พ่อแม่ที่อยากให้ลูกเลี้ยงตอนแก่คือคนที่เห็นแก่ตัวค่ะ!

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
ดิฉันเพิ่งตระหนักว่าคนไทยอ่านหนังสือกันน้อยจริงๆ ค่ะ ต้องกราบขออภัยด้วยที่เขียนกระทู้ยาวเกินไป มีแค่ 40% เท่านั้นที่อ่านจบ เอาเป็นว่าดิฉันขอปิดกระทู้แต่เพียงเท่านี้ สรุปคือ กรรมใคร กรรมมันนะคะ แยกย้ายค่ะ (อธิบายเพิ่มเติมที่ คห.21 ค่ะ) ขอบพระคุณค่ะ

--------------------------------------------------

ดิฉันรู้ตัวค่ะว่ากระทู้นี้เสี่ยงบาทามากๆ แต่ขอรบกวนอ่านให้จบก่อนเม้นท์นะคะ ก่อนเข้าเนื้อหาสำคัญ มาอ่านวัตถุประสงค์กันก่อนนะคะ (หมายเหตุตัวโตๆ ว่าดิฉันพูดถึงเฉพาะพ่อแม่ที่มีลูกด้วยความตั้งใจของตัวเอง ไม่ได้ถูกข่มขืนหรือไม่ได้วางแผนเอาไว้นะคะ)

1. ต้องการให้ทุกครอบครัวมอบความรักให้แก่กันและกันให้มากขึ้น และอยากให้พ่อแม่ทุกคนได้ทบทวนตัวเองว่าได้ทำหน้าที่ของตัวเองดีพอแล้วหรือยัง

2. อันนี้สำคัญมากค่ะ ไม่ได้ต้องการให้ลูกๆ หันมาทำตัวเนรคุณบุพการีนะคะ ดิฉันแค่อยากจะคลายพันธนการที่กอดรัดลูกหลานทุกๆ ท่านเอาไว้ซึ่งล้วนแต่ถูกตรึงด้วยคำว่า "กตัญญู" นี่แหละค่ะ (ขอแท็ก "วัยรุ่น" นะคะ เพราะเป็นช่วงวัยที่ถูกคำว่า "กตัญญู" ทำร้ายอย่างบอบช้ำมากที่สุด และถูกทวงบุญคุณจากพ่อแม่สูงสุดด้วยเช่นกันค่ะ ดิฉันขอเอาใจช่วยน้องๆ หลานๆ ให้รักตัวเองให้มากๆ แล้วน้องๆ ก็จะผ่านมันไปได้จนได้พบกับวันที่สดใสในชีวิตค่ะ)

วันนี้เรามาแชร์ความคิดเห็นกันนะคะว่าพ่อแม่นั้นควรผูกพันลูกด้วยความรัก หรือผูกมัดด้วยคำว่า "บุญคุณ" กันแน่ค่ะ

1. "บุญคุณ" ที่พูดถึงกันนั้น แท้จริงคือการทำหน้าที่ต่างหาก
พ่อแม่มีหน้าที่อะไรบ้างคะ ก็เลี้ยงดูลูก ให้การศึกษาแก่ลูก และอบรมสั่งสอนลูกให้เป็นคนดีใช่มั้ยคะ แล้วคุณคิดว่าลูกมีหน้าที่อะไรบ้างคะ ลูกก็ต้องตั้งใจเรียน เป็นคนดี ไม่ทำตัวให้พ่อแม่เดือดร้อนใช่มั้ยคะ ถ้าหากการที่พ่อแม่ทำหน้าที่ของตัวเองแล้วนับว่าเป็นบุญคุณ ถ้าเช่นนั้น การที่ลูกทำหน้าที่ของตัวเองก็เท่ากับว่าพ่อแม่เป็นหนี้บุญคุณลูกด้วยใช่มั้ยคะ ถ้าตอบว่าไม่ใช่ แสดงว่าผู้ใหญ่เอาเปรียบเด็กมากๆ ค่ะ แบบนี้เรียกว่า "ขี้โกง" ชัดๆ

2. อ้าว แต่แม่ก็เสียเลือดเสียเนื้อ เจ็บปวดเป็นอย่างมากเพื่อคลอดเราออกมานะ?
ขอถามทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่ทุกท่านนะคะ มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าคลอดลูกต้องเสียเลือดเสียเนื้อและเจ็บปวดทรมานมากขนาดไหน มีการคลอดลูกครั้งใดในโลกบ้างที่ไม่เสียเลือดแม้แต่หยดเดียว ถามจริ๊ง... พวกเราทุกคนรู้อยู่แล้วว่าขั้นตอนการให้กำเนิดเด็กจะต้องเจออะไรบ้าง แต่พวกเราก็ยังเลือกที่จะมีลูกด้วยความเต็มใจกันทั้งนั้น จริงมั้ยคะ

3. ถ้างั้นการคลอดลูกคืออะไร
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณแม่ที่ถึงกำหนดคลอดแล้วไม่ยอมคลอดลูกออกมา คุณแม่ก็จะต้องตายไปพร้อมกับลูกในท้องใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้น ที่จริงแล้วการคลอดลูกนั้นคือการที่คุณแม่รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ แถมยังได้สมาชิกใหม่มาให้ครอบครัวเชยชม แบบนี้พ่อแม่และครอบครัวของทั้ง 2 ฝั่งได้ประโยชน์แบบ 2 เด้งชัดๆ จริงมั้ยคะ (แต่ถ้าไม่อยากมีลูก ไม่อยากคลอดลูกต้องทำไงคะ ก็ต้องป้องกันนะคะ จำไว้ให้ดี)

