วันนี้ขออนุญาตแบ่งปันนะครับเป็น ”ซาลาเปาไส้หมูย่างพะโล้” หรือถ้าจะให้เรียกกันแบบที่เค้าเรียกกันทั่วๆ ไปก็คือไส้หมูแดงนั่นเอง แต่วันนี้ขอเรียกเป็นหมูย่างพะโล้ละกันนะครับ เพราะผมเองไม่ได้ใส่สีแดงลงไปเลย ผมใช้ผงพะโล้สำเร็จรูปเพียวๆเลย สะดวกกว่ามากครับ ส่วนตัวแป้งเองก็อาจจะมีสีไม่ได้ขาวเหมือนกับที่เห็นกันทั่วๆไป
เมนูนี้ผมพยายามทำให้ง่ายๆ เลยนะครับ เครื่องปรุงสำเร็จรูป เอาแบบง่ายๆ คุณแม่บ้านจะได้ไม่ต้องลำบากหาเครื่องปรุงให้ยุ่งยาก ส่วนแป้งก็ไม่ต้องซีเรียสว่าต้องเหนียวดึงแล้วเห็นแสงสว่างขนาดนั้นหรอกครับ มันไม่ต่างกัน ออกแรงนิดเดียว ลองดูครับ ผลลัพธ์ออกมาเด็กๆ น่าจะชอบนะครับ
ส่วนหมูที่เรานำมาทำ ถ้าบางท่านไม่สะดวกที่จะย่างก็อาจจะเอาไปทอดก็ได้ไม่ได้ผิดอะไร ใช้ได้เช่นเดียวกัน ไส้ลักษณะแบบนี้ถ้าไม่มีมันเลย ก็จะจะค่อนข้างแข็งไปสักหน่อย แต่ก็ทานได้ครับ แต่บางท่านอาจจะชอบให้มีมันนิดหน่อย ก็ใช้ส่วนสันคอหมูมีมันติดก็จะอร่อย
เครื่องเทศวันนี้เช่นเดียวกัน ผมใช้แค่ผงพะโล้ของรสดีเมนู เพราะครบเครื่องอยู่แล้ว แต่ถ้าท่านใดต้องการความเค็ม หรือหวานมากกว่านี้ ก็เพิ่มเติมได้ตามชอบเลยนะครับ
ส่วนผสมแป้ง จะแยกออกเป็นแป้งหัวเชื้อ กับแป้งผสมนะครับ
แป้งหัวเชื้อ
1. แป้งสาลี 300 กรัม
2. ยีสต์ 2 ช้อนชา
3. น้ำ 250 กรัม
4. น้ำตาล 10 กรัม
แป้งสำหรับผสมส่วนที่ 2
1. แป้งสาลี 120 กรัม
2. เกลือป่น 1 ช้อนชา
3. น้ำตาลทราย 100 กรัม
4. น้ำมันพืชคาโนล่า 40 กรัม ไม่เกิน 50 กรัม ประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ
5. เบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา ปรกติเค้าใช้ เบคกิ้งพาวเดอร์(ผงฟู)กัน แต่ปรกติผมใช้เบคกิ้งโซดา
ส่วนผสมของไส้หมุพะโล้
1. หมูย่าง ตามสูตรนี้ผมเอาสบายๆ เลยครับ ใส่ผงพะโล้สำเร็จรูปได้เลย แต่ไม่ต้องใส่สีลงไป เราจะใช้น้ำหนักที่ 260 กรัม หรือบางท่านอาจจะใส่เครื่องปรุงตาแบบฉบับหมูย่าง ก็ใช้ได้เช่นกันนะครับ
2. หัวหอม ครึ่งลูก
3. ผงพะโล้ 2 ช้อนโต๊ะ
4. ขิงบด 1 ช้อนโต๊ะ
5. แป้งข้าวโพด ผสมน้ำ
หมูย่าง
หอมใหญ่กับขิง
ผงพะโล้สำเร็จรูป
น้ำมันพืช
แป้งข้าวโพด
วิธีทำ
