เจาะลึกการ "หารค่าข้าว" ของหนุ่มสาวเกาหลี จากความเท่าเทียม สู่การกบฏเงียบ และดาบสองคมที่ทิ่มแทงผู้หญิง

พอดีได้มีโอกาสคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องวัฒนธรรมการเดตของคนเกาหลีมา แล้วรู้สึกว่ามันลึกกว่าแค่เรื่องงกหรือไม่งกมากๆ เลยอยากมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันค่ะ ​หลายคนอาจจะติดภาพจำจากซีรีส์ว่าอปป้าต้องสายเปย์ เลี้ยงข้าว พาไปที่หรูๆ แต่ในโลกความเป็นจริง โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ (Gen Z) วัฒนธรรม Dutch Pay (การหารค่าใช้จ่าย) คือเรื่องปกติมาก จนสาวไทยหลายคนที่ไปเดตกับหนุ่มเกาหลีถึงกับ Culture Shock และพาลคิดว่าผู้ชายไม่จริงใจ ​แต่เบื้องหลังการหยิบกระเป๋าตังค์มาจ่ายเองของพส.เกาหลี มันมีอะไรซ่อนอยู่มากกว่านั้น
​1. หารของเขา ไม่ใช่หาร 50:50 เสมอไป
​ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า คำว่าหารของเกาหลี ไม่ใช่การเอายอดรวมมากดเครื่องคิดเลขหารสองเป๊ะๆ แบบบ้านเรา แต่มันคือวัฒนธรรมผลัดกันจ่าย
​Round 1 (อาหารหลัก) ผู้ชายมักจะจ่าย (เพราะแพงกว่า)
​Round 2 (คาเฟ่/ของหวาน) ผู้หญิงจะเป็นคนจ่าย
​Round 3 (คาราโอเกะ/ดื่ม) หารกัน/สลับกันจ่าย
วิธีนี้ช่วยรักษาหน้าผู้ชายให้ดูป๋า แต่ผู้หญิงก็ได้แสดงน้ำใจว่าฉันไม่ได้มาเกาะกินนะ
​2. จุดเริ่มต้นความกลัวคำว่า กิมจิ-นยอ
​ทำไมผู้หญิงเกาหลีถึงซีเรียสเรื่องต้องช่วยจ่าย? สาเหตุหลักมาจากแรงกดดันทางสังคม
ในเกาหลีมีคำด่าที่แรงมากคือ กิมจิ-นยอ (Kimchi Girl) ที่เอาไว้ด่าผู้หญิงที่ชอบใช้ของแบรนด์เนม หรือจ้องจะจับผู้ชายรวย ให้ผู้ชายเลี้ยง
​เพื่อหนีจากคำครหานี้ สาวเกาหลีเลยต้องสร้างเกราะป้องกันด้วยการชิงจ่ายหรือเสนอตัวหาร
​เพื่อพิสูจน์ว่าฉันคือ แค-นยอม-นยอ (ผู้หญิงที่มีความคิด) ฉันพึ่งพาตัวเองได้ และฉันมาเดตกับคุณด้วยใจ ไม่ใช่เรื่องเงิน
​3. การกบฏเงียบต่อสังคมชายเป็นใหญ่
​ข้อนี้พีคสุด ลึกๆแล้วการที่ผู้หญิงเกาหลียอมควักเงินจ่าย มันคือการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์เพื่อปลดแอกตัวเองจากระบอบปิตาธิปไตย (Patriarchy)
​ทำลายสมการ เงิน = อำนาจ ถ้าผู้ชายจ่ายหมด เขาจะรู้สึกเป็นเจ้าของ เป็นผู้นำ และเราต้องเป็นผู้ตาม (หรือเป็นเบี้ยล่าง) ที่ไร้สิทธิเถียง
​ล้างระบบบุญคุณ การจ่ายเงินเอง คือการบอกว่า ฉันไม่ติดหนี้คุณ
​ซื้อสิทธิ์ในการปฏิเสธ ถ้าผู้ชายเลี้ยงมื้อหรู เขาอาจคาดหวังผลตอบแทน (เช่น เรื่องเซ็กส์ หรือการไปต่อ) การที่เราจ่ายส่วนของเรา ทำให้เราสามารถพูดคำว่า  ไม่ ได้เต็มปากโดยไม่ต้องรู้สึกผิด หรือโดนทวงบุญคุณ
​4. ดาบสองคม เมื่อความเท่าเทียมถูกใช้เป็นข้ออ้างเพื่อเอาเปรียบ
​แต่โลกไม่ได้สวยงามเสมอไปค่ะ ความพยายามที่จะเท่าเทียมนี้ กลับกลายเป็น "ดาบสองคม" ที่ทิ่มแทงผู้หญิงเกาหลีเอง เพราะผู้ชายหัวหมอบางคนใช้จุดนี้มาเอาเปรียบ
เวลาจ่ายตังค์บอก ต้องหารนะ เราเท่าเทียมกัน แต่พอกลับบ้าน หรือแต่งงานไป บอก งานบ้านเลี้ยงลูกเป็นหน้าที่เมีย (สรุปหญิงรับบทหนักสองทาง ทั้งหาเงินและทำงานบ้าน)
​การเดตแบบ กา-ซอง-บี (เน้นคุ้มทุน) ผู้ชายบางคนมองการเดตเป็นการลงทุน ถ้าผู้หญิงไม่หาร เขาจะมองว่า ไม่คุ้มทุน และเททันที
​กับดักกิมจิ ผู้ชายบางคนใช้คำว่า กิมจิ-นยอ มาเป็นตัวประกัน กดดันทางจิตวิทยาให้ผู้หญิงต้องยอมจ่าย เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ใช่คนเห็นแก่เงิน
​5. ทำไมสาวไทยถึง เท หนุ่มเกาหลี?
​พอย้อนกลับมามองคู่รักไทย-เกาหลี ปัญหาเลยเกิดจากการแปลความหมายที่ต่างกัน
​สาวไทย มองว่า การเปย์ = ความมั่นคง + น้ำใจ (ถ้าไม่จ่าย = ไม่แมน/ไม่จริงใจ)
​หนุ่มเกาหลี มองว่า การหาร = ความแฟร์ + เคารพกัน (ถ้าไม่ช่วยจ่าย = กะเกาะกิน)
​สรุปการที่ พส.เกาหลี ยอมจ่าย ไม่ใช่แค่เพราะรวยหรือแฟร์ แต่มันคือการซื้อศักดิ์ศรีและความปลอดภัย ในสังคมที่ผู้ชายยังมีอิทธิพลสูง ส่วนผู้ชายที่ฉวยโอกาสจากเรื่องนี้ก็มีอยู่จริงและเยอะมากด้วย จนทำให้เกิดกระแส 4B (ไม่เดต/ไม่แต่งงาน/ไม่มีเซ็กส์/ไม่มีลูก) ในเกาหลีตอนนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่