ต่อจากตอนแรกนะครับ
https://pantip.com/topic/43881826
เมื่อหมอปฏิเสธไม่ทำการผ่าตัดให้ / หรือปาฏิหาริย์จะมีจริง
ผมไปพบหมอ Orthopedics ตามนัดเพื่อตัดสินชี้ชะตาว่าจะทำการผ่าตัดรักษาอาการหมอนรองกระดูกฉีกขาดหรือไม่
ก่อนไปตั้งความหวังไว้เต็มที่เลยว่า ...
อีก 3 เดือนจะลางานผ่าตัดยังไง ใครจะขับรถให้ ฯลฯ
ยอมรับตรงๆ ว่า อยากหาย + ไม่กลัวการผ่าตัด + หมอคนก่อนหน้านี้ให้ความหวังมาว่าจะนัดให้ไปคุยกับ อ.หมอ
แต่เกมพลิกครับ ... หลังจากที่หมอหนุ่มเดินเข้าเดินออกไปปรึกษาทีมผ่าตัดกับ อ.หมอ ทางนั้นลงความเห็นมาว่า ยังไม่ควรผ่าตัด
ท้าวความก่อนว่า ผล MRI เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนบอกชัดเจนแล้วว่า หมอนรองกระดูกฉีกขาด+มีอาการเข่าเสื่อม
เช้าวันตัดสินชี้ชะตา ผมเข้ารับ X-Ray เข่า 2 ข้าง โดยให้ยืนเขย่งทีละข้าง
หมอหนุ่ม (น่าจะ Intern มาเรียนต่อเฉพาะทางออร์โธฯ) ดูจอแล้วสีหน้าหนักใจ
บอกว่าเข่าเสื่อม 2 ข้าง ค่อนข้างมาก แต่เช็คแล้วผมไม่มีอาการปวดเข่าเลย ไม่ว่าจะจับพลิกซ้ายขวาให้เอียงบิดท่าไหนก็ไม่ปวด
แต่จะปวดกล้ามเนื้อหลังเข่าแทน ซึ่งเป็นอาการสามัญของหมอนรองกระดูกเข่าฉีกขาด
*ที่ไม่ปวดเขา เพราะผมออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อรอบเข่ากับสะโพกเป็นประจำ*
คำถามที่หมอหนุ่มถามคือ อยากไปทางเย็บซ่อมหรือผ่าเปลี่ยนข้อเข่าแบบ Semi (ใช้ข้อเข่าเทียมขนาดเล็ก เพราะเข่ามันชำรุดมากตรงมุมด้านใน)
ผมบอกหมอหนุ่มไปว่า แล้วแต่หมอ...ทางไหนก็สุดแท้แต่ อ.หมอ
หมอหนุ่มถามผมว่า ... ถ้าหมอแนะนำ คุณจะฟังหมอไหม
คำตอบคือ ... ฟังสิครับ ไม่งั้นผมจะมาหาทำไม
หมอหนุ่มบอกรอสักครู่ครับ ผมไปคุยกับ อ.หมอ กับทีม ก่อน
คำตอบที่ได้คือ NO.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทางทีมคิดว่าคุณยังอายุน้อยเกินไปที่จะเปลี่ยนข้อเข่า
เพราะมันมีอายุการใช้งาน 10ปี+ โดยประมาณ
ถ้าเปลี่ยนตอนนี้ ยังไม่ถึง 70 ก็ต้องมาทำอีกที
และการเย็บซ่อมหมอนรองกระดูกมีโอกาสจะไม่ประสบความสำเร็จ
เพราะข้อเข่ามันบางมากแล้ว
คุณแข็งแรงมาก กล้ามเนื้อดูดี หมออยากให้ไปทางกายภาพก่อน
เดี๋ยวจะส่งต่อให้หมอภายภาพสอนท่าฝึกกล้ามเนื้อรอบเข่า+ทำอัลตร้าซาวด์เพิ่มเติม
ผม
STUNT ไปชั่วครู่เมื่อได้ฟังคำตอบ ไม่คิดเลยว่าอาการลังเลเพียงแค่ชั่วขณะเมื่อหมอถามว่าจะผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าจริงหรือ
มันจะพาเกมพลิกไปทางกายภาพบำบัด ...