1. เราจะผสมส่วนของแป้งหัวเชื้อ โดยเราจะแบ่งน้ำออกมาสัก ครึ่งถ้วยก็ได้ แล้วเอาไปอุ่นนิดหน่อย ให้แค่อุ่น แล้วผสมน้ำตาลลงไป รอให้ขึ้นฟอง นั่นหมายความว่ายีสต์ทำงานได้ดี แล้วก็ผสมลงไปที่ตัวแป้ง แล้วค่อยๆ นวด ไม่ต้องนานเพราะสุดท้ายเราต้องไปนวดตอนผสมกับแป้งผสมอีกที
2. ผมพักไว้เลย 1 คืน 12-16 ชั่วโมง ออกมาสภาพแบบนี้
3. เราจะเอาส่วนผสมของแป้งผสม ค่อยๆ ผสมลงไปที่แป้งหัวเชื้อได้เลย คราวนี้ก็ค่อยๆ นวดเลยครับ มีเครื่องก็ใช้เครื่องนวด หรือไม่มีก็มือนี่แหละครับ นวดให้เข้ากัน อาจจะไม่ต้องนวดถึงขนาดดึงยืดแล้วเป็นแผ่นเห็นแสงทะลุแบบนั้นหรอกครับ มันเหนื่อย เอาง่ายๆ นวดสัก 15 นาทีก็พอแล้ว เสร็จแล้วก็พักไว้ เดี๋ยวผมจะข้ามไปทำส่วนของไส้กันก่อนนะครับ
4. ส่วนของไส้ เราจะหั่นหมูย่างให้เป็นชิ้นเล็กๆ แต่ในรูปอาจจะดูไม่เล็กมากนะครับ แต่ถ้าชอบเล็กๆ ก็สับได้เลย ตามด้วยผงพะโล้ ใส่ลงไปผสมให้เข้ากัน จะได้รสชาติที่อร่อยซึมเข้าเนื้อครับ
5. นำหัวหอมลงไปผัดให้เหลือง แล้วก็ตามด้วยหมูที่ผสมผงพะโล้ลงไปได้เลย
6. ใส่น้ำลงพอประมาณ ถ้าน้อยไปก็จะทำให้แห้งเกินไปนะครับ ใส่ให้พอสมควร ไม่มากน้อยเกินไป แล้วก็ผสมแป้งข้าวโพดลงไปให้คล้ายๆ น้ำราดหน้า แล้วก็พักไว้ให้เย็น คราวนี้ตอนเย็นก็จะงวดลงไปอีก ไม่แฉะเหมือนตอนทำแล้ว เวลาตักห่อก็จะง่ายยิ่งขึ้น
7. กลับมาที่แป้งอีกครั้ง หลังจากนวดได้ที่แล้วก็แบ่งออกเป็นส่วนๆ ชั่งให้ได้ประมาณ 35 กรัม เรียงๆ เอาไว้ ตรงนี้ผมไม่พัก ก็จัดการห่อได้เลย คราวนี้ขั้นตอนการห่อ สำหรับผมไม่ได้ทำบ่อยๆ ต้องอยู่ที่แต่ล่ะท่านละครับ เอาจีบไว้ล่างก็ได้ ส่วนกระดาษใช้กระดาษไขทำขนมนี่แหละครับ ใช้ไม้ หรือถ้าไม่มีก็ขวดเฮลส์บลูบอยก็ใช้ดีนะครับ เผลอๆ ดีกว่าไม้ที่มีขายแบบนี้ซะอีก (พอดีจีบไม่ค่อยสวยนะครับ มันดูง่าย แต่เวลาจับจริง มันยาก)
8. วางทิ้งไว้ หาอะไรคลุมไว้นะครับ ไม่งั้นผิวมันแห้ง ตัวแป้งจะขึ้นฟูได้อีก ทิ้งไว้สักชั่วโมง จะมากน้อยขึ้นอยู่กับตัวแป้งด้วยนะครับ
9. ตั้งเตาไว้ไฟแรงสุด นึ่ไป 11 นาที ปิดไฟ แล้วอย่าเพิ่งเปิดฝานะครับรอแป๊บนึงก็ค่อยเปิด สัก นาทีสองนาทีนะครับ
ยกเสิร์ฟได้เลยครับ เห็นสีแบบนี้แต่ว่าหอมอร่อย รสชาติเข้มข้น หมูนุ่มถึงเนื้อในเลยนะครับ ถ้าชอบไส้เยอะๆ แบบทะลักก็ใส่ไส้เพิ่มได้เลยนะครับ และวางในอุณหภูมิปรกติ ได้นาน ไม่แข็ง แต่ไม่ใช่เอาพัดลมไปโบกเลย แบบนี้ต่อให้ได้สูตรเทพอย่างไรก็แข็งอยู่ดี 5555
ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยนะครับ
https://fillerneckfood.blogspot.com/
แบ่งปันครับ เมนูของว่าง แบบง่ายๆ “ซาลาเปาไส้หมูย่างพะโล้(หมูแดง)” เด็กๆ ชอบนะครับ
เมนูนี้ผมพยายามทำให้ง่ายๆ เลยนะครับ เครื่องปรุงสำเร็จรูป เอาแบบง่ายๆ คุณแม่บ้านจะได้ไม่ต้องลำบากหาเครื่องปรุงให้ยุ่งยาก ส่วนแป้งก็ไม่ต้องซีเรียสว่าต้องเหนียวดึงแล้วเห็นแสงสว่างขนาดนั้นหรอกครับ มันไม่ต่างกัน ออกแรงนิดเดียว ลองดูครับ ผลลัพธ์ออกมาเด็กๆ น่าจะชอบนะครับ
ส่วนหมูที่เรานำมาทำ ถ้าบางท่านไม่สะดวกที่จะย่างก็อาจจะเอาไปทอดก็ได้ไม่ได้ผิดอะไร ใช้ได้เช่นเดียวกัน ไส้ลักษณะแบบนี้ถ้าไม่มีมันเลย ก็จะจะค่อนข้างแข็งไปสักหน่อย แต่ก็ทานได้ครับ แต่บางท่านอาจจะชอบให้มีมันนิดหน่อย ก็ใช้ส่วนสันคอหมูมีมันติดก็จะอร่อย
เครื่องเทศวันนี้เช่นเดียวกัน ผมใช้แค่ผงพะโล้ของรสดีเมนู เพราะครบเครื่องอยู่แล้ว แต่ถ้าท่านใดต้องการความเค็ม หรือหวานมากกว่านี้ ก็เพิ่มเติมได้ตามชอบเลยนะครับ
ส่วนผสมแป้ง จะแยกออกเป็นแป้งหัวเชื้อ กับแป้งผสมนะครับ
แป้งหัวเชื้อ
1. แป้งสาลี 300 กรัม
2. ยีสต์ 2 ช้อนชา
3. น้ำ 250 กรัม
4. น้ำตาล 10 กรัม
แป้งสำหรับผสมส่วนที่ 2
1. แป้งสาลี 120 กรัม
2. เกลือป่น 1 ช้อนชา
3. น้ำตาลทราย 100 กรัม
4. น้ำมันพืชคาโนล่า 40 กรัม ไม่เกิน 50 กรัม ประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ
5. เบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา ปรกติเค้าใช้ เบคกิ้งพาวเดอร์(ผงฟู)กัน แต่ปรกติผมใช้เบคกิ้งโซดา
ส่วนผสมของไส้หมุพะโล้
1. หมูย่าง ตามสูตรนี้ผมเอาสบายๆ เลยครับ ใส่ผงพะโล้สำเร็จรูปได้เลย แต่ไม่ต้องใส่สีลงไป เราจะใช้น้ำหนักที่ 260 กรัม หรือบางท่านอาจจะใส่เครื่องปรุงตาแบบฉบับหมูย่าง ก็ใช้ได้เช่นกันนะครับ
2. หัวหอม ครึ่งลูก
3. ผงพะโล้ 2 ช้อนโต๊ะ
4. ขิงบด 1 ช้อนโต๊ะ
5. แป้งข้าวโพด ผสมน้ำ
หมูย่าง
หอมใหญ่กับขิง
ผงพะโล้สำเร็จรูป
น้ำมันพืช
แป้งข้าวโพด
วิธีทำ
1. เราจะผสมส่วนของแป้งหัวเชื้อ โดยเราจะแบ่งน้ำออกมาสัก ครึ่งถ้วยก็ได้ แล้วเอาไปอุ่นนิดหน่อย ให้แค่อุ่น แล้วผสมน้ำตาลลงไป รอให้ขึ้นฟอง นั่นหมายความว่ายีสต์ทำงานได้ดี แล้วก็ผสมลงไปที่ตัวแป้ง แล้วค่อยๆ นวด ไม่ต้องนานเพราะสุดท้ายเราต้องไปนวดตอนผสมกับแป้งผสมอีกที
