เมื่อสามีฝรั่งนั่งดู "ซ่อนรักกามเทพ" กับภรรยาไทย

เราเพิ่งดูซ่อนรักกามเทพย้อนหลังจบวันนี้ เราอยู่ต่างประเทศซึ่งปรกติเราก็จะหาเวลาดูย้อนหลัง เวลาที่ดีที่สุดของเราก็คือเวลาที่ลูกหลับ ถ้าสามีเราอารมณ์ดีๆเขาก็จะมานั่งดูด้วยเพื่อฝึกภาษาไทยบ้าง เพื่อเอามาล้อเลียนเราบ้าง (สามีเราชอบถลึงตาแบบนางร้ายแข่งกับเรา 5555) ซ่อนรักกามเทพเป็นเรื่องที่เราดูไปแล้วยิ้มไป แรกๆสามีก็เดินผ่านไปมา หลังๆเห็นเรายิ้มบ้าบออยู่คนเดียวก็เลยขอดูด้วยตอนประมาณสักep.ที่3 เราก็เลยต้องเล่าเรื่องย้อนสลับกับเปิดฉากย้อนหลังให้ดูบ้างพอให้เข้าใจ เช้านี้วันเสาร์ พ่อสามีมารับลูกสาวเราไปทำกิจกรรม เราเลยได้โอกาสดูตอนที่6 จนถึงตอนจบ สามีเราพอเห็นว่าเราดูเรื่องนี้อยู่ก็เข้ามาดูด้วยอีก ซึ่งตั้งแต่ตอนที่ 6 ประเด็นครอบครัวของออยมันก็จะบีบคั้นมาก จนเราคิดว่าเดี๋ยวฮีคงลุกไปแน่ แต่ก็ยังนั่งดูกับเราจนจบ เรามีแปลให้มั่ง หรือบางทีภาพมันก็สื่อออกมาเองมั่ง พอดูจบเราก็ถามสามีว่าเป็นไง น้ำเน่ามั้ยล่ะตอนที่แม่นางเอกกีดกันพระเอกน่ะ สามีเราตอบว่ายังไงรู้ไหม แถมคำอธิบายที่ยาวเหยียดตามมาพาเราอึ้งไปเลย สามีเราตอบว่า “Nope, I can really relate to that.”

คือสามีเราบอกว่า ไม่น้ำเน่าอะ อินสุดๆ สาเหตุที่อินก็เพราะว่าสามีเราอยู่เมืองไทย  2 ปี ก็เลยเข้าใจว่าคนไทยเป็นคนที่รักครอบครัวมาก และสังคมไทยให้ความสำคัญกับครอบครัวมาก ที่อเมริกาพอลูกเริ่มเข้ามหาวิทยาลัยก็มักจะย้ายออกจากบ้านกันแล้ว แต่ที่เมืองไทยลูกน้องของสามีเราประมาณ70% ยังอาศัยอยู่กับครอบครัวอยู่เลย บางคน30กว่าก็ยังมี และคนไทยให้ความสำคัญกับคำว่า “บุญคุญ” มาก โดยเฉพาะบุญคุญของพ่อแม่ เราเลยถามว่าไอ้คำว่าบุญคุณนี่ถ้าจะใจตรงภาษาอังกฤษจะว่ายังไง ตรงนี้สามีเราบอกว่า มันไม่เหมือนกับคำว่า Favor หรือ หรือจะบอกว่านางเอกมีGratitudeหรือความกตัญญู  มันก็ยังไม่ให้ความรู้สึกว่าจะต้อง repay หรือทดแทนอะไรเท่ากับคำว่า “ทดแทนบุญคุณ”ของคนไทย คือมันเป็นยิ่งกว่าหนี้  แต่มันคือบุญคุณน่ะ จะมีไม่กี่คำที่สามีเราใช้ทับศัพท์ เพราะมันหาคำแปลแบบตรงๆโดนๆได้ยาก เช่น น้อยใจ งอน คำนี้สามีเราก็ใช้ทับศัพท์ไปเลย ว่า “It’s about parents’ บุญคุณ that makes her (หมายถึงออย) rejected him.” เราอึ้งแบบ โห พี่ฝรั่งอินจนลึกเข้าใจได้ถ่องแท้ขนาดนี้เลยเหรอ

