สวัสดีครับ
วันนี้ผมอยากระบายความในใจ ที่มันอัดแน่นมานานมากครับ จนรู้สึกว่าไม่พูดไม่ได้แล้ว
บางทีคนเราก็ไม่ได้อยากขัดใจใคร ไม่ได้อยากดูเป็นคนอกตัญญู แต่บางเรื่อง…มันก็เจ็บปวดที่จะต้องเลือก
ผมเป็นลูกคนเดียวครับ อยู่กับแม่ที่พิการเป็นใบ้และหูหนวกมาตั้งแต่เด็ก พ่อเสียไปนานแล้ว
ผมเติบโตมาท่ามกลางความเงียบและความลำบาก แม่เคยป่วยทางจิต ไม่มีใครพาแกไปรักษา
แต่พอโตขึ้น ผมเริ่มดูแลแม่ได้ ผมพาแกไปหาหมอ พาแกไปรับยา ผมทำทุกอย่างให้แม่ด้วยตัวเอง
แม้ผมจะไม่มีรถ แต่ผมก็หารถพาแกไป รวบรวมเงินจ่ายค่าน้ำมันด้วยแรงงานของผมเอง
ผมไม่มีสมบัติมากมายในชีวิตครับ นอกจากที่ดิน 8 ไร่ ที่แม่ยกให้ไว้เป็นมรดก
ผมตั้งใจว่าจะเก็บไว้ทำกิน ปลูกพืช หาเลี้ยงแม่ และมีชีวิตเรียบง่ายอยู่ตรงนี้
แต่วันหนึ่ง ญาติของผม… ป้าทั้งสองคน พี่สาวของพ่อ
มาขอให้ผม “แบ่งขาย” ที่ดินแค่ 1 งาน ให้ลูกเขาเอาไปปลูกบ้าน
1 งาน… แค่ 1 งาน…
เขาบอกผมว่าแค่นิดเดียวเอง จะไปเสียดายทำไม
เขาบอกว่า ถ้าแม่ผมป่วย เขาจะได้ช่วยดูแล
เขาบอกว่า ผมควรเห็นแก่บุญคุณ เพราะตอนเด็กเขาเคยดูแลผมแทนแม่
ใช่ครับ…
ผมไม่ลืมเลยว่าเขาเคยดูแลผมตอนแม่ป่วย
แต่ทุกวันนี้แม่ดีขึ้นเพราะผมพาแกไปรักษาอย่างต่อเนื่อง
ผมไม่เคยทอดทิ้ง ไม่เคยให้แม่ลำบาก ถึงจะไม่มีเงินมาก แต่ผมไม่เคยขอใคร
ผมเข้าใจว่าเขามีฐานะ ลูกเขาก็มีหน้ามีตาในสังคม
แต่ผมกับแม่… เรามีแค่แผ่นดินผืนนี้
มันคือทั้งหมดของชีวิตผม คือสิ่งที่ผมฝากอนาคตไว้
ผมไม่อยากขาย ไม่ใช่เพราะใจร้าย แต่เพราะมันคือ “ที่พึ่งสุดท้ายของเรา”
แต่ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่า ถ้าไม่ยอม…ผมจะถูกมองว่าเนรคุณ
ถูกมองว่าใจดำ ลืมบุญคุณคน
ทั้งที่ความจริง ผมแค่อยากรักษาสิ่งเดียวที่ผมมีไว้
ผมไม่ได้รวย ผมไม่มีเส้นสาย ผมไม่มีรถหรู
ผมมีแค่แม่…กับดิน 8 ไร่ที่เราต้องอาศัยกันไปทั้งชีวิต
ผมควรทำยังไงครับ…?
ถ้าผมยังยืนยันจะไม่ขาย จะถูกมองว่าเลวไหมครับ?
ถ้าผมปฏิเสธ เขาจะเลิกคบผมไหม…?
หรือผมควรยอม “แลกบุญคุณ” กับอนาคตของตัวเอง?