4. เพราะฉะนั้นนี่คือกระบวนการหรือสิ่งที่แม่ต้องเสียไปเพื่อให้ได้สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตมา
คู่ชีวิตที่ต้องการจะมีลูก คุณยังจำความรู้สึกตอนที่รู้ว่ากำลังจะมีสมาชิกตัวน้อยคนใหม่ให้กับครอบครัวได้มั้ยคะ หัวใจของคุณเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ คุณฉีกยิ้มหน้าบานเหมือนคนบ้า และคุณพร้อมที่จะสละทุกอย่างเพื่อให้ได้พบหน้าเทวดาตัวน้อยของคุณใช่มั้ยคะ อย่าบอกนะว่าคุณคิดแต่จะเป็นฝ่ายเอาอยู่ข้างเดียว ไม่ยอมเสียสละอะไรเลย เห็นแก่ตัวไปรึเปล่าคะ

5. พ่อแม่ที่ต้องการให้ลูกดูแลตัวเองตอนแก่ คุณมันเห็นแก่ตัวค่ะ!
อันนี้ตัวโตๆ เลยนะคะว่า คู่ชายหญิงที่มีเพศสัมพันธุ์โดยไม่ป้องกันย่อมมีโอกาสที่จะมีลูกใช่มั้ยคะ คุณเป็นคนกำหนดว่าจะให้กำเนิดชีวิตใหม่เมื่อไหร่ แล้วคุณก็ร่างพันธสัญญาผูกมัดลูกเอาไว้ว่าเธอจะต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ตอนแก่ด้วยนะจ๊ะ ถามจริ๊ง!!! ลูกได้รู้รายละเอียดในสัญญาก่อนที่จะมาเกิดมั้ยคะว่าต้องทำหน้าที่นี้ด้วย ก่อนจะเอาคำว่า กตัญญู มามัดคอลูกนี่ได้ปรึกษาลูกแล้วรึยัง นี่มันคือการทำสัญญาแบบเขียนเอง เออเอง มัดมือชกกันชัดๆ แบบนี้ไม่เรียกว่า "เห็นแก่ตัว" แล้วจะให้เรียกว่าอะไร จริงมั้ยคะ

6. อยากให้ลูกดูแลตัวเองตอนแก่ต้องทำตัวอย่างไร
ง่ายมากค่ะ พ่อแม่ทุกท่านจงทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีค่ะ เด็กที่โตมาด้วยความรักความเข้าใจ และได้รับการอบรมสั่งสอนมาดี พวกเค้าจะไม่มีวันคลางแคลงใจหรือเกิดคำถามขึ้นในใจว่าทำไมเค้าต้องดูแลพ่อแม่ตอนแก่ด้วย เพราะตั้งแต่เล็กจนโต พ่อแม่ก็รักเค้า และดูแลเค้าเป็นอย่างดีตลอดมา แล้วทำไมเค้าจะไม่ทำแบบที่พ่อแม่ได้ทำกับเค้าบ้างล่ะ จริงมั้ยคะ (และถ้าหากทุกคนตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ประเทศชาติจะเจริญรุ่งเรืองและสงบสุขอย่างแน่นอนค่ะ)

7. อยากให้ลูกดูแลเรา แล้วเราได้ดูแลตัวเองดีแล้วหรือยัง
ถ้าหากคุณเกิดล้มหมอนนอนเสื่อด้วยอุบัติเหตุหรือโรคที่ไม่ทราบสาเหตุ ไม่มีลูกหลานคนไหนคิดตำหนิคุณหรอกนะคะ มีแต่ความเต็มใจที่จะดูแลพวกคุณ แต่ถ้าหากคุณยังกินทั้งเหล้า สูบบุหรี่ แถมยังไม่ออกกำลังกายด้วย ดิฉันขอพูดแบบโลกสยองเลยว่า ตัวคุณเองยังไม่รักตัวเองเลย แล้วยังคาดหวังว่าลูกหลานจะมารักมาดูแล พวกคุณมันเห็นแก่ตัวค่ะ!

8. แล้วทั้งหมดนี้มันคืออะไร
มันคือรัก ใช่ค่ะ มันคือความรัก เหมือนที่คุณรักแฟนของคุณ คุณซื้อของขวัญให้เค้า คุณซักรีดเสื้อผ้าให้เค้า ดูแลเค้าเพราะคุณรักเค้าใช่มั้ยคะ กับลูกก็เช่นเดียวกันค่ะ คุณอยากให้ลูกกินอาหารอร่อยๆ อยากพาเค้าไปเที่ยวที่สนุกๆ อยากทำทุกอย่างให้เค้ายิ้มหรือหัวเราะ นี่ใช่มั้ยคะที่เรียกว่า ความรัก ไม่ใช่บุญคุณ หรือหน้าที่อะไรเลย ฝากเอาไว้ให้ตรองดูนะคะ

แต่ถ้าหากคุณยังอยากจะมีลูกเอาไว้เลี้ยงตัวเองตอนแก่โดยไม่เคยทำหน้าที่พ่อแม่ให้ดีเลย ดิฉันก็ไม่จุ้นหรอกนะคะ แต่บอกเลยว่า ทุกสิ่งที่เริ่มต้นจากความเห็นแก่ตัว มันจบไม่สวยหรอกค่ะ มันต้องมีคนเจ็บปวดเสมอ แต่ถ้าคุณอยากให้ลูกรักคุณด้วยใจจริง แล้ววันนี้คุณได้แสดงความรักและความห่วงใยต่อลูกแล้วหรือยังคะ

สวัสดีค่ะ อมยิ้ม17

*เพิ่มประโยคเปิดกระทู้อันใหม่ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่