2. ผมพักไว้เลย 1 คืน 12-16 ชั่วโมง ออกมาสภาพแบบนี้
3. เราจะเอาส่วนผสมของแป้งผสม ค่อยๆ ผสมลงไปที่แป้งหัวเชื้อได้เลย คราวนี้ก็ค่อยๆ นวดเลยครับ มีเครื่องก็ใช้เครื่องนวด หรือไม่มีก็มือนี่แหละครับ นวดให้เข้ากัน อาจจะไม่ต้องนวดถึงขนาดดึงยืดแล้วเป็นแผ่นเห็นแสงทะลุแบบนั้นหรอกครับ มันเหนื่อย เอาง่ายๆ นวดสัก 15 นาทีก็พอแล้ว เสร็จแล้วก็พักไว้ เดี๋ยวผมจะข้ามไปทำส่วนของไส้กันก่อนนะครับ
4. ส่วนของไส้ เราจะหั่นหมูย่างให้เป็นชิ้นเล็กๆ แต่ในรูปอาจจะดูไม่เล็กมากนะครับ แต่ถ้าชอบเล็กๆ ก็สับได้เลย ตามด้วยผงพะโล้ ใส่ลงไปผสมให้เข้ากัน จะได้รสชาติที่อร่อยซึมเข้าเนื้อครับ
5. นำหัวหอมลงไปผัดให้เหลือง แล้วก็ตามด้วยหมูที่ผสมผงพะโล้ลงไปได้เลย
6. ใส่น้ำลงพอประมาณ ถ้าน้อยไปก็จะทำให้แห้งเกินไปนะครับ ใส่ให้พอสมควร ไม่มากน้อยเกินไป แล้วก็ผสมแป้งข้าวโพดลงไปให้คล้ายๆ น้ำราดหน้า แล้วก็พักไว้ให้เย็น คราวนี้ตอนเย็นก็จะงวดลงไปอีก ไม่แฉะเหมือนตอนทำแล้ว เวลาตักห่อก็จะง่ายยิ่งขึ้น
7. กลับมาที่แป้งอีกครั้ง หลังจากนวดได้ที่แล้วก็แบ่งออกเป็นส่วนๆ ชั่งให้ได้ประมาณ 35 กรัม เรียงๆ เอาไว้ ตรงนี้ผมไม่พัก ก็จัดการห่อได้เลย คราวนี้ขั้นตอนการห่อ สำหรับผมไม่ได้ทำบ่อยๆ ต้องอยู่ที่แต่ล่ะท่านละครับ เอาจีบไว้ล่างก็ได้ ส่วนกระดาษใช้กระดาษไขทำขนมนี่แหละครับ ใช้ไม้ หรือถ้าไม่มีก็ขวดเฮลส์บลูบอยก็ใช้ดีนะครับ เผลอๆ ดีกว่าไม้ที่มีขายแบบนี้ซะอีก (พอดีจีบไม่ค่อยสวยนะครับ มันดูง่าย แต่เวลาจับจริง มันยาก)
8. วางทิ้งไว้ หาอะไรคลุมไว้นะครับ ไม่งั้นผิวมันแห้ง ตัวแป้งจะขึ้นฟูได้อีก ทิ้งไว้สักชั่วโมง จะมากน้อยขึ้นอยู่กับตัวแป้งด้วยนะครับ
9. ตั้งเตาไว้ไฟแรงสุด นึ่ไป 11 นาที ปิดไฟ แล้วอย่าเพิ่งเปิดฝานะครับรอแป๊บนึงก็ค่อยเปิด สัก นาทีสองนาทีนะครับ
ยกเสิร์ฟได้เลยครับ เห็นสีแบบนี้แต่ว่าหอมอร่อย รสชาติเข้มข้น หมูนุ่มถึงเนื้อในเลยนะครับ ถ้าชอบไส้เยอะๆ แบบทะลักก็ใส่ไส้เพิ่มได้เลยนะครับ และวางในอุณหภูมิปรกติ ได้นาน ไม่แข็ง แต่ไม่ใช่เอาพัดลมไปโบกเลย แบบนี้ต่อให้ได้สูตรเทพอย่างไรก็แข็งอยู่ดี 5555
ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยนะครับ
https://fillerneckfood.blogspot.com/