ผมไม่รู้จะเล่าให้ใครฟังแล้วครับ เลยอยากมาปรึกษาพี่ ๆ ในพันทิป
ขอบคุณทุกความเห็นล่วงหน้านะครับ
ผมแค่คนธรรมดาที่อยากรักษาสิ่งเล็ก ๆ ที่ตัวเองมีไว้เท่านั้นเอง
ญาติขอที่ดินผม 1 งาน แต่ผมไม่อยากขาย… แค่ 1 งานจริง ๆ ต้องยอมเหรอครับ
วันนี้ผมอยากระบายความในใจ ที่มันอัดแน่นมานานมากครับ จนรู้สึกว่าไม่พูดไม่ได้แล้ว
บางทีคนเราก็ไม่ได้อยากขัดใจใคร ไม่ได้อยากดูเป็นคนอกตัญญู แต่บางเรื่อง…มันก็เจ็บปวดที่จะต้องเลือก
ผมเป็นลูกคนเดียวครับ อยู่กับแม่ที่พิการเป็นใบ้และหูหนวกมาตั้งแต่เด็ก พ่อเสียไปนานแล้ว
ผมเติบโตมาท่ามกลางความเงียบและความลำบาก แม่เคยป่วยทางจิต ไม่มีใครพาแกไปรักษา
แต่พอโตขึ้น ผมเริ่มดูแลแม่ได้ ผมพาแกไปหาหมอ พาแกไปรับยา ผมทำทุกอย่างให้แม่ด้วยตัวเอง
แม้ผมจะไม่มีรถ แต่ผมก็หารถพาแกไป รวบรวมเงินจ่ายค่าน้ำมันด้วยแรงงานของผมเอง
ผมไม่มีสมบัติมากมายในชีวิตครับ นอกจากที่ดิน 8 ไร่ ที่แม่ยกให้ไว้เป็นมรดก
ผมตั้งใจว่าจะเก็บไว้ทำกิน ปลูกพืช หาเลี้ยงแม่ และมีชีวิตเรียบง่ายอยู่ตรงนี้
แต่วันหนึ่ง ญาติของผม… ป้าทั้งสองคน พี่สาวของพ่อ
มาขอให้ผม “แบ่งขาย” ที่ดินแค่ 1 งาน ให้ลูกเขาเอาไปปลูกบ้าน
1 งาน… แค่ 1 งาน…
เขาบอกผมว่าแค่นิดเดียวเอง จะไปเสียดายทำไม
เขาบอกว่า ถ้าแม่ผมป่วย เขาจะได้ช่วยดูแล
เขาบอกว่า ผมควรเห็นแก่บุญคุณ เพราะตอนเด็กเขาเคยดูแลผมแทนแม่
ใช่ครับ…
ผมไม่ลืมเลยว่าเขาเคยดูแลผมตอนแม่ป่วย
แต่ทุกวันนี้แม่ดีขึ้นเพราะผมพาแกไปรักษาอย่างต่อเนื่อง
ผมไม่เคยทอดทิ้ง ไม่เคยให้แม่ลำบาก ถึงจะไม่มีเงินมาก แต่ผมไม่เคยขอใคร
ผมเข้าใจว่าเขามีฐานะ ลูกเขาก็มีหน้ามีตาในสังคม
แต่ผมกับแม่… เรามีแค่แผ่นดินผืนนี้
มันคือทั้งหมดของชีวิตผม คือสิ่งที่ผมฝากอนาคตไว้
ผมไม่อยากขาย ไม่ใช่เพราะใจร้าย แต่เพราะมันคือ “ที่พึ่งสุดท้ายของเรา”
แต่ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่า ถ้าไม่ยอม…ผมจะถูกมองว่าเนรคุณ
ถูกมองว่าใจดำ ลืมบุญคุณคน
ทั้งที่ความจริง ผมแค่อยากรักษาสิ่งเดียวที่ผมมีไว้
ผมไม่ได้รวย ผมไม่มีเส้นสาย ผมไม่มีรถหรู
ผมมีแค่แม่…กับดิน 8 ไร่ที่เราต้องอาศัยกันไปทั้งชีวิต
ผมควรทำยังไงครับ…?
ถ้าผมยังยืนยันจะไม่ขาย จะถูกมองว่าเลวไหมครับ?
ถ้าผมปฏิเสธ เขาจะเลิกคบผมไหม…?
หรือผมควรยอม “แลกบุญคุณ” กับอนาคตของตัวเอง?
ผมไม่รู้จะเล่าให้ใครฟังแล้วครับ เลยอยากมาปรึกษาพี่ ๆ ในพันทิป
ขอบคุณทุกความเห็นล่วงหน้านะครับ
ผมแค่คนธรรมดาที่อยากรักษาสิ่งเล็ก ๆ ที่ตัวเองมีไว้เท่านั้นเอง