แล้วอย่างเรื่องการต้องตามใจพ่อแม่ก็เหมือนกัน ถ้าเป็นคนตะวันตกอาจจะมองว่าคนไทยดูไม่กล้าใช้ชีวิตของตัวเอง แต่สามีเราบอกว่าของแบบนี้ต้องเข้าใจวัฒนธรรม เพราะคนไทยอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ที่พ่อแม่หรือคนที่แก่สุดคือคนที่ต้องยำเกรง การต้องเคารพผู้ใหญ่ก็เรื่องหนึ่ง พอมาเจอกับการทดแทนบุญคุณพ่อแม่เข้าไปอีก มันก็เลยออกมาเป็นอย่างที่ละครนำเสนอ ว่าแล้วฮีก็ยกตัวอย่างไปถึงลูกน้องในทีม 2 คน ตอนที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ คนนึงเป็นน้องผู้ชายสายเรียบร้อย ไม่ค่อยดื่ม ไม่ค่อยเที่ยว ไม่ค่อยกลับดึกเพราะที่บ้านห้าม น่าจะอายุประมาณต้นๆ 20 เป็นเด็กจบใหม่ น้องคนนี้ได้ฉายาว่า น้องหารเท่า เพราะเวลาไปกินข้าวหลังเลิกงานทีไร น้องมักจะไม่แตะของมึนเมาและมักจะขอกลับบ้านเร็ว พวกพี่ๆในทีมก็มักจะชอบล้อน้องว่า กลับก่อนกลับหลังก็หารเท่า หรือจะกินเยอะกินน้อยก็หารเท่านะ แล้วบอกว่าพี่ๆจะกินเบียร์กันไม่อั้นเลย อะไรประมาณนี้ คือถ้าเป็นเด็กอเมริกันเรียนจบใหม่ๆนี่ยิ่งอยากเข้าสังคมในที่ทำงานเลย แต่เด็กไทยบางคนที่ยังอาศัยกับครอบครัวก็จะยังมีกรอบตรงนี้ หรือน้องผู้หญิงอีกคนนึง คนนี้ก็พ่อหวงมากกกก ถ้าไปไหนมาไหนกันกับที่บริษัทถ้าไม่ใช่ไปเครื่องบิน หรือรถตู้ รถบัสที่บริษัทจ้างมา พ่อจะต้องไปส่งเอง ไม่งั้นไม่ให้ไป ห้ามนั่งรถคนอื่น สามีเราบอกว่าดูซ่อนรักกามเทพแล้วนึกถึงน้องสองคนนี้ขึ้นมาเลย ว่าในชีวิตคนที่ต้องใช้ชีวิตตามที่พ่อแม่บอกมันมีอยู่จริง ว่าแล้วฮีก็ปิดท้ายว่าในบรรดาละครบ้าๆบอๆที่เราดูมา เรื่องนี้เรียลที่สุดละ 55555 แลดูเป็นชีวิตคนไทยปรกติ มีการมีงานทำ (สามีเราเคยถามว่าละครไทยนี่ไม่ทำงานกันเหรอ 5555) มีไม่ปรกติก็ต้องที่นางเอกเตะต่อยพระเอกแล้วพระเอกไม่โกรธนี่แหละ ถ้าเป็นฝรั่งยัยนี่โดนแจ้งความฐานทำร้ายร่างกายละ  สุดท้ายเราถามสามีว่า “So overall what do you think about it?” สามีเราตอบว่า “It’s a pretty good lakorn.” เราเลยยิ้มหน้าบานเพราะไม่โดนด่าว่าดูละครกรี๊ดๆไร้สาระ 55555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่