สวัสดีครับ

.
จากหลายข่าวที่ผ่านมาในรอบหลายปี กรณีมีผู้เสียชีวิตในรถยนต์ที่ติดเครื่องยนต์ใว้แล้วเปิดแอร์นอนหลับในรถ
เป็นการเสียชีวิตที่น่าสงสัย น่าข้องใจ การหาสาเหตุของผู้เกี่ยวข้องก็ทำได้ไม่ง่ายนัก
ในกระทู้นี้จะเป็นเนื้อหาของสาเหตุอันดับหนึ่งที่พิสูจน์แล้ว ว่า มันเกิดจากอะไรกันครับ
การที่คนร่างกายแข็งแรงจะเสียชีวิตในรถที่ติดเครื่องยนต์ใว้ และเปิดเครื่องปรับอากาศใว้ด้วย
เป็นเรื่องที่น่าคิด โดยเฉพาะในบางเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิต 2 คนพร้อมกัน หากพิจารณาความเป็นไปได้
ก็จะมีเพียงเรื่องเดียว คือ เสียชีวิตจากสิ่งที่หายใจเข้าไปครับ ภายในห้องโดยสารรถยนต์นั้น
มีสภาพที่คับแคบไม่มีอากาศถ่ายเท ดังนั้นอากาศที่มีก๊าซแปลกปลอมเข้ามาก็จะมีปัญหา
กับคนที่อยู่ในรถได้มาก ผู้ร้ายอันดับ 1 คือก๊าซอันตรายชื่อว่า
คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon monoxide : CO)
CO เป็นก๊าซไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่ระคายเคือง กำเนิดมาจากแหล่งที่สำคัญได้แก่ การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์
ของเครื่องยนต์ โดยปะปนออกมากับไอเสียรถยนต์ และควันจากไฟไหม้ทั่วไป ..... CO มีความน่ากลัวตรงที่
มันไม่มีกลิ่น และ ไม่ระคายเคือง ทำให้เราสูดเข้าไปโดยไม่รู้ตัวครับ มันจะเริ่มก่อปัญหากับร่างกายของเรา
โดยเมื่อมันเข้าปอดทางการหายใจแล้ว โมเลกุลของ CO จะไปจับตัวกับ hemoglobin ในเม็ดเลือดแดง
โดยมันจะจับกับ hemoglobin ได้ดีกว่า oxygen ถึง 200 - 250 เท่า ..... จากการจับตัวแบบนี้ ทำให้
hemoglobin ไม่สามารถนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกายได้ ทำให้อวัยวะส่วนใหญ่ทำงานล้มเหลว เสียชีวิตในที่สุดครับ
ภาพนี้แสดงขั้นตอนในการหายใจเอา CO เข้าไป และกลไกการก่อพิษของ CO ครับ
ในยามปกติ หากเรารับ CO เข้าร่างกายไปก็จะแสดงอาการดังต่อไปนี้
ระดับความเข้มข้น 50 ppm - 200 ppm ปวดศีรษะเล็กน้อยและอ่อนเพลีย
ระดับความเข้มข้น 200 ppm - 400 ppm คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรงและอาจถึงขั้นเป็นลม
ระดับความเข้มข้นประมาณ 1,200 ppm หัวใจเต้นเร็วขึ้นผิดปกติ และเริ่มเต้นผิดจังหวะ
ระดับความเข้มข้นประมาณ 2,000 ppm อาจถึงขั้นหมดสติ และอาจถึงเสียชีวิต
ระดับความเข้มข้นประมาณ 5,000 ppm อาจทำให้เสียชีวิตภายในไม่กี่นาที แต่อาจจะรอดชีวิตถ้ารีบนำผู้ป่วย
ออกจากบริเวณอับอากาศมาสู่บริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ หรือมีออกซิเจนเพียงพอ
แล้ว CO ในรถยนต์ล่ะ ?
