วันนี้อาจจะเป็นหนึ่งวันที่วุ่นวายที่สุด และเป็นอีกหนึ่งวันที่หงุดหงิดที่สุด หลายคนคงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เอาเป็นว่าไม่ขอลีลา ขอเริ่มเล่าเลยละกันคับ
เมื่อปีที่แล้วน้องคนหนึ่งติดต่อมาว่า จะแต่งงานสิ้นปี อยากได้แหวนแต่งงาน เราเลยส่งแบบต่างๆไปนำเสนอ พร้อมแจ้งว่า ถ้าสนใจสั่งทำ เราจะช่วยประเมินราคาให้ จนเวลาผ่านไประยะเวลาหนึ่งน้องตัดสินใจว่าจะสั่งแหวนกะเรา ให้เราเข้าไปวัดนิ้ว และนำสินค้าตัวอย่างมาให้เลือก
ขั้นตอนดำเนินไปอย่างปกติ น้องตัดสินใจสั่งแหวน 2วงจากสินค้าที่มีอยู่แล้ว มีการตกลงซื้อขายกันเรียบร้อย จึงได้ส่งแหวนแก้ขยายและลดไซส์ให้พอดีกะน้องทั้งสองคน เมื่องานเสร็จจึงรีบติดต่อขอส่งสินค้าให้ เนื่องจากเราอยากส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าเร็วที่สุด ไม่อยากเก็บค้างสต๊อกไว้นาน การส่งมอบทุกอย่างเรียบร้อย แต่วันนั้นน้องยังไม่มีเงินสด จึงขอมัดจำเพียง 1 ใน 5 ของราคาสินค้า และบอกว่าจะชำระเงินคืนภายหลัง
ด้วยความที่รู้จักน้องมาตั้งแต่เด็ก สนิทสนมกะครอบครัวในระดับนึง เห็นว่าน้องทำธุรกิจออแกนไนซ์ รับจัดงานแต่งงาน คิดว่าเครดิตกันไว้ก่อน ไม่น่าจะมีปัญหา
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราทวงถามเงินค้างชำระมาหลายครั้ง แต่น้องบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนผ่านมาเป็นเวลาหลายเดือน จนเราต้องกำหนดเวลาชำระทั้งหมดให้เรา ไม่งั้นเราต้องดำเนินการตามกฏหมาย แม้ว่าจะถึงกำหนดน้องยังเงียบเฉย เราจะเดินทางไปที่บ้านเผื่อทวงถาม แต่น้องหลบอยู่ในห้องนอน และให้น้องฝ่ายหญิงลงมาไกล่เกลี่ยแทน
น้องฝ่ายหญิง ขอเวลาเลื่อนอีก 2-3วันจะชำระทั้งหมด พอถึงเวลากำหนดจะขอเปลี่ยนเป็นคืนสินค้า เราจึงแจ้งว่าหากคืนสินค้า เราต้องขอยึดเงินมัดจำ เพราะผิดชำระเงิน และนำสินค้าไปเก็บไว้เป็นเวลานาน(เกือบ 5เดือน) รวมทั้งสินค้ามีแก้ไขสำหรับส่วนบุคคล ซึ่งมีค่าใช้จ่ายและค่าเสียหาย พอถึงวันคืนสินค้า น้องไม่คืนสินค้า แต่จะขอผ่อนชำระแทน
เราถือว่า เราไกล่เกลี่ยและให้โอกาสมาในระดับนึงแล้ว เราจึงแจ้งให้ไปเจอกันที่โรงพัก ให้คุยกันต่อหน้าเจ้าหน้าที่ อาจจะต้องแจ้งความดำเนินการทางกฏหมาย
น้องฝ่ายหญิงมาสายจากที่เรานัด 1ชั่วโมง อ้างว่าติดงาน (ฝ่ายชายไม่มาด้วย) พอมาถึงจะขอมาไกล่เกลี่ย เราจึงบอกว่าถ้าจะคุยให้คุยกันต่อหน้าเจ้าที่ตำรวจ น้องไม่ยอมเข้าไป เราจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ ขณะที่น้องเดินไปขึ้นรถเพื่อขับออกไป เจ้าหน้าที่จึงเดินไปเชิญให้ลงจากรถและให้มาคุย ถึงยินยอมเดินเข้ามาพูดคุยกะตำรวจ ไม่มีการไกล่เกลี่ยเกิดขึ้น เพราะทางฝ่ายชายยืนยันให้เราแจ้งความฟ้องร้อง เราจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ไปตามนั้น เมื่อตกลงกันไม่ได้ น้องฝ่ายหญิงจึงเดินทางกลับ ส่วนเราก้อพูดคุยกับตำรวจตามขั้นตอน
ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอน แต่ไม่ขอเล่ารายละเอียดตรงนี้เพราะอาจเสียรูปคดี ยอมรับผิดพลาดเองที่ไว้ใจ เพราะเห็นเป็นน้องที่เห็นมาแต่เด็ก เห็นแก่ความสนิทสนมกับครอบครัว เห็นว่ามีธุรกิจรับจัดงานแต่งงาน น่าจะมีเครดิตที่ดี แต่ความไว้ใจกำลังฆ่าเรา เราโดนหักหลัง โดยที่อีกฝ่ายไม่สำนึกผิดสักนิด ยังอ้างว่า เราเป็นฝ่ายผิดที่เป็นคนตื้อขายสินค้า และไม่ยอมไกล่เกลี่ยเอง
เราขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เรามีภูเขาลูกใหญ่อยู่ข้างหลังที่ทำให้เราอุ่นใจมาก ตอนนี้เราสบายใจมาก และปล่อยทุกอย่างไปตามขั้นตอนของทนายและเจ้าหน้าที่ วุ่นวายหน่อย เสียเวลาหน่อย เราโอเคนะ
ที่ออกมาเขียนเรื่องนี้ให้อ่านกัน เพราะอยากเตือนว่า อย่าไว้ใจใคร แม้ว่าคุณจะรู้จักเค้านานแค่ไหน คุณอาจจะสนิทสนมกับครอบครัวเค้าแค่ไหน หรือว่าเค้าจะมีธุรกิจส่วนตัวที่กำลังอวดว่ามันดีแค่ไหน เพราะสำหรับคนบางคนอาจจะไม่เห็นค่าความไว้ใจอย่างที่เราเห็น เค้าอาจจะสามารถทำลายทุกอย่างลงเพราะเงินไม่กี่บาท... บ่อยครั้งที่เงินซื้อของได้หลายอย่าง และบ่อยครั้งเงินก้ออาจจะทำลายหลายๆอย่างลงได้เช่นกัน
ขอบคุณคับ
อย่าไว้ใจใคร เพราะบางครั้งมันอาจจะทำร้ายเรา
เมื่อปีที่แล้วน้องคนหนึ่งติดต่อมาว่า จะแต่งงานสิ้นปี อยากได้แหวนแต่งงาน เราเลยส่งแบบต่างๆไปนำเสนอ พร้อมแจ้งว่า ถ้าสนใจสั่งทำ เราจะช่วยประเมินราคาให้ จนเวลาผ่านไประยะเวลาหนึ่งน้องตัดสินใจว่าจะสั่งแหวนกะเรา ให้เราเข้าไปวัดนิ้ว และนำสินค้าตัวอย่างมาให้เลือก
ขั้นตอนดำเนินไปอย่างปกติ น้องตัดสินใจสั่งแหวน 2วงจากสินค้าที่มีอยู่แล้ว มีการตกลงซื้อขายกันเรียบร้อย จึงได้ส่งแหวนแก้ขยายและลดไซส์ให้พอดีกะน้องทั้งสองคน เมื่องานเสร็จจึงรีบติดต่อขอส่งสินค้าให้ เนื่องจากเราอยากส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าเร็วที่สุด ไม่อยากเก็บค้างสต๊อกไว้นาน การส่งมอบทุกอย่างเรียบร้อย แต่วันนั้นน้องยังไม่มีเงินสด จึงขอมัดจำเพียง 1 ใน 5 ของราคาสินค้า และบอกว่าจะชำระเงินคืนภายหลัง
ด้วยความที่รู้จักน้องมาตั้งแต่เด็ก สนิทสนมกะครอบครัวในระดับนึง เห็นว่าน้องทำธุรกิจออแกนไนซ์ รับจัดงานแต่งงาน คิดว่าเครดิตกันไว้ก่อน ไม่น่าจะมีปัญหา
