แจ้งเคลมกับพัสดุภัณฑ์ไทย โดนแบบนี้จะทำอะไรได้มั่ง

เป็นกระทู้แรกที่มาบ่นกับปัญหาแบบนี้เลย เจอแบบนี้เซงมาก ผมจะทำไงดี
.
เรื่องของเรื่องคือ ตัวผมเป็นพ่อค้าขายหนังสือการ์ตูนมือ 2 ได้ทำการตกลงสั่งซื้อหนังสือเพื่อจะนำมาเก็งกำไรขายต่อ
จำนวน 5 กล่อง หนัก180 กิโล หรือประมาณพันกว่าเล่ม เมื่อวันที่ 6/10/59 ปี่ที่ผ่านมาก(วันที่สินค้ามาถึง) โดยใช้บริการขนส่งของ พัสดุภัณฑ์ไทย(thaiparcels) แบบเก็บเงินปลายทาง
เพราะปกติเวลาส่งของให้ลูกค้าในปริมาณมากๆผมใช้ของเจ้านี้ตลอด ถือว่า สาขาบริการดี และราคาไม่แพง
แต่สำนักงานใหญ่ดันทำแบบนี้ สงสารสาขาจริงๆ
เศร้า
ประเด็นคือ ทางสาขา เมื่อได้รับของก็ได้ทำการติดต่อให้ไปรับ โดยได้แจ้งมาว่า พัสดุมีความเสียหาย ให้เข้าไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงก็ พบว่า หนังสือจำนวน 5 กล่อง
มีกล่องใหญ่สุด 1 กล่องที่โดนน้ำมันเครื่องยนต์ปนเปลื้อนมาด้วย อีก 1 กล่องบุบลึก
( อันนี้เข้าใจ ของมันหนักไม่ต่อว่าอะไรเรื่องปกติ) แต่กล่องโดนน้ำมันเครื่องอันนี้รับไม่ได้จริงๆ เสียหายหนักมาก
.
ได้ทำการเปิดกล่องเช็คของต่อหน้าพนักงานประจำสาขา และให้เค้าช่วยยื่นเรื่องเข้า สนง.ด้วย
พอทำการเปิดกล่อง พบคราบน้ำมันเครื่อง ทั้งที่กล่อง โดยรอบเต็มไปหมด
ทำให้เกิดเสียหายไปกว่าครึ่งกล่อง โดยเล่มที่ยังเหลือรอดอยู่ก็ยังมีกลิ่นน้ำมันเครื่องรุนแรงมาก

สภาพโดยรวมของหนังสือที่เสียก็ประมาณตามรูปข้างล่าง

ปกพลาสติดใสโดนน้ำมันเครื่องกัดจนย่น และหลายเล่มไม่สามารถแกะปกออกได้

หนังสือเป็นอดีตหนังสือเช่า มีการติดบาร์โค้ต แต่ตัวแบบโดนน้ำมันเครื่องเละจนอ่านไม่ได้ไปล่ะ
ทุกเล่มที่อยู่ตรงนี้โดนหมด จะมากน้อย ก็ต้องทิ้งอย่างเดียวเลย
จนทุกวันนี้กลิ่นก็ยังไม่หาย(ติดทนนานเหลือเกิน -*-)

.
เปรียบเทียบรูปก่อนส่งที่ผู้ส่งได้ส่งมายืนยัน กับรูปก่อนรับของดูน่ะครับ

หลังรับ ไอ้เรื่องกล่องเสียหาย ผมรับได้น่ะ เพราะคนส่งเค้าแพ็คมาไม่ดี และสินค้ามีน้ำหนักมากด้วย อันนี้เข้าใจ รับได้ และสินค้าเป็นหนังสือไม่เสียหายอะไรมากกับเรื่องแค่นี้ แต่เรื่องน้ำมันเครื่องนี้รับไม่ได้จริงๆ เพราะสินค้ามันเอาไปทำอะไรไม่ได้เลย จะขายต่อก็ไม่ได้ทิ้งอย่างเดียว


พอกลับมาบ้านเช็คดูโดยละเอียด
อันนี้ลงแค่ บางส่วนเพราะถ่ายเก็บไว้แค่นี้ผ่านไป 3 เดือน คราบก็ยังไม่หายหรือจางลงเลย T T
แถมเป็นเรื่องที่มีราคา ที่คนน่าจะรู้จักด้วย


