ช่วงนี้กระแสทุเรียนในไทย ฮอตจนไม่รู้จะฮอตยังไง เราเกิดมาตั้งนาน เพิ่งมามีปีนี้แหละที่รู้สึกว่าทุเรียนไทยเป็นอะไรที่เลอค่าหายากในโลกโซเชี่ยวมว๊ากๆ ทั้งตัวทุเรียนเอง ทั้งนำมาใส่ของหวานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเค้ก หรือบิงซู (ดูเฟสแต่ละวัน ยังไงก็ต้องมีอย่างน้อย 1 คนที่อัพว่าไปกิน) และช่วงก่อนหน้านี้ค่อนข้างแพง ไม่กี่เม็ดเกือบห้าร้อย เราเลยได้กินนิดหน่อยเอง
ประจวบเหมาะกับช่วงที่ผ่านมาเราได้ไปดูงานที่ทวาย ไปถึงอาหารส่วนมากอาจจะไม่ถูกปากเรามากมาย แต่มีอย่างหนึ่งที่ตื่นเต้นสุดคือ ที่นี่ก็มี "ทุเรียนนนนนน" จำนวนมากจ้า มีทุกวัน มีทุกมื้อ ไปดูกันว่าจะต่างจากทุเรียนไทยยังไง
ที่นี่ถ้าเดินไปตามถนน คนวางขายกันริมฟุตบาทเลย เจ้าละไม่ถึง 15 ลุก แต่มีเรื่อยๆตามทางตลอด เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่มาดูแบบที่แกะแล้วบ้างจ้าาา
ผ่าง!!!

ทุเรียนพม่า (ไม่รู้พันธุ์อะไรเหมียนกัน) ลูกย่อม ไม่ใหญ่โตเท่าของไทย และที่นี่จะกินแบบสุกค่อนข้างมากถึงสุกมากจริงๆ จับแล้วเละ คือปอกทุเรียนเอาช้อนแกะเปลือกจากตรงก้นทุเรียนได้เลย เพราะคนที่นี่บอกว่าต้องทานแบบนี้ถึงอร่อย มีรสชาติมีกลิ่นทุเรียนจริงๆ ไม่เหมือนบ้านเราที่ส่วนมากชอบทานแบบห่ามๆ

มาพิสูจน์กันเลยจ้าาา กลิ่นหอมไม่รุนแรงแบบของไทยน่ะ หอมนวลๆ แต่เม็ดใหญ่โตมโหระทึกมาก เนื้อทุเรียนมีแค่พอหุ้มเม็ดจริงๆ ถ้าใช้ช้อนทานข้าวตัก 1 เม็ดเท่ากับ 1 ช้อนเท่านั้นเอง คนนึงกินไปเลยค่ะ 5 เม็ดขึ้น ดูเม็ดที่กองที่จานแล้วดูรับประทานน่ากลัว แต่จริงๆเนื้อนิดเดียวมาก กินคนละลูกยังไหวเม็ดทุเรียนนี่ ใหญ่ประมาณลูกมะนาวลูกละบาท
รสชาติ ตึง! อาหร่อยยยยยยเลยค่ะ ทุเรียนสุกๆ นิ่มๆ เละหน่อยๆ หอมมันแบบพันธุ์ชะนี ใช้ได้เลย ไม่เสียแรงที่เสี่ยงชีวิตข้ามชายแดนมา ของดีพม่ามาอยู่ตรงหน้า นี่เองงงงง แล้วคนพื้นที่บอกต่ออีกว่า จะทานกับข้าวก็ดีน่ะ พร้อมกับยื่นถ้วยใส่เกลือและน้ำตาลมาให้ คือให้เอาคลุกข้าวปรุงรสตามใจชอบ เฮอๆ คงเป็นเหมือนคนไทยที่ชอบกินข้าวกับกล้วยอ่ะ

สาเหตุที่เค้าต้องทานแบบสุก เพราะต้นทุเรียนที่นี่สูงมาก ต้นที่เราถ่ายมาสูงประมาณ 5 เมตร ต้องรอให้หล่นเองถึงจะได้กิน