บอกตรงๆ ถ้าทำได้ผมอยากหาย อยากกลับไปวิ่งอีกครั้ง
แล้วผมก็เริ่มบ่น ว่าทำไมหมอไม่ผ่า ฯลฯ ผมอยากหาย ฯลฯ
ไอ้ที่ว่าไม่เจ็บมันตอนนี้ (โว้ย) แต่แค่ไปเดินมากหน่อยก็เจ็บเอ็นหลังเข่าแล้ว
ผมมาที่นี่ตามสิทธิ ถ้าไปเอกชนมันแพง (หมอก็รู้...ใช่ไหม)
อีก 5 นาทีต่อมาหมอหนุ่มก็เริ่มไล่ผมทางอ้อม ... แค่นี้นะครับ มีอะไรอีกไหม
ผมยื้อต่ออีก 5 นาที ถามไปเรื่อยๆ เกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติตัวและการออกกำลังกาย
ก่อนจะยื้อต่อไม่ไหว เลยขอสำเนาซีดี MRI + X-Ray
เพื่อเอาไปคุยกับ หมอผู้เชี่ยวชาญอาการบาดเจ็บนักกีฬา ที่ผมเคยไปรับคำปรึกษาอยู่
โดยที่หมอหนุ่ม ตบท้ายว่าแบบนี้ไป รพ.เอกชน เขาจับ (ลุง) ผ่าแน่นอนครับ
(ค่าใช้จ่ายรู้ๆ กัน สองแสนเศษ)
เวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ หรือมันจะดีกว่าที่ไม่ได้ผ่า...หรือ ปาฏิหาริย์จะมีจริง
(ต่อในความเห็นครับ)
ไดอารี่คนเจ็บเข่ารอขึ้นเขียงตอนที่ 2 (ในเมื่อหมอปฏิเสธบอกว่าไม่ต้องผ่าตัด)
เมื่อหมอปฏิเสธไม่ทำการผ่าตัดให้ / หรือปาฏิหาริย์จะมีจริง
ผมไปพบหมอ Orthopedics ตามนัดเพื่อตัดสินชี้ชะตาว่าจะทำการผ่าตัดรักษาอาการหมอนรองกระดูกฉีกขาดหรือไม่
ก่อนไปตั้งความหวังไว้เต็มที่เลยว่า ... อีก 3 เดือนจะลางานผ่าตัดยังไง ใครจะขับรถให้ ฯลฯ
ยอมรับตรงๆ ว่า อยากหาย + ไม่กลัวการผ่าตัด + หมอคนก่อนหน้านี้ให้ความหวังมาว่าจะนัดให้ไปคุยกับ อ.หมอ
แต่เกมพลิกครับ ... หลังจากที่หมอหนุ่มเดินเข้าเดินออกไปปรึกษาทีมผ่าตัดกับ อ.หมอ ทางนั้นลงความเห็นมาว่า ยังไม่ควรผ่าตัด
ท้าวความก่อนว่า ผล MRI เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนบอกชัดเจนแล้วว่า หมอนรองกระดูกฉีกขาด+มีอาการเข่าเสื่อม
เช้าวันตัดสินชี้ชะตา ผมเข้ารับ X-Ray เข่า 2 ข้าง โดยให้ยืนเขย่งทีละข้าง
หมอหนุ่ม (น่าจะ Intern มาเรียนต่อเฉพาะทางออร์โธฯ) ดูจอแล้วสีหน้าหนักใจ
บอกว่าเข่าเสื่อม 2 ข้าง ค่อนข้างมาก แต่เช็คแล้วผมไม่มีอาการปวดเข่าเลย ไม่ว่าจะจับพลิกซ้ายขวาให้เอียงบิดท่าไหนก็ไม่ปวด
แต่จะปวดกล้ามเนื้อหลังเข่าแทน ซึ่งเป็นอาการสามัญของหมอนรองกระดูกเข่าฉีกขาด
*ที่ไม่ปวดเขา เพราะผมออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อรอบเข่ากับสะโพกเป็นประจำ*
คำถามที่หมอหนุ่มถามคือ อยากไปทางเย็บซ่อมหรือผ่าเปลี่ยนข้อเข่าแบบ Semi (ใช้ข้อเข่าเทียมขนาดเล็ก เพราะเข่ามันชำรุดมากตรงมุมด้านใน)
ผมบอกหมอหนุ่มไปว่า แล้วแต่หมอ...ทางไหนก็สุดแท้แต่ อ.หมอ
หมอหนุ่มถามผมว่า ... ถ้าหมอแนะนำ คุณจะฟังหมอไหม
คำตอบคือ ... ฟังสิครับ ไม่งั้นผมจะมาหาทำไม
หมอหนุ่มบอกรอสักครู่ครับ ผมไปคุยกับ อ.หมอ กับทีม ก่อน
คำตอบที่ได้คือ NO.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผม STUNT ไปชั่วครู่เมื่อได้ฟังคำตอบ ไม่คิดเลยว่าอาการลังเลเพียงแค่ชั่วขณะเมื่อหมอถามว่าจะผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าจริงหรือ
มันจะพาเกมพลิกไปทางกายภาพบำบัด ... บอกตรงๆ ถ้าทำได้ผมอยากหาย อยากกลับไปวิ่งอีกครั้ง
แล้วผมก็เริ่มบ่น ว่าทำไมหมอไม่ผ่า ฯลฯ ผมอยากหาย ฯลฯ
ไอ้ที่ว่าไม่เจ็บมันตอนนี้ (โว้ย) แต่แค่ไปเดินมากหน่อยก็เจ็บเอ็นหลังเข่าแล้ว
ผมมาที่นี่ตามสิทธิ ถ้าไปเอกชนมันแพง (หมอก็รู้...ใช่ไหม)
อีก 5 นาทีต่อมาหมอหนุ่มก็เริ่มไล่ผมทางอ้อม ... แค่นี้นะครับ มีอะไรอีกไหม
ผมยื้อต่ออีก 5 นาที ถามไปเรื่อยๆ เกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติตัวและการออกกำลังกาย
ก่อนจะยื้อต่อไม่ไหว เลยขอสำเนาซีดี MRI + X-Ray
เพื่อเอาไปคุยกับ หมอผู้เชี่ยวชาญอาการบาดเจ็บนักกีฬา ที่ผมเคยไปรับคำปรึกษาอยู่
โดยที่หมอหนุ่ม ตบท้ายว่าแบบนี้ไป รพ.เอกชน เขาจับ (ลุง) ผ่าแน่นอนครับ
(ค่าใช้จ่ายรู้ๆ กัน สองแสนเศษ)
เวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ หรือมันจะดีกว่าที่ไม่ได้ผ่า...หรือ ปาฏิหาริย์จะมีจริง
(ต่อในความเห็นครับ)