เรื่องนี้ แกะปกใสที่ห่อเอาไวออกแล้วน่ะสภาพโดนไม่หนักเท่าไหร แต่แม้จะแค่นี้ก็ต้องทิ้งเพราะกลิ่งแรงมาก
และเนื้อกระดาษบางส่วนเป็นไขใส แบบกระดาษไข เหมือนเอาน้ำมันพืชทาบนกระดาษแบบนั้นเลย

เล่มนี้หนักเลย มีแบบนี้หลายเล่มด้วย ด้านบนก่อนหน้านี้เบาชิวๆไปเลย ร้องไห้

.
ก็ได้ทำการส่งเรื่องแจ้งไปที่ สนง.ใหญ่ เพื่อสอบถามและเรียกร้องเรื่องค่าชดเชย
ตามที่เค้าไม่มีระบุเอาไหวว่าสามารถทำได้ ในวงเงินไม่เกิน 5000 บาท ตามด้านหลังใบเสร็จ
ผมเรียกร้องไปในวงเงิน 2500 บาท ตามต้นทุนที่ซื้อมา และค่าส่งของจำนวน 1100 บาท (1 กล่องนั้นราคาเท่าไหรก็หักไป)
แต่ปริมาณความเสียหายที่ผมได้รับ หากคิดเป็นกำไรที่ควรจะได้ไม่ต่ำกว่า 5000 บาทแน่นอน

(1กล่องนั้นผมตีราคาไว้ 2500 เพราะหนังสือที่เสียหายเป็นหนังสือแรร์หลายเรื่องมาก อาทิเช่น จอมคนแดนฝัน ไมเคิล  ชูต!! ข้าชื่ออีกา ฯ
แม้จะโดนไม่ทั้งหมดทุกเล่มแต่เรื่องพวกนี้แค่ขาดไปเล่มนึงราคาก็หายไปครึ่งนึงแล้ว หรืออาจจะขายไม่ออกด้วยซ่ำถ้าเหลือไม่กี่เล่ม
คนเล่นหนังสือการ์ตูนจะรู้กันดี)


ตอนแรกก็คุยกัน ตอบรับทางอีเมล แจ้งเรื่องรับเรื่อง ผ่านไปสักระยะก็เงียบหาย
ด้วยความที่เป็นพ่อค้าก็พยายามพูดดีๆ ไม่ใส่อารมณ์ ไม่วีนเหวี่ยง คุยดีๆ มาตลอด (ร้านผมเน้นเซอร์วิสมายด์ บริการหลังการขายตลอด มั่นใจเรื่องนี้มาก)
พยายามตามสถานะ อยากรู้ความคืบหน้า แต่ไม่อยากทวงน่าเกลียดก็สอบถามไปเดือนล่ะ 2 หน
จนได้เรื่องราวล่าสุดตอนนั้น (วันที่ 16/12/59) ว่า
"ตอนนี้เรื่องได้สอบสวนเรียบร้อยแล้วคะ ตอนนี้รอการเซ็นต์เอกสารยินยอมการหักรายได้ของผู้รับผิดชอบ"
อ่าเราก็ใจชื่น อย่างน้อยๆก็ไม่ขาดทุนตรงนี้ ถึงเงินจะไม่เยอะแต่ก็ยังได้ความมั่นใจในบริการ น่าที่จะแนะนำ หรือใช้งานสำคัญๆต่อ

แต่แล้วจนถึงเดือน มกราคม ก็เงียบหายไม่มีการติดต่อกลับมาใดๆทั้งสิ้น
จนทนไม่ไหว หลังจากนั้น 2 เดือน นานเกินไปล่ะหักเงินเดือนผู้รับผิดชอบใช้เวลา 2 เดือนเชียวรึ เลยติดต่อกลับไป วันที่ 8/2/60