รถยนต์ คือสภาพปิดที่คับแคบอากาศไม่ถ่ายเท เมื่อเราปิดประตู หน้าต่าง แล้วติดเครื่องยนต์ + เปิดแอร์
สภาพที่เกิดขึ้นคือ อากาศภายในรถจะหมุนเวียนอยู่ส่วนใหญ่ในห้องโดยสาร แต่ .... จะมีอากาศจากข้างนอก
ส่วนหนึ่งที่สามารถเล็ดรอดเข้ามาห้องโดยสารได้ โดยแทรกซึมเข้ามาทางช่องเล็กช่องน้อยต่าง ๆ และหาก
บริเวณรอบรถคันนั้นมีสภาพลมที่นิ่ง ก็ยิ่งจะทำให้ CO จากท่อไอเสียเล็ดรอดเข้ามา "สะสม" ในห้องโดยสารได้มากครับ
ดังนั้น การติดเครื่อง เปิดแอร์ และนอนหลับในรถ ปริมาณ CO ก็ (อาจจะ) สะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ
จนทำให้คนที่หลับอยู่ในรถหายใจเอา CO เข้าไปในสภาพหลับอยู่ ทำให้เสียชีวิตได้ครับ
อย่างไรก็ตาม การรั่วของอากาศข้างนอกเข้ามาในห้องโดยสาร จะไม่ได้เกิดในอัตราเท่ากันในรถแต่ละคัน
รถคันที่เก่า หรือ มีสภาพแวดล้อมพอดีที่ไอเสียจะวนหวนเข้ามาในจุดที่รั่วซึมได้ ก็จะเกิดเหตุนี้ได้ง่ายและเร็วขึ้น
ดังนั้น รถทุกคันจะไม่เกิดสภาพแบบนี้ได้ครับ ผมเคยเห็นหลายท่านวิเคราะห์ว่าอากาศข้างนอกน่าจะรั่วเข้ามาได้ยาก
เพราะจะต้องต้านกับ pressure ของอากาศภายในห้องโดยสาร ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะครับ แต่โดยหลักการแล้ว ....
ก็สรุปได้ง่าย ๆ ว่าเกิดจากการรั่วซึมของ CO เข้ามาสะสมในห้องโดยสาร จนเกิดเหตุน่าเศร้าขึ้นครับ
การป้องกันเหตุน่าเศร้านี้ หากจะไปไล่ตรวจสอบสภาพรถยนต์ก็น่าจะยุ่งยากและไม่ได้ผลเท่าใดนัก
หนทางหนึ่งที่ช่วยได้แน่นอน คือ ติดตั้งเครื่องตรวจจับ CO ในห้องโดยสารครับ อุปกรณ์นี้เรียกว่า
Carbon monoxide detector การใช้งานอุปกรณ์นี้ทำได้ง่าย ๆ โดยเสียบเข้ากับปลั๊กจุดบุหรี่
เครื่องจะคอย monitor ระดับ CO ในห้องโดยสาร และส่งเสียงเตือนเมื่อเกินระดับอันตรายครับ
สิ่งนี้ จะว่าไปแล้วมันมีประโยชน์สูงมากทั้งในการขับขี่ธรรมดา หรือในยามจำเป็นที่ต้องนอนงีบในรถครับ
หน้าตาของ carbon monoxide detector แบบเป็นพวงกุญแจ
แบบเสียบกับปลั๊กจุดบุหรี่
ที่กล่าวไปทั้งหมดนี้ ท่านที่ต้องกังวลคือท่านที่มักจะจอดรถติดเครื่อง เปิดแอร์ ... และนอนหลับ
หากท่านมีพฤติกรรมแบบนี้บ่อยครั้งจะต้องระวังให้มากครับ ควรซื้อเครื่องตรวจจับ CO มาติดตั้งใว้
เพราะหากยังคิดว่า ไม่เป็นไร ไม่เกิดกับเราหรอก การหลับในรถครั้งต่อไปของท่าน .... อาจเป็นการหลับยาว ก็เป็นได้
ส่วนท่านที่ขับรถตามปกติบนท้องถนน ถึงแม้ว่าจะมีคนหลับอยู่ในรถระหว่างการเดินทางก็ไม่เป็นไรครับ
เพราะการที่รถวิ่งตลอดเวลานั้นจะเป็นการ flow ของอากาศแบบเต็มที่ ไม่มีทางที่ CO จะหวนเข้ามาสะสมได้เลยครับ
สวัสดีครับ
ติดตามเกร็ดความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และ ดาราศาสตร์จากผมได้ที่
Website :
http://navy007.net/heroproject/
