กรณีศึกษา : ซื้อบ้าน แถม คดีความ!!!

ห่างหายไปนานครับกับการเล่าเรื่องราวๆนู่นนี่นั่นของผมในพันทิป คิดถึงและส่องอยู่เสมอแต่ไม่ได้ตั้งกระทู้แชร์ ... แต่วันนี้ฤกษ์งามยามเหมาะ ที่จะมาอัพเดทเรื่องราวให้รู้ว่ายังไม่ได้หายไปไหน ... ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง ขอเล่าเลยนะครับ


ช่วงนี้เงินผมจมไปกับการลงทุนอสังหาฯชิ้นนึงครับ ... จม เพราะ ติดคดีความฟ้องร้องกันอยู่ครับ … ผมคิดว่าน่าสนใจและน่าจะเป็นประโยชน์บ้างจึงอยากเล่าสู่กันฟังว่ากรณีแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ ... ขอเล่าแบบสั้นๆ และมุมมองกลางๆ แต่ให้ได้ใจความครบถ้วนสำนวนความ เล่าในมุมมองของ “จำเลยแบบผม” และ พยายามไม่ใส่อารมณ์ในงานเขียนมากเกินไป เพราะ เกรงว่าจะเสียรูปคดี 555+


**นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และ เรื่องราวยังอยู่ในชั้นศาล วัตถุประสงค์เล่าเพื่อแชร์ประสบการณ์**


ผมเป็นนักลงทุนรายย่อมๆ ที่ชอบลงทุนในอสังหาฯ ซื้อเก็บนำมาปล่อยเช่าก็สนใจ หรือ ซื้อมารีโนเวทแล้วขายไปก็ชอบลงทุน หรือ ประมูลบ้านจากกรมบังคับคดีก็ลงทุนได้ สรุปว่า อะไรที่พอทำกำไรได้เอาหมด ... ด้วยสัญชาติญาณเช่นนี้ เมื่อผมเห็นทรัพย์สวยๆราคาย่อมเยาเป็นไม่ได้ ใจมันเรียกร้อง “อยากลงทุน” ... และแล้ววันหนึ่ง ผมก็ไปเจอบ้านหลังหนึ่งประกาศขาย ทำเลใช้ได้ ราคาถูกกว่าตลาดพอสมควร ผมคิดว่าน่าจะพอทำกำไรได้ จึงตัดสินใจซื้อ โดยใช้การกู้ธนาคาร กระบวนการประเมินจากธนาคาร และ การซื้อขายทั้งหมดทั้งมวล ผ่านโดนไม่ติดขัดอะไร ... ที่ดินโอนผ่านได้ไม่ติดภาระหรือหมายเหตุแนบท้ายใดๆ ธนาคารรับจำนองได้ปกติ


ถือครองไว้ได้ไม่นานก็มี “หมายศาล” ส่งมาหา ... ระบุว่าผมตกเป็นจำเลยในคดีแพ่ง เรื่องเกิดจากบ้านหลังที่ผมซื้อมาข้างต้น ... เรื่องราวของสำนวนฟ้อง จับความได้ว่า บ้านหลังนี้เคยมีการฟ้องร้องกันมาแล้วและในครั้งนั้นศาลสั่งให้โจทก์(เจ้าของเดิมๆ) เป็นฝ่ายชนะคดีในครั้งนั้น ... แต่โจทก์(เจ้าของเดิมๆ) ก็ไม่ได้ดำเนินการอายัตบ้านหลังนี้แต่อย่างใด จำเลยในขณะนั้นจึงขายบ้านมาอีกหลายทอดจนถึงมือผมเป็นคนสุดท้าย ... โจทก์(เจ้าของเดิมๆ) ฟ้องคดีใหม่ เริ่มจากจำเลยเดิม แล้วผู้ที่ซื้อขายที่ผ่านมาทุกมือรวมทั้งผม!!!


แน่นอนว่าผมก็ต้องตั้งทนายสู้คดีไปตามระเบียบ ว่าผมซื้อทรัพย์มาแบบสุจริตและเสียค่าตอบแทน ส่วนเรื่องราวในคดีก็ ว่ากันไปตามพยานหลักฐานในกระบวนการชั้นศาลต่อไป บทสรุปของเรื่องราวจะออกท่าไหนยังไม่ทราบแน่ชัดดอกครับ .... ถ้าคิดในแง่ดี ศาลท่านเห็นพยานหลักฐานเราแล้วสั่งยกฟ้อง หรือสั่ง ให้คนที่ขายเรานำเงินมาคืนเราแล้วเราก็คืนบ้านเขาไป(ซึ่งจะมีเงินมาให้เราหรือเปล่าว่ากันอีกเรื่อง) หรือคิดในแง่ร้าย .... เอ่อออ ผมเองก็ไม่อยากจะนึกถึง


แต่ไม่ว่าจะสรุปบทไหนก็ตาม งานก็เข้าผมเต็มๆ ... บ้านอยู่ในคดีความ ถ่ายโอนไม่ได้(ถ้าถ่ายโอนก็มีความผิด) ต้องรอไปอีกหลายปีกว่าคดีจะสิ้นสุด และก็ต้องรอความชัดเจนอีกว่าจะเรื่องจะออกท่าไหน ... บ้านหลังนี้กำไรแทบไม่ต้องพูดถึงแล้วครับจังหวะนี้ เข้าเนื้อเห็นๆ ไหนจะค่าทนาย ค่าเสียเวลา และที่สำคัญคือเงินที่จมลงไปแบบไม่รู้ว่าจะได้คืนหรือเปล่า!!!!

โลกใบนี้มันช่างยอกย้อนยิ่งนัก แต่ก็นั่นล่ะครับ เพราะโลกมันยอกย้อนแบบนี้ล่ะ ชีวิตมันถึงมีรสชาติ 5555+



...[^_^]…


ปล.

-เล่าสู่กันฟังครับ ... เรื่องราวก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ ส่วนแนวทางการป้องกันและแก้ไข ก็ลองพินิจพิจารณากันดูนะครับ

-ติดตามเรื่องราวผมได้ในเพจนี้ครับ ... เพจคุยเรื่อยเปื่อย ไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่
https://www.facebook.com/creativeshooter/
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่