สอบถาม ติดตามได้เรื่องว่า ผู้ดูแลด้านนี้คนเก่าลาออกไปแล้ว และ ไม่ได้ทิ้งเรื่องเอาไว้ (อ้าวว แบบนี้ก็ได้หรอ เออดีเนอะ เสียเวลาไปฟรีๆ 3 เดือนกว่า)
อ่ะผมก็ไม่ว่า เพราะเคยทำงานบริษัทแบบนี้เหมือนกัน เข้าใจเวลาโดนทิ้งงานเก่าไว้ให้แก้ไข รู้ว่ามันเหนื่อย ก็คุยดีๆ สอบถาม แจ้งเรื่อง
เขาขอให้ยื่นเรื่องใหม่ ก็จัดการให้ ยื่นเอกสาร ส่งหลักฐานใหม่ทั้งหมด และสอบถามว่าจะใช้เวลาดำเนินการเท่าไหร เพราะรอมาจะ 4 เดือนแล้ว
คำตอบที่ได้คือ จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดค่ะ (จ๊ะ งัดท่าไม้ตายมาอีกแล้ว) รอต่อไป


จนถึงวันที่ 27/2/60 ทนไม่ไหว โทรไปสอบถามอีกรอบว่าเรื่องดำเนินไปถึงไหนแล้ว คำตอบที่ได้มาทำช็อคเลยครับ
เค้าขอหลักฐานการซื้อขายของผม และให้ผมทำการเก็บเศษซากหนังสือที่เสียหาย ส่งไปให้ทางบริษัท เพราะถือเป็นทรัพย์สินของเขาหากจ่ายชดเชย
(เฮ้ย ถามจริงมันมีสิทธิ์ทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ และ ใครเค้าจะเก็บเศษขยะพวกนั้นเอาไว้ตั้ง 4 เดือนมิทราบ ผมทิ้งตั้งแต่วันแรกที่แยกเสร็จแล้วล่ะ ใครพอมีความรู้ทางนี้ช่วยตอบผมที ว่าเขาทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ )

มันน่าจะเป็นความรับผิดชอบของเขาไม่ใช่หรอ และแถมผมแกะต่อหน้าพนักงานสาขาให้รับทราบด้วยน่ะ(คนของคุณน่ะ) แต่มาบอกผมว่า ทางสาขาไม่ได้แจ้งให้ทราบ ทั้งๆที่ตอนเค้าแจ้งเราก็อยู่ด้วยใกล้ๆ
(ผมส่งของกับเค้ามา 2 ปีแล้วน่ะ ทุกวันนี้ก็ยังคงใช้บริการคุณอยู่เลย เดือนๆนึงจ่ายค่าใช่บริการเหยีบหมื่นทุกเดือน แต่ทำงี้กับผมกับลูกสาขาคุณแบบนี้น่ะ)
แล้วไอ้ e-mail ที่ว่า "ตอนนี้เรื่องได้สอบสวนเรียบร้อยแล้วคะ ตอนนี้รอการเซ็นต์เอกสารยินยอมการหักรายได้ของผู้รับผิดชอบคะ" คืออะไรไม่ทราบ
คือคุณจะไม่จ่ายชดเชยให้ผมว่างั้นเถอะ ตอนนี้เงินชดเชยตรงนั้นผมไม่สนแล้วล่ะ รอมานานเกินไปแล้ว
ทั้งๆที่ผมไม่เคยทำการพูดคุยไม่ดีกับทางนั้นเลย (สาบานเลย หงุดหงิดยังไม่มีแสดงให้เห็นเลย พยายามพูดดีด้วยตลอดเพราะเข้าใจสถานะการที่เกิดขึ้น)

.
แต่ตอนนี้ หงุดหงิดล่ะ ล่าสุด โทรไปเมื่อวันที่ 7/3/60 ไม่มีการตอบรับโทรศัพท์แม้แต่เครื่องตอบรับอัตโนมัติที่ปกติจะมียังไม่มีเลย (โทรติดแต่ไม่มีคนรับ)
ตอนนี้เลยอยากรู้ว่าผมจะทำอะไรได้มั่ง แจ้ง สคบ.ได้ไหม เรื่องเงินชดเชยผมไม่สนใจแล้วล่ะ แต่ต้องการเดินเรื่องให้เป็นตัวอย่างสักทีนึง อยากเอาแบบสุดๆไปเลย ทำไงได้มั่ง ไม่สนอิฐ พรม ที่ไหนแล้ว เพราะถือว่าทำดีด้วยแล้วไม่ได้ดีกลับ โอเคร งั้นขอ ... มั่งล่ะแล้วเจอกัน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่