และมาดูว่าเค้าขายกันเท่าไหร่ อันนี้แบบแกะแล้ว ซื้อในร้านขายของฝาก กล่องละ 1200 จ๊าด นั่นก็คืออออ ประมาณ 30 บาทเท่านั้นเอง มีความรู้สึกว่าถูกมากๆ แต่ถ้าคำนวนปริมาณกับของไทย ก็ราวๆ 1-2 เม็ดเท่านั้นเอง
จบแล้วสำหรับรีวิวทุเรียนพม่า ถ้าใครมีโอกาสไปอย่าลืมทานให้ได้นะคะ แต่สำหรับเราก็ยังรักทุเรียนไทย เม็ดเล็กจิ๋วเดียวแต่เนื้อเต็มปากเต็มคำ เอาเป็นว่า ให้ชนะใจเราทั้งคู่ละกันค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ จากคนรักทุเรียน หลงทุเรียน
ฮอตในไทยนักใช่ไหม??? มาดูทุเรียนพม่ากันบ้าง จะสู้ได้รึเปล่า
ประจวบเหมาะกับช่วงที่ผ่านมาเราได้ไปดูงานที่ทวาย ไปถึงอาหารส่วนมากอาจจะไม่ถูกปากเรามากมาย แต่มีอย่างหนึ่งที่ตื่นเต้นสุดคือ ที่นี่ก็มี "ทุเรียนนนนนน" จำนวนมากจ้า มีทุกวัน มีทุกมื้อ ไปดูกันว่าจะต่างจากทุเรียนไทยยังไง
ที่นี่ถ้าเดินไปตามถนน คนวางขายกันริมฟุตบาทเลย เจ้าละไม่ถึง 15 ลุก แต่มีเรื่อยๆตามทางตลอด เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่มาดูแบบที่แกะแล้วบ้างจ้าาา
ผ่าง!!!
ทุเรียนพม่า (ไม่รู้พันธุ์อะไรเหมียนกัน) ลูกย่อม ไม่ใหญ่โตเท่าของไทย และที่นี่จะกินแบบสุกค่อนข้างมากถึงสุกมากจริงๆ จับแล้วเละ คือปอกทุเรียนเอาช้อนแกะเปลือกจากตรงก้นทุเรียนได้เลย เพราะคนที่นี่บอกว่าต้องทานแบบนี้ถึงอร่อย มีรสชาติมีกลิ่นทุเรียนจริงๆ ไม่เหมือนบ้านเราที่ส่วนมากชอบทานแบบห่ามๆ
มาพิสูจน์กันเลยจ้าาา กลิ่นหอมไม่รุนแรงแบบของไทยน่ะ หอมนวลๆ แต่เม็ดใหญ่โตมโหระทึกมาก เนื้อทุเรียนมีแค่พอหุ้มเม็ดจริงๆ ถ้าใช้ช้อนทานข้าวตัก 1 เม็ดเท่ากับ 1 ช้อนเท่านั้นเอง คนนึงกินไปเลยค่ะ 5 เม็ดขึ้น ดูเม็ดที่กองที่จานแล้วดูรับประทานน่ากลัว แต่จริงๆเนื้อนิดเดียวมาก กินคนละลูกยังไหวเม็ดทุเรียนนี่ ใหญ่ประมาณลูกมะนาวลูกละบาท
รสชาติ ตึง! อาหร่อยยยยยยเลยค่ะ ทุเรียนสุกๆ นิ่มๆ เละหน่อยๆ หอมมันแบบพันธุ์ชะนี ใช้ได้เลย ไม่เสียแรงที่เสี่ยงชีวิตข้ามชายแดนมา ของดีพม่ามาอยู่ตรงหน้า นี่เองงงงง แล้วคนพื้นที่บอกต่ออีกว่า จะทานกับข้าวก็ดีน่ะ พร้อมกับยื่นถ้วยใส่เกลือและน้ำตาลมาให้ คือให้เอาคลุกข้าวปรุงรสตามใจชอบ เฮอๆ คงเป็นเหมือนคนไทยที่ชอบกินข้าวกับกล้วยอ่ะ
สาเหตุที่เค้าต้องทานแบบสุก เพราะต้นทุเรียนที่นี่สูงมาก ต้นที่เราถ่ายมาสูงประมาณ 5 เมตร ต้องรอให้หล่นเองถึงจะได้กิน
และมาดูว่าเค้าขายกันเท่าไหร่ อันนี้แบบแกะแล้ว ซื้อในร้านขายของฝาก กล่องละ 1200 จ๊าด นั่นก็คืออออ ประมาณ 30 บาทเท่านั้นเอง มีความรู้สึกว่าถูกมากๆ แต่ถ้าคำนวนปริมาณกับของไทย ก็ราวๆ 1-2 เม็ดเท่านั้นเอง
จบแล้วสำหรับรีวิวทุเรียนพม่า ถ้าใครมีโอกาสไปอย่าลืมทานให้ได้นะคะ แต่สำหรับเราก็ยังรักทุเรียนไทย เม็ดเล็กจิ๋วเดียวแต่เนื้อเต็มปากเต็มคำ เอาเป็นว่า ให้ชนะใจเราทั้งคู่ละกันค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ จากคนรักทุเรียน หลงทุเรียน