ อีก1% คือ
อาการเสียวเล็กๆน้อยๆ
จากที่ได้สอบถามทางแพทย์มา พบว่า โรคนี้ส่วนใหญ่จะพบในวัยทำงาน ผู้ยกของหนัก ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก และผู้ที่ชอบนั่งอยู่กับที่นานๆ
ในส่วนของอาการที่พบ จะมีอาการเจ็บจี๊ดๆตรงสะโพก(เรารู้ว่าเจ็บตรงไหน แต่กดไปเท่าไรก็ไม่บรรเทา)และจะปวดร้าวเหมือนไฟช็อตตลอด
เวลาลงขาซ้ายไปจนถึงปลายเท้า โรคนี้ค่อนข้างมีอิทธิพลกับการใช่ชีวิตอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเดิน นั่ง นอน อาการมันจะมาทุกครั้งที่เรา
อยู่กับที่นานๆ แถมยิ่งปล่อยไว้นานอาการจะหนักขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งค่า ผ่าตัดค่อนข้างสูงผมโดนไปเกือบ2แสนบาท โชคดีที่มีประกันบริษัทช่วยได้
ดังนั้น ขอเตือนเพื่อนๆเลยครับ ถ้าหากใครยังใช้ชีวิตที่ประมาท ไม่ระมัดระวัง ไม่รักษาสุขภาพ โอกาสเป็นโรคนี้ค่อนข้างสูงมาก
ถ้าใครรู้ตัวว่าเริ่มมีอาการให้รีบไปพบแพทย์ครับ หรือให้รีบปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้ถูกต้องนะครับด้วยความเป็นห่วง
เพราะมันทรมานจริงๆ ส่วนคนที่ผ่าตัดแล้วไม่หาย แพทย์บอกชัดเจนครับ คือ คนที่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ผ่าตัดแล้วไม่รักษาตัว
กลับไปใช้ชีวิตแบบผิดหลักเลยทำให้ไม่หายขาด
ที่จะบอกก็คงจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ หลังจากนี้เราไปออกกำลังกายเถอะทุกคน!!!!!
สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ เป็นอย่างไรกันบ้าง
และพักฟื้นแผลผ่าตัด ซึ่ง ในระหว่างนั้นไม่สามารถออกกำลังกายได้เต็มที่ บวกกับ ติดหยุดยาวบริษัท จึงทำให้ต้องหยุดพัก
การออกกำลังกายไปถึง2เดือน และแน่นอนช่วงหยุดพักก็กินแหลก แหกกระจาด น้ำหนักขึ้นมาบ้างประมาณ3กิโล ฮ่าๆๆๆ
โทษใครไม่ได้เลย นอกจากปากตัวเอง
เมื่อวานเป็นวันที่2 ที่กลับมาวิ่งออกกำลังกายดังเดิม บอกคำเดียวครับ หอบแ**ก เลยทีเดียว ปกติก่อนหยุดพัก วิ่งอยู่ที่ระยะทาง
ประมาณ7-10กิโลต่อวัน ด้วยความเร็วเพช6-7 กลับมาคราวนี้ วิ่งได้ต่อเนื่องได้แค่3-4กิโลเมตร ความเร็วเพช8 หลังจากนั้นเดินครับ
วิ่งต่อไม่ไหว ดรอปไปเยอะมาก แต่ในใจก็คิดว่า เท่านี้ก็บุญหัวแล้ว ร่างกายห่างมานานคงต้องฟื้นฟูประสิทธิภาพอีกสักพัก
พล่ามมาเยอะแล้ว แค่จะแวะมาบอกทุกคนว่า ใครที่ไม่มีไฟ ใครที่กำลังจะลดความอ้วน ขอให้สู้ๆนะครับ มาสู้เหมือนกันกับผมอีกครั้ง
สุขภาพคือสิ่งสำคัญ เพราะร่างกายเราต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งนี้ไปอีกนาน ใครมีวิธีใด แนวไหนที่ไม่ฝืนธรรมชาติก็มาแชร์กันได้ครับ
สุดท้าย อยากจะขอเตือนเกี่ยวกับ "โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทสักนิด"
ประสบการณ์จริงที่ผมเป็นเองข้อที่L5S1 แถวๆแนวกระดูกสะโพก ทนเจ็บมานานถึง3ปี ตอนนี้ได้หายไปประมาณ99% แล้วครับ อีก1% คือ
อาการเสียวเล็กๆน้อยๆ
จากที่ได้สอบถามทางแพทย์มา พบว่า โรคนี้ส่วนใหญ่จะพบในวัยทำงาน ผู้ยกของหนัก ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก และผู้ที่ชอบนั่งอยู่กับที่นานๆ
ในส่วนของอาการที่พบ จะมีอาการเจ็บจี๊ดๆตรงสะโพก(เรารู้ว่าเจ็บตรงไหน แต่กดไปเท่าไรก็ไม่บรรเทา)และจะปวดร้าวเหมือนไฟช็อตตลอด
เวลาลงขาซ้ายไปจนถึงปลายเท้า โรคนี้ค่อนข้างมีอิทธิพลกับการใช่ชีวิตอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเดิน นั่ง นอน อาการมันจะมาทุกครั้งที่เรา
อยู่กับที่นานๆ แถมยิ่งปล่อยไว้นานอาการจะหนักขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งค่า ผ่าตัดค่อนข้างสูงผมโดนไปเกือบ2แสนบาท โชคดีที่มีประกันบริษัทช่วยได้
ดังนั้น ขอเตือนเพื่อนๆเลยครับ ถ้าหากใครยังใช้ชีวิตที่ประมาท ไม่ระมัดระวัง ไม่รักษาสุขภาพ โอกาสเป็นโรคนี้ค่อนข้างสูงมาก
ถ้าใครรู้ตัวว่าเริ่มมีอาการให้รีบไปพบแพทย์ครับ หรือให้รีบปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้ถูกต้องนะครับด้วยความเป็นห่วง
เพราะมันทรมานจริงๆ ส่วนคนที่ผ่าตัดแล้วไม่หาย แพทย์บอกชัดเจนครับ คือ คนที่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ผ่าตัดแล้วไม่รักษาตัว
กลับไปใช้ชีวิตแบบผิดหลักเลยทำให้ไม่หายขาด
ที่จะบอกก็คงจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ หลังจากนี้เราไปออกกำลังกายเถอะทุกคน!!!!!