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราทวงถามเงินค้างชำระมาหลายครั้ง แต่น้องบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนผ่านมาเป็นเวลาหลายเดือน จนเราต้องกำหนดเวลาชำระทั้งหมดให้เรา ไม่งั้นเราต้องดำเนินการตามกฏหมาย แม้ว่าจะถึงกำหนดน้องยังเงียบเฉย เราจะเดินทางไปที่บ้านเผื่อทวงถาม แต่น้องหลบอยู่ในห้องนอน และให้น้องฝ่ายหญิงลงมาไกล่เกลี่ยแทน
น้องฝ่ายหญิง ขอเวลาเลื่อนอีก 2-3วันจะชำระทั้งหมด พอถึงเวลากำหนดจะขอเปลี่ยนเป็นคืนสินค้า เราจึงแจ้งว่าหากคืนสินค้า เราต้องขอยึดเงินมัดจำ เพราะผิดชำระเงิน และนำสินค้าไปเก็บไว้เป็นเวลานาน(เกือบ 5เดือน) รวมทั้งสินค้ามีแก้ไขสำหรับส่วนบุคคล ซึ่งมีค่าใช้จ่ายและค่าเสียหาย พอถึงวันคืนสินค้า น้องไม่คืนสินค้า แต่จะขอผ่อนชำระแทน
เราถือว่า เราไกล่เกลี่ยและให้โอกาสมาในระดับนึงแล้ว เราจึงแจ้งให้ไปเจอกันที่โรงพัก ให้คุยกันต่อหน้าเจ้าหน้าที่ อาจจะต้องแจ้งความดำเนินการทางกฏหมาย
น้องฝ่ายหญิงมาสายจากที่เรานัด 1ชั่วโมง อ้างว่าติดงาน (ฝ่ายชายไม่มาด้วย) พอมาถึงจะขอมาไกล่เกลี่ย เราจึงบอกว่าถ้าจะคุยให้คุยกันต่อหน้าเจ้าที่ตำรวจ น้องไม่ยอมเข้าไป เราจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ ขณะที่น้องเดินไปขึ้นรถเพื่อขับออกไป เจ้าหน้าที่จึงเดินไปเชิญให้ลงจากรถและให้มาคุย ถึงยินยอมเดินเข้ามาพูดคุยกะตำรวจ ไม่มีการไกล่เกลี่ยเกิดขึ้น เพราะทางฝ่ายชายยืนยันให้เราแจ้งความฟ้องร้อง เราจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ไปตามนั้น เมื่อตกลงกันไม่ได้ น้องฝ่ายหญิงจึงเดินทางกลับ ส่วนเราก้อพูดคุยกับตำรวจตามขั้นตอน
ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอน แต่ไม่ขอเล่ารายละเอียดตรงนี้เพราะอาจเสียรูปคดี ยอมรับผิดพลาดเองที่ไว้ใจ เพราะเห็นเป็นน้องที่เห็นมาแต่เด็ก เห็นแก่ความสนิทสนมกับครอบครัว เห็นว่ามีธุรกิจรับจัดงานแต่งงาน น่าจะมีเครดิตที่ดี แต่ความไว้ใจกำลังฆ่าเรา เราโดนหักหลัง โดยที่อีกฝ่ายไม่สำนึกผิดสักนิด ยังอ้างว่า เราเป็นฝ่ายผิดที่เป็นคนตื้อขายสินค้า และไม่ยอมไกล่เกลี่ยเอง
เราขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เรามีภูเขาลูกใหญ่อยู่ข้างหลังที่ทำให้เราอุ่นใจมาก ตอนนี้เราสบายใจมาก และปล่อยทุกอย่างไปตามขั้นตอนของทนายและเจ้าหน้าที่ วุ่นวายหน่อย เสียเวลาหน่อย เราโอเคนะ
ที่ออกมาเขียนเรื่องนี้ให้อ่านกัน เพราะอยากเตือนว่า อย่าไว้ใจใคร แม้ว่าคุณจะรู้จักเค้านานแค่ไหน คุณอาจจะสนิทสนมกับครอบครัวเค้าแค่ไหน หรือว่าเค้าจะมีธุรกิจส่วนตัวที่กำลังอวดว่ามันดีแค่ไหน เพราะสำหรับคนบางคนอาจจะไม่เห็นค่าความไว้ใจอย่างที่เราเห็น เค้าอาจจะสามารถทำลายทุกอย่างลงเพราะเงินไม่กี่บาท... บ่อยครั้งที่เงินซื้อของได้หลายอย่าง และบ่อยครั้งเงินก้ออาจจะทำลายหลายๆอย่างลงได้เช่นกัน
ขอบคุณคับ