Facebook :
https://www.facebook.com/getgred
นอนหลับในรถ ติดเครื่องยนต์ เปิดแอร์ ตายได้อย่างไร ? ... เชิญเข้ามาอ่านครับ
. จากหลายข่าวที่ผ่านมาในรอบหลายปี กรณีมีผู้เสียชีวิตในรถยนต์ที่ติดเครื่องยนต์ใว้แล้วเปิดแอร์นอนหลับในรถ
เป็นการเสียชีวิตที่น่าสงสัย น่าข้องใจ การหาสาเหตุของผู้เกี่ยวข้องก็ทำได้ไม่ง่ายนัก
ในกระทู้นี้จะเป็นเนื้อหาของสาเหตุอันดับหนึ่งที่พิสูจน์แล้ว ว่า มันเกิดจากอะไรกันครับ
การที่คนร่างกายแข็งแรงจะเสียชีวิตในรถที่ติดเครื่องยนต์ใว้ และเปิดเครื่องปรับอากาศใว้ด้วย
เป็นเรื่องที่น่าคิด โดยเฉพาะในบางเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิต 2 คนพร้อมกัน หากพิจารณาความเป็นไปได้
ก็จะมีเพียงเรื่องเดียว คือ เสียชีวิตจากสิ่งที่หายใจเข้าไปครับ ภายในห้องโดยสารรถยนต์นั้น
มีสภาพที่คับแคบไม่มีอากาศถ่ายเท ดังนั้นอากาศที่มีก๊าซแปลกปลอมเข้ามาก็จะมีปัญหา
กับคนที่อยู่ในรถได้มาก ผู้ร้ายอันดับ 1 คือก๊าซอันตรายชื่อว่า คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon monoxide : CO)
CO เป็นก๊าซไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่ระคายเคือง กำเนิดมาจากแหล่งที่สำคัญได้แก่ การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์
ของเครื่องยนต์ โดยปะปนออกมากับไอเสียรถยนต์ และควันจากไฟไหม้ทั่วไป ..... CO มีความน่ากลัวตรงที่
มันไม่มีกลิ่น และ ไม่ระคายเคือง ทำให้เราสูดเข้าไปโดยไม่รู้ตัวครับ มันจะเริ่มก่อปัญหากับร่างกายของเรา
โดยเมื่อมันเข้าปอดทางการหายใจแล้ว โมเลกุลของ CO จะไปจับตัวกับ hemoglobin ในเม็ดเลือดแดง
โดยมันจะจับกับ hemoglobin ได้ดีกว่า oxygen ถึง 200 - 250 เท่า ..... จากการจับตัวแบบนี้ ทำให้
hemoglobin ไม่สามารถนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกายได้ ทำให้อวัยวะส่วนใหญ่ทำงานล้มเหลว เสียชีวิตในที่สุดครับ
ภาพนี้แสดงขั้นตอนในการหายใจเอา CO เข้าไป และกลไกการก่อพิษของ CO ครับ
ในยามปกติ หากเรารับ CO เข้าร่างกายไปก็จะแสดงอาการดังต่อไปนี้
ระดับความเข้มข้น 50 ppm - 200 ppm ปวดศีรษะเล็กน้อยและอ่อนเพลีย
ระดับความเข้มข้น 200 ppm - 400 ppm คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรงและอาจถึงขั้นเป็นลม
ระดับความเข้มข้นประมาณ 1,200 ppm หัวใจเต้นเร็วขึ้นผิดปกติ และเริ่มเต้นผิดจังหวะ
ระดับความเข้มข้นประมาณ 2,000 ppm อาจถึงขั้นหมดสติ และอาจถึงเสียชีวิต
ระดับความเข้มข้นประมาณ 5,000 ppm อาจทำให้เสียชีวิตภายในไม่กี่นาที แต่อาจจะรอดชีวิตถ้ารีบนำผู้ป่วย
ออกจากบริเวณอับอากาศมาสู่บริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ หรือมีออกซิเจนเพียงพอ
แล้ว CO ในรถยนต์ล่ะ ?
