ศาลสั่งระงับจดทะเบียนตั้ง 9 กรรมการใหม่การบินไทย

วันที่ 23 ธันวาคม 2568 จากกรณีที่เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ได้จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นฯ ประจำปี 2568 และที่ประชุมมีการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งบุคคลที่จะมาเป็นกรรมการบริษัทฯ ผลปรากฏว่ามีกรรมการที่ได้รับเลือกตั้งฯในครั้งนี้ 9 คน เมื่อรวมกับกรรมการในปัจจุบัน 6 คน ส่งผลให้กรรมการบริษัทฯ มีจำนวน 15 คน นั้น (อ่านประกอบ : ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น‘การบินไทย’ไฟเขียวตั้ง 9 บอร์ดใหม่-ตีตก‘ชาญศิลป์-ผศ.ดร.ประชา’)

ล่าสุดมีรายงานว่า ศาลแพ่ง มีคำสั่งให้นายทะเบียน พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลอื่นผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ระงับการจดทะเบียน การแก้ไขเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน เพิกถอนการจดทะเบียนเกี่ยวกับการจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท การบินไทยฯ ประจำปี 2568 ในวันที่ 19 ธ.ค.2568 และห้ามมิให้คณะกรรมการที่มาจากมติที่ประชุมดังกล่าว มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยในฐานะกรรมการของจำเลยในกิจการทั้งปวงจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ทั้งนี้ ศาลฯเห็นว่า ตาม พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 มาตรา 98 และตามข้อบังคับของบริษัท การบินไทยฯ ข้อ 32 กำหนดว่า คณะกรรมการต้องจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการประชุมสามัญประจำปีภายใน 4 เดือน นับแต่วันสิ้นสุดรอบปีบัญชีของบริษัท และตามข้อบังคับของจำเลย ข้อ 40 กำหนดว่า รอบปีบัญชีของบริษัทเริ่มต้นในวันที่ 1 ม.ค. และสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค. ตามปีปฏิทิน

การจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ของบริษัท การบินไทยฯ จึงต้องดำเนินการภายในเดือนเม.ย. 2568 การที่บริษัท การบินไทยฯ มีการจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ในวันที่ 19 ธ.ค.2568 จึงอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ ทางไต่สวนปรากฏว่า ในวันนี้โจทก์ทั้งห้าได้นำหนังสือแจ้งมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ของจำเลยที่มีถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า มีการจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 และทางจำเลยมีหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับการประชุมดังกล่าวยืนยันว่า มีการจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 จริง

ซึ่งโจทก์อ้างว่าตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 มาตรา 98 และตามข้อบังคับของจำเลย ข้อ 32 กำหนดว่า คณะกรรมการต้องจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการประชุมสามัญประจำปีภายในสี่เดือนนับแต่วันสิ้นสุดรอบปีบัญชีของบริษัท และตามข้อบังคับของจำเลย ข้อ 40 กำหนดว่า รอบปีบัญชีของบริษัทเริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคม และสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม ตามปีปฏิทิน

การจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ของจำเลย จึงต้องดำเนินการภายในเดือนเมษายน 2568 การที่จำเลยมีการจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 จึงอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับของจำเลย ซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้จำเลยต้องขอจดทะเบียนแก้ไขเปลี่ยนแปลงกรรมการตามมติที่ประชุมให้แล้วเสร็จภายในสิบสี่วัน นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง คือ ภายในวันที่ 2 มกราคม 2569 ซึ่งหากจำเลยนำมติที่ประชุมดังกล่าว ไปจดทะเบียนต่อสำนักงกงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร จะทำให้โจทก์ทั้งห้าและผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหาย กรณีมีเหตุสมควรและมีเหตุฉุกเฉิน

ในส่วนที่โจทก์ขอให้คณะกรรมการเดิมจำนวน 11 คน ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการจำเลยแทน จนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นนั้น เห็นว่า กรณียังไม่แน่ชัดว่า หากนายทะเบียนไม่รับจดทะเบียนแก้ไขเปลี่ยนแปลงกรรมการ คณะกรรมการเดิมจะยังปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการจำเลยได้หรือไม่ กรณีจึงยังไม่มีเหตุให้คุ้มครองชั่วคราวในส่วนนี้

จึงมีคำสั่งให้นายทะเบียน พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลอื่นผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายระงับการจดทะเบียน การแก้ไขเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน เพิกถอนการจดทะเบียนเกี่ยวกับการจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของจำเลย ประจำปี 2568 ในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 และห้ามมิให้คณะกรรมการที่มาจากมติที่ประชุมดังกล่าว มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยในฐานะกรรมการของจำเลยในกิจการทั้งปวงจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

หมายแจ้งคำสั่งให้นายทะเบียน สำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ทราบ การส่งไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิด ให้โจทก์ทั้งห้านำส่งภายในวันรุ่งขึ้น”

รายงานกระบวนพิจารณา คดีหมายเลขดำที่ พ5421/2568 ของศาลแพ่ง ลงวันที่ 23 ธ.ค.2568 ระหว่างนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กับพวกรวม 5 คน ในฐานะผู้ถือหุ้นบริษัท การบินไทยฯ (โจทก์) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ระบุ



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่