รถยนต์ คือสภาพปิดที่คับแคบอากาศไม่ถ่ายเท เมื่อเราปิดประตู หน้าต่าง แล้วติดเครื่องยนต์ + เปิดแอร์
สภาพที่เกิดขึ้นคือ อากาศภายในรถจะหมุนเวียนอยู่ส่วนใหญ่ในห้องโดยสาร แต่ .... จะมีอากาศจากข้างนอก
ส่วนหนึ่งที่สามารถเล็ดรอดเข้ามาห้องโดยสารได้ โดยแทรกซึมเข้ามาทางช่องเล็กช่องน้อยต่าง ๆ และหาก
บริเวณรอบรถคันนั้นมีสภาพลมที่นิ่ง ก็ยิ่งจะทำให้ CO จากท่อไอเสียเล็ดรอดเข้ามา "สะสม" ในห้องโดยสารได้มากครับ
ดังนั้น การติดเครื่อง เปิดแอร์ และนอนหลับในรถ ปริมาณ CO ก็ (อาจจะ) สะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ
จนทำให้คนที่หลับอยู่ในรถหายใจเอา CO เข้าไปในสภาพหลับอยู่ ทำให้เสียชีวิตได้ครับ
อย่างไรก็ตาม การรั่วของอากาศข้างนอกเข้ามาในห้องโดยสาร จะไม่ได้เกิดในอัตราเท่ากันในรถแต่ละคัน
รถคันที่เก่า หรือ มีสภาพแวดล้อมพอดีที่ไอเสียจะวนหวนเข้ามาในจุดที่รั่วซึมได้ ก็จะเกิดเหตุนี้ได้ง่ายและเร็วขึ้น
ดังนั้น รถทุกคันจะไม่เกิดสภาพแบบนี้ได้ครับ ผมเคยเห็นหลายท่านวิเคราะห์ว่าอากาศข้างนอกน่าจะรั่วเข้ามาได้ยาก
เพราะจะต้องต้านกับ pressure ของอากาศภายในห้องโดยสาร ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะครับ แต่โดยหลักการแล้ว ....
ก็สรุปได้ง่าย ๆ ว่าเกิดจากการรั่วซึมของ CO เข้ามาสะสมในห้องโดยสาร จนเกิดเหตุน่าเศร้าขึ้นครับ
การป้องกันเหตุน่าเศร้านี้ หากจะไปไล่ตรวจสอบสภาพรถยนต์ก็น่าจะยุ่งยากและไม่ได้ผลเท่าใดนัก
หนทางหนึ่งที่ช่วยได้แน่นอน คือ ติดตั้งเครื่องตรวจจับ CO ในห้องโดยสารครับ อุปกรณ์นี้เรียกว่า
Carbon monoxide detector การใช้งานอุปกรณ์นี้ทำได้ง่าย ๆ โดยเสียบเข้ากับปลั๊กจุดบุหรี่
เครื่องจะคอย monitor ระดับ CO ในห้องโดยสาร และส่งเสียงเตือนเมื่อเกินระดับอันตรายครับ
สิ่งนี้ จะว่าไปแล้วมันมีประโยชน์สูงมากทั้งในการขับขี่ธรรมดา หรือในยามจำเป็นที่ต้องนอนงีบในรถครับ
หน้าตาของ carbon monoxide detector แบบเป็นพวงกุญแจ
แบบเสียบกับปลั๊กจุดบุหรี่
ที่กล่าวไปทั้งหมดนี้ ท่านที่ต้องกังวลคือท่านที่มักจะจอดรถติดเครื่อง เปิดแอร์ ... และนอนหลับ
หากท่านมีพฤติกรรมแบบนี้บ่อยครั้งจะต้องระวังให้มากครับ ควรซื้อเครื่องตรวจจับ CO มาติดตั้งใว้
เพราะหากยังคิดว่า ไม่เป็นไร ไม่เกิดกับเราหรอก การหลับในรถครั้งต่อไปของท่าน .... อาจเป็นการหลับยาว ก็เป็นได้
ส่วนท่านที่ขับรถตามปกติบนท้องถนน ถึงแม้ว่าจะมีคนหลับอยู่ในรถระหว่างการเดินทางก็ไม่เป็นไรครับ
เพราะการที่รถวิ่งตลอดเวลานั้นจะเป็นการ flow ของอากาศแบบเต็มที่ ไม่มีทางที่ CO จะหวนเข้ามาสะสมได้เลยครับ
สวัสดีครับ
ติดตามเกร็ดความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และ ดาราศาสตร์จากผมได้ที่
Website : http://navy007.net/heroproject/
Facebook : https://www.facebook.com/getgred